`Kidding Love รักจริงหรือแค่ล้อเล่น (?)

-

เขียนโดย SuperL_ScL

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.09 น.

  1 ` Kidding
  3 วิจารณ์
  3,796 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558 16.20 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) มารยาหญิง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
           “หวายมันไปซื้อน้ำถึงไหนเนี่ย” เสียงของเฟย์บ่นขึ้นมาแบบเบื่อๆ                    
     
           “ใครให้มันไปซื้อละ บอกให้แกไปซื้อแกก็ไม่ไป” ฉันตอบก่อนจะหยิบขนมในถุงขึ้นมากินต่อ ก็รู้ๆกันอยู่ถ้าหวายไปนะกว่าจะได้กินก็นานละ เพราะเจ้าตัวเนี่ยชอบหาเรื่องใหม่ๆมาเม้าเสมอ ยิ่งตอนกลางวันแบบนี้นะอีกนาน!
 
           “เฟย์ ฟาง! เด็กใหม่ห้องหนึ่งแซ่บมากกกก!” เสียงของหวายตะโกนมาตามทางเดินก่อนจะวิ่งมานั่งที่โต๊ะเดี๋ยวกัน ฉันกับเฟย์หันมามองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างถูกใจ
 
           “สนป่ะ” เฟย์ถามฉันแบบที่รู้ๆกันอยู่
 
           “มีหรือจะไม่” ฉันพูดกับเฟย์และหวายที่ตอนนี้นั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้หน้าตึกเรียนก่อนที่พวกเราจะหัวเราะพร้อมกัน
 
           อ้อ ลืมแนะนำตัวไป ฉันฟางนะ อายุ 17  สูง 164 น้ำหนัก 42 สัดส่วน 34 24 32 โอ๊ะ ลึกไปหรอ โทษทีๆ :D ก็ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนจิระคุณอะนะ ตอนนี้ก็ขึ้นม.5ละ วันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกด้วย น่าเบื่อชะมัด แล้วที่นั่งข้างๆฉันตอนเนี้ยก็เพื่อนสนิทฉันเองยัยเฟย์เด็กข้างบ้านที่โตมาพร้อมกันเลยสนิทกันยังกับพี่น้องแน่ะ ส่วนอีกคนยัยหวาย กูรูเรื่องแฟชั่น พวกเราสามคนสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาลโน้นน ไปไหนไปกัน จะมาแยกกันตอนเนี้ยก็ไม่ได้แล้วนะ รู้ใจกันยิ่งเสียกว่าอะไร
 
           โดยเฉพาะสเปคผู้ชายนะน้ะ
 
 
 
 
           “ไหนวะแก” เสียงของเฟย์บ่นเพราะตอนนี้เราสามคนกำลังหาเด็กใหม่กันอยู่ ตรงทางออกของโรงอาหาร ก่อนที่สายตาฉันจะไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังถือจานอาหารไปนั่งกับกลุ่มคิงส์ หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลของโรงเรียนนั้นแหละ..
 
           ฉันเพ่งตามองดีๆ ก่อนจะพบว่าไม่ได้มองผิดไป ก็คือกลุ่มนี้ก็มีหัวโจกอยู่สองคนก็คือเขื่อน (เด็กเก่าของเฟย์ที่ไปสอยมาตั้งแต่ตอนม.2) และโทโมะ (แฟนเก่าของหวายที่โดนหวายทิ้งไปอย่างไม่ใยดี) และคนในกลุ่มไม่ถึงสิบคน คือฉันจะบอกคราวๆนะว่ากลุ่มเนี้ยเป็นกลุ่มที่ทุกคนในโรงเรียนค่อนข้างจะเกรงใจเพราะว่าพ่อพวกเนี้ยใหญ่และพ่อของเขื่อนและโทโมะเนี้ยถือหุ้นในโรงเรียนนี่อยู่ด้วย ถ้ามีเรื่องกับพวกนี้ก็จะเหนื่อยหน่อยอะนะ
 
           แล้วกลุ่มนี่มันดียังไงนะเหรอ? เหอะ หนึ่งกลุ่มนี่เอฟซีสาวๆมันเยอะ ถ้าจะมีเรื่องกับผู้ชายในกลุ่มนี่จะเหนื่อยหน่อย แต่กับพวกฉันเนี่ยคนละระดับกันกับสาวๆของตาพวกนี้เลย  และสองเพราะมันหน้าตาดีแบบอันตรายสุดๆจึงเป็นที่จับตามองอย่างไม่ต้องสงสัย
 
           และที่ตาเด็กใหม่นี่ไปนั่งได้ บอกได้ตอนนี้เลยว่าครอบครัวของตานี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ หึ น่าสนใจขึ้นมาแล้วนะตาหน้าหมี
 
           “อะ ฉันเจอแล้วนั้นไงเฟย์ฟาง” หวายชี้ไปที่กลุ่มที่ฉันกำลังมองอยู่
 
          “ฉันจองนะ” เสียงของเฟย์พูดขึ้นมาทันทีที่หันไปเจอ
 
          “แต่ฉันเจอก่อน” หวายขัดเฟย์ ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะหันมามองฉัน
 
          “แกละยัยฟาง สนป่าว” เฟย์ถามฉัน ฉันกระตุกยิ้มเบาๆก่อนจะตอบ
 
          “เห็นทีว่างานนี้ใครดีใครได้นะ”
 
          “แหม่ แบบนี้พวกเราต้องแข่งกันอีกแล้วหรอ ครั้งที่เลยแล้วฉันก็เพิ่งชนะไปเองนะ” หวายตอบก่อนจะทำเป็นยกมือขึ้นมาดู น่าหมั่นไส้! ยัยเพื่อนบ้านี่ชนะแค่นี้ทำมาบ่น เชอะ ฉันยอมให้ต่างหากละ
 
          “คะแนนเก่าอยู่ที่เท่าไรนะแก” ฉันหันไปถามเฟย์ที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโน้ตที่จดไว้
 
          “ครั้งที่แล้วยัยหวายชนะก็ 9 ฉันได้ 7 ส่วนแก 11”
 
          “อุ้ย ใครเพิ่งอวดมาว่าเพิ่งชนะไปนะ ทำไมแต้มน้อยกว่าฉันอะ” ฉันทำเป็นตกใจอย่างเสแสร้ง ก่อนจะโดนยัยหวายหันมาตีแขนฉันเบาๆแบบเล่นๆ
 
          “แกอะ!!” ยัยหวายทำกระเง้ากระงอดก่อนจะหันกลับไปดูคนที่หมายตาอีกครั้ง
 
          อย่าเพิ่งงงกันนะคะ นี่แหละพวกเรา ขอขยายความการเป็นพวกเราหน่อย ฉัน หวายและเฟย์ เราสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล พอขึ้นม.ต้นก็มีพวกเพื่อนๆคนอื่นตั้งฉายาพวกเราสามคนว่าควีน ก็ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่าทำไม สงสัยจะเป็นเพราะพวกเราสวยมั้ง (ช่างกล้า!) อีกอย่างสิ่งที่พวกเราชอบทำก็คือการแข่งกับจีบผู้ชาย อาจจะดูแรงนะแต่จริงๆก็ไม่มีอะไรมากกว่าการไปเที่ยวหรือจูบเพราะพวกเราจะตัดความสัมพันธ์ก่อนจะเกินเลยเสมอ เห็นพวกเราแรงๆกันแบบนี้ก็ยังเวอร์จิ้นกันอยู่ทุกคนนะคะ ปกติสเปคพวกเราจะต่างกันแต่นานๆทีก็จะมีชอบคนเดียวกันบ้าง เราเลยตั้งกฎขึ้นมาถ้าชอบคนเดียวกันก็ต้องแข่งกันเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ฉันว่ามันก็สนุกดีนะ พลัดกันแพ้กันชนะ คล้ายอารมณ์รักสนุกแต่ไม่ผูกพันธ์อ่ะ :)
 
           “ฉันไปละ” ฉันยกมือกอดอกพูดก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่ห้องชมรมของพวกเราที่ฉันเป็นประธานอยู่
 
          “แกจะไปไหนวะ เด็กใหม่อยู่ทางนี้นะ” หวายเรียกฉันก่อนจะถามอย่างงงๆ
 
          “แหม่ นานๆพวกเราจะถูกใจคนเดียวกันนะ ฉันว่าจะต่อให้พวกแกก่อนอะJ” ฉันยิ้มก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกมาอีกครั้ง โดยที่เห็นทางหางตาว่ายัยเฟย์กับหวายเดินเข้าไปหากลุ่มนั้นอย่างมั่นใจตามแบบเจ้าตัว เห็นทีว่าฉันคนนี้จะต้องแปลงโฉมซักหน่อยแล้วละ
 
 
          ฉันมองตัวเองในกระจกก่อนจะยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ ผมของฉันที่ปกติจะถูกมัดหางม้าสูงไว้ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเปียสองข้าง ริมฝีปากของฉันทาแค่ลิปกลอตสีชมพูบางๆและทาแป้งเด็กแทนเครื่องสำอางราคาแพงของฉัน ฉันถอดคอนเท็กเลนต์และสวมแว่นตาแทน ฉันจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเป๊ะตามที่กฎระเบียบโรงเรียนที่ตั้งไว้ ซึ่งปกติฉันไม่ใส่แบบนี้หรอกมันอึดอัด พอฉันมองเข้าไปกระจกอีกทีก็พบว่าตัวเองกลายเป็นเด็กเรียนหน้าตาใสซื้อบริสุทธิ์คนหนึ่งไปซะแล้ว
 
          ฉันเหยียดยิ้มก่อนจะหยิบหนังสือเรียนเล่มหนาสองสามเล่มมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะผลักประตูห้องชมรมแล้วเดินออกไป และทันทีที่ฉันออกมาคนตามระเบียงทางเดินก็มองฉันราวกับเห็นตัวประหลาด แปลกใจอะไรกันหรอ จากนางมารร้ายกลายมาเป็นนางฟ้าสินะ โถ แค่นี้ก็ตกใจกันซะละ ฉันโปรยยิ้มหวานให้ทุกคนอย่างที่ปกติไม่เคยทำก่อนจะเดินมุ่งตรงมายังโรงอาหารซึ่งตอนนี้คนเริ่มบางตาแล้ว
 
          ฉันเดินไปเรื่อยๆก่อนจะพบว่าเป้าหมายของฉันกำลังเดินตรงมาทางนี้พอดี ฉันกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปหลบหลังต้นไม้ข้างทาง ฉันชะโงกหน้าไปดูนิดนึงก่อนจะพบว่าตานี้ไม่ได้เดินมาคนเดียวยังมีโทโมะและเขื่อนที่เดินตามหลังมาด้วย เหอะ แผนฉันจะแตกไหมเนี้ย ก็สองคนนี้มันรู้ธาตุแท้ฉันนิ แต่ช่างเถอะ ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว ทันทีตาหน้าหมีกำลังจะเดินผ่านไปฉันก็เดินตัดหน้าเขาทันที เขาที่ไม่ทันตั้งตัวเห็นฉันกำลังจะล้มก็สอดแขนมาหนุนหลังฉันไว้อย่างพอดิบพอดี หนังสือในมือฉันหล่นลงพื้น
 
           “อุ้ย! ขอโทษค่ะ คือฟางไม่ทันมอง” ฉันในอ้อมแขนของร่างสูงพูดเสียงเบา
 
          “ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบฉันกลับมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆพยุงฉันขึ้นมา แต่ฉันก็ทรุดลงไปอีกครั้ง
 
          “โอ้ย!” ฉันร้องก่อนจะโอบคอเขาเอาไว้ เขาจับเอวฉันไว้อย่างมั่นคง ฉันมองเห็นเขื่อนและโทโมะที่ยืนอยู่ข้างหลังมองมาที่ฉันอย่างอึ้งๆ ฉันส่งยิ้มไปให้ก่อนจะเอามือที่โอบคอเข้าไว้มาแตะริมฝีปากเบาๆเป็นทำนองว่าไม่ให้พูด เขื่อนส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ส่วนโทโมะแค่เหยียดยิ้มตามแบบเจ้าตัว
 
          “เป็นอะไรรึป่าวครับ” เสียงนุ่มดังขึ้นที่ข้างหูทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว และหัวใจฉันเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
 
          “อะ..เอ่อ สงสัยข้อเท้าจะแพลงนะคะ” ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้ม ให้ตายสิ อยู่ๆฉันก็เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ซะงั้น เหมือนอยู่ๆมันก็ทำอะไรไม่ถูกอะ ให้ตาย! นี่ไม่ใช่ฉันเลยนะ
 
          “เดี๋ยวผมพาไปห้องพยาบาลละกันครับ เห้ย เขื่อน โทโมะพวกมึงไปที่ห้องเลยก็ได้ เดี๋ยวกูตามไป” ประโยคแรกเขาพูดกับฉันอย่างอ่อนโยน ทำเอาฉันที่มองเขาอยู่ถึงกับเคลิ้มไปนิดนึงเลยละ ให้ตายสิ นี่ฉันกำลังจะตกหลุมรักหรอ ไม่นะ! เสียชื่อฉันหมด
 
          เขาช้อนตัวฉันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่ห้องพยาบาล โดยระหว่างทางที่ยังมีรุ่นน้องบางคนที่ยังไม่ขึ้นห้องเรียนหันมามองทางเราอย่างไม่เชื่อสายตา และแน่นอนเมื่อมีการมองก็ย่อมมีการนินทาต่อ ซึ่งฉันก็ดันหูดีซะด้วยสิ
 
          “โถแก พี่ป๊อปเสร็จเจ้ฟางไปแล้วอะ”
 
          “เออ ไวชะมัดเลยอะแก ฉันเสียดายอะ”
 
          รุ่นน้องผู้หญิงสองคนพูดและมองตามหลังพวกเรามา ฉันเลี้ยวหลังไปก่อนจะพบว่ารุ่นน้องยังคงมองตามมาอยู่ ฉันหันไปขยิบตาให้ทั้งคู่ก่อนจะหันกลับมาซบอกแกร่ง
 
               ก่อนจะพบว่าเสียงหัวใจของคนตรงหน้าเต้นรัวราวกับกลองชุด..
 
 
 
 
          “ขอบคุณมากเลยๆนะคะ ที่พาฟางมาส่งห้องพยาบาลไม่งั้นฟางคงแย่แน่ๆ” ฉันที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงห้องพยาบาลพูดขึ้นหลังจากที่คุณพยาบาลเอาน้ำแข็งมาประคบให้ฉัน จนเท้าแทบชาไปหมด ก็ฉันไม่ได้เป็นอะไรนี่น่าแต่ถ้าไม่ทำมันก็ไม่เนียนนะสิ
 
          “ไม่เป็นไรครับ ผมชนคุณนี่น่า ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
 
          “จริงๆต้องเป็นฟางนะคะที่ขอโทษเพราะฟางเดินไม่ดูทางเองต่างหาก” ฉันยิ้มให้เขา ก่อนที่คนตรงหน้าจะหน้าแดงขึ้นมาเสียเฉยๆ ฉันยิ้ม ให้ตายสิ ทำไมเขาน่ารักแบบนี้กันนะ
 
          “อ้อ! แล้วไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะคะ มันจั๊กจี๊แปลกๆอะ เราชื่อฟางจ้ะ”
 
          “ยินดีที่ได้รู้จักครับฟาง ผมป๊อปปี๊แต่เรียกแค่ป๊อปก็พอ” เขายิ้มให้ฉันอย่างน่ารักจนฉันเผลอยิ้มตาม..
 
 
          “ส่งแค่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ฉันบอกเขาหลังจากที่เขาพยุงฉันมาจากห้องพยาบาลจนมาถึงหน้าห้องของฉัน
 
          และแน่นอน ว่าตอนนี้ทุกคนในห้องที่กำลังเรียนอยู่หันมองมาทางฉันและเขาอย่างเป็นตาเดียว ฉันเห็นยัยหวายกับยัยเฟย์ตรงหลังห้องมองมาอย่างเคืองๆด้วยแหะ อิอิ
 
          “ฟางเรียนห้องนี้หรอครับ” เขาถามฉันพลางมองไปที่ป้ายห้องม.5/7
 
          “ค่ะ ศิลป์ภาษาญี่ปุ่นแล้วป๊อปละค่ะ”
 
          “ผมสายวิทย์ครับ คือผมจะขอบะ..” เขาพูดยังไม่ทันจบ เสียงอาจารย์ในห้องฉันก็ดังขึ้นขัดเขาที่กำลังจะพูดทันที
 
          “ธนันต์ธรญ์! มาช้าแล้วยังไม่เข้าห้องอีก” อาจารย์! ให้ตายสิ เขากำลังจะขอเบอร์ฉันนะ!
 
          “ขอโทษค่ะอาจารย์ กำลังจะไปเดี๋ยวนี้”
 
          “งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปเรียนก่อนละกันนะครับ ตั้งใจเรียนละ”
 
          “ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” ป๊อปหมุนตัวกลับไปก่อนที่ฉันจะเดินกลับห้องเรียนอย่างสบายใจ ฉันยกมือขึ้นมาแนบอกเบาๆ ให้ตายสิ มันเกิดอะไรกับหัวใจของฉันกันนะ ฉันควรจะเล่นสนุกเหมือนที่ผ่านๆมาสิ ทำไมใจเจ้ากรรมกลับเต้นรัวแบบนี้!
                                              
 
 
 
 
 
TBC.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา