เปิดคู่มือวิธีบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นที่คนทั่วไปก็ทำได้ !
น้ำที่ใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากครัวเรือน โรงอาหาร หรือแหล่งชุมชน หากปล่อยทิ้งโดยไม่ผ่านการบำบัด ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม กลิ่นเหม็น สารปนเปื้อน และมลภาวะทางน้ำ ล้วนเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม การเข้าใจวิธีบำบัดน้ำเสียในระดับเบื้องต้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถเริ่มต้นได้จากตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือซับซ้อนหรือเทคโนโลยีสูง
น้ำเสียคืออะไร ทำไมต้องบำบัด ?
น้ำเสียหมายถึงน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว ไม่ว่าจะจากกิจกรรมซักล้าง อาบน้ำ ล้างจาน หรือแม้แต่น้ำจากห้องน้ำ ซึ่งอาจมีสิ่งเจือปน เช่น ไขมัน เศษอาหาร สารเคมี และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย เมื่อน้ำเหล่านี้ถูกปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อาจทำให้คุณภาพน้ำลดลง เกิดการเน่าเสีย และส่งผลต่อสุขภาพของคน สัตว์ และพืชพรรณในระบบนิเวศ
3 วิธีบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นที่ทำได้เอง
1. การบำบัดแบบทางกายภาพ (Physical Treatment)
เป็นวิธีบำบัดน้ำเสียที่ง่ายที่สุด เหมาะกับน้ำเสียทั่วไปจากครัวเรือน เช่น น้ำล้างจาน หรือน้ำล้างพื้น ขั้นตอนหลักคือการกรองสิ่งสกปรกเบื้องต้น โดยใช้อุปกรณ์กรอง เช่น ตะแกรง แผ่นกรอง หรือถังดักไขมัน
ตัวอย่างเช่น การใช้ถังดักไขมันใต้ซิงก์ล้างจาน สามารถลดคราบน้ำมันและเศษอาหารไม่ให้ไหลลงท่อโดยตรง ซึ่งนอกจากช่วยให้น้ำเสียสะอาดขึ้น ยังช่วยลดการอุดตันของท่อระบายน้ำ
2. การบำบัดแบบทางชีวภาพ (Biological Treatment)
เป็นวิธีบำบัดน้ำเสียที่อาศัยการย่อยสลายสารอินทรีย์โดยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ง่ายในครัวเรือน เช่น การใช้จุลินทรีย์ EM (Effective Microorganisms) ใส่ลงในถังเก็บน้ำเสียหรือบ่อพัก
จุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยย่อยสลายเศษอาหาร ไขมัน และของเสียอื่นๆ ให้กลายเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหมาะกับการบำบัดน้ำเสียจากกิจกรรมทั่วไปในบ้าน เช่น น้ำล้างผัก หรือน้ำที่มีคราบไขมัน
3. การบำบัดแบบธรรมชาติ (Natural Treatment)
เป็นวิธีบำบัดน้ำเสียที่เหมาะกับพื้นที่มีพื้นที่ว่าง เช่น บ้านสวน หรือชุมชนชนบท วิธีนี้มักใช้พืชน้ำอย่าง จอก แหน หรือผักตบชวา ในการดูดซับสารอาหารส่วนเกิน เช่น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ที่อยู่ในน้ำเสีย
การสร้างบ่อพืชน้ำเพื่อกรองน้ำเสียจากครัวหรือห้องน้ำ สามารถช่วยลดการปนเปื้อนก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ นับเป็นวิธีที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง
คำแนะนำก่อนเริ่มลงมือ
ก่อนจะเลือกใช้วิธีบำบัดน้ำเสียควรพิจารณาแหล่งที่มาของน้ำเสีย และระดับความสกปรกเบื้องต้น หากเป็นน้ำเสียจากห้องครัวหรือซักล้างทั่วไป อาจไม่จำเป็นต้องใช้วิธีขั้นสูงเกินความจำเป็น และสามารถจัดการได้ด้วยการแยกเศษของเสียออกก่อน เช่น เศษอาหารและไขมัน
นอกจากนี้ การบำรุงรักษาระบบกรองหรือถังเก็บน้ำเสียให้สะอาดอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัด และป้องกันปัญหากลิ่นหรือการสะสมของเชื้อโรค
สรุป
การรู้จัก วิธีบำบัดน้ำเสีย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แม้จะไม่มีระบบขนาดใหญ่หรือเครื่องมือซับซ้อน ก็สามารถเริ่มต้นจากวิธีง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการกรอง การใช้จุลินทรีย์ หรือการปลูกพืชน้ำ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดมลพิษทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อหลายคนร่วมมือกันแม้ในระดับเล็ก ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้