เคลมประกันรถยนต์ ทำยังไง? คู่มือพื้นฐานที่เจ้าของรถควรรู้

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (560)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1001
เมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 23.30 น.

อยากเคลมประกันรถยนต์แต่ไม่รู้เริ่มยังไง? บทความนี้สรุปขั้นตอนเคลมประกันทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มี พร้อมสิ่งที่ควรเตรียมให้ครบ

เวลาเกิดเหตุบนท้องถนน สิ่งที่เจ้าของรถต้องรู้ไม่ใช่แค่การโทรแจ้งเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าการเคลมประกันรถยนต์มีกี่แบบ เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง และแต่ละสถานการณ์ควรแจ้งเคลมยังไงถึงจะไวและจบแบบไม่ยุ่งยาก


 

การเคลมประกันรถยนต์คืออะไร? และมีแบบไหนบ้าง

 

เคลมประกันรถยนต์คือกระบวนการที่ผู้เอาประกันแจ้งเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ เพื่อให้บริษัทประกันพิจารณาจ่ายค่าสินไหมตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยทั่วไปการเคลมประกันรถยนต์จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ เคลมแบบมีคู่กรณี และเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีดำเนินการต่างกัน

การเคลมจะเริ่มต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง เช่น รถชน รถเฉี่ยว หรือกรณีเสียหายอื่น ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือทรัพย์สินเสียหายในรถ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองที่เลือกไว้ตอนซื้อประกัน หากอยู่ในเงื่อนไข ก็สามารถดำเนินการขอเคลมได้ทันทีผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทประกัน

ช่องทางการแจ้งเคลมมีทั้งการโทรสายด่วน, แจ้งผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทประกัน หรือกรณีด่วนมาก ๆ สามารถวิดีโอคอลกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับใบเคลมได้ทันที ณ จุดเกิดเหตุ


 

ความแตกต่างระหว่างเคลมมีคู่กรณี กับไม่มีคู่กรณี

 

เคลมแบบมีคู่กรณี (เช่น ชนรถอื่น มีคู่กรณีชัดเจน)

 

การเคลมประกันรถยนต์แบบมีคู่กรณี คือสถานการณ์ที่รถของเราไปชนกับรถคันอื่น และสามารถระบุคู่กรณีได้ชัดเจน เช่น ป้ายทะเบียนรถคู่กรณี มีภาพถ่ายหรือพยานยืนยันได้ หรือมีตำรวจมาที่เกิดเหตุ การเคลมแบบนี้สามารถใช้เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเข้าช่วยไกล่เกลี่ยความเสียหายที่จุดเกิดเหตุได้เลย

สิ่งที่ต้องทำทันที:

  • โทรแจ้งบริษัทประกันทันทีหลังเกิดเหตุ
  • ห้ามเคลื่อนย้ายรถก่อนเจ้าหน้าที่ถึง (ยกเว้นกรณีที่ขวางการจราจรหรือไม่ปลอดภัย)
  • ขอใบเคลมหรือเอกสารยืนยันความเสียหายไว้ก่อนนำรถเข้าซ่อม

ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เช่น โต้แย้งว่าใครผิด หรือมีคนบาดเจ็บ ให้รอเจ้าหน้าที่จากทั้งสองบริษัทมาที่เกิดเหตุพร้อมกันเพื่อจัดการอย่างเป็นทางการ ห้ามเคลื่อนย้ายรถและควรบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

เคลมแบบไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนเสา ชนฟุตบาท ฯลฯ)

 

เคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณีจะใช้ในกรณีที่รถเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรถคันอื่น เช่น ชนต้นไม้ เสาไฟ หรือถอยชนฟุตบาท โดยทั่วไปจะเรียกว่าเคลมแห้ง ซึ่งการเคลมแบบนี้มักจะทำผ่านระบบออนไลน์หรือวิดีโอคอลได้เลย

ขั้นตอน:

  • บันทึกภาพความเสียหายของรถและสถานที่เกิดเหตุ
  • แจ้งเคลมผ่านแอปหรือวิดีโอคอลกับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับใบเคลม
  • รับใบเคลมแล้วนำรถเข้าซ่อมได้เลย

 

สิ่งที่ควรระวังคือ บางแผนอาจมีค่าเสียหายส่วนแรก (excess) ซึ่งต้องจ่ายเองในกรณีเคลมไม่มีคู่กรณี ดังนั้นควรอ่านเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ชัดเจนก่อนเคลม


 

เอกสารและข้อมูลที่ต้องเตรียมก่อนเคลมประกัน

 

การเคลมประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่โทรแจ้งแล้วจบ แต่ต้องมีเอกสารครบเพื่อให้บริษัทพิจารณาเคลมได้เร็ว โดยแยกตามสถานการณ์ที่เจอ ดังนี้:

กรณีเคลมซ่อมอู่หรือศูนย์บริการในเครือ

  • ใบเคลมหรือใบรับรองความเสียหาย
  • หน้าตารางกรมธรรม์
  • เล่มทะเบียนหรือสำเนาทะเบียนรถ
  • สำเนาบัตรประชาชนหรือใบขับขี่
  • เอกสารอื่น ๆ หากบริษัทขอเพิ่ม

 

กรณีซ่อมนอกเครือบริษัท

  • ใช้เอกสารชุดเดียวกับในเครือ แต่เพิ่มใบเสนอราคาค่าซ่อมจากอู่ที่เลือก

 

กรณีทรัพย์สินเสียหาย (เช่น กระจกแตกร้าว, อุปกรณ์ในรถพัง)

  • ใบเคลม
  • ใบประเมินราคาค่าซ่อม
  • เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
  • สำเนาสมุดบัญชี (หากขอชดเชยเป็นเงินโอน)

 

กรณีบาดเจ็บหรือทุพพลภาพ

  • สำเนาบัตรประชาชนผู้บาดเจ็บ
  • กรมธรรม์ฉบับเต็ม
  • ใบรับรองแพทย์, ใบเสร็จค่ารักษา
  • เอกสารการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน, บัญชีธนาคาร

 

กรณีเสียชีวิต

  • เอกสารแสดงความเป็นทายาทโดยชอบ
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ระบุคำว่า "ตาย"
  • ใบมรณบัตร
  • ใบรับรองแพทย์ และหลักฐานการเสียชีวิตจากตำรวจ

 

กรณีเคลมค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ

  • ใบนำรถเข้าซ่อมหรือใบรับรถ
  • เอกสารการใช้รถประจำวัน เช่น ใบเสร็จค่าน้ำมัน, สลิปจอดรถ ฯลฯ

 

กรณีเคลมทรัพย์สินจากการถูกโจรกรรมในรถ

  • รายการทรัพย์สินที่หาย
  • ใบแจ้งความจากตำรวจ
  • เอกสารระบุชื่อเจ้าของทรัพย์สิน

 

กรณีเคลมค่าศัลยกรรมจากอุบัติเหตุในรถ

  • ใบรับรองแพทย์ และใบเสร็จศัลยกรรม (ต้นฉบับ)
  • เอกสารแสดงความคุ้มครองจากกรมธรรม์
  • ใบรายงานอุบัติเหตุ หรือใบเคลมที่ระบุเหตุการณ์ชัดเจน

หลังจากเตรียมเอกสารครบแล้วสามารถส่งผ่านไปรษณีย์ หรืออีเมลที่บริษัทประกันกำหนดไว้ได้เลย การอนุมัติจะเร็วมากขึ้นหากข้อมูลครบตั้งแต่ต้น และเอกสารถูกต้องชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามการเคลมแต่ละบริษัทอาจแตกต่างกัน ควรสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา