Blacklist พิชิตใจยัยจอมแสบ
8.4
เขียนโดย ChiaraCastiglione
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.27 น.
41 ตอน
253 วิจารณ์
54.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 01.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
36) เลิกกันนะ....(Enough)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ>>Tomo<<
ผมที่ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ลุกจากเตียงไปอาบน้ำเพื่อไปทำงานเพราะวันนี้วันเสาร์ ผมเปิดตู้เสื้อผ้าว่าจะหาเสื้อใส่ไปทำงานแต่พอเปิดตู้กับไม่เห็นเสื้อผ้าของแก้ว เห็นแค่เสื้อผ้าของผมคนเดียว ผมรีบวิ่งลงจากห้องไปข้างล่าง
“โทโมะ ทำไมยังไม่อาบน้ำอีกล่ะลูกเดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก” แพรวถามลูก
“แก้วล่ะครับ แก้วอยู่ไหน” โทโมะถามแม่กลับ
“เอ้า..นี่หนูแก้วไม่ได้บอกลูกเหรอ ว่าจะกลับบ้านสักพัก เห็นบอกว่าแม่ของหนูแก้วไม่สบายนะ” พอผมได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจเลยกลับขึ้นห้องแต่งตัวไปทำงานเหมือนเดิม
ขณะที่กำลังขับรถกลับบ้านผมกะว่าจะไปหาแก้วที่บ้านก่อน ผมมาจอดรถที่หน้าบ้านของแก้ว
“สวัสดีครับคุณน้า” ผมไหว้แม่ของแก้ว
“อย่าเรียกว่าน้าสิ เรียกว่าแม่ดีกว่านะ”
“อ่ะ..ครับ แล้วแก้วอยู่ไหมครับ”
“แก้วอยู่บนห้อง..เดี๋ยวให้คนไปตามให้นะจ๊ะ” แม่ของแก้วบอกแล้วขอตัวขึ้นห้อง ผมนั่งรอแก้วสักพักหญิงสาวก็เดินลงมา
“มีอะไรหรือป่าว” แก้วถามผมแบบนิ่งๆแล้วไม่หันมาสบตากับผมเลย
“ทำไมถึงกลับมาบ้านล่ะ” ผมถามแก้ว เพราะสิ่งที่แม่ผมบอกว่าแม่ของแก้วไม่สบาย แต่พอมาเจอก็ปกติดีเลยถามขึ้นด้วยความสงสัยทำไมเธอต้องโกหกผมด้วยนะ
แก้วเงียบไปสักพักแล้วหันมามองหน้าผมแบบเย็นชา “เราหย่ากันเถอะนะ” ผมมองแก้วด้วยความแปลกใจ
“ทำไมล่ะ”
“ก็เราตกลงกันแล้วไงว่าจะแต่งงานกันในนาม”
“แต่นี้ยังไม่ครบ 1 เดือนเลยนะ” ผมตอบกลับไปเพราะผมยังไม่อยากหย่ากับเธอ
“อีกไม่กี่วันก็จะครบ 1 เดือนแล้ว” แก้วยังคงพูดแบบนิ่งๆ
“ไม่ฉันไม่หย่า แล้วเธอต้องกลับไปกับฉัน” ผมดึงมือแก้วให้เดินตามมาแต่เธอก็สะบัดมือออก
“ทำไมคุณถึงไม่อยากหย่า ในเมื่อมันเป็นความต้องการของคุณแล้วนิ” แก้วมองหน้าผมเธอเริ่มน้ำตาคลอ
ผมนิ่งสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดความรู้สึกออกไป “ใช่ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะอยากหย่ากับเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ฉันรักเธอนะแก้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตอนไหนพอรู้ตัวอีกทีฉันก็ไม่อยากเสียเธอไป” ผมยื่นมือไปจับมือแก้วเอาไว้แต่เธอก็สะบัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี
“คุณจะมาหลอกอะไรฉันอีก แค่นี้มันยังไม่พอใช่ไหม มันสนุกมากใช่ไหมที่มาล้อเล่นกับความรู้สึกของฉัน” แก้วสายหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
“คุณผมไม่ได้....”ผมยังไม่ทันพูดจบแก้วก็พูดขึ้นก่อน
“คุณกลับไปเถอะ...แล้วเรื่องหย่าฉันจะรีบหย่าให้เร็วที่สุด” ในขณะที่แก้วจะเดินหนี
“ไม่...มันจะไม่มีวันนั้น” ผมพูดจบก็หันหลังแล้วเดินไปยังรถของตัวเองและขับรถกลับบ้าน ทำไมอยู่ดีมันถึงเป็นแบบนี้ก่อนหน้านี้ยังพูดดีๆกันอยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
แก้วที่มองรถของโทโมะที่แล่นออกไปก็ทรุดตัวลงแล้วน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากตาหญิงสาว เธอก็ไม่ได้รู้สึกอยากอย่ากับเขาเหมือนกันแต่ทำไงได้จะให้อยู่กับคนที่เขาไม่รักเราแล้วทำร้ายเธออีกมันก็คงไม่ใช่
>>Faye<<
หลังจากที่ฉันกลับมาจากภูเก็ตสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น มาก่อนแฟนเก่าของฉัน คนที่เมื่อก่อนฉันรักมากที่สุดเขากลับมาหาฉัน ฉันจ้องมองร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งๆ
“เฟย์ เฟย์เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย?” มาก่อนถามฉัน
“นายมาหาฉันทำไม” ฉันถามร่างสูงที่นั่งตรงหน้าโดยไม่ตอบคำถามเขา
“เฟย์เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ”
“ฉันกลับไปหานายไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่ได้เดินไปจากนาย แต่นายต่างหากที่เดินไปจากฉันเอง” ฉันพูดก่อนจะลุกขึ้นจากโฟซา “นายกลับไปเถอะ ที่นี้ไม่ต้อนรับนาย” ฉันบอกมาก่อนที่นั่งมองฉันอย่างเศร้าๆ
“เฟย์ เฟย์ยังโกรธเราอยู่ใช่ไหม” เขาไม่มีทีท่าว่าจะออกไปจากห้องฉันเลย
“ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันไม่อยากเจอนายอีก” ฉันมองหน้ามาก่อนสักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง พี่ฟางที่ยืนอยู่ตรงครัวก็หันมามองฉันและมาก่อน
มหาลัย.....
“เฟย์ ....” ฉันหันไปมองตามเสียงเรียก ชายหนุ่มร่างสูงหน้ายาวเดินตรงมาหาฉันแล้วนั่งลงข้างๆ
“หืม...”
“ทำอะไรอยู่” เขื่อนที่นั่งลงข้างๆถามฉัน
“นั่งทำโครงงานอยู่อ่ะต้องส่งก่อนปิดเทอม...แล้วมีอะไรเหรอ” ฉันถามหนุ่มหน้ายาว
“ซื้อขนมมาฝาก...อ่ะ” เขื่อนส่งคัพเค้กมาให้ฉัน
“ลองชิมสิ” ฉันเปิดกล่องคัพเค้กแล้วหยิบออกมา ฉันกัดมันเข้าปากระหว่างที่ฉันกัดคัพเค้กก็ต้องอึ้งเมื่ออยู่เขื่อนก็เข้ามากัดคัพเค้กชิ้นเดียวกับฉัน
“อืม..อร่อยเนอะ” ชายหนุ่มพูดและยิ้มอย่างหน้าตาเฉย “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ..มันไม่อร่อยเหรอ เขื่อนว่ามันอร่อยดีออกนะ”
“คัพเค้กอ่ะมันอร่อยแต่ทำไมต้องมากินชิ้นเดียวกันด้วยล่ะ” ฉันว่าชายหนุ่ม
“อ้อ...แล้วทำไมเฟย์ต้องหน้าแดงด้วยล่ะ”เขื่อนแสยะยิ้ม
“ก็...เออช่างมันเถอะ” ฉันตอบแล้วเบี่ยงหน้าหนีคนหน้ายาว
“เฟย์เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เธอถึงไม่อยากกลับมาหาเรา” แล้วจู่ๆเสียงของใครอีกคนก็พูดขึ้น
“เฟย์นี้ใครเหรอ” เขื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ฉันแฟนของเฟย์” มาก่อนพูดขึ้น
“แฟนเก่าน่ะ” ฉันพูดกับเขื่อนแล้วหันไปหามาก่อน “นายมีอะไรอีก ฉันบอกแล้วใช่ไหมฉันไม่อยากเจอหน้านาย”
“แต่เราอยากกลับมาคบกับเฟย์ เฟย์ให้โอกาสเราเถอะนะ เรารู้แล้วว่าคนที่สำคัญที่สุดของเราคือเธอ” มาก่อนไม่มีทีท่าว่าจะไปจากฉันเลย ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความเซ่าซี้ของมาก่อน
“เสียใจด้วยนะที่เฟย์กับไปหาแกไม่ได้ เพราะเฟย์เป็นแฟนฉัน” เขื่อนที่เงียบมาสักพักก็เอามือมาโอบไหล่ฉันแล้วแสยะยิ้มให้กับมาก่อน
“ใช่แล้วเรารักมากด้วย” ฉันพูดขึ้นบ้างพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้าไปหอมแก้มเขื่อนต่อหน้าต่อตามาก่อน ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้เขาก็คงไม่เชื่อหรอก มาก่อนมองฉันกับเขื่อนด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น
พอฉันเห็นว่ามาก่อนไม่หันกลับมามองก็แกะมือของเขื่อนที่โอบไหล่ออก “นายนี่ฉวยโอกาสจริงๆเลยนะ” ฉันหันไปต่อว่าเขื่อน
“แหม... ว่าแต่คนอื่นเธอก็เหมือนกันแหละ” ชายหนุ่มหน้ายาวพูดแล้วก็ยิ้มมุมปาก “ อยากแต๊ะอั๋งเค้าก็ไม่บอก” เขื่อนน้อยพูดพร้อมทำหน้าทะเล้นแล้วเลื่อนใบหน้ายาวๆเข้าใกล้ฉัน ฉันเห็นแบบนั้นรีบผลักอกกว้างๆออกอย่างรวดเร็ว “เข้าห้องเลยมั้ย” เขื่อนยังไม่หยุดเข้าดึงแขนฉันให้ตามเขาไป
“จะบ้าเหรอ เลิกทะลึ่งได้แล้ว” ฉันกระชากมือกลับมาแล้วว่าเขา
ณ ห้องชมรม
>>Poppy<<
“ไอ้ป๊อปแกกำลังคิดอะไรอยู่ว่ะ” จองเบที่นั่งเล่นเกมก็หันมาถามผม
“สงสัยคงคิดถึงฟางน้อยไง” เขื่อนที่เปิดประตูเข้าห้องมาได้ยินที่จงเบถามก็พูดขึ้น
“รู้ดีจริงๆเลยนะ” ผมหันไปว่าเขื่อน
“แล้วมันจริงมั้ยล่ะ”
“ก็เออไง” ก็ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตผมก็ไม่ได้เจอเธอมาตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว ผมเคยคิดจะไปหาเธอที่คอนโดแต่กลัวเธอไล่กลับมา ผมพูดตรงๆเลยนะผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงชอบเธอมากขนาดนี้ในเมื่อก็มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่เข้ามาหาผมเอง แค่ผมกระดิกนิ้วสาวๆก็แห่มาหาแล้ว
เออเรื่องพิมที่ทุกคนอาจสงสัยว่าทำไมผมไม่เลิกกับพิมสักที เพราะเธอเป็นคนดีผมเลยไม่อยากทำร้ายเธอ แล้วอีกอย่างสิ่งที่ผมอยากบอกผมรู้ใจตัวเองแล้วว่าคนที่ผมรักคือฟางไม่ใช่พิมผมรู้สึกดีกับพิมก็จริงแต่ในฐานะน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น แล้วตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วสินะที่ผมต้องบอกเลิกพิมสักที ผมรู้ว่ามันผิด ผมมันเลวแต่สิ่งเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากเสียฟางไปอีกแล้วมันคงเหมือนผมเห็นแก่ตัวสินะ
“ฉันตัดสินใจแล้ว” ผมพูดขึ้น
“อะไรของแกว่ะ” เขื่อนถาม
“ฉันจะไปบอกเลิกพิม” พอผมพูดเท่านั้นแหล่ะ ทุกคนในห้องหันมามองผมหมดทุกคน มันคงไม่เชื่อล่ะซิ
“ป๊อปมีอะไรค่ะ เรียกพิมออกมาแบบนี้” พิมเดินมาแล้วนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม ผมนัดเธอออกมายังร้านอาหารที่ประจำของเราสองคน “ป๊อปต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆเลย” ใช่พิเศษจริงถ้าเธอรู้เรื่องที่ผมจะพูดกับเธอ เธอต้องอึ้งแน่ๆ
“อืม สั่งอาหารก่อนสิ” ผมบอกเธอแล้วเรียกเด็กเสิร์ฟ สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ผมเลือกจะบอกเธอหลังทานอาหารเสร็จอาหารมื้อนี้อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายสำหรับเราสองคนก็ได้
“ป๊อปจะบอกพิมได้ยังค่ะ ว่ามีเรื่องอะไร” พอเราสองคนทานอาหารเสร็จพิมก็ถามผม ผมมองหน้าเธอสักพักแล้วถอนหายใจ
“พิมเราเลิกกันเถอะนะ” ตอนนี้ผมสังเกตเห็นตอนที่ผมบอกเลิกเธอ เธออึ้งพอสมควร(ไม่อึ้งได้ไงล่ะ)แล้วน้ำตาก็ค่อยๆคลอ “พิมเราคิดกับพิมเป็นแค่เพื่อนเป็นแค่พี่น้อง เราขอโทษ คนที่เรารักจริงคือ..”
“เรารู้แล้ว ป๊อปไม่ต้องพูดหรอก แต่เราอยากถามตลอดเวลาที่เราคบกันมามันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย เราทำอะไรผิดเหรอป๊อป เราทำอะไรผิด” เธอปล่อยโฮออกมาโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น เธอคงเก็บความรู้สึกไม่ได้อีกแล้วล่ะ “เรามันไม่ดีตรงไหน.... ป๊อปให้โอกาสเรานะ”
“พิมไม่เคยผิด พิมดีกับเราทุกอย่าง และเราก็ไม่อยากให้พิมเสียใจอีกแล้ว เราจบกันแค่นี้เถอะนะ” พอสิ้นเสียงของผม สาวหน้าหวานยกแก้วขึ้นแล้วสาดใส่หน้าผม มันก็สมควรแล้วล่ะ ที่ทำต้องโดนแบบนี้
เธอวิ่งร้องไห้ออกจากร้านไปด้วยความเสียใจ ทุกสายตาจับจ้องมองเราสองคน ผมจึงเรียกเด็กเสิร์ฟเช็คบิลแล้วกลับบ้าน ผมทำถูกแล้วใช่ไหม....
โปรดติมตามต่อต่อไปครัชชช......
ลิมเรื่องนี้กันหรือยังนะ!!!!
ผมที่ลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ลุกจากเตียงไปอาบน้ำเพื่อไปทำงานเพราะวันนี้วันเสาร์ ผมเปิดตู้เสื้อผ้าว่าจะหาเสื้อใส่ไปทำงานแต่พอเปิดตู้กับไม่เห็นเสื้อผ้าของแก้ว เห็นแค่เสื้อผ้าของผมคนเดียว ผมรีบวิ่งลงจากห้องไปข้างล่าง
“โทโมะ ทำไมยังไม่อาบน้ำอีกล่ะลูกเดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก” แพรวถามลูก
“แก้วล่ะครับ แก้วอยู่ไหน” โทโมะถามแม่กลับ
“เอ้า..นี่หนูแก้วไม่ได้บอกลูกเหรอ ว่าจะกลับบ้านสักพัก เห็นบอกว่าแม่ของหนูแก้วไม่สบายนะ” พอผมได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจเลยกลับขึ้นห้องแต่งตัวไปทำงานเหมือนเดิม
ขณะที่กำลังขับรถกลับบ้านผมกะว่าจะไปหาแก้วที่บ้านก่อน ผมมาจอดรถที่หน้าบ้านของแก้ว
“สวัสดีครับคุณน้า” ผมไหว้แม่ของแก้ว
“อย่าเรียกว่าน้าสิ เรียกว่าแม่ดีกว่านะ”
“อ่ะ..ครับ แล้วแก้วอยู่ไหมครับ”
“แก้วอยู่บนห้อง..เดี๋ยวให้คนไปตามให้นะจ๊ะ” แม่ของแก้วบอกแล้วขอตัวขึ้นห้อง ผมนั่งรอแก้วสักพักหญิงสาวก็เดินลงมา
“มีอะไรหรือป่าว” แก้วถามผมแบบนิ่งๆแล้วไม่หันมาสบตากับผมเลย
“ทำไมถึงกลับมาบ้านล่ะ” ผมถามแก้ว เพราะสิ่งที่แม่ผมบอกว่าแม่ของแก้วไม่สบาย แต่พอมาเจอก็ปกติดีเลยถามขึ้นด้วยความสงสัยทำไมเธอต้องโกหกผมด้วยนะ
แก้วเงียบไปสักพักแล้วหันมามองหน้าผมแบบเย็นชา “เราหย่ากันเถอะนะ” ผมมองแก้วด้วยความแปลกใจ
“ทำไมล่ะ”
“ก็เราตกลงกันแล้วไงว่าจะแต่งงานกันในนาม”
“แต่นี้ยังไม่ครบ 1 เดือนเลยนะ” ผมตอบกลับไปเพราะผมยังไม่อยากหย่ากับเธอ
“อีกไม่กี่วันก็จะครบ 1 เดือนแล้ว” แก้วยังคงพูดแบบนิ่งๆ
“ไม่ฉันไม่หย่า แล้วเธอต้องกลับไปกับฉัน” ผมดึงมือแก้วให้เดินตามมาแต่เธอก็สะบัดมือออก
“ทำไมคุณถึงไม่อยากหย่า ในเมื่อมันเป็นความต้องการของคุณแล้วนิ” แก้วมองหน้าผมเธอเริ่มน้ำตาคลอ
ผมนิ่งสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดความรู้สึกออกไป “ใช่ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะอยากหย่ากับเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ฉันรักเธอนะแก้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตอนไหนพอรู้ตัวอีกทีฉันก็ไม่อยากเสียเธอไป” ผมยื่นมือไปจับมือแก้วเอาไว้แต่เธอก็สะบัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี
“คุณจะมาหลอกอะไรฉันอีก แค่นี้มันยังไม่พอใช่ไหม มันสนุกมากใช่ไหมที่มาล้อเล่นกับความรู้สึกของฉัน” แก้วสายหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
“คุณผมไม่ได้....”ผมยังไม่ทันพูดจบแก้วก็พูดขึ้นก่อน
“คุณกลับไปเถอะ...แล้วเรื่องหย่าฉันจะรีบหย่าให้เร็วที่สุด” ในขณะที่แก้วจะเดินหนี
“ไม่...มันจะไม่มีวันนั้น” ผมพูดจบก็หันหลังแล้วเดินไปยังรถของตัวเองและขับรถกลับบ้าน ทำไมอยู่ดีมันถึงเป็นแบบนี้ก่อนหน้านี้ยังพูดดีๆกันอยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
แก้วที่มองรถของโทโมะที่แล่นออกไปก็ทรุดตัวลงแล้วน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากตาหญิงสาว เธอก็ไม่ได้รู้สึกอยากอย่ากับเขาเหมือนกันแต่ทำไงได้จะให้อยู่กับคนที่เขาไม่รักเราแล้วทำร้ายเธออีกมันก็คงไม่ใช่
>>Faye<<
หลังจากที่ฉันกลับมาจากภูเก็ตสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น มาก่อนแฟนเก่าของฉัน คนที่เมื่อก่อนฉันรักมากที่สุดเขากลับมาหาฉัน ฉันจ้องมองร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างนิ่งๆ
“เฟย์ เฟย์เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย?” มาก่อนถามฉัน
“นายมาหาฉันทำไม” ฉันถามร่างสูงที่นั่งตรงหน้าโดยไม่ตอบคำถามเขา
“เฟย์เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ”
“ฉันกลับไปหานายไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่ได้เดินไปจากนาย แต่นายต่างหากที่เดินไปจากฉันเอง” ฉันพูดก่อนจะลุกขึ้นจากโฟซา “นายกลับไปเถอะ ที่นี้ไม่ต้อนรับนาย” ฉันบอกมาก่อนที่นั่งมองฉันอย่างเศร้าๆ
“เฟย์ เฟย์ยังโกรธเราอยู่ใช่ไหม” เขาไม่มีทีท่าว่าจะออกไปจากห้องฉันเลย
“ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันไม่อยากเจอนายอีก” ฉันมองหน้ามาก่อนสักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง พี่ฟางที่ยืนอยู่ตรงครัวก็หันมามองฉันและมาก่อน
มหาลัย.....
“เฟย์ ....” ฉันหันไปมองตามเสียงเรียก ชายหนุ่มร่างสูงหน้ายาวเดินตรงมาหาฉันแล้วนั่งลงข้างๆ
“หืม...”
“ทำอะไรอยู่” เขื่อนที่นั่งลงข้างๆถามฉัน
“นั่งทำโครงงานอยู่อ่ะต้องส่งก่อนปิดเทอม...แล้วมีอะไรเหรอ” ฉันถามหนุ่มหน้ายาว
“ซื้อขนมมาฝาก...อ่ะ” เขื่อนส่งคัพเค้กมาให้ฉัน
“ลองชิมสิ” ฉันเปิดกล่องคัพเค้กแล้วหยิบออกมา ฉันกัดมันเข้าปากระหว่างที่ฉันกัดคัพเค้กก็ต้องอึ้งเมื่ออยู่เขื่อนก็เข้ามากัดคัพเค้กชิ้นเดียวกับฉัน
“อืม..อร่อยเนอะ” ชายหนุ่มพูดและยิ้มอย่างหน้าตาเฉย “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ..มันไม่อร่อยเหรอ เขื่อนว่ามันอร่อยดีออกนะ”
“คัพเค้กอ่ะมันอร่อยแต่ทำไมต้องมากินชิ้นเดียวกันด้วยล่ะ” ฉันว่าชายหนุ่ม
“อ้อ...แล้วทำไมเฟย์ต้องหน้าแดงด้วยล่ะ”เขื่อนแสยะยิ้ม
“ก็...เออช่างมันเถอะ” ฉันตอบแล้วเบี่ยงหน้าหนีคนหน้ายาว
“เฟย์เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เธอถึงไม่อยากกลับมาหาเรา” แล้วจู่ๆเสียงของใครอีกคนก็พูดขึ้น
“เฟย์นี้ใครเหรอ” เขื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ฉันแฟนของเฟย์” มาก่อนพูดขึ้น
“แฟนเก่าน่ะ” ฉันพูดกับเขื่อนแล้วหันไปหามาก่อน “นายมีอะไรอีก ฉันบอกแล้วใช่ไหมฉันไม่อยากเจอหน้านาย”
“แต่เราอยากกลับมาคบกับเฟย์ เฟย์ให้โอกาสเราเถอะนะ เรารู้แล้วว่าคนที่สำคัญที่สุดของเราคือเธอ” มาก่อนไม่มีทีท่าว่าจะไปจากฉันเลย ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความเซ่าซี้ของมาก่อน
“เสียใจด้วยนะที่เฟย์กับไปหาแกไม่ได้ เพราะเฟย์เป็นแฟนฉัน” เขื่อนที่เงียบมาสักพักก็เอามือมาโอบไหล่ฉันแล้วแสยะยิ้มให้กับมาก่อน
“ใช่แล้วเรารักมากด้วย” ฉันพูดขึ้นบ้างพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้าไปหอมแก้มเขื่อนต่อหน้าต่อตามาก่อน ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้เขาก็คงไม่เชื่อหรอก มาก่อนมองฉันกับเขื่อนด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น
พอฉันเห็นว่ามาก่อนไม่หันกลับมามองก็แกะมือของเขื่อนที่โอบไหล่ออก “นายนี่ฉวยโอกาสจริงๆเลยนะ” ฉันหันไปต่อว่าเขื่อน
“แหม... ว่าแต่คนอื่นเธอก็เหมือนกันแหละ” ชายหนุ่มหน้ายาวพูดแล้วก็ยิ้มมุมปาก “ อยากแต๊ะอั๋งเค้าก็ไม่บอก” เขื่อนน้อยพูดพร้อมทำหน้าทะเล้นแล้วเลื่อนใบหน้ายาวๆเข้าใกล้ฉัน ฉันเห็นแบบนั้นรีบผลักอกกว้างๆออกอย่างรวดเร็ว “เข้าห้องเลยมั้ย” เขื่อนยังไม่หยุดเข้าดึงแขนฉันให้ตามเขาไป
“จะบ้าเหรอ เลิกทะลึ่งได้แล้ว” ฉันกระชากมือกลับมาแล้วว่าเขา
ณ ห้องชมรม
>>Poppy<<
“ไอ้ป๊อปแกกำลังคิดอะไรอยู่ว่ะ” จองเบที่นั่งเล่นเกมก็หันมาถามผม
“สงสัยคงคิดถึงฟางน้อยไง” เขื่อนที่เปิดประตูเข้าห้องมาได้ยินที่จงเบถามก็พูดขึ้น
“รู้ดีจริงๆเลยนะ” ผมหันไปว่าเขื่อน
“แล้วมันจริงมั้ยล่ะ”
“ก็เออไง” ก็ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตผมก็ไม่ได้เจอเธอมาตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว ผมเคยคิดจะไปหาเธอที่คอนโดแต่กลัวเธอไล่กลับมา ผมพูดตรงๆเลยนะผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงชอบเธอมากขนาดนี้ในเมื่อก็มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่เข้ามาหาผมเอง แค่ผมกระดิกนิ้วสาวๆก็แห่มาหาแล้ว
เออเรื่องพิมที่ทุกคนอาจสงสัยว่าทำไมผมไม่เลิกกับพิมสักที เพราะเธอเป็นคนดีผมเลยไม่อยากทำร้ายเธอ แล้วอีกอย่างสิ่งที่ผมอยากบอกผมรู้ใจตัวเองแล้วว่าคนที่ผมรักคือฟางไม่ใช่พิมผมรู้สึกดีกับพิมก็จริงแต่ในฐานะน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น แล้วตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วสินะที่ผมต้องบอกเลิกพิมสักที ผมรู้ว่ามันผิด ผมมันเลวแต่สิ่งเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากเสียฟางไปอีกแล้วมันคงเหมือนผมเห็นแก่ตัวสินะ
“ฉันตัดสินใจแล้ว” ผมพูดขึ้น
“อะไรของแกว่ะ” เขื่อนถาม
“ฉันจะไปบอกเลิกพิม” พอผมพูดเท่านั้นแหล่ะ ทุกคนในห้องหันมามองผมหมดทุกคน มันคงไม่เชื่อล่ะซิ
“ป๊อปมีอะไรค่ะ เรียกพิมออกมาแบบนี้” พิมเดินมาแล้วนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม ผมนัดเธอออกมายังร้านอาหารที่ประจำของเราสองคน “ป๊อปต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆเลย” ใช่พิเศษจริงถ้าเธอรู้เรื่องที่ผมจะพูดกับเธอ เธอต้องอึ้งแน่ๆ
“อืม สั่งอาหารก่อนสิ” ผมบอกเธอแล้วเรียกเด็กเสิร์ฟ สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ผมเลือกจะบอกเธอหลังทานอาหารเสร็จอาหารมื้อนี้อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายสำหรับเราสองคนก็ได้
“ป๊อปจะบอกพิมได้ยังค่ะ ว่ามีเรื่องอะไร” พอเราสองคนทานอาหารเสร็จพิมก็ถามผม ผมมองหน้าเธอสักพักแล้วถอนหายใจ
“พิมเราเลิกกันเถอะนะ” ตอนนี้ผมสังเกตเห็นตอนที่ผมบอกเลิกเธอ เธออึ้งพอสมควร(ไม่อึ้งได้ไงล่ะ)แล้วน้ำตาก็ค่อยๆคลอ “พิมเราคิดกับพิมเป็นแค่เพื่อนเป็นแค่พี่น้อง เราขอโทษ คนที่เรารักจริงคือ..”
“เรารู้แล้ว ป๊อปไม่ต้องพูดหรอก แต่เราอยากถามตลอดเวลาที่เราคบกันมามันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย เราทำอะไรผิดเหรอป๊อป เราทำอะไรผิด” เธอปล่อยโฮออกมาโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น เธอคงเก็บความรู้สึกไม่ได้อีกแล้วล่ะ “เรามันไม่ดีตรงไหน.... ป๊อปให้โอกาสเรานะ”
“พิมไม่เคยผิด พิมดีกับเราทุกอย่าง และเราก็ไม่อยากให้พิมเสียใจอีกแล้ว เราจบกันแค่นี้เถอะนะ” พอสิ้นเสียงของผม สาวหน้าหวานยกแก้วขึ้นแล้วสาดใส่หน้าผม มันก็สมควรแล้วล่ะ ที่ทำต้องโดนแบบนี้
เธอวิ่งร้องไห้ออกจากร้านไปด้วยความเสียใจ ทุกสายตาจับจ้องมองเราสองคน ผมจึงเรียกเด็กเสิร์ฟเช็คบิลแล้วกลับบ้าน ผมทำถูกแล้วใช่ไหม....
โปรดติมตามต่อต่อไปครัชชช......
ลิมเรื่องนี้กันหรือยังนะ!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ