ผู้พิทักษ์

9.8

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.40 น.

  11 ตอน
  63 วิจารณ์
  18.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) คำตอบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

สนธยาแอบมองออกมาจากมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ

 

เขาพบชายหนุ่มหน้าตี๋ คนที่เขารู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรก

 

ชายคนนั้นกำลังนั่งคุยอยู่กับอารดาบนม้านั่งตัวเดิมในสวนสาธารณะแห่งนั้นเหมือนเดิม

 

เขาเกิดความรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นไปได้เขาอยากเดินตรงดิ่งไปตะบันหน้าหมอนั่นนักเชียว

 

แต่ก็ได้แค่คิดอยู่ในใจ

 

ผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอนั่นพาอารดาขึ้นรถประจำทางเพื่อจะไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง

 

สนธยาไม่รอช้า เขารีบตามทั้งคู่ไปทันที

 

ชายหนุ่มตามทั้งคู่มาจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาจองโต๊ะที่อยู่ใกล้กับทั้งสองมากที่สุด

 

แต่ก็พยายามเลือกนั่งมุมที่ลับตาไม่เป็นที่สังเกตของใครๆ ด้วย

 

หลังจากที่อารดาและนายแว่นสั่งอาหารมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ทั้งสองก็ลงมือรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้น

 

อารดาได้เอ่ยขึ้นว่า

 

“เอาเป็นว่าฉันขอบใจนายมากนะ ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าฉันจะจัดการยังไงต่อไป”

               

นายแว่นส่งรอยยิ้มให้เธอแทนคำตอบ จากนั้นเขาก็ลงมือรับประทานอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย

 

เพราะเขาแน่ใจว่าทุกสิ่งทุกอย่าง หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาคงเข้าใจดีทั้งหมดแล้ว

 

บนโต๊ะอาหารไม่มีบทสนทนาอย่างที่สนธยาคิด ทั้งๆ ที่เขาพยายามที่จะเงี่ยหูฟังด้วยความสงสัยว่าอารดาและนายแว่นกำลังจะทำอะไรกันแน่

 

แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่เขาต้องการ

 

หลังจากอาหารมื้อเที่ยงผ่านไป ทั้งอารดาและนายแว่นก็แยกย้ายกันกลับ

 

แต่วันนี้ไม่มีการอำลาที่ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวในหัวใจเหมือนกับครั้งก่อน ทำให้เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

 

หลังจากนั้นเขาก็ติดตามอารดากลับไปโดยไม่ให้เธอรู้ตัวอีกเช่นเคย

 

แต่คราวนี้ชายหนุ่มแปลกใจเป็นอย่างมากที่อารดาไม่ได้มุ่งหน้ากลับไปที่หอพักเช่นเคย

 

แต่เธอมุ่งหน้าไปยังหอสมุดที่มหาวิทยาลัยของเธอแทน

 

สนธยาสงสัยว่าทำไมเธอจึงมาที่นี่ ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดแท้ๆ แต่เธอก็เลือกที่จะเข้ามาในมหาวิทยาลัย

 

อารดาเดินเข้าไปที่หอสมุดแห่งนั้น เธอเดินตรงไปที่เคาเตอร์ให้บริการยืม-คืน

 

แล้วบอกพี่เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่โต๊ะว่า

 

“หนูมารับหนังสือที่ฝากไว้คืนค่ะ”

 

ดูเหมือนพี่เจ้าหน้าที่จะเข้าใจความหมายที่เธอบอก เพราะทันทีที่เธอพูดจบ พี่เจ้าหน้าที่ก็เดินไปค้นหาหนังสือที่ตู้หนังสือด้านในทันที

 

และสักครู่ก็เดินกลับออกมาพร้อมกับ “เพื่อนที่มองไม่เห็น”เล่มใหญ่หนาในมือมายื่นให้กับอารดา

 

เธอรับหนังสือมาพร้อมกับพูดว่า

 

“ขอบคุณนะคะพี่ ที่ช่วยเก็บไว้ให้”

 

หญิงสาวยิ้มเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะรับหนังสือมาถือไว้ในมือ

 

ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป แต่ก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอจึงหันหลังกลับมาและเอ่ยขึ้นว่า

 

“ขอโทษนะคะ แล้วของที่อยู่ในหนังสือล่ะค่ะพี่”

 

พี่เจ้าหน้าที่เปิดลิ้นชักและหยิบบางอย่างซึ่งหุ้มด้วยกระดาษสีน้ำตาลออกมายื่นให้อารดา

 

หญิงสาวรับมาถือไว้ในมือ เธอกล่าวขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่อีกครั้งก่อนจะเดินออกมา

 

………………………………………………

 

บนดาดฟ้าสูง อารดานั่งอยู่บนพื้นดาดฟ้า เธอเปิดห่อกระดาษสีน้ำตาลหยิบบางอย่างออกมาจากห่อกระดาษนั้น

 

จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังขอบดาดฟ้า

 

สนธยาแอบมองอยู่ในอีกมุมหนึ่ง เขาไม่แน่ใจว่าหญิงสาวคิดจะทำอะไรกันแน่

 

ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาว่าเธอคงจะไม่คิดทำอะไรที่มันทำให้เขาต้องหัวใจหยุดเต้นและช็อคไปเลยหรอกน่า

 

แต่ทว่า เขากลับคิดผิดถนัด

 

อารดาค่อยๆ เดินไปหยุดที่บริเวณขอบของดาดฟ้า เธอค่อยๆ ยกวัตถุที่ถืออยู่ในมือขึ้นสูงระดับอก

 

และค่อยๆ ปล่อยมือออกจากวัตถุนั้นช้าๆ หลังจากที่เธอยกมันขึ้นจนมันอยู่นอกเหนือขอบดาดฟ้าแล้ว

 

“อย่านะ อารดา”

 

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังก่อนที่เธอจะทันปล่อยมือออกจากวัตถุนั้นทั้งหมด

 

เธอชะงักมือไว้ได้ทัน ก่อนจะหันมามองเจ้าของเสียงพร้อมทั้งพูดขึ้นว่า

 

“ทำไมฉันถึงจะทิ้งมันไปไม่ได้ล่ะ”

 

เขาบอกเธอว่า

 

“ฉันบอกไม่ได้หรอกนะว่าทำไมเธอถึงจะทิ้งมันไม่ได้ แต่ถ้าเธอทำแบบนั้นเธอไม่คิดบ้างเหรอว่า คนที่ให้เขาจะเสียใจขนาดไหน”

 

หญิงสาวตอบไปตามที่ใจคิด

 

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคนที่ให้ เขาต้องการอะไรกันแน่ แต่ถ้าเขาเป็นฉัน เขาก็ต้องทำอย่างฉันเหมือนกัน”

 

เขาถามกลับทันควันว่า

 

“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ อารดา”

 

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกมายาวๆ 1 ครั้ง เหมือนกำลังพยายามควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตนเอง

 

ก่อนจะตัดสินใจตอบคำถามนั้นว่า

 

“ก็เพราะว่าฉันเกลียดคนขี้ขลาดนะสิ”

 

เขายังคงยิงคำถามต่อไปอีกว่า

 

“ทำไมล่ะอารดา อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าเขาเป็นคนขี้ขลาดล่ะ”

 

หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดข้อสงสัยของคู่สนทนาคนนี้นัก

 

เธอจึงตัดสินใจตอบเสียงดังจนเกือบเป็นตะโกนด้วยความโมโหไปว่า

 

“ก็คนขี้ขลาดที่ส่งของพวกนี้มา แต่ไม่ยอมแสดงตัวออกมาซักทีนะสิ”

 

เมื่อหญิงสาวพูดจบ เธอก็หันหลังกลับไป และพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า

 

“ฉันจะโยนของพวกนี้ทิ้งให้หมดเดี๋ยวนี้ อย่ามาห้ามฉันซะให้ยากเลยนะ นายแว่น ฉันตัดสินใจแล้ว” .....

 

( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา