วิกฤต "ก้างปลา" ในไลน์ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง: แก้ไขอย่างไรให้ได้มาตรฐานส่งออก?

อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็งเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีมาตรฐานความปลอดภัยอาหารเข้มงวด เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป และเกาหลีใต้ ซึ่งให้ความสำคัญอย่างมากกับการตรวจหาสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะ “ก้างปลา” ที่อาจหลุดรอดในระหว่างการแล่ การแปรรูป หรือการจัดการวัตถุดิบ แม้ก้างปลาจะเป็นส่วนธรรมชาติของสินค้า แต่หากพบในผลิตภัณฑ์ที่ต้อง “ไร้ก้าง” (Deboned Fish / Fillet) ก็อาจทำให้เกิด
- การร้องเรียน
- การเรียกคืนสินค้า (Recall)
- ความเสียหายด้านชื่อเสียงแบรนด์
- สินค้าไม่ผ่านมาตรฐานส่งออก
เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค โรงงานจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีตรวจสอบที่มีความแม่นยำสูง เช่น เครื่อง X-Ray อาหารทะเล ที่สามารถตรวจจับก้างปลาได้แม้มีขนาดเล็กหรืออยู่ลึกในเนื้อปลา
ทำไม “ก้างปลา” จึงเป็นปัญหาใหญ่ของโรงงานอาหารทะเล
ก้างปลาในสินค้าแช่แข็งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การแล่ปลาที่ไม่สมบูรณ์
- การใช้แรงงานคนจำนวนมาก ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน
- สายการผลิตความเร็วสูงทำให้ตรวจไม่ทัน
- วัตถุดิบจากหลายแหล่งมาตรฐานไม่เท่ากัน
- ก้างมีขนาดเล็ก อยู่ลึก และมีความหนาแน่นเฉพาะ ทำให้มองด้วยตาเปล่ายากมาก
และที่สำคัญคือ ถ้าหลุดเข้าไปถึงสินค้าส่งออก จะกระทบต่อทั้งล็อตผลิต ทำให้ต้นทุนความเสียหายสูงมาก

ทำไม X-Ray จึงเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการ “ตรวจหาก้างปลา”
การตรวจหาก้างปลาแบบเดิม เช่น การคัดด้วยสายตา หรือเครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) มีข้อจำกัด เพราะ Metal Detector ไม่สามารถตรวจจับได้ เนื่องจากก้างปลา “ไม่ใช่โลหะ” อีกทั้งยังมีความหนาแน่นต่ำ ไม่ทำให้เกิดสัญญาณเหนี่ยวนำ จึงตรวจไม่พบด้วย Metal Detector
X-Ray ตรวจได้แม่นยำเพราะทำงานด้วย “ค่าความหนาแน่น”
เครื่อง X-Ray อาหารทะเล สามารถตรวจจับก้างได้จากความแตกต่างของเนื้อปลา เช่น
- ความหนาแน่นของก้างสูงกว่าเนื้อปลา
- แสดงเป็นจุดทึบหรือเส้นเข้มบนภาพ X-Ray
- ตรวจเจอก้างแม้อยู่ลึกในเนื้อปลา
- ตรวจได้แม้สินค้าถูกแช่แข็งแข็งตัวแล้ว
จึงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับเลือกในโรงงานส่งออกชั้นนำทั่วโลก
ประเภทสินค้าที่ควรใช้เครื่อง X-Ray ตรวจหาก้างปลา
- ปลานิลแล่ (Tilapia Fillet)
- ปลาแซลมอนแล่
- ปลาดอรี่ / ปลาคัทฟิช
- ปลาทรายแดง / ปลากะพง
- ปลาทะเลแบบ Cut & Trim
- เนื้อปลา RTE (Ready-to-Eat)
- สินค้าทะเลชุบเกล็ด (Breaded Seafood)
- กุ้ง / ปลาหมึกที่เสี่ยงมีสิ่งแปลกปลอมในกระบวนการผลิต
หากสินค้ามีมาตรฐานส่งออก การใช้ระบบ X-Ray ถือเป็น “บังคับทางปฏิบัติ” ในหลายประเทศ

โซลูชันตรวจหาก้างปลาจาก Siam Paragon Solutions
เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารทะเล Siam Paragon Solutions ให้บริการเครื่อง X-Ray ที่เหมาะกับงานตรวจแบบละเอียด โดยเฉพาะรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับไลน์ Seafood Processing
1) X-Ray รุ่น Fish Bone Detect (เฉพาะทาง)
- ออกแบบมาเพื่อ ตรวจหาก้างปลาโดยเฉพาะ
- ตรวจจับก้างขนาดเล็กระดับ 0.2–0.5 มม.
- แสดงภาพคอนทราสต์สูง แม้สินค้ามีความหนาหรือเป็นก้อน
- ลด Blind Spot จากรูปทรงเนื้อปลา
- ใช้ได้กับสินค้าแช่แข็งและสินค้าที่ผ่านการปรุง
2) Dual View X-Ray
- มีมุมกล้อง 2 ทิศทาง ทำให้เห็นก้างที่ซ่อนแนวลึก
- เหมาะกับสินค้าที่มีรูปทรงไม่สม่ำเสมอ เช่น Fillet หนา–บางไม่เท่ากัน
- ลดอัตราสินค้าที่ตรวจพลาดได้มากกว่า 30–50%
3) ระบบ Rejector แบบเฉพาะสำหรับอาหารทะเล
ทุกระบบออกแบบให้ไม่ทำลายเนื้อปลา และคัดแยกแม่นยำ เช่น
- Airjet สำหรับสินค้าที่เบา
- Pusher สำหรับ Fillet หนัก
- Shuttle สำหรับไลน์เร็ว
- Chute / Dropout สำหรับสินค้าชิ้นใหญ่

Siam Paragon Solutions ช่วยออกแบบระบบให้โรงงานผ่านมาตรฐานสากล เช่น HACCP GMP BRC FSSC22000 และมาตรฐานตรวจสอบเฉพาะประเทศคู่ค้า (Japan / EU / US) ดังนั้น การตรวจหาก้างปลาในสินค้าแช่แข็งด้วยแรงงานคนหรือเครื่องตรวจโลหะไม่เพียงพออีกต่อไป หากต้องการส่งออกและลดความเสี่ยงในการถูก Reject หรือ Recall โรงงานจำเป็นต้องลงทุนในระบบ เครื่อง X-Ray อาหารทะเล ที่มีความละเอียดสูง ด้วยโซลูชันเฉพาะทางจาก Siam Paragon Solutions
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร. : +66(0)2-394-9932
มือถือ : +66(0)99-827-0078
Email : marketing@siamparagons.co.th
Website : Siam Paragon Solutions Co.,Ltd.
Website Profile: บริษัท สยามพารากอน โซลูชั่นส์ จำกัด
Facebook : Siam Paragon Solutions - ศูนย์รวมเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้
