valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน
เขียนโดย Milkcake
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) สิ่งสำคัญที่สูญเสีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอัยยอง~ สวัสดีค่า ตอนที่ 4 แล้วแต่จริงๆตอนนี้เป็นตอนที่ 3.2 แล้วตอนเมื่อกี้ 3.1 แต่เว็บนี้เป็นไม่ได้เลย ก็เลยเป็นตอนที่ 4 จากที่เห็นตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนที่ 3 มีแต่คู่ PF เนอะ ตอนนี้เลยเน้น TK หน่อย แต่ตอนหน้า TK ล้วนๆค่า ยังจำชื่อของแต่ละคนได้มั๊ยเอ่ย ขอโทษนะคะที่ทำให้ยุ่งอยาก
Naric Talk~
“เอ้า! ไอ้ริคแกจะไปไหนอีกคนวะ” เลโอถามขึ้น
“มีธุระ” ผมตอบเสียงเรียบ
“ใช่ธุระเรื่องผู้หญิงรึป่าววะ ”
“ ( - - “) ” ผมไม่ฟังมันแต่เดินออกไปทางรถเสียงแซวของไอ้เขื่อนก็ดังมาเป็นทอดๆ
รถได้เคลื่อนที่ออกจากโรงเรียนและได้ขับเคลื่อนเข้าไปที่โรงเรียนเซนแกนด์ดิกที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนผมเท่าไหร่
“โทษทีที่มารับช้าพอดีมีปัญหานิดหน่อย” ผมลงจากรถแล้วตรงเข้าไปหาทิวลิปที่ทำหน้าเซ็งเป็ดอยู่
“ไม่มารับตอนเช้าเลยล่ะ” เธอประชดประชันออกมา
“งั้นหรอ.. อืม โอเค” ผมกำลังจะเดินกลับเข้าไปในรถ
“นี่นาย!”
“อะไร”
“โอ้ย! คุยกับนายนี่มันสุดๆเลยนะ นี่หัดทำหน้าให้มีชีวิตชีวะ....ว้าย!”
“นี่ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! ”
“ไม่ปล่อย! ” ผมอุ้มเธอไปวางในรถ
“นี่กล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง ถ้าใครมาเห็นเข้าจะว่ายังไงหะ”
“ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน นี่ถ้าไม่หยุดโวยวายฉันจะหาอะไรมายัดปากเธอนะ”
“คิดว่ากลัวหรอ”
“ก็ .. คงงั้นมั้ง” ผมเลื่อนหน้าเข้าหาเธอเรื่อยๆ
“ทำไรน่ะ ” ผมหลุดหัวเราะออกมาไม่รู้ตัว ก็ดูหน้าเธอสิ ฮ่ะๆๆ
“ ( ° ▽° ) นะ ..นี่นายหัวเราะหรอ”
“”
“ว้าว *O* ถ้าฉันเอาไปบอกเพื่อนมันต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆเลย แต่ไม่ได้ๆสิมันต้องมีหลักฐาน” ผมรีบคว้าโทรศัพท์ของเธอไว้ก่อนที่เธอจะทำอะไร
“เอาโทรศัพท์ฉันมาน้า ..”
“ถ้าไม่ถึงบ้านฉันก็ไม่คืน แล้วอย่าพูดมากไม่งั้นจะเจอดี”
“…….”
----------------------------------------------------------------------------------
Stamp Talk~
ร้านไอติมร้านนี้บรรยากาศชิวๆจัง ในร้านตกแต่งออกสีโทนเย็นแต่กลับออกแนวคลาสิกโมเดิร์น ร้านนี้เกือบไม่มีพนังมีแต่กระจกใสเต็มร้านน่ารักมากทำไมอยู่ตั้งนานไม่ยักเคยเห็นแหะ
“พิชไปเจอร้านนี้ยังไงหรอ” ฉันเอ่ยถามพิชขึ้น
“เพื่อนแนะนำน่ะ ^^” เค้าตอบแล้วยิ้มมาให้ฉัน
“อ่อ น่ารัดดีเนอะ”
“อืม .. น่ารักมาก^^” ดวงตาเค้าจองมองมาที่ฉันไม่กระพริบปานจะกลืนกินฉันงั้นแหละ น่ารักนี้ร้านหรือฉันนะ (ต้องเป็นฉันสิ ฮ่าๆๆๆ)
“ อือ ..แตมป์ว่ากินติ่มติ๊มเหอะ ละลายหมดแล้ว” ฉันพูดร่ากลบความเงียบและความเขินของฉันเอง จะไม่ให้เขินได้ไงเล่าก็เล่นจ้องซะขนาดนี้ -///-
“ตะ .. ติ่มติ๊ม .. หรอ ?” พิชถามศัพท์พิลึกของฉัน
“อ่อ แหะๆ ไอศกรีมน่ะ ^^” ฉันตอบพรางยัดไอติมเข้าปาก
“ ติ่มติ๊มหรอ ศัพท์น่ารักดีนะ ^^” หน้าเค้าเนี่ยมักจะประดับด้วยรอยยิ้มเสมอเลยต่างจากใครบางคนเก็กอยู่นั่นแหละปัญญาอ่อนซักวันมันจะตายรึไง - -*
“พิชไม่กินหรอ นั่งมองเรากินอย่างนี้เราบาปนะ -*- ”ฉันทักขึ้นเมื่อเห็นเค้าเอาแต่จ้องมองฉันกินอย่างตะกละ
“ไม่หรอกพิชไม่ชอบน่ะ ^^”
“อ้าว แล้วทำไมถึงชวนเรามากินล่ะ” อะไรของเค้าเนี่ยตัวชวนมาแต่กลับไม่ชอบ
“มันเป็นข้ออ้างน่ะ จริงๆพิชอยากอยู่กับแสตมป์สองคน ^^” คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันปั้นหน้าไม่ถูกเลย แต่เค้ากลับพูดออกมาอย่างเปิดเผยพร้อมกับร้อยยิ้มโดยไม่มีท่าทีเก้งกังเลย
“พิชถามอะไรหน่อยได้มั๊ย” เค้าเริ่มถามขึ้น ฉันเลยปั้นหน้าสู้สายตาเค้าต่อไป
“อะไรหรอ” ฉันตอบกลับพรางยกแก้วนํ้าขึ้นดื่มกันเลี่ยนไอติม
“แสตมป์กับทราสน์เป็นแฟนกันหรอ” ปู๊ด~ นํ้าถูกพ่นออกมาจากปากฉันจังๆและที่แย่ที่สุดมันไปเลอะเสื้อของพิชเต็มๆ
“พิชเราของโทษนะ ขอโทษจริงๆ ขอโทษ OoO” ฉันรัวคำยอดฮิตใส่เค้าเต็มที่แต่แค่คำนี้มันก็ไม่สามารถลบนํ้าที่ถูกพ่นออกมาจากปากของฉันให้หายไปจากเสื้อเขาได้
“ไม่เป็นไร เราอาจจะผิดเองที่ถามอะไรที่มัน”
“พิชไม่ผิดหรอก แตมป์นี่แหละผิด แตมป์คิดว่าเรากลับกันเหอะถ้าขืนอยู่ต่อไปมันอาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันก็ได้ แล้วตอนนี้เสื้อพิชก็เปื้อนหมดแล้ว” ฉันลุกขึ้นไปทางฝั่งเค้าแล้วใช้กระดาษทิสชูเช็ดไปที่คาบนํ้า
“ถ้าแสตมป์อยากกลับก็ได้เดี๋ยวเราไปส่งนะ”
------------------------------------------------------------------------
Naric Talk~
ซักพักรถก็เข้ามาจอดเทียบบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง
“อ่ะ” ผมยื้นช็อกโกแลตที่ได้จากพวกผู้หญิงพวกนั้นให้เธอ
“อะไร”
“ไม่รู้จักช็อกโกแลตหรอ”
“นายให้ฉันหรอ”
“อืม”
“ว้าว *O* นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบช็อกโกแลต มามะมาจุ๊บที่ >3<”
“เฮ้ย! จะทำอะไรฉันน่ะ”
“ฮ่ะๆๆ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะเฟิร์สคิสส์นี้ฉันไม่เสียให้นายหรอ แบร่ ”
“หรอ .. แต่ฉันคิดว่ามันเป็นของฉันแล้วนะ ^-^” ผมค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปหาเธอ ตอนนี้หน้าเธอแดงยิ่งกว่าผลมะเขือเทศสุกอีกนะ แกล้งยัยนี้นี่มันสนุกจริงๆ ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้อยู่กับเธอ หลายๆคนคงไม่เคยเห็นผมในลุคนี้หรอก แต่เมื่อมีเธอคนนี้ได้ก้าวเดินเข้ามาในชีวิตของผมทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อวันหนึ่งผมได้รู้ว่าผมต้องหมั้นกับผู้หญิงที่ผมไม่รู้จัก แต่เมื่อผมได้รู้จักกับเธอเธอเป็นผู้หญิงที่แปลกมากเธอกล้าหนีการดูตัวของผม เธอชอบทำตัวไม่เหมือนผู้หญิง ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบแต่งหน้า และเธอก็ท้าผมแข่งบาสโดยมีข้อแม้ถ้าเธอชนะเธอบอกให้ผมคุยกับทางผู้ใหญ่ให้ถอนหมั้นถึงเธอจะเล่นบาสได้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางชนะผมหรอก เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าสนใจดีแหะ ..
“นายหมายความว่ายังไง เฟิร์สคิสนี่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของนะ เอาหน้านายถอยๆห่างออกไปเลย ”
“ถ้าบอกว่า ‘ไม่’ ล่ะ แล้วเธอจะทำยังไง ”
“จะทำยังไงน่ะหรอ อือ ...”
หมับ
มือสองข้างของทิวลิปได้มาประสานกันที่ต้นคอของผม การกระทำของเธอทำให้ผมตกใจมาก แต่สิ่งที่เธอทำให้ผมตกใจที่สุดคือเธอเลื่อนใบหน้าเข้ามาหอมแก้มผม นี่เธอเพี้ยนไปแล้วหรอ ทิวลิป!
“ก็ทำอย่างนี้ไง ^^ ฮ่ะ ๆๆ อึ้งไปเลยดิ๊ ” ทิวลิปพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและสะใจแต่หน้าผมยังหวออยู่เลย
“........”
“นี่แกล้งแค่นี้ถึงกลับพูดไม่ออกเลยหรอ”
“นี่เธอเป็นไข้รึป่าว” มือของผมได้เอื้อมไปอังหน้าผากเธอ
“ป่าวสักหน่อย ทำไมเห็นฉันทำแบบนั้นแล้วมันแปลกหรอ ฮ่ะๆๆ ก็อยากแกล้งคนเล่นให้ทำหน้าหวออย่างนั้นแหละแต่นี้สำเร็จและงั้นเข้าบ้านก่อนนะ กู๊ดไนท์”
“เดี๋ยว ..” ผมรีบคว้ามือเธอก่อนแล้วเข้าไปจุ๊บแก้มที่นึง
“เอาคืนบ้าง กู๊ดไนท์นะ ” ผมพูดจบก็เดินขึ้นรถขับออกไปปล่อยให้ทิวยืนปากหวอเหมือนหุ่นขี้ผึ่งต่อไป
“เธอนี่มันแสบจริงๆ” มือได้เอิ้อมไปลูกแก้มตัวเองเบาๆ รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นมาบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ..
Tulip Talk~
“ทำอะไรของเค้าเนี่ย - /// - ” มือที่ลูบแก้มอย่างเคอะเขิน
“ทิวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้น่ะลูก ไม่เข้าบ้านหรอแล้วใครมาส่งล่ะ”
“นาริคน่ะค่ะ”
“หรอจ๊ะ ^^ แล้วทำไมไม่ชวนเค้าเข้าบ้านล่ะ”
“เออ .. ไม่รู้สิคะ ชั่งเค้าเถอะค่ะ”
“เฮ้อ. .ลูกคนนี้แม่ว่าลูกรีบเข้าบ้านเถอะจ๊ะตอนนี้หน้าหนูแดงมากเลยนะเดี๋ยวจะเป็นไข้เอานะจ๊ะ”
“หนูหน้าแดงหรอคะ O.O”
“ใช่จ๊ะแดงมากเลย นี่ถ้าคิดไปอีกทางนะลูกหน้าแดงเหมือนตอนที่พ่อกับแม่ .. ” แม่ฉันหยุดพูดไปด้วยท่าเขินอายอะไรของแม่เนี่ยหน้าแดงใหญ่เลย
“พ่อกับแม่อะไรหรอคะ?”
“ก็ .. ตอนที่ .. พ่อกับแม่ ..”
“จูบกันน่ะจ๊ะ > / /// <”
“ห๊า า หนูยังไม่ได้จูบนะคะ (>///< )( > ///< )( >///< )( > ///< )”
“หือ :emo3: แม่ยังได้ถามเลยหนิจ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ รึว่าลูก”
“หนูหิวแล้วค่ะเดี๋ยวเข้าบ้านก่อนนะคะ - /// -”
“เอ๊ะลูกคนนี้หนิทำตัวไม่เนียนเลย แต่ก็โตขึ้นเยอะเลยหนิแม่คิดถูกใช่มั๊ยจ๊ะที่เลือกนาริค ฝากลูกสาวคนนี้ด้วยนะจ๊ะนาริค ^^ ” เธอพูดกับตัวเองตามองลูกสาวที่วิ่งแจ้นด้วยท่าทีมีพิรุจแล้วอมยิ้ม
“คุณคะสบายใจได้เลยนะ ฉันมั่นใจค่ะว่านาริคจะดูแลลูกเราเป็นอย่างดี ^^” เธอแหงนมองฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เธอคิดว่าสามีของเธอต้องได้รับรู้และเฝ้ามองเธอกับลูกสาวเธอเป็นแน่
---------------------------------------------------------------------------
Stamp Talk~
“พิชเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในบ้านเรามั๊ย แตมป์พอจะมีเสื้อผู้ชายที่พิชใส่ได้อยู่บ้าง” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถที่จอดหน้าประตูบ้านบานใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกพิชเกรงใจน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า แล้วแตมป์ก็เป็นต้นเหตุด้วยขืนถ้าไม่ได้ช่วยอะไรเลยแตมป์คงรู้สึกไม่ดี”
“อืม ถ้าทำให้แสตมป์สบายใจ ..ก็ได้ ^^” ฉันได้เดินนำพิชเเข้ามาในบ้านแล้วให้เค้านั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก
“พี่นุ่นคะ ช่วยเอานํ้าไปเสิร์ฟให้เพื่อนแตมป์หน่อยนะคะ” ฉันวานบอกพี่แตมป์แม่บ้านที่บ้านฉัน
“ได้ค่ะคุณหนู ^^” หลังจากนั้นฉันก็รีบขึ้นข้างบนเพื่อไปหาเสื้อ
-----------------------------------------------------------------------------------
Tulip Talk~
“ เฮ้อ! เหนื่อยจัง ” ฉันทิ้งตังลงบนที่นอนหน้าได้หันไปข้างเตียง กรอบรูปที่ปรากฏภาพของครอบครัวของฉันมีพ่อกับแม่ที่ยืนอยู่ขนามข้างของฉันใบหน้าของเราสามคนยิ้มแย้มแจ่มใส เฮ้อคิดถึงช่วงเวลานั้นจัง
“พ่อคะพ่อเป็นยังไงบ้างอยู่บนสวรรค์สบายดีมั๊ยคะ กินข้าวอิ่มรึป่าว อร่อยมั๊ยสู้ฝีมือแม่ได้รึป่าว แต่ไม่เป็นไรนะคะพรุ้งนี้หนูจะให้แม่ทำอาหารไปให้ค่ะ ” ฉันพูดออกมาทั้งนํ้าตา ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ถ้าฉันไม่แอบหนีไปเล่นนํ้าทะเลทั้งที่รู้ว่าตัวเองว่ายนํ้าไม่เป็นมีแต่คิดถึงความสนุกของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ามันทำให้เสียงคนที่ตนรักไปถ้าพ่อไม่เข้าไปช่วยฉันตอนที่ฉันกำลังจะจมนํ้าพ่อคงไม่จากฉันกับแม่ไป
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยทำไมมันสว่างอย่างนี้”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ