GAME OVER - CHANNUNEO

9.0

เขียนโดย i_cezy

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 23.23 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  8,570 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2557 00.02 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) เกมที่สาม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Title : GAME OVER

Chapter : 4 {เกมที่สาม}

Author: i_cezy
Paring: Channuneo
Rate: ?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          แสงแดดอ่อนๆ กระทบมาที่เปลือกตา ทำให้คนตัวสูงรู้สึกนอนไม่สบาย เมื่อเช้าวันใหม่มา

เยือนแล้ว พลิกไปพลิกมา จนรู้สึกว่าเวลานอนหมดลงแล้ว จึงลุกจากเตียงเพื่อไปทำธุระส่วนตัวใน

ห้องน้ำ

 

          เมื่อทำธุระเสร็จจึงเดินออกมาที่ห้องครัว คนตัวสูงค่อนข้างแปลกใจที่มีการจัดเตรียม

อาหารเช้าไว้เช่นทุกวัน

 

 

          ‘นี่จุนโฮหายป่วยแล้วหรอ?’ คนตัวสูงได้แต่คิดในใจ

 

 

          และไม่นานก็เห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากส่วนของห้องครัว พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ประหนึ่งว่าเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้นเลย จุนโฮเหมือนคนที่สบายดีมาก และไม่เคยป่วยมาก่อน

เมื่อเหลือบไปเห็นคนตัวสูง คนตัวเล็กจึงทักทายด้วยใบหน้าแจ่มใส

 

 

 

          “ชาน ตื่นแล้วหรอ? วันนี้ฉันทำของโปรดชานไว้เพียบเลยนะ ชดเชยที่เมื่อวานฉันไม่ได้ทำ

อาหารเช้าให้ทาน”

 

          “อืม” ชานซองตอบรับในลำคอ

 

          “นายหายป่วยแล้วหรอ?” คนตัวสูงถามโดยไม่มองหน้า สนใจแต่อาหารบนโต๊ะ

 

 

          “อือ ฉันหายแล้วแหละ สงสัยได้ยาดี พี่คุณเก่งมากเลยเนอะ” คนตัวเล็กยังคงตอบด้วย

สีหน้าร่าเริง

 

 

          จุนโฮดีใจ ดีใจมาก ดีใจที่ยังได้รับความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยจากผู้ชายตรงหน้า เขารู้สึก

เหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้ชุ่มชื่นขึ้นมา

 

 

 

 

          ความห่วงใยที่เขาไม่เคยได้รับ

          พอได้รับแล้วมันรู้สึกดีถึงเพียงนี้เชียวหรอ..

 

 

 

 

 

          “หายก็ดีละ ฉันก็ไม่อยากเห็นใครมาตายในห้องของฉัน” ชานซองกล่าวโดยไม่ได้สนใจ

สีหน้าของคนตัวเล็ก

 

          จากรอยยิ้มกว้างเมื่อสักครู่กลับกลายเป็นใบหน้าที่แสนหม่นหมอง

 

          จุนโฮได้แต่ตอบรับด้วยพร้อมเสียงหัวเราะที่มีเสียงสั่นไหวเจืออยู่ในนั้นด้วย

 

          “อือ ฉันไม่กล้าตายในห้องชานหรอกน่า ฉันรู้ว่าชานกลัวผี”

 

          จากนั้นก็เดินเลี่ยงเข้าครัวไป กับน้ำตาที่กลั้นไว้แทบไม่ไหว

 

 

 

 

 

          อีจุนโฮนายมันโง่ นายมันเพ้อเจ้อ

          จะสำคัญตัวเองผิดไปถึงไหน

          เขาไม่เคยสนใจนายเข้าใจมั้ย

          เค้าสนใจแค่ตัวของเขาเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          พอรู้สึกตัวว่าสำคัญตัวเองผิด 

          ก็คิดว่าเราสำคัญกับเขาขนาดไหน 

          หรือที่จริงแล้วไม่เคยมีความสำคัญอะไรเลย .. 

 

 

 

 

 

 

          เมื่อชานซองทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินมาหาคนตัวเล็กที่ขลุกอยู่แต่ในครัว

 

          “จุนโฮ”

 

          “อ๊ะ.. ว่าไงชาน?” คนตัวเล็กใช้แขนปาดน้ำตาแบบลวกๆ พร้อมหันมาตามเสียงเรียก

 

          “ทำธุระของนายให้เสร็จ แล้วไปอาบน้ำแต่งตัว ฉันจะพานายออกไปข้างนอก เห็นเมื่อวาน

นายบ่นกับพี่คุณว่าเบื่อไม่ใช่หรอ อยู่แต่ในห้อง” ชานซองกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

          “ห๊ะ เอ่อ คือ นายได้ยินหรอ? เอ้ย ไม่ใช่ซิ นายจะพาฉันไปจริงๆหรอ? คะ คือไปข้างนอก

กับฉันสองคน? นายจะพาฉันไปจริงหรอ?” จุนโฮกล่าวด้วยสีหน้าตกใจปนตื่นเต้น

 

          “ถามมากอยู่ได้จะไปหรือไม่ไป?”

 

          “ปะ ปะ ไปซิ ฉันแค่ตกใจเฉยๆ ไปๆ รอฉันแปบเดียวนะ”

 

          จุนโฮกล่าวเสร็จก็วิ่งเข้าห้องไปจัดการธุระของตัวเองทันที จนไม่ทันได้เห็นสีหน้าของ

ชานซองที่ได้แต่มองเขาวิ่งไปและแสยะยิ้มที่มุมปากเบาๆ

 

 

 

          “เฮอะ ..นายจะต้องสนุกมากๆเลยแหละจุนโฮ” ชานซองแค่นเสียงอยู่ในลำคอ

 

 

 

 

 

          จุนโฮเมื่อเข้าห้องตนเองมาก็ปิดประตูแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง

 

 

 

          ‘นี่ชานซองจะพาเราไปข้างนอกจริงๆหรอ? หรือว่าหายโกรธเราแล้ว

          ไม่หรอก ..น่าจะสงสารเราที่เราไม่สบายมากกว่ามั้ง’

 

 

 

          แต่ช่างเถอะจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จุนโฮยอมรับเลยว่า

          เขาดีใจมาก ๆ ดีใจที่สุดเลย เขารู้สึกดีใจจนจะร้องไห้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          น่าแปลกแค่เวลาเพียงนิดเดียว

          คนคนเดียวสามารถทำให้เขา

          ทั้งยิ้ม ทั้งร้องไห้ ทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ

          ได้ในคราเดียวจริงๆ ...

 

 

 

 

 

 

 

 

          บนรถยนต์คันหรูของชานซอง มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาและสองข้างทางที่เงียบเหงา

เพราะคนตัวเล็กที่ครอบครองที่นั่งด้านข้างคนขับ ได้แต่ทำสีหน้าแปลกใจ ระคนใจ และหลายๆ

สีหน้าสลับกันไป ไม่มีใครพูดอะไรออกมากทั้งสิ้น

 

          ชานซองก็ไม่ได้มีอะไรจะต้องพูดมากมายอยู่แล้ว

 

 

 

 

          ส่วนจุนโฮมีเรื่องให้พูด ให้คิดอยู่มากมาย

          อยากจะถาม ..แต่ก็ไม่กล้า

          อยากจะรู้ ..แต่ก็กลัวเหลือเกิน

          ชานซองจะพาเขาไปไหนนะ?

          สองข้างทางที่มันก็คุ้นซะเหลือเกิน ..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 {Junho's Part}

 

 

          “ชาน.. นูนออยากไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ทำไมนูนอถึงไปไม่ได้ละ?”

 

          “ก็นูนอไม่สบายแล้วไม่ยอมไปโรงพยาบาลนี่นา นูนอก็เลยไม่หาย อดไปเที่ยวกับ

เพื่อนๆไง”

 

          “ชานซองอ่า ชานก็รู้ว่านูนอเกลียดโรงพยาบาล นูนอไม่ชอบไปโรงพยาบาลอ่ะ”

ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆนะ ผมแค่ป่วยเล็กๆน้อยๆ ทำไมทุกคนในบ้านจะต้องบังคับให้ผมไป รพ.ด้วย

 

          “โอ๋ๆ นูนอ อย่าร้องซิ ชานรู้ๆ ชานให้พี่หมอมาหานูนอที่บ้านแล้วไง ไม่ได้บังคับนูนอไป

รพ. แล้วซะหน่อย แต่นูนอต้องสัญญาว่าจะรักษาตัวให้หาย จะได้ไม่มีใครบังคับนูนอไปไหน

อีกเนอะ”

 

          “อืม นูนอสัญญาก็ได้ แต่ชานต้องสัญญากับนูนออีกอย่าง” ผมเงยหน้ามองคนตัวใหญ่ที่

นั่งพิงหัวเตียงของผมอยู่

 

 

          “สัญญาอะไรละ หืม?”

 

          “ถ้านูนอหายป่วยแล้ว ชานต้องพานูนอไปทะเลนะ เราชวนพ่อกับแม่ไปทะเลกันนะ” ผม

พูดไป พร้อมเขย่าแขนคนตัวใหญ่ไปพลางๆ

 

          “ได้สิ ไว้นูนอหายป่วยเราไปทะเลด้วยกันนะ”

 

          “เย้ หมีชานของนูนอใจดีที่สุดในโลกเลย” ผมพูดพร้อมมุดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคน

ตัวใหญ่ แล้วผมก็หลับไปเพราะพิษไข้รู้ตัวอีกที ก็เช้าวันใหม่เสียแล้วm ผมตื่นมาไม่เจอคนที่อยู่

ข้างกายผมตลอดทั้งคืน ผมจึงลุกขึ้นเพื่อจะไปตามหาเขาแต่แล้วก็รู้สึกหน้ามืดนิดๆ จึงล้มลงใกล้ๆ

เตียงของตัวเอง

 

 

          “นูนอ !” นั่นไงเขามาแล้ว แต่ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยละ ผมกลัวจังเลย กลัวว่าเขาจะดุ

ผมไปมากกว่านี้ ผมแกล้งเจ็บดีกว่า เขาจะได้ไม่กล้าดุผม :P

 

          “นูนอ ลุกขึ้นมาทำไม ยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ?”

 

          “ก็ .. นูนอตื่นมาแล้วไม่เห็นชาน นูนอตกใจนี่นา ฮือ  ;_________; นูนอเจ็บขาจังเลย

ชาน” ผมเห็นเขาโคลงศรีษะเบาๆ แล้วเดินมาช้อนตัวผมขึ้นไปวางที่เตียงเหมือนเดิม เหมือนก่อน

หน้าที่ผมจะล้มลงข้างเตียง

 

          “ชานไม่ได้หายไปไหนนี่นา นูนอไม่ต้องกลัวนะ ชานแค่ไปเตรียมยา เตรียมข้าวให้นูนอ

พอนูนอตื่นมาจะได้ทานข้าวทานยาไงครับ”

 

          “นูนอขอโทษ นูนอทำให้ชานเดือดร้อนตลอดเลย” ผมรู้สึกผิดจริงๆแฮะ น้ำตาพาลจะไหลลงมา

 

          “โอ๋ๆ ไม่เอาๆ ไม่ร้องซิ ตัวเล็กร้องไห้แล้วไม่น่ารักเลย ดูสิๆ ขี้เหร่มากเลย ตาก็เล็กอยู่

แล้ว พอร้องไห้ตาปิดกว่าเดิมอีก อุ้ย มีน้ำมูกด้วย อี๋”

 

          “ชานซองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง นายหลอกด่าฉันใช่ป่ะ?” ผมโมโหจนเปลี่ยน

สรรพนามที่เคยเรียกกันเป็นประจำมาเป็นสรรพนามที่บ่งบอกว่าผมเริ่มไม่พอใจแล้ว

 

          “โอ๋ๆ ชานล้อเล่น ชานไม่อยากให้นูนอร้องไห้นี่นา” เขาเอามือมาป้ายจมูกผมด้วยแหละ

ชิส์ อย่าคิดว่าจะหายโกรธง่ายๆนะ ของอนอีกนิดเถอะ เชอะ

 

          “นูนอ ..”

 

          “..........”

 

          “นูนอครับ?”

 

          “...........”

 

          “นูนอของชาน?”

 

          “.............” เรียกไปเถอะ ไม่ตอบหรอก :P

 

          “นูนอคนน่ารักของหมีชาน”

 

          “.............” ผมจะใจแข็งต่อไปได้ยังไง ในเมื่อสรรพนามที่เขาใช้เรียกน่ารักซะขนาดนี้ :] แล้วแถมตอนนี้ชานซองก็ดันใบหน้าผมให้หันไปมองหน้าเขาด้วย

 

          “นูนอคร้าบบ ชานขอโทษ ชานล้อเล่นเฉยๆเอง ถ้านูนอหายโกรธ แล้วนูนอหายป่วย

พรุ่งนี้ชานจะบอกพ่อกับแม่ให้พาเราไปเที่ยวทะเลกันนะ”

 

          “ห๊ะ?” ผมหูผึ่งขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินคำว่าทะเล

 

          “แหม.. ทีอย่างนี้ตอบเร็วเชียวนะ เด็กดื้อ” เขาผลักหัวผมโคลงไปโคลงมา

 

          “ใครดื้อ? ใครเด็ก? พูดดีๆนะ น้องหมีของพี่” ผมยิ้มล้อเลียนเขา เพราะผมรู้ว่าเขาเกลียด

สรรพนามที่ผมกำลังเรียกที่สุด แต่ผมชอบนี่นา

 

          “จุนโฮ..” เขากดเสียงต่ำพร้อมเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกชื่อผม แสดงถึงความไม่พอใจ

 

          “ทำไมหรอครับ? น้องหมีของพี่จุนโฮ :P” ผมกล่าวพร้อมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา

 

          “ก็ได้ ถ้านายอยากจะเล่นแบบนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็นอนอยู่บ้านไปละกันนะ ฉันจะลงไปบอกพ่

กับแม่ว่าไม่ต้องไปไหนแล้ว เพราะคนแถวนี้เขาไม่อยากไป”

 

          “ชานซอง !” ผมรีบดึงแขนเขาไว้ ก่อนที่เขาจะลงไปข้างล่าง

 

          “ชานซองอ่า ใครบอกว่านูนอจะไม่ไป นูนออยากไปเที่ยวทะเลที่สุดเลย” ผมเห็นเขายิ้ม

ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย นี่ถ้าไม่แคร์ว่าต้องไปทะเลนะ ผมกับเขาได้วางมวยกันซักตั้งแน่นอน

 

          “งั้นก็ทานข้าว ทานยา  แล้วพักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนะ”

 

          หลังจากนั้นชานซองก็จัดการชีวิตให้ผมทุกอย่าง แล้วก็ดูแลผมทั้งวัน

          จนผมเข้าสู่ห้วงนิทรา ..

 

 

 

 

 

 

 

 

          “ชานอ่า.. นูนอเอากางเกงไปกี่ตัวดี? แล้วสีฟ้ากับสีเหลืองอันไหนดีกว่ากันอ่ะ?”

ผมหมุนไปหมุนมาหน้าตู้เสื้อผ้า ให้คนตัวสูงช่วยเลือกเสื้อผ้าที่จะไปทะเลในวันนี้

 

          “นูนอ ถ้าช้ากว่านี้อีกสักสิบนาที นูนอจะได้ใส่เสื้อผ้าพวกนี้อยู่บ้านนะ”

 

          “งืออ ทำไมชานต้องดุนูนอด้วย ไปๆเสร็จแล้ว ไปทะเลกันนนนนนน”

ผมกล่าวพร้อมกระชับเป้ของตัวเองและจูงแขนคนตัวสูงลงไปด้านล่างตัวบ้านที่มีพ่อกับแม่รออยู่

 

          “จุนโฮลูก.. เตรียมสัมภาระ แล้วก็ยาของหนูไปหมดแล้วหรือยังลูก?” คุณแม่คนสวยของ

ผมตั้งแต่หน้าตั้งหน้าถามผมเหมือนไม่ไว้ใจในตัวลูกชายคนนี้เลย

 

          “ตะ ตะ เตรี..”

 

          “เตรียมแล้วครับคุณแม่ ผมเก็บของจุนโฮขึ้นรถไปตั้งแต่แรกแล้วครับ”

 

          ผมยังไม่ทันจะได้อ้าปากตอบ คนตัวสูงข้างๆผมก็ชิงตอบให้ก่อนซะแล้ว

          คุณแม่ยิ้มแล้วก็เดินนำไปขึ้นรถ แต่ก็ยังไม่วายหันมาบ่น

 

          “ขอบคุณนะชานซอง ..จุนโฮ ลูกนี่นะ เป็นพี่เขา แต่ต้องให้น้องดูแลตลอดเลย เห้อ ลูก

คนนี้นิ”

 

          คุณแม่พูดไปก็ส่ายหัวไป ผมได้แต่ยู่ปาก แล้วหันไปแลบลิ้นใส่ชานซอง เชอะ :P

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          'จำไว้เลยนะฮวางชานซอง' 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

TBC.

-------------------------------------------------
 
*ฉากสีเทาเป็นฉากอดีตนะจ้ะนะจ้ะ
*อย่าเรียกเราว่าไรเตอร์เลย ได้โปรดเรียกน้องไอซ์ นังไอซ์ พี่ไอซ์ เจ้ไอซ์ ฯลฯ
*ตามด่าได้ที่ Twitter : @i_cezy เช่นเคย หรือไม่ก็แท็ก #CNNGAMEOVER ฮับ
 
*รักคนอ่าน
โปรดปรานคนเม้น
ตื่นเต้นกับคนใช้แท็ก
จุ้บ :)
 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา