3 โรคประหลาดเกี่ยวกับการทานอาหารที่หลายคนไม่เคยรู้จักมาก่อน

nemo413

หัดอ่านหัดเขียน (9)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:7
เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 16.18 น.



3 โรคประหลาดเกี่ยวกับการทานอาหารที่หลายคนไม่เคยรู้จักมาก่อน

โรคประหลาดแบบนี้จะทำให้คนบางคนมีพฤติกรรมการทานอาหารที่ผิดปกติ และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ , หัวใจวายและไตวายได้ หนึ่งในโรคที่มีคนรู้จักกันมากที่สุดคืออะนอเร็กเซียหรือโรคอยากผอมซึ่งจะทำให้คนอดอาหารอย่างหนักได้ แต่ก็ยังมีโรคแปลกๆอีกมากที่เราจะมาแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกันไปชมกันเลยจ้า

 นำเสนอโดย : บาคาร่า

1.โรค Night eating syndrome (โรคหิวมื้อดึก)

เริ่มมีการวินิจฉัยโรคนี้กันมาตั้งแต่ช่วงยุค 50s โดยคนที่เป็นโรคนี้จะมีพฤติกรรมอยากทานอาหารในตอนกลางคืน โดยในแต่ละครั้งจะทานอาหารไม่เท่ากันจึงไม่มีการวัดปริมาณที่แน่นอนได้ คนที่เป็นโรคนี้อาจจะมีอาการของ Eating disorder พ่วงมาด้วย ผู้ป่วยอาจจะมีการซ่อนอาหารเอาไว้ทานคนเดียวในตอนดึก มีปัญหาเรื่องความอ้วนและอาจเคยมีประวัติการถูกทำร้ายมาก่อน คนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีความดันโลหิตสูง , มีระดับคอเรสเตอรอลที่อันตรายและเป็นเบาหวาน อาจมีอาการซึมเศร้าและปัญหาด้านการนอนอื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการวิตกกังวลทำให้มีอาการหนักมากขึ้นไปอีก

คนบางคนอาจพัฒนาอาการโรคหิวมื้อดึกขึ้นมาจากการคุมอาหารที่มีความเข้มงวดเพื่อที่จะลดน้ำหนัก และเริ่มทานอาหารในตอนดึกเพราะว่าทนไม่ไหว

 2.Sleepeating (ละเมอทานอาหารตอนกลางคืน)

เช่นเดียวกับโรคผิดปกติในการทานอาหารโรคอื่นๆ คือมันจะทำให้ผู้ป่วยทานอาหารโดยไม่จำเป็นต้องหิวก็ได้ คนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็นกลางดึกแล้วก็ทานอาหารจำนวนมากและพอตื่นขึ้นมาก็จะจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป!!  อาจจะมีคนบางคนที่จำได้ว่าตอนละเมอตัวเองทำอะไรไปบ้างแต่ว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย นี่เป็นปัญหาแบบเดียวกับการนอนละเมอจึงแก้ได้ยากมาก

วิธีทานอาหารของคนที่เป็นโรคนี้จะแตกต่างจากในตอนกลางวันมาก เช่นอาจมีการตักน้ำตาลเข้าปากเป็นช้อนเลยทีเดียว อาหารที่พวกเขาทานเข้าไปมักมีแคลอรี่และน้ำตาลสูงซึ่งจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากแน่นอน

 

3.โรคหลีกเลี่ยงหรือการจำกัดการกินอาหาร (ARFID)

ผู้ที่เป็นโรคนี้จะพยายามหลีกเลี่ยงการทานอาหารบางประเภท โดยจะเริ่มมีอาการตั้งแต่เด็กและอาจลามไปจนถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ซึ่งอาจมีสาเหตุที่หลากหลาย เด็กที่ได้รับแคลอรี่ไม่เพียงพอยังอาจพัฒนาโรคเกี่ยวกับการทานอาหารแบบอื่นๆขึ้นได้อีกด้วย ตรงกันข้ามกับโรคอื่นๆ คนที่มีอาการ ARFID จะมีการน้ำหนักลดลงจนสังเกตุได้ชัด

สนับสนุนบทความโดย : pussy888

 

 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย nemo413 เมื่อ7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 16.19 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา