เทคนิคคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่ และวิธีผ่อนให้ดอกเบี้ยไม่บานปลาย

สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะ “ออกรถใหม่” สิ่งหนึ่งที่มักจะสร้างความกังวลใจไม่น้อย คือ “ดอกเบี้ยรถใหม่” เพราะถือเป็นต้นทุนที่ส่งผลโดยตรงต่อยอดผ่อนในแต่ละเดือน และจำนวนเงินรวมที่ต้องชำระตลอดสัญญา หากคำนวณไม่ดีหรือเลือกเงื่อนไขไม่เหมาะสม อาจทำให้ดอกเบี้ยบานปลาย จนกลายเป็นภาระทางการเงินในระยะยาว วันนี้เราจึงมีเทคนิคคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่และวิธีผ่อนให้ดอกเบี้ยไม่บานปลายมาฝากกัน
ทำความเข้าใจกับ “ดอกเบี้ยรถใหม่” ก่อนออกรถ
“ดอกเบี้ยรถใหม่” คือ ค่าตอบแทนที่ผู้ซื้อรถต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์ สำหรับการใช้เงินกู้ซื้อรถ โดยจะคำนวณจากราคาหลังหักเงินดาวน์ และระยะเวลาการผ่อนชำระ ยิ่งเลือกระยะเวลาผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะไฟแนนซ์ต้องแบกรับความเสี่ยงที่นานขึ้น
ดอกเบี้ยรถใหม่ในปัจจุบันมักอยู่ในช่วง 2% - 4% ต่อปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละค่ายรถ โปรโมชั่นช่วงนั้น ๆ รวมถึงเครดิตทางการเงินของผู้กู้ เช่น รายได้ต่อเดือน ประวัติการชำระหนี้ และเงินดาวน์ที่จ่าย
เทคนิคคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่เบื้องต้น
ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา ควรรู้วิธีคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่เบื้องต้น เพื่อประเมินว่าราคาสุทธิตลอดสัญญาเหมาะสมหรือไม่ ตัวอย่างการคำนวณแบบง่ายคือ
สูตรคำนวณดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา
ดอกเบี้ยรวม = (ยอดจัดไฟแนนซ์ × อัตราดอกเบี้ยต่อปี × จำนวนปีที่ผ่อน)
ตัวอย่าง:
ราคารถ = 800,000 บาท
ดาวน์ 20% = 160,000 บาท
ยอดจัดไฟแนนซ์ = 640,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย = 3% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน = 5 ปี
ดังนั้น ดอกเบี้ยรวม = 640,000 × 3% × 5 = 96,000 บาท
เมื่อนำดอกเบี้ยรถใหม่มาบวกกับเงินต้นรวม = 640,000 + 96,000 = 736,000 บาท
เมื่อหารด้วยจำนวนเดือน (60 เดือน) จะได้ยอดผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,266 บาท
แม้จะเป็นการคำนวณแบบง่าย แต่ช่วยให้เห็นภาพรวมของภาระหนี้ก่อนตัดสินใจได้ชัดเจนมากขึ้น
เคล็ดลับผ่อนรถให้ดอกเบี้ยไม่บานปลาย
1. เลือกดาวน์เยอะ ผ่อนน้อย
การวางเงินดาวน์มากตั้งแต่ต้นช่วยลด “ยอดจัดไฟแนนซ์” ทำให้ดอกเบี้ยที่คำนวณจากยอดนี้ลดลงโดยตรง เช่น หากดาวน์ 30% แทนที่จะดาวน์เพียง 10% จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้หลายหมื่นบาทในระยะยาว
2. เลือกระยะเวลาผ่อนให้เหมาะ
แม้การผ่อนระยะยาวจะทำให้ค่างวดต่อเดือนต่ำ แต่ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมมากขึ้น หากมีรายได้มั่นคงและสามารถผ่อนต่อเดือนสูงขึ้นได้ ควรเลือกระยะเวลาสั้น เช่น 48 เดือน แทนที่จะเป็น 72 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยรวม
3. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายสถาบัน
ก่อนตัดสินใจออกรถใหม่ ควรสอบถามและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายไฟแนนซ์ เพราะบางแห่งมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าเก่าหรือกลุ่มอาชีพเฉพาะ เช่น พนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ หรือแพทย์
4. อย่าลืมดูค่าธรรมเนียมและประกัน
แม้ดอกเบี้ยจะต่ำ แต่บางไฟแนนซ์อาจมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ แฝงอยู่ เช่น ค่าประกันภัยชั้น 1 บังคับ ค่าธรรมเนียมจัดไฟแนนซ์ หรือค่าปิดบัญชีก่อนกำหนด ควรถามรายละเอียดให้ครบก่อนเซ็นสัญญา
5. มีเงินก้อนควรโปะปิดบางส่วน
หากมีรายได้พิเศษ เช่น โบนัส หรือเงินก้อน ควรนำมาโปะปิดยอดค้างบางส่วน เพื่อลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในอนาคต ซึ่งบางไฟแนนซ์อนุญาตให้โปะได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
การออกรถใหม่ไม่ใช่เพียงเรื่องของ “ราคา” แต่ต้องเข้าใจดอกเบี้ยรถใหม่ และคำนวณให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ภาระทางการเงินบานปลายในระยะยาว การเลือกดาวน์ให้เหมาะสม ผ่อนในระยะเวลาที่พอดี และเปรียบเทียบดอกเบี้ยจากหลายแห่ง จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรถได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่ามากที่สุด
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้
