valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน

9.5

เขียนโดย Milkcake

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.

  10 ตอน
  106 วิจารณ์
  20.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) สิ่งสำคัญที่สูญเสีย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อัยยอง~ สวัสดีค่า  ตอนที่ 4 แล้วแต่จริงๆตอนนี้เป็นตอนที่ 3.2 แล้วตอนเมื่อกี้ 3.1 แต่เว็บนี้เป็นไม่ได้เลย  ก็เลยเป็นตอนที่ 4 จากที่เห็นตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนที่ 3 มีแต่คู่ PF เนอะ  ตอนนี้เลยเน้น TK หน่อย แต่ตอนหน้า TK ล้วนๆค่า ยังจำชื่อของแต่ละคนได้มั๊ยเอ่ย ขอโทษนะคะที่ทำให้ยุ่งอยาก

 

Naric Talk~

“เอ้า! ไอ้ริคแกจะไปไหนอีกคนวะ” เลโอถามขึ้น

“มีธุระ” ผมตอบเสียงเรียบ

“ใช่ธุระเรื่องผู้หญิงรึป่าววะ ”

“ ( -  - “) ”  ผมไม่ฟังมันแต่เดินออกไปทางรถเสียงแซวของไอ้เขื่อนก็ดังมาเป็นทอดๆ

 รถได้เคลื่อนที่ออกจากโรงเรียนและได้ขับเคลื่อนเข้าไปที่โรงเรียนเซนแกนด์ดิกที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนผมเท่าไหร่

“โทษทีที่มารับช้าพอดีมีปัญหานิดหน่อย” ผมลงจากรถแล้วตรงเข้าไปหาทิวลิปที่ทำหน้าเซ็งเป็ดอยู่

“ไม่มารับตอนเช้าเลยล่ะ” เธอประชดประชันออกมา

“งั้นหรอ.. อืม  โอเค” ผมกำลังจะเดินกลับเข้าไปในรถ

“นี่นาย!”

“อะไร”

“โอ้ย! คุยกับนายนี่มันสุดๆเลยนะ นี่หัดทำหน้าให้มีชีวิตชีวะ....ว้าย!”

“นี่ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! ”

“ไม่ปล่อย! ” ผมอุ้มเธอไปวางในรถ

“นี่กล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง ถ้าใครมาเห็นเข้าจะว่ายังไงหะ”

“ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน นี่ถ้าไม่หยุดโวยวายฉันจะหาอะไรมายัดปากเธอนะ”

“คิดว่ากลัวหรอ

“ก็ .. คงงั้นมั้ง” ผมเลื่อนหน้าเข้าหาเธอเรื่อยๆ

“ทำไรน่ะ ”  ผมหลุดหัวเราะออกมาไม่รู้ตัว ก็ดูหน้าเธอสิ ฮ่ะๆๆ

“ ( ° ▽° )  นะ ..นี่นายหัวเราะหรอ” 

“ว้าว *O* ถ้าฉันเอาไปบอกเพื่อนมันต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆเลย แต่ไม่ได้ๆสิมันต้องมีหลักฐาน” ผมรีบคว้าโทรศัพท์ของเธอไว้ก่อนที่เธอจะทำอะไร

“เอาโทรศัพท์ฉันมาน้า ..”

“ถ้าไม่ถึงบ้านฉันก็ไม่คืน แล้วอย่าพูดมากไม่งั้นจะเจอดี”

“…….”

         ----------------------------------------------------------------------------------

Stamp Talk~

  ร้านไอติมร้านนี้บรรยากาศชิวๆจัง ในร้านตกแต่งออกสีโทนเย็นแต่กลับออกแนวคลาสิกโมเดิร์น  ร้านนี้เกือบไม่มีพนังมีแต่กระจกใสเต็มร้านน่ารักมากทำไมอยู่ตั้งนานไม่ยักเคยเห็นแหะ

“พิชไปเจอร้านนี้ยังไงหรอ” ฉันเอ่ยถามพิชขึ้น

“เพื่อนแนะนำน่ะ ^^” เค้าตอบแล้วยิ้มมาให้ฉัน

“อ่อ น่ารัดดีเนอะ”

“อืม .. น่ารักมาก^^”  ดวงตาเค้าจองมองมาที่ฉันไม่กระพริบปานจะกลืนกินฉันงั้นแหละ  น่ารักนี้ร้านหรือฉันนะ  (ต้องเป็นฉันสิ ฮ่าๆๆๆ) 

“ อือ ..แตมป์ว่ากินติ่มติ๊มเหอะ ละลายหมดแล้ว” ฉันพูดร่ากลบความเงียบและความเขินของฉันเอง จะไม่ให้เขินได้ไงเล่าก็เล่นจ้องซะขนาดนี้ -///-

“ตะ .. ติ่มติ๊ม .. หรอ ?” พิชถามศัพท์พิลึกของฉัน

“อ่อ แหะๆ ไอศกรีมน่ะ ^^” ฉันตอบพรางยัดไอติมเข้าปาก

“ ติ่มติ๊มหรอ ศัพท์น่ารักดีนะ ^^”  หน้าเค้าเนี่ยมักจะประดับด้วยรอยยิ้มเสมอเลยต่างจากใครบางคนเก็กอยู่นั่นแหละปัญญาอ่อนซักวันมันจะตายรึไง   - -*

“พิชไม่กินหรอ นั่งมองเรากินอย่างนี้เราบาปนะ -*- ”ฉันทักขึ้นเมื่อเห็นเค้าเอาแต่จ้องมองฉันกินอย่างตะกละ

“ไม่หรอกพิชไม่ชอบน่ะ ^^”

“อ้าว แล้วทำไมถึงชวนเรามากินล่ะ”  อะไรของเค้าเนี่ยตัวชวนมาแต่กลับไม่ชอบ

“มันเป็นข้ออ้างน่ะ จริงๆพิชอยากอยู่กับแสตมป์สองคน ^^” คำพูดของเค้ามันทำให้ฉันปั้นหน้าไม่ถูกเลย แต่เค้ากลับพูดออกมาอย่างเปิดเผยพร้อมกับร้อยยิ้มโดยไม่มีท่าทีเก้งกังเลย

“พิชถามอะไรหน่อยได้มั๊ย” เค้าเริ่มถามขึ้น ฉันเลยปั้นหน้าสู้สายตาเค้าต่อไป

“อะไรหรอ” ฉันตอบกลับพรางยกแก้วนํ้าขึ้นดื่มกันเลี่ยนไอติม

“แสตมป์กับทราสน์เป็นแฟนกันหรอ”   ปู๊ด~ นํ้าถูกพ่นออกมาจากปากฉันจังๆและที่แย่ที่สุดมันไปเลอะเสื้อของพิชเต็มๆ

“พิชเราของโทษนะ ขอโทษจริงๆ ขอโทษ OoO” ฉันรัวคำยอดฮิตใส่เค้าเต็มที่แต่แค่คำนี้มันก็ไม่สามารถลบนํ้าที่ถูกพ่นออกมาจากปากของฉันให้หายไปจากเสื้อเขาได้

“ไม่เป็นไร เราอาจจะผิดเองที่ถามอะไรที่มัน”

“พิชไม่ผิดหรอก แตมป์นี่แหละผิด แตมป์คิดว่าเรากลับกันเหอะถ้าขืนอยู่ต่อไปมันอาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันก็ได้ แล้วตอนนี้เสื้อพิชก็เปื้อนหมดแล้ว” ฉันลุกขึ้นไปทางฝั่งเค้าแล้วใช้กระดาษทิสชูเช็ดไปที่คาบนํ้า

“ถ้าแสตมป์อยากกลับก็ได้เดี๋ยวเราไปส่งนะ”

                                  ------------------------------------------------------------------------

Naric Talk~

ซักพักรถก็เข้ามาจอดเทียบบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง

“อ่ะ”  ผมยื้นช็อกโกแลตที่ได้จากพวกผู้หญิงพวกนั้นให้เธอ

“อะไร”

“ไม่รู้จักช็อกโกแลตหรอ”

“นายให้ฉันหรอ”

“อืม”

“ว้าว *O* นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบช็อกโกแลต มามะมาจุ๊บที่ >3<”

“เฮ้ย! จะทำอะไรฉันน่ะ”

“ฮ่ะๆๆ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะเฟิร์สคิสส์นี้ฉันไม่เสียให้นายหรอ แบร่ ”

“หรอ .. แต่ฉันคิดว่ามันเป็นของฉันแล้วนะ  ^-^”  ผมค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปหาเธอ  ตอนนี้หน้าเธอแดงยิ่งกว่าผลมะเขือเทศสุกอีกนะ  แกล้งยัยนี้นี่มันสนุกจริงๆ  ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้อยู่กับเธอ หลายๆคนคงไม่เคยเห็นผมในลุคนี้หรอก แต่เมื่อมีเธอคนนี้ได้ก้าวเดินเข้ามาในชีวิตของผมทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อวันหนึ่งผมได้รู้ว่าผมต้องหมั้นกับผู้หญิงที่ผมไม่รู้จัก แต่เมื่อผมได้รู้จักกับเธอเธอเป็นผู้หญิงที่แปลกมากเธอกล้าหนีการดูตัวของผม เธอชอบทำตัวไม่เหมือนผู้หญิง ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบแต่งหน้า และเธอก็ท้าผมแข่งบาสโดยมีข้อแม้ถ้าเธอชนะเธอบอกให้ผมคุยกับทางผู้ใหญ่ให้ถอนหมั้นถึงเธอจะเล่นบาสได้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางชนะผมหรอก เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าสนใจดีแหะ  ..

“นายหมายความว่ายังไง เฟิร์สคิสนี่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของนะ เอาหน้านายถอยๆห่างออกไปเลย ”

“ถ้าบอกว่า ‘ไม่’ ล่ะ แล้วเธอจะทำยังไง ”

“จะทำยังไงน่ะหรอ อือ ...”

   หมับ

มือสองข้างของทิวลิปได้มาประสานกันที่ต้นคอของผม การกระทำของเธอทำให้ผมตกใจมาก แต่สิ่งที่เธอทำให้ผมตกใจที่สุดคือเธอเลื่อนใบหน้าเข้ามาหอมแก้มผม นี่เธอเพี้ยนไปแล้วหรอ ทิวลิป!

“ก็ทำอย่างนี้ไง ^^ ฮ่ะ ๆๆ อึ้งไปเลยดิ๊ ” ทิวลิปพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและสะใจแต่หน้าผมยังหวออยู่เลย

“........”

“นี่แกล้งแค่นี้ถึงกลับพูดไม่ออกเลยหรอ”

“นี่เธอเป็นไข้รึป่าว” มือของผมได้เอื้อมไปอังหน้าผากเธอ

“ป่าวสักหน่อย ทำไมเห็นฉันทำแบบนั้นแล้วมันแปลกหรอ ฮ่ะๆๆ ก็อยากแกล้งคนเล่นให้ทำหน้าหวออย่างนั้นแหละแต่นี้สำเร็จและงั้นเข้าบ้านก่อนนะ กู๊ดไนท์”

“เดี๋ยว ..” ผมรีบคว้ามือเธอก่อนแล้วเข้าไปจุ๊บแก้มที่นึง

“เอาคืนบ้าง กู๊ดไนท์นะ ” ผมพูดจบก็เดินขึ้นรถขับออกไปปล่อยให้ทิวยืนปากหวอเหมือนหุ่นขี้ผึ่งต่อไป

“เธอนี่มันแสบจริงๆ”  มือได้เอิ้อมไปลูกแก้มตัวเองเบาๆ รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นมาบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ..

 

Tulip Talk~

“ทำอะไรของเค้าเนี่ย - /// - ” มือที่ลูบแก้มอย่างเคอะเขิน

“ทิวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้น่ะลูก ไม่เข้าบ้านหรอแล้วใครมาส่งล่ะ”

“นาริคน่ะค่ะ”

“หรอจ๊ะ ^^ แล้วทำไมไม่ชวนเค้าเข้าบ้านล่ะ”

“เออ .. ไม่รู้สิคะ ชั่งเค้าเถอะค่ะ”

“เฮ้อ. .ลูกคนนี้แม่ว่าลูกรีบเข้าบ้านเถอะจ๊ะตอนนี้หน้าหนูแดงมากเลยนะเดี๋ยวจะเป็นไข้เอานะจ๊ะ”

“หนูหน้าแดงหรอคะ O.O”

“ใช่จ๊ะแดงมากเลย นี่ถ้าคิดไปอีกทางนะลูกหน้าแดงเหมือนตอนที่พ่อกับแม่ .. ” แม่ฉันหยุดพูดไปด้วยท่าเขินอายอะไรของแม่เนี่ยหน้าแดงใหญ่เลย

“พ่อกับแม่อะไรหรอคะ?”

“ก็ .. ตอนที่ .. พ่อกับแม่ ..”

“จูบกันน่ะจ๊ะ > / /// <”

“ห๊า า  หนูยังไม่ได้จูบนะคะ (>///<    )(   > ///< )( >///<  )(  > ///< )”  

“หือ :emo3: แม่ยังได้ถามเลยหนิจ๊ะ  อ๊ะ อ๊ะ รึว่าลูก”

“หนูหิวแล้วค่ะเดี๋ยวเข้าบ้านก่อนนะคะ - /// -”

“เอ๊ะลูกคนนี้หนิทำตัวไม่เนียนเลย แต่ก็โตขึ้นเยอะเลยหนิแม่คิดถูกใช่มั๊ยจ๊ะที่เลือกนาริค  ฝากลูกสาวคนนี้ด้วยนะจ๊ะนาริค  ^^ ” เธอพูดกับตัวเองตามองลูกสาวที่วิ่งแจ้นด้วยท่าทีมีพิรุจแล้วอมยิ้ม

“คุณคะสบายใจได้เลยนะ  ฉันมั่นใจค่ะว่านาริคจะดูแลลูกเราเป็นอย่างดี ^^” เธอแหงนมองฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เธอคิดว่าสามีของเธอต้องได้รับรู้และเฝ้ามองเธอกับลูกสาวเธอเป็นแน่

        ---------------------------------------------------------------------------

Stamp Talk~

“พิชเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในบ้านเรามั๊ย แตมป์พอจะมีเสื้อผู้ชายที่พิชใส่ได้อยู่บ้าง” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในรถที่จอดหน้าประตูบ้านบานใหญ่

“ไม่เป็นไรหรอกพิชเกรงใจน่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แล้วแตมป์ก็เป็นต้นเหตุด้วยขืนถ้าไม่ได้ช่วยอะไรเลยแตมป์คงรู้สึกไม่ดี”

“อืม ถ้าทำให้แสตมป์สบายใจ ..ก็ได้ ^^”     ฉันได้เดินนำพิชเเข้ามาในบ้านแล้วให้เค้านั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

“พี่นุ่นคะ ช่วยเอานํ้าไปเสิร์ฟให้เพื่อนแตมป์หน่อยนะคะ” ฉันวานบอกพี่แตมป์แม่บ้านที่บ้านฉัน

“ได้ค่ะคุณหนู ^^”  หลังจากนั้นฉันก็รีบขึ้นข้างบนเพื่อไปหาเสื้อ

        -----------------------------------------------------------------------------------

Tulip Talk~

 

“ เฮ้อ! เหนื่อยจัง ” ฉันทิ้งตังลงบนที่นอนหน้าได้หันไปข้างเตียง กรอบรูปที่ปรากฏภาพของครอบครัวของฉันมีพ่อกับแม่ที่ยืนอยู่ขนามข้างของฉันใบหน้าของเราสามคนยิ้มแย้มแจ่มใส  เฮ้อคิดถึงช่วงเวลานั้นจัง

“พ่อคะพ่อเป็นยังไงบ้างอยู่บนสวรรค์สบายดีมั๊ยคะ กินข้าวอิ่มรึป่าว อร่อยมั๊ยสู้ฝีมือแม่ได้รึป่าว แต่ไม่เป็นไรนะคะพรุ้งนี้หนูจะให้แม่ทำอาหารไปให้ค่ะ ” ฉันพูดออกมาทั้งนํ้าตา  ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ถ้าฉันไม่แอบหนีไปเล่นนํ้าทะเลทั้งที่รู้ว่าตัวเองว่ายนํ้าไม่เป็นมีแต่คิดถึงความสนุกของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่ามันทำให้เสียงคนที่ตนรักไปถ้าพ่อไม่เข้าไปช่วยฉันตอนที่ฉันกำลังจะจมนํ้าพ่อคงไม่จากฉันกับแม่ไป

 

“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยทำไมมันสว่างอย่างนี้”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา