เนรมิตผิวเนียนสวยด้วยรองพื้นปกปิดรอยสิว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “รองพื้น ” เป็นไอเทมที่สามารถช่วยเนรมิตผิวหน้าให้เนียนสวยได้ดั่งใจทันที นั่นเพราะรองพื้นเป็นเครื่องสำอางซึ่งทำหน้าที่ปกปิดหรืออำพรางจุดบกพร่องบนผิวหน้าทั้งปัญหารอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอยต่าง ๆ เพื่อให้ผิวหน้าเนียนเรียบ สีผิวที่สม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันรองพื้นมีมากมายหลายประเภทให้เลือกใช้
แบ่งประเภทตามลักษณะของ Texture
- รองพื้นเนื้อครีม (Cream Foundation)
- รองพื้นเนื้อน้ำ (Liquid Foundation)
- รองพื้นแบบสเปรย์ (Spray Foundation)
- รองพื้นเนื้อมูส (Mousse Foundation)
- รองพื้นเนื้อแป้ง (Powder Foundation)
- รองพื้นแบบทินท์ (Tinted Foundation)
- รองพื้นแบบผงมิเนอรัล (Mineral Foundation)
- เจลรองพื้น
แบ่งประเภทตามเนื้อของรองพื้น
- รองพื้นเนื้อแมตต์ (Matte) ให้การปกปิดเนียนเรียบ ติดทนนานตลอดวัน ควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับผิวมันและสภาพผิวของคนเมืองร้อน
- รองพื้นเนื้อโกลว์ (Glow) ช่วยให้ผิวแลดูฉ่ำวาวสไตล์สาวเกาหลี ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีจึงเหมาะสำหรับผิวแห้ง
แบ่งประเภทตามระดับของการปกปิด
- Sheer Coverage หรือ Light Coverage ปกปิดได้บางเบา เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวหน้า หรือต้องการเพียงปรับสีผิวให้สม่ำเสมอเท่านั้น
- Sheer to Medium Coverage ให้การปกปิดบางเบาจนถึงปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเล็กน้อย
- Medium Coverage ช่วยกลบจุดด่างดำ รอยแดง และรอยสิวได้ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับคนที่อยากอำพรางปัญหาผิวแต่ไม่ต้องการให้หน้าแน่นมาก
- Full Coverage เนื้อรองพื้นเข้มข้นจึงปกปิดได้ระดับสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าค่อนข้างมาก รวมทั้งคนที่ต้องการแต่งหน้าเพื่อให้ติดทนตลอดทั้งวัน
แม้ว่ารองพื้นจะช่วยปกปิดปัญหาผิวที่เราไม่มั่นใจให้จบลงด้วยความเนียนกริบ สวยงาม พร้อมสำหรับการแต่งหน้า แต่หากเลือกรองพื้นผิดและไม่เหมาะกับสภาพผิวจากความปังก็อาจจะพังได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว ซึ่งควรเลือกใช้ รองพื้นปกปิดรอยสิว ที่มีคุณสมบัติหลัก ดังนี้
- สีของรองพื้นต้องเหมาะกับสภาพสีผิวหน้า
- เลือกใช้รองพื้นสูตร Non-Comedogenic ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว
- ควรเลือกรองพื้นสูตรน้ำที่มีคุณสมบัติปกปิดได้ดีทั้งรอยนูนหรือรอยแดงจากสิว
เมื่อเลือกรองพื้นที่ต้องการได้แล้ว เทคนิคการใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก็จำเป็นเช่นกัน โดยเริ่มจาก
- ล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง
- กรณีเป็นสิวอุดตันให้ใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหน้าเพื่อให้สะอาดล้ำลึกขึ้นทั้งยังจะช่วยสมานผิวและปรับสมดุลผิวให้ชุ่มชื้น จากนั้นใช้ยาแต้มสิวทาบาง ๆ บริเวณที่มีหัวสิวอักเสบ
- กรณีเป็นสิวอักเสบมากให้งดการใช้โทนเนอร์เนื่องจากจะก่อให้เกิดการระคายเคืองและกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้น โดยหลังจากล้างแล้วใช้เจลรักษาสิวอักเสบแต้มบริเวณหัวสิว รอจนกระทั่งตัวยาซึมลงสู่ผิวแล้วจึงเริ่มขั้นตอนต่อไป
- ทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ติดทนทาน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่อุดตันรูขุมขน ที่สำคัญควรมีค่า SPF40 ขึ้นไป
- หลังจากครีมกันแดดเซตตัวกับผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ลงรองพื้นให้เนียนทั่วใบหน้าโดยใช้นิ้วมือเกลี่ยเบา ๆ ในขั้นตอนนี้ควรเลี่ยงการใช้ฟองน้ำหรือแปรงเพราะเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ง่ายหากอุปกรณ์ไม่สะอาดพอ จากนั้นตามด้วยคอนซีลเลอร์สูตร Non-Comedogenic
- ใช้แป้งฝุ่นลงให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวเนียนเรียบ สีผิวสม่ำเสมอขึ้น และช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
- เมคอัพบริเวณอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เช่น คิ้ว ตา แก้ม และปาก ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีลักษณะเนื้อฝุ่นแทนเนื้อครีมเพื่อลดปัญหาการอุดตันของผิว
ระหว่างวันสามารถทัชอัพได้ด้วยการใช้นิ้วมือแตะรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์เบา ๆ แล้วแต้มบาง ๆ ลงบนใบหน้าเพื่อปกปิดรอยสิว จากนั้นตามด้วยแป้งฝุ่นอีกครั้ง หรือไม่ก็เลือกใช้ รองพื้นติดทน นานจะได้ไม่ต้องทัชอัพบ่อย
การแต่งหน้าช่วยอำพรางริ้วรอยต่าง ๆ ที่เราไม่มั่นใจช่วยเสริมบุคลิกได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารองพื้นยี่ห้อไหนดี ปกปิดรอยสิวและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ ESTEE LAUDER Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10 / PA++ รองพื้นขั้นเทพที่มียอดขายอันดับหนึ่งของ ESTEE LAUDER ให้ประสิทธิภาพในการปกปิดสูงทั้งรอยสิว รอยดำ หรือรอยแดง ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสตลอดวัน ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดสิว เพียงแค่นี้ก็สวยสมบูรณ์แบบได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าลุคไหนก็เอาอยู่
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้