7 เทคนิคเลือกบริษัทขนส่งสินค้า ที่ช่วยธุรกิจ E-commerce ลดต้นทุน

jjasmine

ขีดเขียนชั้นมอต้น (115)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:148
เมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10.50 น.

 

ในยุคที่การขายของออนไลน์เติบโตมากขี้นเรื่อยๆ "การขนส่งสินค้า" จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจ E-commerce ทำให้ผู้ประกอบการต้องหาบริษัทขนส่งสินค้าที่นอกจากจะต้องมีความเชี่ยวชาญ แต่ยังจะต้องช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนด้านการขนส่งไม่ให้บานปลายด้วย 

แต่จะมีวิธีไหนบ้างในการเลือกบริษัทขนส่งสินค้าที่ตอบโจทย์กับการทำธุรกิจ เรามีสิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ ที่สำคัญสามารถนำไปปรับใช้ให้ธุรกิจเติบโตได้จริงด้วย  

 

หัวใจสำคัญของการเลือกบริษัทขนส่งสินค้าออนไลน์ไม่ให้ต้นทุนบานปลาย

การเลือกบริษัทขนส่งสินค้าที่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแค่การเปรียบเทียบราคา แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยในด้านอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงานในระยะยาวด้วย เช่น

 

  1. ประเภทของสินค้า : พิจารณาสินค้าก่อนเลือกผู้ให้บริการขนส่ง 
  • ขนาดและน้ำหนัก: สินค้าขนาดเล็กและน้ำหนักเบา อาจเหมาะกับบริษัทขนส่งที่คิดค่าบริการตามน้ำหนักหรือขนาดที่ระบุ ในขณะที่สินค้าขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก อาจต้องพิจารณาบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่โดยเฉพาะ
  • ความเปราะบาง/ความเสียหายง่าย: สินค้าที่แตกหักง่าย ต้องการการบรรจุหีบห่อที่รัดกุม และบริษัทขนส่งที่มีความระมัดระวังในการขนส่งเป็นพิเศษ อาจต้องพิจารณาบริการเสริมประกันสินค้า
  • สินค้าควบคุม/สินค้าพิเศษ: สินค้าบางประเภท เช่น อาหารสด, สารเคมี, หรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง ต้องการการขนส่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิ, การตรวจสอบพิเศษ, หรือการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

 

  1. ปริมาณการจัดส่ง 
  • ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ที่มียอดจัดส่งไม่มาก: อาจเหมาะกับบริษัทขนส่งสินค้าที่มีบริการ Drop-off หรือ Pick-up ที่ยืดหยุ่น ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการจัดส่งต่อครั้ง และมีราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับปริมาณน้อย
  • ผู้ประกอบการที่มีปริมาณการจัดส่งสูง: ควรพิจารณาบริษัทขนส่งที่เสนออัตราค่าบริการแบบเหมาจ่าย, ส่วนลดสำหรับปริมาณมาก, หรือมีระบบการจัดการพัสดุขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย

 

  1. พื้นที่การจัดส่ง 
  • ในประเทศ: ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของบริษัทขนส่งสินค้าว่าครอบคลุมทั่วประเทศหรือไม่ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่เกาะที่อาจมีค่าบริการเพิ่มเติม
  • ระหว่างประเทศ: หากมีการจัดส่งไปต่างประเทศ ต้องพิจารณาบริษัทขนส่งที่มีเครือข่ายระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง มีความเข้าใจในกฎระเบียบศุลกากร และสามารถให้ข้อมูลการติดตามพัสดุข้ามประเทศได้อย่างแม่นยำ

 

  1. ความรวดเร็วในการจัดส่ง 
  • Standard Delivery: เหมาะสำหรับสินค้าที่ไม่เร่งด่วน หรือลูกค้าที่ยินดีรอรับสินค้าในระยะเวลาปกติ
  • Express Delivery/Same-day Delivery: หากสินค้ามีความจำเป็นเร่งด่วน หรือธุรกิจของคุณต้องการสร้างความได้เปรียบด้านความรวดเร็วในการจัดส่ง ควรเลือกบริษัทที่มีบริการจัดส่งด่วน หรือบริการจัดส่งภายในวันเดียว (ในพื้นที่ที่กำหนด)

 

  1. ระบบและเทคโนโลยีที่รองรับ 
  • ระบบติดตามพัสดุ (Tracking System): สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการและลูกค้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลา ทั้งยังช่วยลดความกังวลและเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • ระบบ API Integration: สำหรับผู้ประกอบการที่มีเว็บไซต์ E-commerce ควรพิจารณาบริษัทขนส่งที่มี API ที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของคุณได้โดยตรง เพื่อความสะดวกในการสร้างรายการจัดส่ง, พิมพ์ใบปะหน้า, และอัปเดตสถานะการจัดส่งโดยอัตโนมัติ
  • ระบบจัดการออเดอร์: บริษัทขนส่งสินค้าบางแห่งมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการออเดอร์, สร้างใบปะหน้า, และเรียกใช้บริการขนส่งได้อย่างครบวงจร

 

  1. บริการเสริมและค่าธรรมเนียมแฝง 
  • บริการเก็บเงินปลายทาง (COD): หากธุรกิจของคุณต้องการบริการ COD ควรตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมและกระบวนการโอนเงินคืนเพิ่มเติมด้วย 
  • บริการประกันสินค้า: สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง ควรพิจารณาบริการประกันสินค้าเพิ่มเติม
  • ค่าธรรมเนียมในการตีคืนสินค้า (Return Fee): หากสินค้าถูกตีคืน ตรวจสอบว่ามีค่าธรรมเนียมในการตีคืนหรือไม่
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ: เช่น ค่าธรรมเนียมสำหรับพื้นที่ห่างไกล, ค่าธรรมเนียมน้ำมัน, หรือค่าธรรมเนียมวันหยุด

 

  1. การบริการลูกค้าและการแก้ไขปัญหา 
  • เลือกบริษัทขนส่งที่มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย (โทรศัพท์, แชท, อีเมล) และมีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อเกิดปัญหา เช่น สินค้าสูญหาย, เสียหาย, หรือจัดส่งล่าช้า 

 

การเลือกบริษัทขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ที่เหมาะสม ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน จากนั้นค้นหาบริษัทที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็จะช่วยให้ต้นทุนด้านการขนส่งไม่บานปลาย ทำให้สามารถสร้างผลกำไรได้มากขึ้น และเติบโตได้อย่างยั่งยืน 




แก้ไขครั้งที่ 1 โดย jjasmine เมื่อ5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10.51 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา