รีวิว โบท็อกลดกราม อยากหน้าเรียวสวยต้องเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดอย่างไรบ้าง?

สมัยนี้สำหรับสาวๆ ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้น ไม่จำเป็นต้องเจ็บตัวเพื่อทำการผ่าตัดกรามเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว เพราะการฉีดโบท็อกก็ทำให้คุณมีเรียวหน้าที่สวยเหมือนนางแบบและไอดอลดังหลายๆ คนได้เช่นกัน นอกจากจะเจ็บตัวน้อยแล้วยังไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นอีกด้วย เรียกได้ว่าทำแล้วรู้สึกมั่นใจขึ้นอย่างแน่นอน โดยในวันนี้เราจะมารีวิว โบท็อกลดกรามกัน ใครที่สนใจอยากจะเติมความสวยด้วยวิธีนี้อยู่ ตามมาอ่านรายละเอียดกันเลย 

รีวิว โบท็อกลดกราม แก้ปัญหากรามใหญ่ได้จริงหรอ? 

สำหรับใครที่กำลังหารีวิว โบท็อกลดกรามอยู่นั้นเราขอบอกเลยว่าการฉีดโบท็อกนั้นสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นได้จริงๆ เนื่องจากสารโบท็อกหรือ “Botulinum Toxin” มีคุณสมบัติหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว เมื่อนำสารนี้มาฉีดบริเวณกราม จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวอ่อนแรงและคลายตัวลง จึงทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวจากการผ่าตัดอีกต่อไป ซึ่งผลลัพธ์ของการรักษานั้นจะอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่ฉีด ซึ่งสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ในอนาคต 

รีวิว โบท็อกลดกราม เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีด? 

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกลดกรามนั้นควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกให้ดีก่อนตัดสินใจ รวมถึงศึกษาความน่าเชื่อถือของคลินิกและประสบการณ์ของแพทย์ด้วย ซึ่งการเตรียมตัวก่อนฉีดมี ดังนี้ 

• งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำการฉีดโบท็อก 
• หยุดใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดอาการช้ำ เช่น ยา Ibuprofen Naproxen สารสกัดใบแปะก๊วย และวิตามินอีน้ำมันปลา เป็นต้น 
• ตรวจสอบให้มั่นใจว่าโบท็อกเป็นของแท้ และให้แพทย์ผสมโบท็อกต่อหน้าทุกครั้ง 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกลดกราม 

• หลังการฉีด 4 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงการก้มหน้าหรือการนอนราบ 
• งดการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ 
• ใช้น้ำแข็งประคบหากมีอาการบวมแดง ซึ่งปกติแล้วอาการนี้จะหายไปเองใน 1-7 วัน 
• หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน เช่น ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อบซาวน่า หรือปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีด 

และทั้งหมดนี้เป็นการรีวิว โบท็อกลดกรามคร่าวๆ ที่ผู้สนใจอยากฉีดโบท็อกควรจะรู้ไว้ ทั้งนี้ สำหรับการฉีดโบท็อกนั้นจะเริ่มเห็นผลที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลชัดที่สุดหลังการฉีดไปแล้วประมาณ 2 เดือน และก่อนฉีดจะต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าตัวยาที่แพทย์จะฉีดให้นั้นเป็นของแท้และผ่านการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากอย. เพื่อความสวยแบบไม่เสี่ยง