รู้ก่อนทำ ! เจาะขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการดูแลหลังฉีด

ใต้ตาที่หมองคล้ำและมีร่องลึก คือสัญญาณของความเหนื่อยล้าที่ไม่สามารถปกปิดได้ด้วยเครื่องสำอาง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยคืนความสดใสให้กับดวงตาได้อย่างตรงจุด แต่ก่อนจะตัดสินใจ หลายคนอาจมีคำถามมากมายเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อควรระวัง บทความนี้จะให้คำตอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับทุกกระบวนการของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนเพื่อความงามในครั้งนี้ปลอดภัยและคุ้มค่าอย่างแน่นอน
1. การปรึกษาและวางแผนร่วมกับแพทย์
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่ง แพทย์จะทำการประเมินปัญหาใต้ตาอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องของโครงสร้างกระดูกเบ้าตา ปริมาณไขมัน และลักษณะของร่องน้ำตา เพื่อวินิจฉัยและเลือกประเภทของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม รวมถึงกำหนดปริมาณที่ต้องใช้ การพูดคุยกับแพทย์ในขั้นตอนนี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการและให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและปลอดภัยที่สุด
2. การเตรียมผิวและฉีดฟิลเลอร์
เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมผิว โดยแพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชาในบริเวณที่จะทำกาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างทำ จากนั้นแพทย์จะใช้เข็มปลายทู่หรือเข็มปลายแหลมขนาดเล็กในการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวหนังใต้ตาอย่างระมัดระวัง เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นและทำให้ผิวดูอิ่มฟู การใช้เข็มปลายทู่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและอาการบวมหลังทำได้ดีกว่าการใช้เข็มปลายแหลม
3. การดูแลตัวเองหลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
แม้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือนวด : ไม่ควรนวด หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- หลีกเลี่ยงความร้อน : ควรงดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสัมผัสกับความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่า การอาบน้ำอุ่น หรือการออกกำลังกายหนัก
- ประคบเย็น : ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากมีอาการบวมเล็กน้อย สามารถใช้เจลประคบเย็นได้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ : ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในช่วงแรก เพราะอาจส่งผลต่อการบวมและทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเพียงแค่ทำความเข้าใจในทุกขั้นตอนและเลือกผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ ก็จะสามารถคืนความสดใสให้กับดวงตาและใบหน้าได้อย่างปลอดภัย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้
