หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ VS หมอหูคอจมูก เหมือนหรือต่างกันไหม ?

jjasmine

ขีดเขียนเต็มตัว (152)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:189
เมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 11.14 น.

อาการคัดจมูกเรื้อรัง น้ำมูกไหลไม่หยุด ไอ จาม หรือแม้แต่อาการหูอื้อ ปวดบริเวณใบหน้า เป็นกลุ่มอาการที่สร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตไม่น้อย เมื่อเผชิญกับปัญหานี้ คำถามแรกที่มักเกิดขึ้นคือ “เราควรไปหาหมออะไรดี?” ระหว่าง หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้หรือ หมอหู คอ จมูก 

หลายคนอาจสับสนเพราะอาการเหล่านี้ดูเหมือนจะคาบเกี่ยวกันในบริเวณ "ระบบทางเดินหายใจส่วนบน" ทั้งสองสาขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลบริเวณนี้ แต่แท้จริงแล้ว ทั้งสองมีความเชี่ยวชาญและมุมมองในการวินิจฉัยรักษาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


 

หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ โฟกัสที่ระบบภูมิคุ้มกัน

หมอเฉพาะทางด้านภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา (Allergist/Immunologist) คือผู้เชี่ยวชาญที่มองลึกเข้าไปถึง "สาเหตุ" ที่ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยา

  • ปรัชญาการรักษา : หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้จะตั้งคำถามว่า "ทำไม" ร่างกายของคุณจึงตอบสนองต่อสิ่งปกติ (เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ อาหาร) ราวกับว่ามันเป็นผู้บุกรุกที่เป็นอันตราย? พวกเขามองว่าอาการที่แสดงออกมา (เช่น น้ำมูกไหล คันตา ผื่น) เป็นผลลัพธ์มาจากความผิดปกติของ "ระบบภูมิคุ้มกัน" (Immune System)
  • ขอบเขตการรักษา : หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ไม่ได้ดูแลแค่จมูก แต่ดูแลอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้น "ทั่วร่างกาย" ไม่ว่าจะเป็น
    1. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)
    2. โรคหอบหืด (Asthma)
    3. โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Eczema)
    4. การแพ้อาหาร (Food Allergy) หรือ แพ้ยา (Drug Allergy)

 

  • การวินิจฉัย : เครื่องมือหลักคือการค้นหาสารก่อภูมิแพ้ เช่น การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Prick Test) หรือการตรวจเลือด (Specific IgE)
  • แนวทางการรักษา: เน้นการจัดการที่ต้นเหตุของระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่
    1. การหลีกเลี่ยง : แนะนำวิธีจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
    2. การใช้ยา : เช่น ยาแก้แพ้ (Antihistamines), ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก เพื่อ "ควบคุม" อาการอักเสบที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้
    3. การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน : หรือที่เรียกว่า "วัคซีนภูมิแพ้" (ทั้งแบบฉีดและอมใต้ลิ้น) ซึ่งเป็นการรักษาเดียวที่มุ่งเป้าไปที่การ "ปรับ" ระบบภูมิคุ้มกันให้หายขาดหรือทนต่อสารก่อภูมิแพ้ได้ในระยะยาว

 

หมอหู คอ จมูก (ENT) โฟกัสที่โครงสร้างและกายวิภาค

หมอโสต ศอ นาสิก (Otolaryngologist หรือ ENT) คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (และรวมถึงศัลยแพทย์) ที่ดูแลความผิดปกติทาง "กายวิภาค" หรือ "โครงสร้าง" ของอวัยวะในบริเวณศีรษะและลำคอ

  • ปรัชญาการรักษา : หมอ ENT จะตั้งคำถามว่า "อะไร" คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ขัดขวางการทำงานปกติ? เช่น มีอะไรอุดตันหรือไม่? มีการติดเชื้อที่จุดไหน? หรือมีเนื้องอก/ติ่งเนื้อหรือไม่?
  • ขอบเขตการรักษา : ดูแลความผิดปกติทั้งหมดที่เกี่ยวกับ หู (Ear), คอ (Throat), และ จมูก (Nose) รวมถึงไซนัส
    1. ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) (ทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง)
    2. ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated Septum)
    3. ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps)
    4. ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) หรือ ต่อมอะดีนอยด์โต (Adenoid Hypertrophy)
    5. ปัญหาการได้ยิน (Hearing Loss) หรือ หูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media)
    6. ปัญหาเรื่องเสียง (Voice Disorders) หรือการกลืน

 

  • การวินิจฉัย: เครื่องมือหลักคือการตรวจร่างกายโดยตรง และการ "ส่องกล้อง" (Nasal Endoscopy) เพื่อดูโครงสร้างภายในโพรงจมูกและไซนัส หรืออาจใช้ CT Scan เพื่อดูความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกและโพรงไซนัส
  • แนวทางการรักษา: มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่โครงสร้างนั้นๆ
    1. การใช้ยา (Medication): เช่น ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ (ในกรณีไซนัสอักเสบติดเชื้อ), ยาลดบวม
    2. หัตถการหรือการผ่าตัด (Surgery/Procedures): เช่น การผ่าตัดไซนัส (Functional Endoscopic Sinus Surgery - FESS) เพื่อเปิดโพรงไซนัสที่อุดตัน, การผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นจมูกคด, หรือการผ่าตัดต่อมทอนซิล

 

จุดที่ "ภูมิแพ้" และ "หู คอ จมูก" ทำงานร่วมกัน

ความสับสนมักเกิดขึ้นใน "โรคคาบเกี่ยว" ซึ่งพบบ่อยที่สุดคือ โรคไซนัสอักเสบเรื้อรังที่มีภาวะภูมิแพ้ร่วมด้วย (Chronic Rhinosinusitis with Allergic Rhinitis)

สถานการณ์จำลองที่พบบ่อย:

  1. จุดเริ่มต้น (ภูมิแพ้) : ผู้ป่วยเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (หาหมอภูมิแพ้) เมื่อสัมผัสไรฝุ่น เยื่อบุจมูกจะบวม
  2. ผลกระทบต่อโครงสร้าง (ENT) : การบวมเรื้อรังนี้ ทำให้รูเปิดของไซนัส (ซึ่งเป็นโพรงอากาศข้างจมูก) อุดตัน
  3. การเกิดโรค (ENT) : เมื่อรูเปิดอุดตัน ของเหลวภายในไซนัสไม่สามารถระบายได้ เกิดการคั่งค้าง และนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียกลายเป็น "ไซนัสอักเสบ" (ตอนนี้เป็นพื้นที่ของหมอ ENT)
  4. วงจรเรื้อรัง : หากไม่ควบคุม "ภูมิแพ้" (ต้นเหตุที่ทำให้บวม) ไซนัสก็จะอุดตันและอักเสบซ้ำๆ แม้หมอ ENT จะให้ยาฆ่าเชื้อหรือผ่าตัดล้างไซนัสไปแล้วก็ตาม

 

ในกรณีนี้ การรักษาที่ดีที่สุดคือการดูแลร่วมกัน (Co-Management)

  • หมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ จะเข้ามาควบคุม "พื้นฐาน" ของโรค คือการอักเสบจากภูมิแพ้ ด้วยยาพ่นจมูกหรือวัคซีนภูมิแพ้ เพื่อไม่ให้เยื่อบุจมูกบวม
  • หมอ ENT จะเข้ามาจัดการ "ผลลัพธ์" ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น หากมีริดสีดวงจมูกที่โตจนอุดตัน หรือมีไซนัสอักเสบติดเชื้อรุนแรง หมอ ENT ก็จะทำการผ่าตัดหรือให้ยาที่จำเป็น

เช่นเดียวกันกับอาการ "หูอื้อจากภูมิแพ้" ภูมิแพ้ทำให้ท่อปรับความดันหู (Eustachian Tube) ที่เชื่อมระหว่างหลังโพรงจมูกกับหูชั้นกลางบวมและทำงานผิดปกติ (หมอภูมิแพ้ดูแล) ทำให้เกิดของเหลวคั่งในหูชั้นกลาง (หมอ ENT ส่องกล้องตรวจและอาจต้องเจาะระบาย)

 

แล้วเราควรไปหาใคร ?

เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลองพิจารณาอาการหลักของคุณ:

  • ไปหาหมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ ถ้า:
    • อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล สัมพันธ์กับการสัมผัสสิ่งกระตุ้น ชัดเจน (เช่น เข้าห้องนอนไรฝุ่นเยอะ, เล่นกับแมว, ช่วงอากาศเปลี่ยน)
    • คุณมีอาการ "ภูมิแพ้ระบบอื่น" ร่วมด้วย เช่น คันตา น้ำตาไหล, หอบหืด, หรือมีผื่นคันตามผิวหนัง
    • คุณสนใจการรักษาที่ "ต้นเหตุ" เพื่อปรับภูมิคุ้มกันในระยะยาว (Immunotherapy)
  • ไปหาหมอหู คอ จมูก (ENT) ถ้า:
    • อาการของคุณ เกิดขึ้นเฉียบพลันและรุนแรง เช่น ปวดใบหน้า ปวดกระบอกตา น้ำมูกเขียวข้น มีไข้ (อาจเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน)
    • คุณมีอาการ "เฉพาะที่" ที่ชัดเจน เช่น หูอื้อข้างเดียว, ได้ยินลดลง, เสียงแหบ, หรือมีอาการนอนกรนรุนแรง
    • คุณเคยตรวจแล้วพบว่ามี ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ผนังกั้นจมูกคด หรือริดสีดวงจมูก

 

ไม่ต้องกังวลหากเลือกไม่ถูก เพราะแพทย์ทั้งสองสาขามีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยแยกโรค หากหมอ ENT ตรวจแล้วพบว่าต้นตอหลักคือภูมิแพ้ที่ควบคุมไม่ได้ เขาก็จะส่งต่อคุณไปหาหมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ หรือในทางกลับกัน หากหมอภูมิแพ้รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น และสงสัยปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อน ก็จะส่งต่อให้หมอ ENT ตรวจด้วยการส่องกล้องต่อไป




แก้ไขครั้งที่ 5 โดย jjasmine เมื่อ12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 11.30 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา