Sorry Sorry , i need you

10.0

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 19.20 น.

  4 ตอน
  210 วิจารณ์
  16.06K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                เสียงแฟลชวูบวาบยามค่ำคืนของบรรดาผู้สื่อข่าวกำลังรุมล้อมบุรุษหน้าหวานและขึ้นชื่อเรื่องความหล่อจัดอย่าง ‘โทโมะ’  พระเอกสุดฮอต ณ ตอนนี้..เขาถอดแว่นสีชาพลางเหน็บมันไว้กลางอก  เผยให้เห็นดวงตาสีนิลคมเฉี่ยวดูมีเสน่ห์ลึกลับ น่าค้นหา  จมูกโด่งเป็นสันตั้งรับฉากกับใบหน้าโค้งมน ผิวหน้าเรียบเนียนไร้ริ้วรอยต่างๆ  อีกทั้งยังริมฝีปากแดงอมเชอร์รี่นิดๆกินใจสาวน้อยใหญ่ และเส้นผมดำสนิทขับผิวของเขาให้ดูขาวผ่องยิ่งขึ้นพร้อมทั้งจัดทรงไว้อย่างหล่อเท่ห์

 

 

 

ร่างกำยำของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ดูจะเป็นที่น่าอิจฉาของหนุ่มๆทั่วไปกับความเพอร์เฟคของเขา และคงจะดูน่ากรี๊ดกร๊าดสำหรับสาวๆเสียส่วนใหญ่

 

 

 

 ตอนนี้เขากำลังถูกผู้สื่อข่าวซักถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางเอกดาวรุ่งอย่าง ‘จินนี่’  เขาปฏิเสธทุกกข้อกล่าวหาผ่านสื่อ ซึ่งทำให้อีกคนที่นั่งดูข่าวอยู่บนเตียงกว้างกลางคอนโดหรูใจกลางเมืองพอใจเป็นยิ่งนัก...จนกระทั่งราวๆตีหนึ่ง พระเอกสุดฮอตที่เพิ่งเป็นข่าวไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าก็กลับมาถึงคอนโด...คอนโดที่ใช้ชื่อร่วมกับอีกหนึ่งชีวิตในห้อง

 

 

“กลับมาแล้วครับ...ฮันนี่”  

 

 

ร่างสูงร้องบอกอีกฝ่ายในห้องทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามา  ไม่นานนักเจ้าของร่างเล็กก็ปรี่เข้ามากอดเขาด้วยความดีใจทันที  หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสุดเซ็กซี่   ถึงแม้โทโมะจะเป็นคนสุขุมและใจเย็นมากๆก็เถอะ เห็นเรือนร่างแบบบางแต่อุดมไปด้วยความสวยงามแบบนั้นเข้าก็ยากจะห้ามใจ...ร่างเล็กตรงหน้าโน้มลำคอแกร่งของเขาลงมาหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความทะเล้น

 

 

 

“แก้วคิดถึงพ่อที่สุดในโลกกกกก”  

 

 

“ฮันนี่...วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวผมมา”    เขารั้งเอวบางเข้าหาพลางเอี้ยวตัวมาจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ

 

 

“งั้น...แก้วอาบให้พ่อเอง เห็นบ่นว่าเหนื่อยนี่ค่ะ...น้า~”   เขากลั้วหัวเราะในลำคอเล็กน้อยกับความขี้อ้อน ขี้เอาแต่ใจของหญิงสาวก่อนจะพยักหน้าตกลง  เธอยิ้มรับก่อนจะเอื้อมมือมาปลดเปลื้องเนกไทให้เขา  นัยน์ตาร้อนแรงของแก้วสบเข้ากับสายตานิ่งๆที่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหาของโทโมะ  รอยยิ้มเย้ายวนผุดขึ้นบนใบหน้าหวานของหญิงสาวยามที่เขาจับจ้องเธอนั้น..

 

 

แก้วรู้สึกว่าตนเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้เจอกับเขา  นอกจากบุรุษตรงหน้าจะมีรูปงาม ฐานะทางบ้านดีถึงขั้นร่ำรวย แล้วไหนจะยังนิสัยที่แสนเพอร์เฟคของเขาอีก...ไม่เคยนอกใจเธอเลยสักครั้งทั้งๆที่เขาก็ออกจะหล่อเลือกได้  ไหนจะยังมีโอกาสได้พบปะกับบรรดาเซเลบ นางแบบ นางเอก สาวๆสวยๆนั่นอีก !  แน่ละ...เขาเป็นสุภาพบุรุษที่แสนดี แถมยังใจบุญอีกต่างหาก ไม่เจ้าชู้ไก่แจ้เหมือนเพื่อนดาราของเขาบางคน  ใครจะว่าคนไม่เจ้าชู้ไม่มีเสน่ห์ก็ตาม  แต่สำหรับแก้วแล้ว  เขาร้อนแรงและเท่ห์ที่สุดในสายตาของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่หลงรักเขาจนหัวปักหัวปำแบบนี้หรอก !

 

 

เธอถึงต้องคอยเอาใจเขาแบบนี้ยังไง...ไม่อย่างนั้นเขาคงเบื่อเด็กอย่างเธอเป็นแน่  หากเขาหนีไปมีคนอื่นแก้วคงไม่มีวันทำใจได้  เธอยอมรับว่าตนเป็นเป็นคนหึงแรงจนถึงขั้นงอนกับเขาบ่อยๆ  แต่เขาก็เป็นคนมีเหตุผลพอในความเป็นผู้ใหญ่อายุ 28 ปี ซึ่งต่างกับเธอเกือบๆสิบปี  เขาเป็นได้ถึงพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งพ่อในยามที่เธอต้องการใครสักคน เหตุนี้เอง...เธอจึงเรียกเขาแบบนั้น ! 

 

 

  สถานะของเธอกับโทโมะยังไม่เป็นที่เปิดเผยในวงสังคมเนื่องจากเธอเองก็ยังเด็ก  ด้วยนิสัยห้าวๆและออกจะเอาแต่ใจเล็กๆซึ่งขัดกับบุคลิกความเป็นผู้ใหญ่ของเขา ทำให้บรรดาเพื่อนสนิทของเธอต่างกลัวว่าจะไปกันไม่รอด แต่แก้วกลับไม่แคร์สักคำครหาเหล่านั้น...เธอเชื่อในความรักอันหอมหวานของเธอกับเขา...ยามที่เขาอยู่กับเธอเขาหวานชื่นเพียงใด เธอรู้ดี !

 

 

 

“พ่อรักแก้วหรือเปล่า ?”   เสียงใสเอ่ยถามอีกฝ่ายทั้งที่ยังหลับตาพริ้มกับสายน้ำอุ่นๆที่ไหลวนรอบกายภายใต้อ่างอาบน้ำสุดหรูที่บัดนี้บรรจุร่างของคนทั้งสองเอาไว้

 

 

“ถ้าบอกว่า...ไม่รักล่ะ ?”   เขาแกล้งเหย้าเสียงแหย่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับหัวขวับมามองตาเขียวก่อนจะตัดพ้อเขาเสียโทโมะส่ายหน้าระอากับความเซี้ยวของหญิงสาว

 

 

“ไม่รักก็ไม่รัก ! แต่อย่าให้แก้วเห็นว่าพ่อไปรักคนอื่น...แก้วจะตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย !”

 

 

“ขนาดนั้นเชียว ?”

 

 

“พูดจริง !”   เธอแหวใส่เขาเสียงสูง

 

 

“ล้อเล่นน่า ดูทำหน้าเข้า...นางมารร้าย~”   เขารั้งเอวบอบบางเข้ามาแนบชิด คนตัวเล็กเลยได้โอกาสพิงแผ่นอกกว้างของเขาอย่างสบายอารมณ์  มือหนาเอื้อมมาบีบจมูกรั้นๆที่ชอบเชิดใส่เขาอย่างหมันเขี้ยว 

 

 

“ไม่ร้าย..พ่อก็ไม่รักสิ”

 

 

“ฮ่าๆ แล้วจะให้ไปรักใครกันเล่า...เด็กบ๊อง ! แล้วนี่..ตีหนึ่งแล้วทำไมยังไม่หลับไม่นอน คุยกับใครอยู่หรือเปล่า?”    โทโมะหรี่ตามองอย่างจับผิด แน่สิ ! ปกติแก้วไม่เคยนอนดึกขนาดนี้ แค่สี่ทุ่มเธอก็บ่นว่าง่วงนักหนาเสียแล้ว...ใครบอกว่าเธอหึงเขาแต่ฝ่ายเดียว เขาเองก็แอบหึงหวงเธอเหมือนกัน  ใบหน้าหวานๆนั้นมันดูน่ารักจะตายไป ! ใครจะยอมให้คนอื่นมาฉกชิงไปได้เล่า ? 

 

 

หญิงสาวเสหน้ามองเขาแล้วอมยิ้มอย่างดีใจไม่หยอก...ชอบจังเลยกับการที่เขาหึงหวง เธอปรารถนามันยิ่งกว่าสิ่งใดเสียอีก

 

 

 

“ก็รอพ่อนี่ค่ะ..พ่อกลับดึ๊กดึก แก้วนอนไม่ลงหรอก เผื่อพ่อหนีไปหาสาวๆทำไงล่ะ ?”

 

 

“ไม่ได้คุยกับใครแน่นะ ?”    เขาถามย้ำอีกครั้ง

 

 

“คิกๆ ...จริงๆค่ะ”   คนตัวเล็กยื่นใบหน้าไปถูไถกับแก้มเนียนของผู้ชายหน้าหวานตรงหน้าอย่างออดอ้อนจนฟองสบู่บนแก้มใสของเธอเปื้อนใบหน้าของโทโมะไปด้วย  เขากอดรัดร่างเล็กนั้นอย่างหมันเขี้ยวในความน่ารัก มือหนาโอบไล้เนื้อเนียนใต้น้ำทำให้อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักอย่างสดใส  ก่อนที่โทโมะกระซิบเสียงแผ่วข้างใบหูอีกฝ่าย...

 

 

“จะอาบน้ำให้หรือจะให้ผมอาบให้กันแน่...ตัวเล็ก ยัยเด็กร้ายกาจ” 

 

 

“แล้วแต่พ่อสิค่ะ...”

 

 

“ฮันนี่กำลังจะทำให้ผมนอนดึกนะ...พรุ่งนี้ผมมีงานแต่เช้า”    เขาพูดพลางกดจูบลงบนขมับน้อยๆนั้นอย่างหมันไส้  คนตัวเล็กเชิดหน้าอย่างพอใจซบใบหน้าลงบนแผงอกล่ำของเขาอย่างแนบแน่น  มือเรียวกอดรัดรอบร่างเขาจนอีกฝ่ายขยับหนีไปไหนไม่ได้..

 

 

ให้ตายสิ...อ้อนเหมือนลูกสาวไม่มีผิด เธอทำให้หัวใจเขาทำงานหนักเกินไปแล้ว

 

 

“พ่อจะหยุดมาอยู่กับแก้วบ้างไม่ได้เหรอ ? ให้ตายเหอะ..พ่อทำแต่งานอ่ะ !”   แก้มใสพองออกเล็กๆอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าเขามุ่งมานะแต่จะทำงานเสียจนแทบไม่มีเวลาให้เธอ ส่วนมากก็เจอกันแค่ตอนกลางคืนยามเขาเลิกงานดึกๆนั่นแหละ !  งานเขาก็เลิกไม่เป็นเวล่ำเวลาไม่รู้ว่าผู้กำกับจะโทรมานัดไปถ่ายละครเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ !  

 

 

“ตอนนี้ก็อยู่ด้วยนี่ไง...อยู่ด้วยทุกคืน”  เขากระซิบเสียงหวานอย่างงอนง้อ กดจุมพิตลงบนแก้มนวลเบาๆ ถึงแม้จะแอบน้อยใจเขาอยู่ก็เถอะ..แต่สาบานเลย ว่าตอนนี้เธอน่ะนะ..เขินแทบบ้า

 

 

“ไม่เหมือนกันนี่นา...พ่ออ่ะ !  ไม่รู้ล่ะ แก้วยอมพ่อมาเยอะแล้ว ยอมแม้กระทั่งไม่เปิดตัว..”  ร่างบางเม้มปากแน่น รู้สึกน้อยใจนิดๆ

 

 

“....”

 

 

“อาทิตย์หน้าแก้วปิดภาคเรียน..พ่อต้องว่างพาแก้วไปมัลดีฟ..โอเคนะ”     โทโมะเหลือบมาสบสายตาขี้อ้อนแกมบังคับของเธอด้วยสีหน้าหนักใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะติดงานอะไรอีกหรือเปล่า  แต่พอหันกลับไปมองแววตาแมวน้อยนั่นก็เกิดความสงสารจนใจอ่อนยอมตกปากรับคำ

 

 

“โอเคฮันนี่..เลิกทำหน้ามุ่ยได้แล้ว”  เขาขยี้เส้นผมเปียกชื้นของคนตัวเล็กน้อยๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะกระชับอ้อมกอดแล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มแย้มสดใส  ดวงตากลมโตวาวประกายอย่างแช่มชื่น  เจ้าตัวเล็กยื่นใบหน้ามาจุมพิตที่ปากหนาของเขาแทนคำขอบคุณ

 

 

“พ่อใจดีที่สุดเลย..เอารางวัลอะไรดีค่ะ ?”  เธอถามเสียงกระเซ้าสองมือเล็กโอบรอบคอแกร่งของเขาไว้พลางใช้สายตาแมวน้อยมองเขาด้วยสายตาน่ารักน่าชัง  ก่อนจะโน้มใบหน้าและริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวนลงมาขบกัดเบาๆที่ต้นคอหนาของเขา พอให้ขึ้นรอยแดงระเรื่อ

 

 

“ไม่ต้องการอะไรหรอกครับ”

 

 

“บวชพระเลยไหมค่ะ !”  ร่างบางมองตาเขียวเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น จะใจร้ายเกินไปหน่อยแล้วตาบ้า เป็นพระอิฐพระปูนหรือยังไงกัน คิดในใจเขาอาจจะเบื่อความหอมหวานของเธอแล้วก็เป็นได้  คนตัวเล็กกอดอกเบือนหน้าหนีอย่างไม่พอใจ

 

 

“แล้วค่อยเบียดนะหรือ ?”  คนหล่อกระชับโอบช้อนร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักพลางหยอดคำหวานจนเจ้าตัวที่งอนเขาเมื่อครู่หน้าร้อนฉ่า  มือเล็กยึดไหล่หนาเป็นที่พักผิงเมื่อเธอรู้สึกว่าหัวใจเธอกำลังทำงานหนักอีกครั้ง  อกนุ่มนิ่มราวกับใยไหมกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่รุนแรง  เขากระชับร่างนั้นให้แนบชิดมากขึ้นจนอกหยุ่นเบียดเสียดกับแผงอกแข็งแกร่งของเขาที่ถูกปกคลุมด้วยฟองสบู่ฟุ้งฟ่อง

 

 

“แค่ล้อฮันนี่เล่นเอง..ที่บอกไม่ต้องการอะไรน่ะ ก็ไม่ต้องการจริงๆ.....แค่ต้องการฮันนี่คนเดียว”   หอมแก้มใสเบาๆอย่างงอนง้อก่อนจะเผยความจริงออกมาจนเจ้าตัวเล็กเขินตัวม้วน ใบหน้าใสขึ้นสีแดงระเรื่อดูน่ารักก่อนจะลุกออกจากตักเขาทั้งที่ร่างทั้งร่างยังเปลือยเปล่า  ร่างงามก้าวขายาวๆออกจากอ่างอาบน้ำฉวยคว้าผ้าขนหนูมายืนเช็ดตัวอย่างใจเย็น ก่อนจะใช้มันห่อหุ้มร่างกาย

 

 

 

“หนีไปไหนหรือ ? มาให้ชื่นใจหน่อยสิฮันนี่”

 

 

“ตีสองแล้ว”   เธอเอ็ดเขาเบาๆทั้งที่ยังไม่ยอมสบสายตากับโทโมะ  หญิงสาวเดินหนีเขาไปล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างทั้งที่ทั้งตัวเหลือเพียงผ้าขนหนูผืนสั้น  เขาอมยิ้มตามเด็กปากแงมาที่เตียงด้วยร่างกายเปลือยเปล่า มองเห็นร่างบางหลับตามพริ้มอย่างสบายบนเตียงก็กระโดคร่อมร่างนั้นไว้อย่างหมันไส้

 

 

“ยั่วนี่นา...ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียหน่อย”

 

 

“จะฟ้องนักข่าว..ว่าพระเอกดังข่มขืนผู้หญิงตัวเล็กๆไม่มีทางสู้”   เธอแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน  ตอนแรกเขาก็ไม่ใช่คนบ้ากาม  คิดอยากจะรักก็รัก คิดอยากจะจูบก็จูบ  แต่เมื่อครู่หญิงสาวใต้ร่างดันยั่วยวนจนสติเขาแทบแตกกระเจิงเอง...ตอนนี่จะมาฟ้งมาฟ้องนักข่าวอะไรกัน ?

 

 

 

ดูพูดเข้าสิ ยัยบ๊องเอ๊ย !  

 

 

 

 

“เรอะ !  นักข่าวที่ไหนจะมาตอนตีสองกัน..อยากเรียกให้เขามาดูบทลงโทษของผมหรือไง ?”

 

 

“บทลงโทษ ?”   เธอดันอกเขาไว้ก่อนจะใช้สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามส่งไปหาเขา โทโมะโน้มใบหน้าหล่อจัดลงมากระซิบริมแก้มใสพร้อมทั้งหอมฟอดใหญ่

 

 

“ลงโทษเด็กน่ารัก”

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะ..ฮื้มม..พ่อค่ะ...อา  แก้วร้อนไปหมดเลย...”   เสียงหวานครางเล็ดลอดออกจากริมฝีปากที่เริ่มบวมเจ่อเมื่อถูกเขาบดเคล้าริมฝีปากหนาๆระดมจุมพิตไม่ยั้งราวกับต้องการสั่งสอนให้นางมารร้ายอย่างเธอเข็ดหลาบที่บังอาจมากลั่นแกล้งเขาเมื่อครู่  มือเล็กกอดกระหวัดร่างแข็งแกร่งของเขาอย่างแนบแน่น ผวากอดเมื่อเขาถ่ายถอนตัวออกห่าง  อบอุ่นซาบซ่านเมื่อเขาหวนคืนสู่ความลึกล้ำ...

 

 

ความละมุนละไมที่เขาหยิบยื่นให้ช่างทำให้เธอมีความสุขมากเหลือคณา  ก่อนจะพากันเหยียบย่ำสู่ความหฤหรรษ์ของบทเพลงรักที่ถูกถ่ายทอดโดยคนทั้งคู่  เขารู้สึกอิ่มเอมกับความหวานหอมจากร่างตรงหน้านั้นอย่างมากล้นเช่นเดียวกับเธอ  แก้วรู้สึกอิ่มจนจุก ความสุขทะลักทะล้นจนเธอกอบโกยไขว่คว้าไว้แทบไม่ไหว..

 

 

“ฮื่อออ..พ่อขา..แก้วรักพ่อจังเลย”   ดวงหน้าหวานซบลงกับอ้อมแขนเขาอย่างหมดแรงและเหนื่อยหอบ เขากระชับอ้อมแขนโอบร่างบางไว้แน่นก่อนจะโค้งริมฝีปากมาจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย  มองปากนิดจมูกหน่อยบนใบหน้าหวานล้ำก็ยิ่งหลงรัก 

 

 

“อ้อน ?”

 

 

“ค่ะ..อ้อน”  เธอยอมรับแต่โดยดีพลางหลับตาพริ้มซุกซบหาความอบอุ่นจากเขาอีกครั้ง

 

 

“ฮันนี่อย่าอ้อนบ่อยนักสิ..ก็รู้นี่นา ผมมันใจแข็งเสียเมื่อไหร่กัน”

 

 

“อ้อนแล้วไม่น่ารักเหรอ ? พ่อไม่อยากให้แก้วน่ารักหรือไง อยากให้ร้ายๆ เหวี่ยงๆใช่ม่ะ ?”   เขาขยี้เส้นผมเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามของคนตัวเล็กจนเจ้าตัวเขินแล้วเขินเล่า 

 

 

“ก็เพราะน่ารักไงถึงไม่อยากให้อ้อน...ขืนใครมาเห็นเข้าผมก็ซวยสิ”   แก้วอมยิ้มน้อยๆก่อนจะแกล้งถามเขา 

 

 

“ทำไมต้องซวยละค่ะ แก้วน่ารักในสายตาคนอื่นก็ดีแล้วนี่”  

 

 

“จะบ้าหรือ ...ได้ไงกันล่ะ ?”

 

 

“แล้วทำไมอ่ะค่ะ ?”   เขาเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อถูกคนตัวเล็กรุกถามต้อนเขาเสียจนมุม 

 

 

เดี๋ยวโดนแย่งแฟน   

 

 

พ่อหึงแก้วด้วยหรือค่ะ ?”   เธอเงยใบหน้าหลังจากที่ซุกซบเขาอยู่ขึ้นถามด้วยแววตาบ๊องแบ๊ว หญิงสาวลากปลายนิ้วนุ่มผ่านใบหน้าคมคายของเขา  ริมฝีผากบางเรียวได้รูปเป็นกระจับ ผ่านปลายคางเนียนไร้หนวดเคราสะอาดสะอ้าน ลงไปตามลำคอระหงตระหง่านจนถึงไหล่หนาอกกว้างตึงขนัด...ต้องการยวนยั่วให้สติเขาแตกกระเจิงจนต้องพูดในสิ่งที่เธอปรารถนาออกมา...และดูท่าเธอจะทำสำเร็จเสียด้วยสิ !

 

 

“ทั้งหึงทั้งหวงนั้นแหละ พอใจรึยัง ? นางมารร้ายยยยย”   เขาบีบปลายจมูกน้อยๆนั้นอย่างหมันเขี้ยว  เรียกเสียงหัวเราะจากแก้วได้ไม่ขาดปากหญิงสาวยืดตัวขึ้นโค้งริมฝีปากไปจุ๊บแก้มเขาเบาๆ

 

 

“พ่อกำลังทำให้แก้วรักพ่อจนโงหัวไม่ขึ้นเลย รู้ตัวไหม ?”

 

 

“รู้สิ...เพราะผมเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”

 

 

“พ่อปากหวาน”

 

 

“หวานไม่เท่าฮันนี่หรอก...จริงๆนะ”   เขารั้งเธอเข้าหาจนร่างแบบบางขึ้นไปนอนเกยกับหน้าอกของเขา  ร่างเล็กรู้สึกร้อนผ่าวกับคำพูดเหย้าหยอดที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินจากปากเขามากนัก  แก้วรู้สึกราวกับตนเองจะถูกเขาละลายจนมอดไหม้ด้วยคำพูดน่ารักแบบนั้นของเขา  ให้ตายเถอะ...เธอไม่เคยเอาชนะเขาได้เลยสักครั้ง ต่อให้เธอจะเป็นนางมารร้ายอย่างที่เขาว่าก็ตาม สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้เทพบุตรอย่างเขาอยู่ดี

 

 

 

“ฮึ่ย...แก้วหมันไส้ปากหวานๆของพ่อจัง ห้ามพ่อไปพูดกับใครแบบนี้เป็นอันขาด ไม่งั้นแก้วจะงอนแล้วก็...”

 

 

“ตามไปอาละวาดให้บ้านแตกเลย...แบบนี้หรือเปล่า?”   เขาขัดขึ้นอย่างรู้ใจก่อนที่เธอจะพูดจบ รอยยิ้มพราวปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อยามที่เจ้าตัวเล็กเชิดหน้าอย่างพอใจ

 

 

“ฮื้อ”   หญิงสาวย่นจมูกใส่เขาอย่างหมันไส้ก่อนจะตะปบหน้าหวานของชายหนุ่มเข้ามาประกบจูบ  ร่างสูงมองตามยิ้มๆกับความเอาแต่ใจของนางมารร้าย เธอกำลังจำทำให้เขานอนดึกและลุกไปทำงานไม่ไหว แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ...เขากลับไม่คิดจะทัดทานเธอเหมือนกัน...

 

 

 

 

 

ปลายลิ้นนุ่มหวานหยอกเหย้ากับลิ้นหนาอุ่นซ่านของเขาอย่างหยอกล้อ  โทโมะประคองใบหน้าเด็กเอาแต่ใจไว้ก่อนจะจุมพิตตอบกลับอย่างวาบหวาม ร้อนแรง ทว่าแฝงไปด้วยความอบอุ่น  ทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอบดแนบเข้ากับอกกว้างอันร้อนแกร่งทำให้เขารู้สึกถึงความต้องการอันมากล้นและตอนนี้มันกำลังเอ่อท้นท่วมหัวจิตหัวใจของเขา...แต่เขากลับเลือกที่จะนิ่งเฉยและปล่อยให้ทุกคำบัญชาการ เธอเป็นคนควบคุม

 

 

 

ริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ระเรื่อพรมจูบไปตามซอกคอของเขา กลิ่นสบู่ผสมกับกลิ่นกายหอมอ่อนๆจากร่างของเธอหมอแตะจมูกชายหนุ่มเข้าอย่างจัง ทำให้เขาไม่อาจนิ่งเฉย ฝังจมูกโด่งลงบนไหล่เนียนนุ่มเพื่อสูดดมความหอม  เขากระชับอ้อมแขนรั้งร่างเปลือยอวบอุ่นละมุนเข้าหา ทั่วทั้งร่างงามสะพรั่งจนเขาไม่อาจหาสิ่งตำหนิใดๆจากเรือนกายเธอได้เลย...

 

 

 

 

 

ความรักดับความเสน่หาลงจนหมดสิ้น ราวกับคนทั้งคู่กำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางกระแสสายธารรักที่เชี่ยวกรากหยั่งยากจะดึงกลับสู่โลกความเป็นจริง  ยามที่เขากับเธอหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว...ทั้งร่างกายและจิตใจ

 

 

 

 

“หลับสนิทเชียว”   เขาพึมพำออกมาเบาๆขณะมองร่างเล็กในอ้อมแขน  ใบหน้าหวานเกยหน้าอกเขาอยู่อย่างน่ารัก...ก่อนจะค่อยๆขยับร่างเธอ จัดแจงให้แก้วนอนในท่าสบายเขาจึงลุกไปอาบน้ำ...โทโมะกลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูพับรอบล่างของเขาเพียงผืนเดียวและยังมีผ้าเช็ดผมไว้อีกหนึ่งผืน

 

 

 

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังขี้เซาไม่ยอมตื่นเขาจึงนั่งลงบนเตียงข้างร่างงามนั้น ใช้วงแขนแข็งแรงโอบช้อนท้ายทอยสาวเจ้าขึ้นมาจนแก้วรู้สึกตัว  หญิงสาวมองเขาอย่างอ้อนๆก่อนจะล้มตัวนอนหนุนตักเขา..

 

 

 

“ไปอาบน้ำได้แล้ว ฮันนี่มีเรียนเช้าไม่ใช่หรือ ? นี่ก็หกโมงแล้ว”

 

 

“ง่วง”  เธอตอบออกมาสั้นๆตรงไปตรงมา

 

 

“แล้วรอผมทำไมกัน..ฮึ!?” 

 

 

“รอพ่อกลับมาแสดงความรัก”  แก้มใสแดงเรื่อขึ้นยามที่เธอโพล่งออกไปแบบนั้น  ร่างสูงยิ้มกว้างก่อนจะโค้งใบหน้าลงมาจนจมูกจรดกับหน้าผากของแก้วอย่างนึกเอ็นดู

 

 

“หื้ม...ปากหวาน”

 

 

“หวานกับพ่อคนเดียวนะแหละ  พ่อล่ะ..หวานกับใครมาแล้วบ้างแล้วใครมาทำหวานใส่หรือเปล่า?”

 

 

“ไม่มี”   เขาฉีกยิ้มกว้างทำให้แก้วพอใจเป็นอย่างมาก จนยอมลุกไปอาบน้ำ

 

 

 

 

 

ร่างบางเดินออกมาด้วยชุดนักศึกษากระโปรงสั้นรัดรูปอวกเรียวขาสวยขาว  กระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดบนยังไม่ถูกติดให้เรียบร้อยเผยให้เห็นผิวเนื้อเต่งตึงที่โผล่พ้นบราเซียสีดำลายลูกไม้ มันสะดุดเข้ากับสายตาของโทโมะ จนเขาต้องเดินทำหน้าดุพร้อมทั้งติดกระดุมเม็ดนั้นให้แก้วอย่างเรียบร้อย...

 

 

 

“แต่งตัวแบบนี้ไปเรียนนะหรือ ?”  เขาถามเสียงดุ

 

 

“ก็แบบนี้”   หญิงสาวแกล้งเหย้าเขา ริมฝีปากบางเชิดขึ้นอย่างนึกสนุก โทโมะมองการกระทำแสบๆของแก้วอย่างหมันเขี้ยว ก่อนจะรั้งเอวบางร่างน้อยของเจ้าหล่อนมานั่งบนตักแกร่ง กอดรัดเอาไว้แน่นและทำท่าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ

 

 

“ไปเรียนนะ...ตั้งใจเรียนหรือเปล่า”

 

 

“ก็...แหม”

 

 

“ว่าไง...ตั้งใจเรียนหรือเปล่า?”

 

 

“พ่อขา...”

 

 

“ว่ายังไง”   เขาถามย้ำอีกครั้งเมื่อเธอทำเสียงอิดเอื้อน โทโมะใช้วงแขนโอบร่างงามเอาไว้ จงใจไม่ปล่อยให้เธอหนี  เขาถามก็เพราะเขาเป็นห่วง หากเธอไม่ตั้งใจเรียนแล้วไซร้จะลำบากเอา  การศึกษามันเป็นผลพวงแห่งความสำเร็จในอนาคตไม่ใช่หรือ ?

 

 

“ก็ตั้งใจเรียนอยู่หรอก แต่บางวิชาอาจารย์ก็น่าเบื่อ”

 

 

“แน้...จะน่าเบื่อหรือน่าสนุก ฮันนี่ก็ต้องตั้งใจเรียน อย่าทำให้ผมเป็นห่วง...อ้อ... เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวเรื่อยาเสพติดในมหาลัยอีก เราอย่าได้ไปยุ่งกับมันเชียว”

 

           

                            .................................................................................

 

ชะแว้บบบบบ >,.< ห่วยใช่ม่ะฟิคคั่นเวลา ?

รู้ว่ามันเป็นอะไรที่ (.__.;) ห่วยมะเลกเก๊กก่องมาก

ทนอ่านหน่อยครับ ^-^ ไปล่ะ //วิ่งหลบเกิบ >_<

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา