ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ สะอาด ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน
ภายในบ้านของเรามีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาล่องลอยในอากาศ และมีสิ่งสกปรกเกาะติดตามเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เช่น เศษผม เส้นขนจากเสื้อผ้า เศษละอองฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อโรคและอื่น ๆ จึงควรทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกเกาะติดสิ่งของจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตภายในบ้าน
ถึงแม้ว่าการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ดูเหมือนจะทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่ที่จริงแล้วกลับมีวิธีการทำความสะอาดที่ต้องระวังเพื่อให้สิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านยังคงสภาพเหมือนใหม่ ไม่พัง ไม่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ยากกว่าที่คิด ทำให้เกิดบริการรับความสะอาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาด หรือผู้ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้
ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ คือ สิ่งที่สำคัญมาก!
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าหากเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ดูสกปรกมากจนเกินไปก็ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ หรือถ้าต้องทำความสะอาด นาน ๆ ทีทำครั้งก็พอนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะที่จริงแล้วการทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ตู้ไม้ โต๊ะ โซฟา ผ้าม่าน พรม และอื่น ๆ จำเป็นจะต้องทำความสะอาดให้ถูกวิธี
ในกรณีที่ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม่ถูกวิธี สิ่งที่ตามมาก็จะมีทั้งเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ สิ่งของเป็นคราบ มีความหมักหมมจนเกิดเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้คน อีกทั้งถ้าทำความสะอาดไม่ดีพอก็จะทำให้มีโอกาสที่เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายจนต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นก็มีราคาค่อนข้างสูง
จะเห็นได้ว่าผลกระทบจากการทำความสะอาดโซฟา ที่นอน ตู้ พรม ผ้าม่านและอื่น ๆ อย่างผิดวิธีนั้นสร้างผลกระทบต่อทั้งสุขภาพและทรัพย์สินภายในบ้าน สำหรับผู้ที่กังวลว่าตัวเองจะไม่สามารถทำความสะอาดได้หมดจรด หรือว่าไม่สะดวกทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเอง ในปัจจุบันก็มีบริการทำความสะอาดด้วยมืออาชีพให้ใช้บริการในราคาไม่แพง
วิธีทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ทำความสะอาดอย่างไรให้ถูกวิธี ใช้งานได้นาน
สำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเอง ในที่นี้ก็จะมีวิธีทำความสะอาดง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ ดังนี้
1. เตียงนอน
การทำความสะอาดที่นอนนั้นจะต้องนำหมอน ผ้าห่ม และผ้าปูที่นอนออกไปซักแยกก่อน แล้วจึงนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นตามฟูกและซอกเตียงนอนให้เรียบร้อย จากนั้นนำน้ำสบู่ที่ผสมกับน้ำมาชุบฟองน้ำแล้วขัดถูเบาะเตียงเบา ๆ แล้วปล่อยเบาะเตียงทิ้งไว้แห้งก่อนนำผ้าปูที่นอนมาใส่กลับคืนเพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้นหรือมีเชื้อราขึ้น
2. ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ
การทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าหรือตู้เก็บของ จะต้องเริ่มจากการปัดฝุ่นออกจากตู้ให้หมด แล้วจึงนำผ้าชุบน้ำที่บิดให้น้ำหมาด ๆ มาเช็ดตามขอบและซอกมุมให้สะอาด จากนั้นก็เปิดตู้ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทก่อนนำเสื้อผ้าหรือสิ่งของใส่กลับเข้าไปอีกครั้ง
3. พรม
การทำความสะอาดพรมสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นที่เกาะติดตามพรม ในกรณีที่ต้องการซักพรม หลังจากที่ดูดฝุ่นเรียบร้อยแล้วก็นำพรมไปแช่ในน้ำยาซักพรมและใช้แปรงขัดพรมในทางเดียวกันเบา ๆ แล้วค่อยตากแดดจนพรมแห้ง ในกรณีต้องการซักพรมที่ไม่สามารถตากแดดได้ให้นำไปปั่นแบบอบแห้ง แล้วจึงใช้แปรงแปรงจัดทรงให้อยู่ทรง
4. โซฟา
การทำความสะอาดโซฟาจะขึ้นอยู่กับประเภทของโซฟาที่ใช้งาน โดยถ้าเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมก็จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้สีลอก แต่ถ้าเป็นผ้าก็สามารถใช้ผ้าที่ชุบน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำสบู่แล้วบิดให้หมาดมากดลงเนื้อผ้า และค่อยนำผ้าแห้งมาซับให้แห้งเร็วขึ้น
5. ผ้าม่าน
ในกรณีที่จะทำความสะอาดผ้าม่านจะต้องนำผ้าม่านออกจากราวแขวนก่อน แล้วจึงนำผ้าม่านแช่น้ำที่ผสมผงซักฟอกทิ้งไว้ราว 1 ชั่วโมง แล้วค่อยซักด้วยเครื่องซักผ้าด้วยอุณหภูมิห้อง หรือถ้าต้องการซักด้วยมือหลังจากที่แช่ผงซักฟอกแล้วให้ซักด้วยน้ำเปล่า 4-5 น้ำแล้วบิดให้หมาดก่อนตากแดดให้แห้งก่อนนำไปใช้งานอีกครั้ง
6. ตู้หนังสือ
การทำความสะอาดตู้หนังสือจะต้องปัดฝุ่นที่เกาะตามไม้ออกให้หมดก่อน โดยปัดฝุ่นตามซอกจากข้างบนลงล่างเพื่อไม่ให้ฝุ่นตกบริเวณที่ปัดออกเรียบร้อยแล้วจนต้องปัดฝุ่นซ้ำ ๆ อีก จากนั้นค่อยนำผ้าชุบน้ำยามาบิดให้หมาดมาเช็ดตู้หนังสือแล้วรอให้แห้งก่อนที่จะนำหนังสือกลับไปวางบนชั้นตามเดิม
7. เก้าอี้
ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดเก้าอี้ส่วนที่เป็นผ้าตาข่าย สิ่งที่จะต้องทำก่อน คือ นำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นตามซอกเก้าอี้ให้หมดก่อน จากนั้นนำผ้าหรือฟองน้ำมาชุบน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานมาบิดให้แห้งหมาด ๆ ก่อนทำความสะอาดเก้าอี้ ในที่นี้จะไม่เช็ดหรือถูเก้าอี้แรง ๆ แต่จะใช้วิธีกดผ้าหรือฟองน้ำลงไปแล้วปล่อยให้เก้าอี้แห้งเองแทนเพื่อไม่ให้เก้าอี้เสียหาย แต่ส่วนอื่นก็สามารถใช้ผ้าเช็ดตามปกติได้
8. กระจก
เมื่อทำความสะอาดกระจก เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องพบปัญหาคราบที่ติดฝังแน่นบนกระจกที่ไม่ว่าจะขัดยังไงก็ขัดออกไม่หมด ในที่นี้สามารถกำจัดสิ่งสกปรกนั้นได้ง่าย ๆ โดยใช้น้ำมะนาวสด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ น้ำสบู่เหลว 1 ช้อนโต๊ะมาผสมให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาใช้เช็ดกระจกให้สะอาดใส
ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ เพื่อคุณภาพชีวิตและคุณภาพสิ่งของ
เฟอร์นิเจอร์ เป็นของใช้งานภายในบ้านที่มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ถ้าหากไม่ทำความสะอาดหรือทำความสะอาดไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น ๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เสื่อมสภาพ และอายุการใช้งานน้อยลง ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งาน
แต่วิธีการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น เช่น เตียง โซฟา พรม ผ้าม่าน มีความยุ่งยาก ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ และต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์พอสมควร ดังนั้นในกรณีไม่มีเวลาแต่อยากทำความสะอาดโซฟา เตียง พรม และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ให้สะอาด ปราศจากกลิ่นและเชื้อโรค สามารถใช้บริการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์จากมืออาชีพที่มีอุปกรณ์ครบเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้