ฉีด PRP ดียังไง? มาทำความรู้จักนวัตกรรมฟื้นฟูร่างกายจากเกร็ดเลือดได้ในบทความนี้

GUEST1649747579

ขีดเขียนดีเด่น (369)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:691
เมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2566 21.11 น.

ฉีด PRP หน้าใส

 

ปัญหาที่มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้น คือ ความแข็งแรงของร่างกายที่น้อยลดลง และความหย่อนคล้อยที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้เกิดจากจำนวนเซลล์และกระบวนฟื้นฟูร่างกายที่เสื่อมถอยลงไปตามอายุมากขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีด PRP หัตถการที่ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพด้วยพลาสมาตามธรรมชาติจากร่างกายผู้รักษา เป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นการสร้างสเตมเซลล์ที่เป็นเซลล์สำคัญสำหรับกระบวนการฟื้นฟูร่างกายตามธรรมชาติ 

การฉีด PRP สามารถช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วง ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง ช่วยรักษาอาการอักเสบและอาการบาดเจ็บลด และยังสามารถฟื้นฟูร่างกายส่วนอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าการฉีด PRP คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ แล้วมีสถานพยาบาลใดบ้างที่น่าสนใจ บทความนี้มีคำตอบ 

 

ฉีด PRP คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยม

 

หลังฉีด prp ผม

 

การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) คือ การฉีดพลาสมาเข้มข้นเข้าไปในจุดที่คนไข้ต้องการฟื้นฟูหรือรักษา เพื่อสร้างกระบวนการฟื้นฟูร่างกายตามธรรมชาติ โดยพลาสมาที่นำมาฉีดนั้น จะได้มาจากเลือดของคนไข้ที่ผ่านกระบวนการปั่นแยกชั้นพลาสมา เพื่อให้เลือดกลายเป็นพลาสมาที่มีความเข้มข้นสูง 

หัตถการฉีด PRP นั้นเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีความปลอดภัยสูงแล้วการฉีด PRP ยังเป็นวิธีการฟื้นฟูร่างกายตามธรรมชาติผ่านการกระตุ้นสเตมเซลล์จากเซลล์เม็ดเลือดของคนไข้ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เช่น ฮอร์โมน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และอื่น ๆ 

ด้วยความที่การฉีด PRP เป็นกระบวนการฟื้นฟูร่างกายและสร้างเนื้อเยื่อ โดยใช้เซลล์พลาสมาของตัวผู้รักษา การฉีด PRP จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมการแพทย์ เช่น การฉีด prp ผมเพื่อรักษาอาการผมบาง, การฉีดเกล็ดเลือดหน้าใส, การฉีด PRP เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บหรืออาการอักเสบ และอื่น ๆ 

 

ข้อดีของการฉีด PRP มีอะไรบ้าง?

 

หลังจากรู้แล้วว่าการฉีด PRP คืออะไร หลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่าการฉีด PRP มีข้อดีอย่างไร เราจะมาอธิบายข้อดีของการทำ PRP ในหัวข้อนี้

 

  • ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้: ด้วยความที่ PRP ผลิตจากพลาสมาที่ได้มาจากเลือดของคนไข้ ทำให้การฉีด PRP ไม่มีผลข้างเคียงและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เนื่องจาก PRP ไม่ใช่สารสังเคราะห์แต่เป็นสารที่ได้มาจากร่างกายของคนไข้
  • แผลหายไวไม่ต้องพักฟื้น: การทำ PRP นั้นไม่ทำให้เกิดแผลเป็น และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เพราะการฉีด PRP เป็นการฉีดเกล็ดเลือด ไม่ใช่การผ่าตัด
  • ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด: ขั้นตอนการทำ PRP จะเป็นการฉีดเกล็ดเลือดไปในบริเวณที่คนไข้มีปัญหาหรือต้องการรักษาโดยตรง เพื่อกระตุ้นเซลล์ในบริเวณนั้น ๆ แบบเฉพาะจุด
  • เห็นผลไว รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ: การฉีด PRP จะฉีดไปยังบริเวณที่มีปัญหาโดยตรง เป็นการรักษาโดยการกระตุ้นเซลล์ จึงสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • ฟื้นฟูเซลล์ได้อย่างล้ำลึกและทำได้ทุกจุดของร่างกาย: เนื่องจาก PRP เป็นพลาสมาที่ได้มาจากร่างกายของคนไข้ โดยการเจาะเลือดและนำไปเข้าสู่กระบวนการปั่นแยกพลาสมา PRP ที่ได้มาจึงเปรียบเสมือนเซลล์ของคนไข้เอง หัตถการนี้จึงสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ทุกจุด

 

ข้อจำกัดของการฉีด PRP 

 

ฉีด prp ราคา

 

ถึงแม้ว่า PRP จะเป็นสารสกัดที่ได้มาจากร่างกายของคนไข้ และมีความเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับเซลล์ที่อยู่ในร่างกาย แต่การฉีด PRP ก็มีข้อจำกัดในการทำการรักษา ที่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินและไถ่ถามก่อนเข้ารับการรักษาทุกครั้ง จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

 

  • การฉีด PRP ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ผู้เข้ารับการรักษาต้องไม่อยู่ในสภาวะตั้งครรภ์
  • ไม่ควรเข้ารับการรักษาด้วย PRP พร้อมการทำหัตถการอื่น ๆ อย่างการฉีด Filler หรือ Botox ถ้าต้องการทำหัตถการอื่น ๆ ควบคู่กับการฉีด PRP ควรมีการเว้นระยะห่าง 1-3 อาทิตย์ตามหัตถการที่ทำ 
  • ในช่วงที่จะเข้ารับการรักษาด้วยการฉีด PRP ต้องเป็นช่วงที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีอาการ ไข้หวัด หรือพึ่งหายจากอาการป่วย
  • ผู้เข้ารับการรักษาต้องไม่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเลือดอย่างโรคโลหิตจาง หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
  • ผู้เข้ารับการรักษาต้องไม่มีภาวะแทรกซ้อนในร่างกายอย่างอาการติดเชื้อในกระแสเลือด หรืออาการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด PRP เข้าสู่ร่างกาย
  • ผู้เข้ารับการรักษาต้องงดยากลุ่มละลายลิ่มเลือดอย่าง NSAID หรือยากลุ่มแอสไพริน ก่อนทำการฉีด PRP อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • หากเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรทำการรักษาด้วยการฉีด PRP
  • ผู้ที่เข้ารับการรักษาต้องไม่มีเชื้อมะเร็งภายในร่างกาย โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดหรือกระดูก เพราะจะมีผลต่อพลาสมาที่จะใช้ในการทำ PRP

 

ฉีด PRP ราคาเท่าไหร่

 

เมื่ออ่านมาจนถึงหัวข้อนี้ ทุกคนคงทราบกันแล้วว่าการฉีด PRP นั้นมีข้อดีมากมาย สำหรับคนที่กำลังมีความต้องการที่จะฉีด PRP แล้วกำลังสงสัยว่าค่าใช้จ่ายในการฉีดแต่ละครั้งนั้นมีราคาเท่าไหร่ แพงหรือไม่ เราต้องบอกว่าราคาค่าบริการฉีด PRP ของสถานพยาบาลแต่ละที่นั้นมีราคาที่ไม่เท่ากัน ในบางช่วงอาจมีโปรโมชั่นที่ทำให้อัตราค่าบริการต่ำลงไปอีก จึงไม่สามารถกำหนดอัตราค่าบริการที่ชัดเจนได้ 

เท่าที่เราทำการหาข้อมูลจากหลาย ๆ สถานพยาบาล พบว่าค่าบริการสำหรับการฉีด PRP จะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 5,000 - 6,000 บาทต่อครั้ง แต่อย่างที่รู้กันว่าการฉีดเพียง 1 ครั้งอาจไม่เพียงพอต่อการรักษา ทั้งนี้หากคุณต้องการทราบรายละเอียดที่ชัดเจน หรือต้องการทราบว่าบริเวณที่ท่านจะทำการรักษาต้องทำ PRP ทั้งหมดกี่ครั้ง แล้วต้องเสียค่าบริการรวมเป็นเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ควรทำการปรึกษาผู้ให้บริการหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่า

 

ฉีด PRP ที่ไหนดี

 

ฉีด prp ราคา

 

หากคุณกำลังมองหาคลินิกให้บริการฉีด PRP เราได้ทำการรวบรวมคลินิกที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดของสถานพยาบาลมาให้แล้ว จะมีสถานพยาบาลใดบ้างมาดูกัน

 

1. คลินิก Apex Profound Beauty

คลินิกให้บริการด้านความงาม ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามามากกว่า 20 ปี ก่อตั้งโดยแพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ เป็นคลินิกที่ให้บริการด้านความงามด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การันตีความน่าเชื่อถือของคลินิกจากรางวัลการรักษาด้วยเครื่องมือมาตรฐานระดับสากลอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ให้บริการด้านความงามหลากหลายแขนง เช่น การฉีด Botox, การฉีด Filler, การกระชับสัดส่วน, การทำเลเซอร์กำจัดขน, การปลูกผม, การฉีด PRP และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

2. SLC Siam Laser Clinic

คลินิกให้บริการด้านความงาม ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามามากกว่า 10 ปี เป็นคลินิกที่ให้บริการทางด้านความงามหลากหลายรูปแบบ เช่น เลเซอร์กำจัดขน, ศัลยกรรมความงาม, Botox, Ulthera, Filler, ฉีด PRP และอื่น ๆ อีกมากมาย SLC Clinic ให้บริการลูกค้าด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล ใส่ใจและปลอดภัยทุกขั้นตอน

 

3. Dr. TARINEE Clinic 

คลินิกให้บริการด้านความงาม ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเส้นผม ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามามากกว่า 15 ปี ให้บริการมามากกว่า 3,000 เคส โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลศิริราช แพทย์หญิงธาริณี ก่อวิริยกมล (หมอแก้ว) เป็นคลินิกให้บริการเกี่ยวกับการดูแลรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน ด้วยเทคโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม, ปลูกผม FUT, ปลูกผม FUE, ปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดหรือฉีด PRP, ปลูกขนคิ้ว, ฉายแสงเลเซอร์ LLLT และบริการด้านความงามอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมบริการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาผมร่วงผมบางแบบตรงจุดที่ Dr. TARINEE Clinic 

 

4. THE KLINIQUE

คลินิกให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาตั้งแต่ปี 2550 ให้บริการด้านความงามหลากหลายด้าน โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา THE KLINIQUE เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหัตถการเกี่ยวกับผิวหนัง ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล ให้บริการด้านความงามหลากหลายด้านทั้งการทำเลเซอร์, การฉีด Botox, การฉีดฟิลเลอร์, การทำ Hifu, การฉีด PRP และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเข้ารับบริการได้ตามห้างชั้นนำทั้วกรุงเทพ

 

5. โรงพยาบาสมิติเวช

โรงพยาบาลนานาชาติที่มีชื่อเสียง และได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมาเป็นเวลานาน เป็นสถานพยาบาลเครือเอกชนที่ให้บริการหลากหลายด้าน ทั้งบริการรักษาและวินิจฉัยโรค, บริการด้านความงาม, บริการด้านการแพทย์เชิงท่องเที่ยว, บริการฉีด PRP และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล ได้รับการยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมให้บริการทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง  

 

สรุปข้อดีและข้อควรรู้ก่อนฉีด PRP 

 

หลังจากอ่านบทความนี้จนจบ ทุกคนคงเห็นถึงข้อดีของการฉีด PRP ที่นอกจากจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ภายในร่างกาย ทำให้บริเวณที่ทำการรักษาแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการฉีด PRP ก็ยังมีข้อห้ามและข้อควรระวังในการรักษาอยู่ เพราะฉะนั้นจึงควรฉีด PRP กับสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และทุกครั้งที่เข้ารับการบริการ ก็ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

 


 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา