ไกลปืนเที่ยง
9.0
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ฉันยอมแล้วจ่ะ อย่าทำอะไรฉันกับลูกเมียเลยนะ" ปลัดทินกรก้มลงกราบวิงวอนต่อหน้าชายฉกรรจ์ทั้ง 4 อย่างลนลานพลางหันไปดูภรรยากับลูกที่กำลังถูกปืนพกของ 1 ใน 3 ชายฉกรรจ์ที่จี้เอวอยู่
"ดี ... ว่ากันง่ายๆแบบนี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่มีใครเจ็บตัว ไอ้ฉันมันก็ขี้เกียจยัดลูกตะกั่วเข้าปากใครซะด้วย ขี้เกียจมีปัญหา ....เข้าใจไหม" สามคำสุดท้ายไอ้หนวดเคราคนหนึ่งตะคอกใส่ท่านปลัด ทำเอาท่านปลัดสะดุงสุดตัวด้วยความกลัว
"จะดีเหรอพี่ .... ปล่อยมันไปง่ายๆแบบนี้น่ะ ฉันว่านังเมียมันก็สวยเอาเรื่องอยู่นา ปล่อยไปเฉยๆอย่างนี้จะดีรึ" 1ใน 3 ลูกน้องทักท้วงหัวหน้า ไอ้เคราดำมองหน้าหญิงสาวพิจารณาอยู่นิดหนึ่งก็ถอนใจ
"เอาก็เอาวะ ..... จริงของเอ็งว่ะไอ้เชิด น่าเสียดาย" ว่าแล้วก็เข้าไปลวนลามหญิงสาวผู้ซึ่งเป็นเมียของปลัดทินกร ท่านปลัดได้แต่มองด้วยความเจ็บแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ หญิงสาวกรีดร้องลั่นด้วยความอับอาย ครั้งหนึ่งปลัดทนไม่ไหวลุกขึ้นจะต่อสู้ แต่ก็ถูกไอ้เคราดำตีด้วยด้ามปืนสั้นลูกโม่ที่พกมา ทำเอาเลือดปลัดไหลนอง ได้แต่กุมศรีษะที่เลือดไหลโชก มองดูไอ้เคราดำและลูกน้องของมันข่มขืนเมียรักอย่างแค้นใจ
รุ่งเช้า ..... ไร้ซึ่งวี่แววของปลัดทินกรอีกแล้ว เพราะท่านและครอบครัวได้ย้ายออกจากบ้านพักของปลัดไปตั้งแต่เช้ามืดตามคำสั่งของไอ้เคราดำ ผู้ซึ่งรับคำสั่งมาจาก "ผู้ใหญ่ทรง" อีกทอดหนึ่ง ชาวบ้านโคกอีแร้งมองดูจวนบ้านพักของปลัดซึ่งบัดนี้ว่างเปล่าเสียแล้ว พลางลอบถอนใจอย่างหดหู่ ก็เพราะเหตุใดเล่าในเมื่อที่พึ่งพาใบบุญสุดท้ายได้จากไปแล้ว จะมีใครเหลือเป็นที่พึ่งพาของชาวโคกอีแร้งได้อีก ชาวบ้านทั้งหลายต่างก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกันต่อไป ในเมื่อไม้ซีกงัดไม้ซุงไม่ได้ก็ไม่มีใครเสี่ยงที่จะไปงัดมัน
ณ บ้านของกำนันเล้ง " ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงโว้ยย ..... หนอยไอ้ปลัดทินกร ทำมางัดข้ออวดดีกับข้า กำนันเล้ง แห่งโคกอีแร้ง ชะชะช่า ช่างไม่เจียมกะลาหัว ทำมาเป็นข้าราชการตงฉิน ทำงานตรงไปตรงมาช่วยเหลือชาวบ้าน น่าหมั่นไส้นักอย่าหวังเลยโว้ยยยย หากกูยังอยู่" กำนันเล้งผู้มีศรีษะล้าน และลงพุงหัวเราะชอบใจจนพุงกระเพื่อมไปมา
"แต่ก็เหนื่อยพอควรนะพี่กำนัน กว่ามันจะยอมจำนนกับเราก็เสียเวลาไปหลายอาทิตย์อยู่" ผู้ใหญ่ทรง ผู้มีมาดสุขุมไว้หนวดที่ริมฝีปากขยับหนวดไปมา พลางเอามือลูบหนวดเล่นอย่างคนเจ้าความคิด
"แต่ยังไงๆก็ต้องยกความดีให้ไอ้เคราดำมัน ที่มันทำงานนี้สำเร็จ" กำนันเล้งลูบหลังไอ้เคราดำอย่างชอบอกชอบใจ "วันนี้กูจะพาพวกมึงไปเที่ยวในเมือง กินกันให้เต็มที่ทั้งมึงและลูกน้องมึงอีก 3 ตัวด้วย จากนั้นก็ไปปลดปล่อยความเป็นชายกันในซ่องเจ้หงส์ ดีไหมวะ ฮ่าๆๆๆๆๆ" กำนันชั่วหัวเราะชอบใจจนพุงกระเพื่อมอีกรอบ
หลังจากอิ่มเอมกับอาหารแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายพาผู้หญิงไปหลับนอนกันในห้อง เมื่อเสร็จกิจ เคราดำจุดบุหรี่สูบมวนหนึ่งควันสีเทาจางๆผ่านออกจากปากรกครึ้มด้วยหนวดเคราสีดำทะมึน ปล่อยความคิดให้ล่องลอย ชีวิตที่ผ่านมาของมันมีแต่ความทะเยอทะยาน การฆ่าฟันและความรุนแรง กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้วที่มันทำร้ายผู้บริสุทธ์มานับไม่ถ้วน ช่างปะไรพวกนั้นมันคนอ่อนแอ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่ได้ในโลกใบนี้ ดูสิชีวิตที่ผ่านมามันมีแต่ความสบาย ตั้งแต่มาทำงานให้กับ "ผู้ใหญ่ทรง" ชีวิตมันมีแต่ดีขึ้นอยากได้อะไรก็ได้หมด เพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้นผู้ใหญ่ทรงก็จัดหาให้ ตราบใดที่มันยังเป็นที่ชื่นชอบของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งโคกอีแร้ง ไม่มีอะไรที่มันอยากได้แล้วไม่ได้ ยกเว้นสิ่งหนึ่งซึ่งมาบัดนี้มันก็ยังไม่เคยได้มาไว้ในมือเลยนั่นคือ "มะปราง"
"ดี ... ว่ากันง่ายๆแบบนี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่มีใครเจ็บตัว ไอ้ฉันมันก็ขี้เกียจยัดลูกตะกั่วเข้าปากใครซะด้วย ขี้เกียจมีปัญหา ....เข้าใจไหม" สามคำสุดท้ายไอ้หนวดเคราคนหนึ่งตะคอกใส่ท่านปลัด ทำเอาท่านปลัดสะดุงสุดตัวด้วยความกลัว
"จะดีเหรอพี่ .... ปล่อยมันไปง่ายๆแบบนี้น่ะ ฉันว่านังเมียมันก็สวยเอาเรื่องอยู่นา ปล่อยไปเฉยๆอย่างนี้จะดีรึ" 1ใน 3 ลูกน้องทักท้วงหัวหน้า ไอ้เคราดำมองหน้าหญิงสาวพิจารณาอยู่นิดหนึ่งก็ถอนใจ
"เอาก็เอาวะ ..... จริงของเอ็งว่ะไอ้เชิด น่าเสียดาย" ว่าแล้วก็เข้าไปลวนลามหญิงสาวผู้ซึ่งเป็นเมียของปลัดทินกร ท่านปลัดได้แต่มองด้วยความเจ็บแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ หญิงสาวกรีดร้องลั่นด้วยความอับอาย ครั้งหนึ่งปลัดทนไม่ไหวลุกขึ้นจะต่อสู้ แต่ก็ถูกไอ้เคราดำตีด้วยด้ามปืนสั้นลูกโม่ที่พกมา ทำเอาเลือดปลัดไหลนอง ได้แต่กุมศรีษะที่เลือดไหลโชก มองดูไอ้เคราดำและลูกน้องของมันข่มขืนเมียรักอย่างแค้นใจ
รุ่งเช้า ..... ไร้ซึ่งวี่แววของปลัดทินกรอีกแล้ว เพราะท่านและครอบครัวได้ย้ายออกจากบ้านพักของปลัดไปตั้งแต่เช้ามืดตามคำสั่งของไอ้เคราดำ ผู้ซึ่งรับคำสั่งมาจาก "ผู้ใหญ่ทรง" อีกทอดหนึ่ง ชาวบ้านโคกอีแร้งมองดูจวนบ้านพักของปลัดซึ่งบัดนี้ว่างเปล่าเสียแล้ว พลางลอบถอนใจอย่างหดหู่ ก็เพราะเหตุใดเล่าในเมื่อที่พึ่งพาใบบุญสุดท้ายได้จากไปแล้ว จะมีใครเหลือเป็นที่พึ่งพาของชาวโคกอีแร้งได้อีก ชาวบ้านทั้งหลายต่างก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกันต่อไป ในเมื่อไม้ซีกงัดไม้ซุงไม่ได้ก็ไม่มีใครเสี่ยงที่จะไปงัดมัน
ณ บ้านของกำนันเล้ง " ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงโว้ยย ..... หนอยไอ้ปลัดทินกร ทำมางัดข้ออวดดีกับข้า กำนันเล้ง แห่งโคกอีแร้ง ชะชะช่า ช่างไม่เจียมกะลาหัว ทำมาเป็นข้าราชการตงฉิน ทำงานตรงไปตรงมาช่วยเหลือชาวบ้าน น่าหมั่นไส้นักอย่าหวังเลยโว้ยยยย หากกูยังอยู่" กำนันเล้งผู้มีศรีษะล้าน และลงพุงหัวเราะชอบใจจนพุงกระเพื่อมไปมา
"แต่ก็เหนื่อยพอควรนะพี่กำนัน กว่ามันจะยอมจำนนกับเราก็เสียเวลาไปหลายอาทิตย์อยู่" ผู้ใหญ่ทรง ผู้มีมาดสุขุมไว้หนวดที่ริมฝีปากขยับหนวดไปมา พลางเอามือลูบหนวดเล่นอย่างคนเจ้าความคิด
"แต่ยังไงๆก็ต้องยกความดีให้ไอ้เคราดำมัน ที่มันทำงานนี้สำเร็จ" กำนันเล้งลูบหลังไอ้เคราดำอย่างชอบอกชอบใจ "วันนี้กูจะพาพวกมึงไปเที่ยวในเมือง กินกันให้เต็มที่ทั้งมึงและลูกน้องมึงอีก 3 ตัวด้วย จากนั้นก็ไปปลดปล่อยความเป็นชายกันในซ่องเจ้หงส์ ดีไหมวะ ฮ่าๆๆๆๆๆ" กำนันชั่วหัวเราะชอบใจจนพุงกระเพื่อมอีกรอบ
หลังจากอิ่มเอมกับอาหารแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายพาผู้หญิงไปหลับนอนกันในห้อง เมื่อเสร็จกิจ เคราดำจุดบุหรี่สูบมวนหนึ่งควันสีเทาจางๆผ่านออกจากปากรกครึ้มด้วยหนวดเคราสีดำทะมึน ปล่อยความคิดให้ล่องลอย ชีวิตที่ผ่านมาของมันมีแต่ความทะเยอทะยาน การฆ่าฟันและความรุนแรง กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้วที่มันทำร้ายผู้บริสุทธ์มานับไม่ถ้วน ช่างปะไรพวกนั้นมันคนอ่อนแอ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่ได้ในโลกใบนี้ ดูสิชีวิตที่ผ่านมามันมีแต่ความสบาย ตั้งแต่มาทำงานให้กับ "ผู้ใหญ่ทรง" ชีวิตมันมีแต่ดีขึ้นอยากได้อะไรก็ได้หมด เพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้นผู้ใหญ่ทรงก็จัดหาให้ ตราบใดที่มันยังเป็นที่ชื่นชอบของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งโคกอีแร้ง ไม่มีอะไรที่มันอยากได้แล้วไม่ได้ ยกเว้นสิ่งหนึ่งซึ่งมาบัดนี้มันก็ยังไม่เคยได้มาไว้ในมือเลยนั่นคือ "มะปราง"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ