ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง? เมื่อเทียบกับชั้นอื่นแล้วต่างกันแค่ไหน

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (551)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:989
เมื่อ เมื่อวาน 20.58 น.

อยากรู้ว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองมากแค่ไหน? บทความนี้เทียบให้เห็นความต่างกับประกันชั้นอื่น พร้อมสรุปให้เข้าใจง่ายก่อนตัดสินใจซื้อ

ใครกำลังลังเลว่าจะซื้อประกันชั้น 1 ดีไหม หรืออยากรู้แบบละเอียด ๆ ว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง” บทความนี้คือคำตอบแบบจัดเต็มให้คุณได้ตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะความต่างของแต่ละชั้นมันไม่ได้แค่เรื่องราคา แต่มันอยู่ที่ว่าเวลาชนขึ้นมาจริง ๆ ใครจะช่วยจ่ายบ้าง แล้วจ่ายให้แค่ไหน ที่สำคัญคือจ่ายแบบมีเงื่อนไขหรือเปล่า


 

ประกันชั้น 1 คืออะไร และต่างจากชั้นอื่นตรงไหน?

 

ประกันชั้น 1 คือประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่จัดเต็มที่สุดในแง่ของความคุ้มครอง เรียกได้ว่าใครอยากได้แบบครบทุกมิติ ไม่ต้องลุ้นว่าจะคุ้มไม่คุ้ม ก็ต้องมองหาชั้น 1 เป็นอันดับแรก จุดเด่นของประกันชั้น 1 อยู่ตรงที่ไม่ว่าจะเกิดเหตุชนอะไรขึ้นมา มีคู่กรณีหรือไม่มี ประกันชั้น 1 ก็พร้อมดูแลทันทีแบบไม่มีข้อแม้ ขอแค่เหตุการณ์นั้นไม่ผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ก็พอ

ประกันชั้น 1 จึงต่างจากชั้นอื่นอย่างชัดเจน เช่น ประกันชั้น 2+ แม้จะคุ้มครองรถหาย รถไฟไหม้ และรถชน แต่จะไม่รับผิดชอบกรณีไม่มีคู่กรณี หรือชนเอง ขับแล้วชนต้นไม้ ชนกำแพง แบบนี้จะต้องจ่ายเอง ส่วนประกันชั้น 3+ จะเน้นคุ้มครองคู่กรณีเป็นหลัก โดยไม่รับผิดชอบค่าซ่อมรถของผู้เอาประกันเลยหากไม่มีคู่กรณีมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากตั้งคำถามว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ก็ต้องเริ่มจากคำตอบว่า "ทุกกรณีที่ชั้นอื่นมักไม่ครอบคลุม"

นอกจากเรื่องอุบัติเหตุ ประกันชั้น 1 ยังรวมความคุ้มครองกรณีรถหายจากการโจรกรรม รถไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติทุกประเภทที่ประกาศอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลของคนขับและผู้โดยสาร ค่าชดเชยเมื่อเกิดเหตุรุนแรง รวมถึงค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่มีคดีความตามมา ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ชั้นอื่นให้ไม่ได้


 

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันแต่ละประเภท

 

ความเสียหายต่อตัวรถ (รถเรา)

 

ในบรรดาประกันทุกประเภท หากถามว่าแบบไหนคุ้มครองรถของเรามากที่สุด คำตอบจะชัดเจนเลยว่าคือประกันชั้น 1 และนี่คือตัวอย่างความแตกต่างในระดับรายละเอียดที่คนมักไม่รู้

  • ชนแบบมีคู่กรณี: ประกันชั้น 1 คุ้มครองเต็มรูปแบบ ซ่อมให้ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายตรงข้าม ส่วนชั้นอื่นอย่าง 2+ และ 3+ ก็ยังคุ้มครองในจุดนี้
  • ชนแบบไม่มีคู่กรณี: นี่แหละจุดแยกของจริง ประกันชั้น 1 คุ้มครองทันที ไม่ว่าจะขับชนต้นไม้ ถอยชนกำแพง หรือโดนของหล่นใส่ แต่ถ้าเป็น 2+ หรือ 3+ จะไม่ดูแลส่วนนี้เลย
  • เหตุสุดวิสัยอื่น ๆ เช่น หนูกัดสายไฟ ของแข็งกระเด็นใส่กระจกหน้ารถ หรือของตกจากอาคารใส่รถ กรณีเหล่านี้ชั้น 1 ครอบคลุมหมดแบบไม่ต้องมีเงื่อนไขซับซ้อน

ในแง่ของอุปกรณ์ติดรถ เช่น ไฟหน้า ล้อ หรืออุปกรณ์ที่ติดมากับโรงงาน ประกันชั้น 1 จะรับผิดชอบตามทุนประกันที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ช่วยเจ้าของรถได้มากโดยเฉพาะกับรถใหม่ หรือรถราคาสูง

ความเสียหายต่อคู่กรณี และบุคคลภายนอก

 

สำหรับคำถามว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้างในฝั่งคู่กรณี ก็ต้องบอกเลยว่าครบครันแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถอีกคัน ค่าซ่อม ทรัพย์สินรอบข้าง เช่น รั้วบ้าน เสาไฟ ป้ายจราจร หรือแม้แต่ค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บ ฝั่งประกันชั้น 1 พร้อมรับผิดชอบตามวงเงินความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์

หากคู่กรณีมีอาการหนักจนทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ประกันชั้น 1 ก็ยังจ่ายค่าชดเชยในส่วนนี้รวมไปถึงค่าปลงศพให้ตามเงื่อนไข เรียกได้ว่าไม่มีช่องว่างของความรับผิดชอบ ทุกรายละเอียดถูกครอบคลุมไว้หมด ไม่ต้องมากังวลเรื่องแบกรับค่าเสียหายที่คาดไม่ถึง

สิ่งที่บางคนอาจไม่รู้คือ ประกันชั้น 1 ยังมีการให้ค่าประกันตัวในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย หากมีเหตุให้ต้องขึ้นโรงพักหรือขึ้นศาล ค่าประกันตัวก็จะถูกรวมอยู่ในความคุ้มครองด้วย ซึ่งประกันประเภทอื่นมักจะไม่มีจุดนี้ครอบคลุม


 

เลือกประกันชั้นไหนดี? ขึ้นอยู่กับอะไรบ้างนอกจากงบประมาณ

 

การเลือกว่าจะทำประกันชั้น 1 หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เรื่องราคาเบี้ยประกันเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วต้องดูให้ลึกถึงพฤติกรรมการใช้รถ อายุของรถ และความเสี่ยงที่รถจะเจอในแต่ละวัน เช่น

  • รถใช้งานประจำในเขตเมือง รถติดบ่อย โอกาสเฉี่ยวชนสูง แบบนี้เหมาะกับประกันชั้น 1 เพราะไม่รู้ว่าจะเจอเหตุแบบไหนบ้าง แม้จะไม่มีคู่กรณีก็ยังเสี่ยงโดนค่าใช้จ่ายสูง
  • คนเพิ่งหัดขับ หรือยังไม่มีประสบการณ์บนถนนมาก ก็แนะนำให้เลือกชั้น 1 ไว้ก่อน เพราะประกันจะคอยซัพพอร์ตความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความไม่ชำนาญได้
  • รถใหม่ป้ายแดง หรือรถที่ยังมีราคาสูงในตลาด ควรใช้ประกันชั้น 1 เพราะค่าซ่อมจะสูงมากเมื่อเกิดเหตุ และถ้าไม่มีประกันรองรับ โอกาสเสียเงินก้อนใหญ่ก็มีสูงมาก
  • คนที่ต้องการความอุ่นใจแบบไม่อยากวุ่นวายเรื่องเคลม ประกันชั้น 1 คือคำตอบที่ใช่ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแทบทุกกรณี ก็มีคนมาช่วยจัดการให้ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องรับผิดเอง

 

แม้เบี้ยประกันชั้น 1 จะสูงกว่าชั้นอื่นบ้าง แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้และความสบายใจระยะยาว ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยเฉพาะถ้ารถยังใหม่ หรือคุณยังไม่มั่นใจในทักษะการขับขี่ของตัวเอง

ดังนั้น ถ้าถามว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง คำตอบไม่ใช่แค่เรื่องชน หรือไม่ชน แต่คือการครอบคลุมทุกความเสี่ยงแบบไม่ต้องลุ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในวันที่คาดไม่ถึงได้อย่างจริงจัง

 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อเมื่อวาน 20.58 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา