The Gypsy Death...ต่อให้ตายยังไงก็รัก

9.1

เขียนโดย tietang

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.14 น.

  24 ตอน
  981 วิจารณ์
  41.52K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) เรื่องคืนนี้...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“นะนาย...ช้ากว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ”
มือหนึ่งจับเบาะรถแน่นส่วนมืออีกข้างยังกุมอยู่ที่ขมับอาการเวียนหัวเริ่มทวีขึ้นมากอย่างรุนแรง แก้วหลุบเปลือกตาลงแน่นเพราะขืนลืมตาต่อไปมีหวังอ้วกพุ่งแน่ๆ คนขับก็ยังไม่ผ่อนขับรถราวกับว่ารถเค้าติดจรวยยังไงยังงั้น
“ถ้าขับอย่างงี้ปล่อยฉันทิ้งไว้ข้างทางดีกว่า”
“อยากโดนฆ่านักรึไงทนๆหน่อย”
โทโมะเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นไปอีกและในที่สุดก็ไม่มีรถขันไหนขับตามมาอีก แก้วถอนหายใจอย่างโล่งอก รถค่อยๆเคลื่อนตัวช้าลงจนกลายเป็นหยุดนิ่ง ใบหน้าหวานซีดเผือดจนเห็นได้ชัด ไม่คิดว่าเธอจะเวีนยหัวจนหน้าซีดได้ขนาดนี้ และเป็นเคราะห์ซ้ำหรือกรรมซัดก็ไม่รู้ที่เมื่อกลับมาสตาร์ตรถเพื่อจะพาไปโรงพยาบาลรถกลับไม่ติด แล้วนี้ขับหนีมาถึงไหนก็ไม่รู้ตอนหนีก็ตั้งหน้าตั้งตาหนีให้พ้นอย่างเดียวพอตอนจะกลับกๆไม่รู้ตอนนี้อยู่ส่ววนไหนของประเทศไทย โทโมะออกมาดูอาการรถใบหน้าหล่อเริ่มมีร่องรอยของความเครียดเกิดขึ้น ตั้งแต่เป็นมาเฟียมาไม่เคยเจอเรื่องยุ่งยากวุ่นวายถึงเพียงนี้ และคนบนรถอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ่มลง แสงไฟนีออนจากหมูบ้านไกลลิบคือความเดียวและเหมือนจะเป็นความหวังสุดท้ายของโทโมะและแก้ว
“เป็นไงบ้างไหวไหม”
กลับเข้าไปถามแก้วที่หน้ายังซีดไม่หาย แต่ไร้การตอบรับ โทโมะรวบร่างบางขึ้นมาแล้วอุ้มออกจากรถเดินตรงไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลลิบ เห็นเพียงแค่แสงไฟไม่รู้เหมือนกันว่าเดินไปแล้วจะเจอบ้านคนอย่างที่คิดไวรึเปล่า แต่เวลานี้ถ้าเดินไปแล้วเจอบ้านคนจริงๆ อย่างน้อยหญิงสาวในอ้อมกอดก็ยังพอมีที่พักให้อาการดีขึ้น รอยยิ้มแย้มออกเมื่อเดินมาถึงแล้วเป็นบ้านหลังเล็กๆโทโมะเดินเข้าไปเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก~
“มีอะไรรึพ่อหนุ่ม”
ชายสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับสูกสาวตัวเล็ก การแต่งกายที่เรียบง่ายถ้าเดาไม่ผิดที่นี้คงอยู่แถวชายเมืองแน่ๆ
“คือรถผมเสียหน่ะครับ และเอ่ออ...”
จู่ก็กลายเป็นคนพ฿ดจาติดอ่างไปซะเฉยๆ ที่ติดอ่างก็เป็นเพราะไม่รู้จะบอกกับชายสูงวัยตรงหน้าว่าหญิงสาวเป็นอะไรกับตน
“เมียป่วยด้วยรึนั่น หน้าตาซีดเซียว”
“ครับ ลุงพอจะมีที่ให้ผมพักบ้างไหมครับ”
“มีสิบ้านตั้งใหญ่ตั้งโตอยู่กันแค่สามคนพ่อแม่ลูก มีห้องเหลือว่างอีกห้องหนึ่งมาเข้ามาก่อน”
นี้แหละน้ำใจคนไทย มันทำให้ชายหนุ่มตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกเค้าเคยอยู่แต่สังคมที่ต้องแข่งขันกันไร้ความมีน้ำใจ มีแต่ความโหดร้าย แต่ที่ประทับใจยิ่งกว่าก็คือชายสูงวัยกล่าวว่าบ้านตั้งใหญ่ตั้งโต ทั้งๆที่บ้านแกหลังเล็กนิดเดียว นี่หล่ะน่าคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก โทโมะเดินตามเด็กตัวเล็กเข้าบ้านมา ผู้หญิงที่นุ่งผ้าถุงเสือคอกระเช้าส่งยิ้มมาให้ก่อนจะกระเถิบให้นั่งลงบนเสื่อด้วยกัน
“นั่งก่อนๆ มาจากไหนกันหล่ะ”
น้าแกคงเล่าให้เมียแกฟงแล้วว่าเค้ารถเสีย
“ต้องเป็นในเมืองแน่เลยดูสิพี่ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวน่ารักลูกน้ำอยากได้แต่งบ้างจัง”
เด็กหญิงพูดจาฉะชานเธอเป็นเด็กน่ารักแลดูถมัดแถม่งไม่หน่อมแน่มเหมือนเด็กที่เค้าเคยเห็น แววตาสนใสทอเป็นประกายมองแก้วอย่างชอบใจ
“พอเลยลูกน้ำ มาดูพี่สาวเค้าก่นอสิเป็นอะไรมากรึเปล่า”
ลุกเดินเข้ามาใกล้ๆแก้ว ผินใบหน้างามดูอาการว่าเป็นอย่างไร ผ้าขาวม้าชุบน้ำมาแตะอยู่บนหน้าผากหญิงสาว พอเช็ดเสร็จก็ยิ้มให้โทโมะ
“คงทำไม่เป็นหล่ะซิ แค่เช็ดตัวเองค่อยเช็ดทั้งคืนพรุ่งนี้อาการก็คงจะดีขึ้น”
อธิบายเวลาเช็ดตัวควรจะทำอะไร เพราะดูจากท่าทางเก้งกางของชายหนุ่มแล้วไม่น่าจะทำอะไรเป็น
“ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างงี้ ฝึกไว้เผื่ออยู่บ้านเมียเป็นลมอีกจะได้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลมันสิ้นเปลือง”
วางผ้าลงใส่มือโทโมะ มือนหาเริ่มเช็ดไปตามใบหน้าลามไปจนถึงแขนเรียวยาว ไม่นานนักทั้งลุงกับป้าก็พาชายหนุ่มมาดูห้องที่จะให้พัก ห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่นักมีผ้านวมซ้อนทับกันสองผื่นวางอยู่กลางห้องกับหมอนอีกหนึ่งใบ
“เดี๋ยวอุ้มเมียมานอนที่นี้นะปิดหน้าตาด้วยหล่ะยุงมันเยอะข้ามีมุ่งแค่หลังเดียวก็คือหลังที่ป้าและก็ลูฏน้ำมันนอนกันพ่อหนุ่มก็คงต้องนอนอย่างนี้นะนอนได้ไหมไหม”
“ได้ครับ”
จะได้หรือไม่ได้ก็ต้องบอกว่าได้เพราะแค่มีที่ให้ได้นอนแถมยังใจดีดูแลหญิงสาวให้อีกก็ถือว่าเป็นโชคดีจองเค้ามากพอแล้วเพราะถ้าเดินมาไม่เจอลุงกับป้าคู่นี้เค้าเองคงจะทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งงุนง่านกับตัวเอง โทโมะเริ่มปูผ้าหนึ่งผื่นเพื่อใช้นอนแล้วเก็นอีกหนุ่งผื่นไว้สำสำหรับห่ม อุ้มร่างบางเข้ามอนอนแล้วปิกหน้าต่าง
“ป้ากับลุงไปนอนก่อนนะ”
“ขอบคุณมากครับ”
“พี่ชายสุดหล่อลูกน้ำไปนอนนะจ๊ะ”
“ครับ”
ทั้งห้องเหลือเพียงแค่เค้าและเธอ ปิดหน้าต่างมาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ยุงก็ยังบินโหลมๆไม่เลิก
 
เพี้ย เพี้ย!!
วิ่งไล้ตบยุงไปทั่วห้องขืนปล่อยให้มันวิ่งเล่นมีหวังเป็นไข้เลือดออก ร่างบางที่ค่อยๆปรือตาขึ้นมาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ แต่ด้วยอาการป่วยที่ยังไม่หายดีทำให้เสียงหายไปบ้าง
“มาเฟียตบยุงฮาฮ่า”
“หายแล้วซินะ ฉันจะได้ไม่ต้องมีภาระ”
หยุดตบยุงแล้วนั่งลงข้างๆ ผ้าปูนอนก็ผืนเล็กนิดเดียวเลยบีบให้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากขึ้น แก้วทำหน้ามุ่ยทันทีที่ได้ยินว่าภาระ
“ก็นายขับรถเร็วเองฉันก็เวียนหัวจนป่วยเพราะฉะนั้นที่ฉันต้องเป็นภาระก็เพราะนาย”
“ที่ต้องขับรถเร็วก็เพราะพาเธอหนีไงหล่ะ แล้วหายดีแล้วเหรอมานอนเถียงเนี่ย”
ยื่นหลังมือไปแตะที่หน้าผากเบาๆ ตัวเริ่มกลับเข้าสูอุณหภูมิปกติแสดงว่าอาการดีขึ้นแล้ว
เพี้ย!
หันกับไปตบยุงที่แขนอีกข้างพอหันกลับมาร่างบางก็หลับไปแล้วถดร่างกายลงมานอนเคียงข้างดึงผ้าห่มคลุมร่างบางจนมิดส่วนตัวเองนอนโดยไร้ผ้าห่ม ครึ่งคืนไปแล้วที่ชายหนุ่มยังคงสู้รบกับยุ่งไม่หยุดหย่อนตบเท่าไหร่ก็ไม่หมด สู้จนยอมแพ้นอนลงแล้วผินใบหน้าบางเค้ามาหาจับให้นอนตะแคงข้างเพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้นอนหงายจะโดนยุ่งตอด มือหนาวางพาดเองแล้ลากเข้ามาปะชิดร่างตัวเองแล้วกอดไว้ ยกหัวแก้วออกจากหมอนแล้วตัวเองหนุนแทนจับหัวแก้วให้นอนอยู่บนท่อนแขนของตนเองเลยกลายเป็นว่าใบหน้าหวานซุกอยู่กับอกแกร่ง
+
+
+
ความหนักอึ้งที่เองทำให้ร่างบางตื่อนจากการนอนหลับ
“เฮ้ย!!”
พลัก!!
ด้วยความที่ไม่เคยโดนใครกอดตอนนอนตื่นมาเลยตกใจที่ตัวเองโดนโทโมะกอดถีบออกไปสุดแรงจนร่างโทโมะไปกระแทกเข้ากับกำแพงห้อง
“โอ๊ยยยย”
โทโมะร้องโอดครวญก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องเขม็งมแก้ว
“ขอโทษ...นายมากอดทำไมหล่ะ”
“ถ้าไม่กอดเธอก็โดนยุงมันตอดจนเป็นไข้เลือดออกอีก ฉันก็ต้องมานั่งพาไปหาหมออีก”
“เออๆฉันผิดเองก็ได้ แล้วนี้ที่ไหนอะ”
ใบหน้ากลับมาเรียบเฉยตามเดิม เดินออกไปข้างนอกอย่างไม่สนใจคนที่รอคำตอบ แก้วหมันไส้เดินตามออกมาแต่ก็ต้องตกใจเมื่อลุงป้าและลูกสาวยืนยิ้มให้อยู่ มัยบังคับให้หญิงสาวยิ้มตอบไป
“พี่สาวห่ายยป่วยแล้วเหรอคะ”
“เอออะคะ หายแล้ว”
เด็กหญิงช่างพูดเดินเข้ามาหา สงสัยคงจะชอบที่หญิงสาวน่ารันเดินเข้ามาคุยโน้นคุยนี่พาไปกินข้าวและพาไปเดินเที่ยวจนแก้วลืมไปเลยว่าทำม่เธอถึงมาอยู่ที่นี้
“ตัวเล็กทำไม่พี่มาอยู่ที่นี้หล่ะ”
“ก็เมื่อคืนแฟนพี่บอกว่ารถเสียก็เลยมาขออยู่แล้วบ้านพี่สาวอยู่แถวไหนคะ”
“พี่อยู่ในกรุงเทพจ๊ะ ที่นี้ก็ชานเมืองใช่ไหม่ไม่ไกลเท่าไหร่”
“ไกลจ๊ะแม่บอกว่าไกลมาก ลูกน้ำไม่เคยเค้าไปเลยไม่รู้ว่าในเมืองมีอไรบ้าง”
ลูกน้ำเป็นเด็กน่ารักถึงแม้จะแกน่ไปบ้างตามประสาเด็กชานเมือง แก้วนั่งคุนอะไรหลายๆอย่างจนเวลาเลยมาจนเที่ยง
“กลับบ้าน”
เสียงเรียกจากโทโมะ ตั้งแต่เช้ามาเค้าหาคนมาซ้อมรถจนเสร็จแล้วก็เดินออกมาตาม
“กลับแล้วเหรอคะพี่สาว”
“คงต้องกลับแล้ว”
ลูกน้ำทำเหมือนจะร้องไห้เธอติดแก้วเอามากๆเพราะแถวนี้มีบ้านแค่ไม่กี่หลังเด็กๆเลยมีน้อยตามไปด้วยลูกน้ำคงเหงาพอเจอแก้วก็เหมือนเจอเพื่อนที่ถูกใจเลยติดแจ
“พี่ชายอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ”
ใบหน้าเรียบเฉยมองเลยผ่านไปแล้วเดินกลับไปราวกับว่าลูกน้ำเป็นเพียงอากาศ แก้วยิ่งเห็นยิ่งหมันไส้เข้าไปใหญ่ นี่กับเด็กตัวเล็กๆน่ารักอีกต่างหากเค้ายังมาเย็นชาได้ลงคออีกเหรอ เดินตามไปกระชากชายเสื้อ
“ที่นายอยู่ก่อนไม่ได้เหรอสงสารน้องเค้า”
“แต่กิจการฉันไม่มีคนดูแล”
“ป๊อปปี้ เขื่อนอะไรพวกนั้นก็อยู่ไม่อะไรหรอกหน้า”
พอไม่ได้อย่างใจแก้วก็ตีเอาตีเอา โทโมะได้แต่ยืนเฉยอยากตีก็ปล่อยให้ตี
 
 
 
.........................................................................................
มาอัพแล้วนะคะฮ่าฮ่าชื่อตอนน่าลบุ้นแต่มันไม่มีอะไรเลยนอกจากยุง555 คอมไรเตอร์พัฃค๊าบทุกวันนี้แอบเอาของพี่เล่นแอบมากด้วย555อย่าลืมนะเข้ามาอ่านแล้วเม้นให้หน่อยค๊าบขอบคุณก๊าบบบ
 
รักลีดเดอร์จ๊วฟฟม๊วฟฟเม้นเยอะแล้วตอนหน้าจะมาเร็ว^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา