5 สาเหตุอาการปวดเมื่อยที่พบบ่อย และวิธีเลือกยาครีมแก้ปวดเมื่อยให้เหมาะกับอาการ

bangkhamroo

หัดอ่านหัดเขียน (10)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:8
เมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568 10.32 น.

“อาการปวดเมื่อย” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนได้ ไม่ว่าจะทำงานหนัก ออกกำลังกายมากเกินไป หรือแค่นั่งทำงานนานจนร่างกายตึงไปหมด หลายคนมักหาวิธีบรรเทาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ “ยาครีมแก้ปวดเมื่อย” เพื่อช่วยลดความเจ็บตึงของกล้ามเนื้อ การเลือกครีมให้เหมาะกับอาการเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละสูตรให้ผลที่แตกต่างกัน 

บทความนี้ จะพาไปรู้จักสาเหตุปวดเมื่อยที่พบบ่อย และวิธีเลือกใช้ครีมให้ถูกต้องเพื่อให้คลายอาการได้ตรงจุด

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่พบบ่อย

  1. การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป (Overuse)

การใช้แรงอย่างหนัก เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อซ้ำ ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบและมีกรดแลคติกสะสม ส่งผลให้รู้สึกตึง เจ็บ หรือเมื่อยล้า อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังใช้งานหนัก หรือในวันถัดมา

  1. ท่าทางในการทำงานผิด (Office Syndrome)

กลุ่มคนที่ทำงานออฟฟิศมักเจออาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลัง เนื่องจากการนั่งนานเกินไปหรือจัดท่านั่งไม่ถูกต้อง การนั่งจ้องคอมพิวเตอร์นานทำให้กล้ามเนื้อค้างจนเกิดการเกร็งเรื้อรัง ซึ่งกลายเป็นอาการปวดเมื่อยสะสมที่พบมากในยุคนี้

  1. การนอนผิดท่า หรือหมอนหนุนสูงเกินไป

หลายคนอาจไม่รู้ว่าการนอนผิดท่าส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยได้มาก โดยเฉพาะคอและไหล่ หากหมอนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป กล้ามเนื้อคอจะทำงานตลอดทั้งคืน ทำให้ตื่นมารู้สึกเจ็บ ตึง และหมุนคอลำบาก

  1. ความเครียดสะสม

ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อเกร็งโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณบ่าและไหล่ เมื่อมีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ร่างกายจะเกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่บรรเทายาก และมักเกิดขึ้นควบคู่กับอาการนอนหลับไม่สนิท

  1. อุบัติเหตุเล็ก ๆ หรือการเคลื่อนไหวผิดจังหวะ

บางครั้งแค่เดินสะดุด ลื่นนิดเดียว หรือหันคอเร็วเกินไป ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บแบบเฉียบพลัน หากไม่ได้ดูแลอย่างถูกต้อง อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ เหล่านี้อาจลุกลามจนปวดเรื้อรังได้

วิธีเลือกยาครีมแก้ปวดเมื่อยให้เหมาะกับอาการ

เลือก “ยาครีมแก้ปวดเมื่อย” ที่เหมาะกับอาการเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะแต่ละสูตรให้ผลลัพธ์ต่างกัน หากเลือกผิดอาจทำให้อาการไม่ดีขึ้นหรืออาจแสบร้อนเกินไปได้

  1. สูตรเย็น – ช่วยลดบวมและลดการอักเสบ

สูตรเย็นเหมาะกับอาการปวดที่เกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ การเคล็ดขัดยอก และการออกกำลังกายหนัก ความเย็นช่วยหดหลอดเลือด ลดบวม และลดอาการอักเสบ ทำให้เหมาะสำหรับอาการเจ็บแบบเฉียบพลัน เช่น ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรกหลังบาดเจ็บ

  1. สูตรร้อน – ช่วยคลายกล้ามเนื้อเรื้อรัง

สูตรร้อนเหมาะกับอาการปวดตึงเรื้อรัง กล้ามเนื้อแข็งเกร็งจาก Office Syndrome หรืออาการปวดหลังส่วนล่าง ความร้อนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการเกร็งได้ดี โดยเฉพาะผู้ที่ตึงสะสมจากการนั่งทำงานนาน ๆ

  1. เลือกตามส่วนผสมและเนื้อครีมที่เหมาะกับการใช้งาน
  • เนื้อเจล : ซึมไว เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ
  • เนื้อครีมเข้มข้น : อยู่บนผิวนาน เหมาะกับการนวดคลายกล้ามเนื้อ

ส่วนผสมยอดนิยม เช่น เมนทอล, การบูร, ยูคาลิปตัส หรือสารให้ความร้อนอย่างแคปไซซิน สำหรับคนผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบก่อนทาบริเวณกว้าง เพื่อความปลอดภัย

วิธีใช้ครีมแก้ปวดเมื่อยให้ได้ผลดีที่สุด

  1. ทาครีมพร้อมนวดเบา ๆ เฉพาะบริเวณที่ปวด
  2. ไม่ทาครีมบนผิวที่มีแผลหรือผิวแตก
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมสูตรร้อนร่วมกับแผ่นประคบร้อน เพราะอาจทำให้ผิวไหม้
  4. ล้างมือทุกครั้งหลังทา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีสารให้ความร้อน
  5. ทาซ้ำตามคำแนะนำข้างฉลาก ไม่ทาบ่อยเกินไป

เคล็ดลับบรรเทาอาการปวดเมื่อยควบคู่กับการใช้ครีม

การดูแลตัวเองนอกเหนือจากการใช้ยาครีมแก้ปวดเมื่อยจะช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วขึ้น เช่น

  1. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุก 1–2 ชั่วโมงหากต้องนั่งนาน
  2. พักกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหนัก
  3. ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อลดการสะสมของกรดแลคติก
  4. นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด

สรุป

อาการปวดเมื่อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการใช้งานหนัก ท่าทางผิด ความเครียด หรือการบาดเจ็บเล็ก ๆ การเลือกใช้ ยาครีมแก้ปวดเมื่อย ให้เหมาะกับอาการจะช่วยบรรเทาได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นสูตรเย็นเพื่อลดบวมหรือสูตรร้อนเพื่อคลายกล้ามเนื้อ เมื่อใช้ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้อาการปวดเมื่อยลดลงและร่างกายกลับมาสบายมากขึ้น

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา