THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

9.9

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.46 น.

  24 ตอน
  245 วิจารณ์
  37.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

ตอนที่๔

 

 

 

               ร่างสูงสะท้อนขึ้นด้วยฝันร้ายในห้วงนิทรา หัวใจของเขากระตุกเต้นแรง ก่อนจะค่อยๆ

กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ดวงตาคู่คมค่อยๆกระพริบปรับให้การมองเห็นให้ชัดเจน อาการปวดหนึบๆที่

หัวไหล่ซ้าย ใบหน้าหล่อคมนิ่วหน้าลงด้วยความเจ็บ แต่บางอย่างทำให้เขาต้องหันมองข้างเตียง

ผู้ป่วย ศีรษะทุยสวยที่ปกคลุมด้วยผมยาวสีน้ำตาลเข้มกำลังฟุบอยู่ข้างๆ เขานึกไม่ออกจริงๆว่าจะ

เป็นใคร ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครเป็นห่วงเขาแบบนี้เลย ไม่ว่าเขาจะก้าวใกล้ความตาย

ขนาดไหน...ก็ไม่เคยมีใครคนไหนมาอยู่ข้างกาย มีเพียงบอดี้การ์ดที่เขาจ้างเท่านั้นที่ยังคอยเฝ้า

อยู่หน้าห้องเพื่อรักษาความปลอดภัย

 

 

               ชีวิตของเขาไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับใคร ไม่ต้องการมีคนรักคนไหน เพราะทุกคนที่

เกี่ยวข้องกับเขาล้วนแต่มีจุดจบที่ไม่สวย ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คนสนิทของเขาต้องถูกปองร้าย บางคน

นั้นเกือบถึงกับชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงมีปริญเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว...และทำไม

เขาถึงยังไม่เคยมีคนรัก เมื่อเขาเริ่มรู้สึกดีกับผู้หญิงคนไหน เขาจะรีบถอยห่างจากเธอ เพราะคน

อย่างเขาไม่เหมาะที่จะเป็นคนรักของใคร...

 

 

               “คุณ ฟื้นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”ดวงหน้าหวานที่เพิ่งตื่นจากห้วง

นิทราเอ่ยถามเขาอย่างกระตือรือร้น ดวงตากลมโตมองมาที่เขา ในนัยน์ตาคู่นั้นมีบางสิ่งบางอย่างที่

เขาไม่เคยได้รับมาเนิ่นนาน

 

 

               “เจ็บนิดหน่อยน่ะ...เธอไม่กลับบ้านหรอ”เขาถามก่อนจะเบนสายตาไปมองนาฬิกาที่

บอกว่าเวลาสามนาฬิกาของเช้าวันใหม่

 

 

               “จะกลับได้ยังไง ไม่เห็นมีคุณมาเฝ้าคุณเลย แถมฉันยังเห็นผู้ชายสองสามคนมา

เพ่นพ่านอยู่หน้าห้องอีก น่ากลัวเป็นบ้า แต่ฉันล็อกประตูไว้แล้วนะ”เขายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอ

คงคิดว่าแค่ล็อกประตูจะทำอะไรคนที่คิดจะเอาชีวิตเขาได้จริงๆน่ะหรือ ผู้ชายสองสามคนที่เธอว่า

คงเป็นลูกน้องคนสนิทของเขามากกว่า

 

 

               “ขอบคุณนะ”

 

 

               ธนันต์ธรญ์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองบ้าไปทุกวินาทีที่ได้อยู่ใกล้เขา แค่น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขา

ก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้อยู่แบบสองต่อสองกับผู้ชายเลย...

ไม่ได้สิ เธอต้องรอพี่ชายของเธอ เธอคิดว่าสักวันเธอต้องเจอเขาอีกแน่ๆ

 

 

               “คิดอะไรอยู่น่ะ ฉันบอกว่าขอกินน้ำหน่อย”เธอสะดุ้ง ก่อนจะรีบรินน้ำใส่แก้ว และป้อน

หลอดดูดให้กับชายหนุ่ม เขาพึมพำขอบคุณ เธอได้แต่นั่งมองเขานิ่งๆ ใบหน้าของเขาดูอิดโรยมาก

ดวงตาของเขามักมีแววตาแปลกๆ อ่านยากเสมอ ก็อย่างว่านักธุรกิจใหญ่อย่างเขาคงไม่ยอมให้ใคร

อ่านเขาออกง่ายๆด้วยเพียงสายตาแน่

 

 

               “เรื่องน้องสาวของคุณ ผมจะจัดการให้นะ

 

 

               “ขอบคุณมากค่ะ คุณพักผ่อนเถอะ”

 

 

               “ฉันหลับมามากพอแล้วล่ะ คุณไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะ

เอ่ยถามคำถามคาใจ

 

 

               “ใครกันคะที่ยิงคุณ”เขาหัวเราะน้อยๆ

 

 

               “ชีวิตฉันถูกลูกกระสุนฝังไปทุกตำแหน่งแล้วล่ะ เจ็บแค่นี้เล็กน้อย”

 

 

               “เป็นแค่นักธุรกิจ ทำไมชีวิตถึงได้แขวนอยู่บนเส้นด้ายได้ขนาดนี้ล่ะ”เธอพึมพำ แต่ดู

เหมือนเขาจะได้ยิน

 

 

               “นั่นเธอไม่ต้องรู้หรอก อยากกลับบ้านหรือยังล่ะ”

 

 

               “นี่เพิ่งจะตีสามนะ ใจคอคุณจะไล่ฉันกลับไปตอนนี้น่ะหรอ”

 

 

               “ถ้าอยากกลับผมจะให้ลูกน้องไปส่ง”

 

 

               “ฉันบอกน้องสาวว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน กลับตอนนี้คงไม่ดีมั้งคะ รอให้เช้าอีกสัก

หน่อยละกัน”เขาพยักหน้ารับรู้ ก่อนร่างสูงจะค่อยๆขยับตัวอย่างยากลำบาก เธอรี้เข้าไปประคอง

เขากลัวว่าแรงขยับของเขาจะกระทบกระเทือนแผล

 

 

               “ฉันอยากเข้าห้องน้ำ”

 

 

               “ค่ะ”เธอรับคำเบาๆ มือเล็กตลบผ้าห่มออกจากตัวของชายหนุ่ม ก่อนจะค่อยๆพาเขา

ลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำไป รออยู่นานจนเสียงเข้มตะโกนออกมาจาก

ห้องน้ำ

 

 

               “เข้ามาหาหน่อย”

 

 

               “ฮะ!”เสียงหวานอุทานอย่างคาดไม่ถึง แต่เธอก็เข้าใจว่าเขาคงลำบากที่จะเปิดประตู

เธอจึงเปิดเข้าไปในห้องน้ำ หากแต่เขากลับเอ่ยในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง

 

 

               “มัดเชือกกางเกงให้หน่อย ไม่ถนัด”

 

 

               ภาณุเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ เขามองร่างเล็กที่เดินเข้ามาก่อนจะมัดเชือกกางเกง

ของเขาอย่างเงอะงะ มือเล็กนั้นสั่นเทาเล็กน้อย ยิ่งเมื่อดวงหน้าหวานที่เงยหน้าขึ้นมองเขานั้น

แดงก่ำราวกับลูกตำลึงก็ยิ่งทำให้เธอดูน่าเอ็นดูขึ้นเป็นเท่าตัว

 

 

               “ล้างมือหรือยังน่ะ”เขาพยักหน้า ก่อนมือเล็กจะจับเสาแขวนถุงน้ำเกลือของเขาเลื่อน

ออกจากห้องน้ำ เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก่อนจะคว้ารีโมทโทรทัศน์กดดูนั่นดูนี่

เช่นเดียวกับคนตัวเล็กที่ไม่รู้จะทำอะไรก็ได้แต่นั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยกับชายหนุ่ม หากแต่มือที่

กดเลื่อนช่องของชายหนุ่มนั้นไม่ได้สัมพันธ์กับสายตาที่เอาแต่มองเสี้ยวหน้าหวานของหญิงสาว

 

 

               “คิดยังไงถึงมาเฝ้าฉันแบบนี้ เราไม่เคยรู้จักกันนะ”เขาเอ่ยถามคนตัวเล็กที่หันมา ก่อน

จะตอบอย่างฉะฉาน

 

 

               “ก็คุณช่วยฉันไว้นี่คะ ถ้าคุณไม่ผลักฉันออกมา บางทีคนที่นอนอยู่ตรงนี้อาจจะเป็น

ฉัน”เขาระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้หญิงแบบนี้ อาจจะเพราะ

ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาพัวพันอยู่แค่ผู้หญิงที่เอาไว้หาความสุขชั่วครั้งชั่วคราว จิตใจของเธอจึงไม่

เหมือนผู้หญิงธรรมดาๆคนนี้ ซึ่งเขารู้สึกว่าเธอไม่ธรรมดาเสียแล้ว

 

 

               “ยิ้มอะไรคะ ไม่ว่าจะเพราะอะไรคุณก็ช่วยฉันไว้”

 

 

               “เพราะฉันสะเพร่าต่างหาก ช่วงนี้มีปัญหานิดหน่อย กระสุนเลยฝังเนื้ออย่างไม่รู้ตัวน่ะ

ขอบใจเธอมากนะ”เขาจำได้ดีเทียวว่าเธอร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก เสียงงหวานเฝ้าบอกให้เขาว่า

อย่าหลับ น่าแปลกที่เขาคิดว่าการเจ็บตัวครั้งนี้หัวใจของเขาเข้มแข็งเหลือเกิน บางครั้งที่เขาเจอ

เหตุการณ์แบบนี้ เขาอยากให้กระสุนนั้นตัดขั้วหัวใจไปเสียให้เข็ด เพราะการมีชีวิตแบบนี้มันไม่มี

ความสุขสักนิด...

 

 

 

               ปริญที่เพิ่งบิเดินทางกลับมาจากภูเก็ตด้วยเที่ยวบินที่ด่วนที่สุดเท่าที่จะหาได้ เขาไม่

ตกใจนักที่ลูกน้องของเขารายงานว่าภาณุผู้เป็นเพื่อนนั้นถูกลอบยิง แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่ว่า

เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน แต่เขาไม่อาจรู้เลยว่าวันไหนจะเป็นวันที่ร้ายที่สุด เขานั้น

ไม่มีใคร แม้กระทั้งบิดามารดาเขาก็ต้องสูญเสียท่านไปจากการถูกลอบทำร้ายเช่นกันกับบิดาของ

ภาณุ ด้วยเพราะเขาอายุใกล้เคียงกับภาณุแม้อายุจะห่างกันไปปีเศษ แต่ทั้งเขาและภาณุก็เป็น

เพื่อนที่ดีต่อกัน ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามากมายด้วยชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้วยไม่ต่างกัน...

 

นั่นทำให้ภาณุมิใช่เพียงเพื่อนหรือลูกพี่ลูกน้อง แต่ภาณุคือคนในครอบครัวของเขา!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


มาแล้ววววว วันนี้อัพสามตอนตามสัญญาเนอะ อีกตอนน่าจะมาตอนบ่ายๆ ไม่รู้ดูเม้นก่อน อิอิ

ตอนนี้รู้สึกสมองตีบตันมาก แต่งต่อไม่ไหว 555 ขอเม้น+โหวตเป็นกำลังใจเค้าหน่อยยย

5555

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา