Always with you.. หยุดรักไว้ที่เธอ
เขียนโดย เบบี๋ทีเคอาร์
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.43 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ฉันเดินลงจากเครื่องบินแล้วลากกระเป๋าเดินไปมาอยู่นาน ที่นี่คนเยอะจริงๆ
"คุณแม่อยู่ไหนนะ" ฉันบ่นอุบอิบแล้วเดินตรงไปที่ร้านกาแฟเพื่อนั่งจิบให้ใจเย็นลง อากาศหนาวชะมัดเลย
"Excuse me, I'd like a cup of coffee, please"
"Ok, just one moment"
ฉันนั่งจิบกาแฟอยู่ภายในร้านแล้วมองไปรอบๆ ที่เกาหลีนี่มีแต่อะไรดีๆทั้งนั้นเลยแฮะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือตรงไหนก็ดูสวยไปหมด ยังดีที่ยังไม่ถึงหน้าหนาว แต่ฉันก็แอบเสียดายที่ไม่ได้เล่นหิมะ แต่ก็ดีถ้าหิมะตกฉันคงปรับตัวยากแน่ๆ ฉันตัดสินใจจะกดโทรศัพท์หาคุณแม่ แต่พอไปปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นรูปแฟนตัวเอง โทรไปหาโทโมะดีกว่า
(ว่าไงครับมิกกี้ คิดถึงเหรอถึงได้โทรมา) นี่ขนาดยังไม่ได้พูดอะไรนะเนี่ย ยังโดนหยอดมาซะขนาดนี้
"ก็แล้วใครบอกล่ะว่าให้โทรหาทุกวันว่าทำอะไร อยู่กับใคร อยู่ที่ไหนยังไง ใครมันเป็นคนบอกว่าให้โทรไปบอกฝันดีทุกคืนกันล่ะฮะ" ฉันงัดกฏถามเขา
(เอ.. แล้วนี่ทำอะไรอยู่กับใครที่ไหนยังไงล่ะครับ)
"กำลังนั่งกินกาแฟอยู่ที่สนามบินคนเดียว รอคุณแม่อยู่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน"
(งั้นเดี๋ยวคุยเป็นเพื่อนจนกว่าแม่เธอจะมาดีกว่า)
"ว่างนักรึไงนะ ถึงจะปิดเทอมแล้วก็เถอะ ไม่มีอะไรไปทำรึไง"
(คุณจริญญาครับ ที่นั่นตอนนี้กี่โมงแล้ว) เขาถามเสียงนัวเนีย
"ก็ประมาณตีหนึ่งแล้ว ถามทำไมกัน" พูดไปเองก็ถึงบางอ้อ เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าที่ไทยสองชั่วโมงนี่นา
(นี่มันห้าทุ่มกว่าของประเทศไทยแล้วครับ ดีนะเนี่ยที่ฉันยังไม่นอน) เอ้ะ ป่านนี้ยังไม่นอนแล้วมัวทำอะไรอยู่นะ หรือว่า..
"นี่ป่านนี้ยังไม่นอนไปแอบคุยกับใครหรืออกไปไหนมาฮะ ! จะนอกใจกันเหรอไอ้ผีญี่ปุ่น ?!" ฉันแผดเสียงใส่เขาอย่างโมโหจนคนในร้านหันมามอง ฉันก้มหัวให้ให้น้อยๆแล้วยิ้มแหยๆเป็นการขอโทษที่เสียมารยาท
(นี่คุณมิกกี้ที่รักครับ ผมจะไปมีใครได้ ผมก็รอคุณมาบอกฝันดีผมอยู่เนี่ยแหละ คิดว่าจะลืมซะแล้วนะ) เขาพูดงอนๆ ฉันแอบขำกับขำพูดคำจาของเขาเบาๆ เขาเปลี่ยนไปเยอะเลยทั้งเรื่องคำพูดและการกระทำ ๆอ้เรื่องพูดก็พูดง้อคนเก่งซะเหลือเกิน มีเหรอที่ฉันจะไม่ยอมใจอ่อน ไอ้คำพูดคำพูดคุณครับ กับน้ำเสียงอ้อนๆ นั้นมันน่ารักซะจริงๆ ส่วนเรื่องการกระทำก็อย่างเมื่อเช้า กล้ากอดฉันต่อหน้าคนทั้งสนามบินแบบนั้น ใครจะคิดล่ะว่าหนุ่มฮอตมาดนิ่งประจำโรงเรียนอย่างเขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้
"เฮ้ อย่างอนสิ นี่อุตส่าห์โทรมาหาก่อนจะโทรตามคุณแม่นะเนี่ย"
(น่าปลื้มใจจังเลย อยากเห็นหน้าแก้วอ่ะ อยู่ที่หนาวๆแบบนั้นตัวไม่ขาวกว่าเดิมอีกเหรอ) เขาขอมาฉันก็จัดไปสิคะ
"โอเคๆ อ่ะๆดูให้เต็มตา แฟนนายจะสวยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน" ฉันพูดติดตลก
(ครับผม แฟนผมสวยที่สุดเลย) นีก็เล่นตามฉันไปด้วยแฮะ
"เอ้ะ.. นายยังใส่สร้อยอยู่เหรอ" ฉันถามเขาไป ใจจริงก็ดีใจอยู่หรอก แต่มันเป็นห่วงกลัวเขาจะนอนไม่สบายเพราะมันขัดคอ
(ฉันจะใส่ไว้ตลอดไม่ถอดไปไหนหรอก ของเธอล่ะถอดรึยัง ถ้าถอดฉันงอนนะ) ให้ตายเถอะ ทำหน้างอนเป็นเด็กไปได้ นี่ถ้าอยู่ใกล้กันจะจับหยิกแก้มให้หายหมั่นไส้เลยคอยดู
"นี่ไง ฉันก็จะไม่ถอดไปไหนทั้งนั้นแหละ.. จะใส่ไปตลอดเลย" ฉันพูดอมยิ้มแล้วชุข้อมือให้เขาดู มันทำให้เขายิ้มออกมาแกร้มปริ โอ้ยยย น่ารักน่าหยิก ><
(น่ารักจังเลยมิกกี้ ฮ้าววว นี่จะเที่ยงคืนแล้วน้า ขอกู้ดไนท์คิสหน่อยสิที่รัก)
"จะให้ยังไงล่ะ" ฉันงงกับเขาที่ทำหน้าอ้อนวอนอยากจะได้จูบราตรีสวัสดิ์นี่นักหนา
(ยังไงก็ได้ เธอให้มายังไงฉันก็รับหมดนั่นแหละ) เขาพูดอมยิ้มอีกแล้ว ฮึ่ย ! อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ คิดถึงจังเลยง้ะ
"อืม.. ฝันดีนะคะผีญี่ปุ่นของมิกกี้ จุ้บ :)" ฉันเอาสองนิ้วชี้และกลางมาแตะที่ปากตัวเองแล้วไปแตะที่หน้าจอโทรศัพท์ตรงกับปากของเขา เขาพยักหน้ารับแล้วทำปากจู๋ออกมาเป็นเด็กๆ ไอ้ผีน่ารักเอ้ย(?) -3-
(ฉันรักเธอนะแก้ว บ้ายบายครับ) ขอพูดแล้วโบกมือให้ฉัน ทำแบบนี้ก็รักตายสิ
"ฉันก็รักนายนะโทโมะ" ฉันบอกเขาแล้ววางสาย แต่จะว่าไปไหนเขาบอกว่าจะอยู่คุยเป็นเพื่อนฉันก่อนไงเล่า แต่ไม่เป็นไรคงเพลียหนักนี่ก็ดึกมากแล้ว
ฉันกำลังโทรหาคุณแม่แต่อยู่ๆ ก็มีผู้ชายสามคนมายืนอยู่ตรงหน้า แต่งตัวเหมือนการ์ด แต่คำถามนะ เขามีธุระอะไรกับฉันกันเนี่ย ฉันเพิ่งมาถึงเองนะฉันไปทำอะไรผิด เหยียบขี้หมาเข้าสนามบินงั้นเหรอ เอ้ะ ไม่น่าใช่ -.-
"คุณแก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุลใช่มั้ยครับ" ชายคนหนึ่งทักฉันด้วยภาษาไทย เรื่องเริ่มจะไม่ชอบมาพากลแล้วนะ เขารู้จักชื่อเสียงเรียงนามของฉันได้ยังไง
"ค่ะใช่ แล้วพวกคุณเป็นใครมีธุระอะไรกับฉัน" ฉันถามไปอย่างไม่เกรงกลัว ถึงจะเป็นใครตัวใหญ่กว่าฉันหลายเท่า แต่ฉันก็มั่นใจว่าล้มเขาได้นะ
"คุณมล คุณแม่ของคุณให้ผมมารับคุณไปที่คฤหาสน์ครับ" ฮะ คุณแม่งั้นเหรอ แล้วทำไมไม่มาเองล่ะส่งใครมาทำไม
"แล้วพวกคุณเป็นใครคะ" ฉันตัดสินใจใช้ถ้อยคำที่สุภาพถามกับเขาเพราะดูไม่มีพิษภัยถือว่ายังเป็นมิตรกันได้
"ผมเป็นลูกน้องของคุณคางอินสามีของคุณมลแม่ของคุณแก้วน่ะครับ" เขาพูดอย่างอ่อนน้อม ฉันจึงเดินตามไปแต่โดยดี ระหว่างทางเดินไปที่รถฉันก็คอยถามรายละเอียดต่างๆกับเขา
"คุณชื่ออะไรเหรอคะ แล้วอีกสองคนเขาเป็นอะไรทำไมไม่พูด หรือเขาพูดไทยไม่ได้คะ"
"ผมชื่อธามไทลูกน้องคนสนิทของคุณคางอิน ส่วนอีกสองคนเขาพูดไทยไม่ได้ครับ คนนึงเป็นคนอเมริกา ส่วนอีกคนเป็นคนเกาหลีครับ" ฉันรู้สึกว่าฉันคุยถูกคอกับธามไทมาก เขาดูเป็นมิตรมากจริงๆ คงจะเป็นเพื่อนกับฉันได้สินะ
"คุณเป็นเพื่อนกับฉันได้มั้ยคะ ฉันไม่เคยมาที่นี่ ไม่รู้จักใครเลย" ฉันถามเขาขณะที่ขึ้นรถมาแล้ว
"ได้สิครับคุณหนู"
"โอ้ยเรียกแก้วก็พอค่ะ มันจะดูห่างเหินเกินไป" ฉันรับห้ามปรามเขา
"ก็ได้ครับ เอ่อ คุณ.. แก้วจะทักทายสองคนนี้ก็ได้นะครับ" ธามไทบอกกับฉันเหมือนรู้จุดประสงค์ของฉันตอนนี้ สามคนนี้ก็ไม่ได้หน้ากัวอะไรเลย ดูหน้าตาดีพอจะเป็นเพื่อนกันได้ ฉันจึงลองทักทายเขาสองคน
"Hello, My Name's Kaew. What's your name ?" ฉันถามคนทั้งคู่ และก็ได้คำตอบรับอย่างดี โอเคฉันคงไว้ใจพวกเขาได้สินะ
"I'm Gavin" คนที่เป็นคนอเมริกาบอก
"I'm Jongbea" อีกคนที่หน้าตาเกาหลีแท้ๆบอก
"Are your my friend ?" ฉันถามคำถามที่ต้องการถามออกไป
"Yeh, It's very well" คำตอบของเขาทั้งสองคนทำให้ฉันยิ้มได้ฉันมีเพือนใหม่แล้ว เย้ !
เมื่อรถเคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูหรูหราโอ่อ่า สายตาของฉันก็มองทอดมาตั้งแต่สองข้างทางมาจนถึงลานจอดรถน้ำพุใหญ่หน้าประตูคฤหาสน์ มันสวยมากจริงๆ นี่ฉันจะได้อยู่ที่นี่งั้นเหรอ สวรรค์เลยนะเนี่ย เมื่อประตูรถถูกเปิดออกแล้วฉันก้าวขาลงมา คุณแม่ของฉันก็รีบเดินเตร่เข้ามาหาทันที
"ว้ายลูกแก้ว ! คิดถึงจังเลยลูกแม่" คุณแม่เข้ามากอดจูบฉันเหมือนกับโหยหากันมากมาย ฉันคิดถึงแม่มากเลยไม่สนใจว่าแม่จะทำอะไร กอดกับกอดเท่านั้นที่ฉันต้องการในตอนนี้
"นี่เหรอลูกสาวคุณ สวยเหมือนคุณเลย" ผู้ชายวัยทองเดินเข้ามาหาฉันกับแม่ แต่ถึงจะวัยทองแต่เขาก็ดูแข็งแรงกำยำมาก นี่คงจะเป็นคุณคางอิน สามีใหม่ของคุณแม่สินะ
"สวัสดีค่ะ" ฉันทำความเคารพเขาด้วยการไหว้แบบไทยๆ
"สวัสดีหนูแก้ว เป็นยังไงชอบที่นี่มั้ย" ถึงชื่อของคุรคางอินจะเป็นภาษาเกาหลี หน้าตาออกทางเกาหลี แต่เขาก็พูดภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วและฟังชัดทุกถ้อยคำ
"ชอบค่ะ มันสวยมากๆเลยค่ะคุณคางอิน" ฉันพูดแล้วยิ้มให้กับทุกคน
"ไม่เอาๆ เรียกพ่อสิลูก" คุณคางอินบอกกับฉัน แต่ฉันยังอึกอักพูดไม่ออก ฉันมีพ่อคนเดียวนะจะมีอีกคนได้ยังไง
"ฉันรู้ว่าหนูแก้วมีพ่อแค่คนเดียว แต่ฉันก็เป็นพ่อบุญธรรมหนูได้นะ" คุณคางอินพูดกับฉันอย่างเอ็นดู ท่านเข้าใจฉัน นั่นทำให้ฉันถึงกับยิ้มออก
"ค่ะคุณพ่อ" ฉันยิ้มจนตาหยี
"งั้นไปที่ห้องหนูกันเถอะลูก แม่จัดไว้ให้แล้ว" คุณแม่พูดแล้วพาฉันขึ้นไปบนชั้นสองของคฤหาสน์ พอเข้าไปในห้องฉันก็ลั้ลลาออกทันที ห้องสีเขียวอ่อนสีโปรดของถูกจัดให้ดูกลมกลืนกับสีขาวดำแบบพอดี ฉันโผกอดคุณแม่ผู้รู้ใจไว้แน่น
"ขอบคุณนะคะแม่" ฉันคลายอ้อมกอดออกแล้วมองไปรอบๆห้อง
"งั้นแม่ไม่กวนลูกแล้ว หนูนอนพักผ่อนได้ตามสบายเลยนะลูก อ้อ แล้วก็ถ้าลูกอยากมีเพื่อนก็มีคนนึงนะชื่อลีน่า อยู่ถัดจากห้องลูกไปสองห้อง เค้าเป็นลูกสาวพ่อน่ะ อายุเท่าหนูเลย แม่ไปนะ" คุณแม่พูดก่อนจะหอมแก้มฉันแล้วเดินออกจากไป เพื่อนใหม่เหรอ ก็ดีนะแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนเถอะเหนื่อยจะตายชัก แล้วก่อนนอนฉันก็ไม่ลืมทั่จะส่งข้อความไปหาตาผีดิบสุดที่รัก
'ฉันมาถึงแล้วนะ มีเพื่อนใหม่ตั้งสี่คน ขอนอนก่อนนะเหนื่อยมากเลย คิดถึงนะผีดิบ ♥ Kwj'
พรุ่งนี้เปิดเทอม เย้ !!! เกี่ยวเรอะ - -
เปิดเทอมก็อัพเหมือนเดิม รักนะคะ -3-
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ