RAUSANNE แทนใจรักในใจเธอ

9.3

เขียนโดย signorina

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.37 น.

  25 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 12.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ด้วยความยินดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

7

~ ด้วยความยินดี ~

 

            ป้ายรอรถประจำทางถนนบรู๊คส์

 

            โรวว์แซนกับแมคซ์มายืนรอรถประจำทางเพื่อไปเรียน อึดใจเดียวรถก็แล่นมาจอดตรงหน้า บนรถมีที่นั่งว่างมากมาย แมคซ์เข้าไปนั่งที่นั่งข้างในริมหน้าต่างแล้วโรวว์แซนก็หย่อนกายลงนั่งข้างๆ เขา

            แมคซ์หวนคิดถึงเมื่อวันแรกที่โรวว์แซนเริ่มต้นนั่งรถประจำทางไปเรียนด้วยกันกับเขา เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่โรวว์แซนต้องการให้เขานั่งรถไปเรียนด้วยกัน แต่คุณพ่อของเขา วินด์เซอร์ที่สองไม่เห็นด้วย พร้อมยืนกรานอย่างหนักแน่นกับประเด็นที่ว่า สมาชิกตระกูลวินด์เซอร์จะต้องไม่บั่นทอนความเป็นวินด์เซอร์ด้วยการใช้ชีวิตในระดับเดียวกับเด็กในบ้าน

            โรวว์แซนกับคุณปู่ของเขาจึงเกิดความคิดสร้างสรรค์เรื่องการนั่งรถประจำทางไปเรียน ซึ่งเอ่อ... ฟังดูไม่แตกต่างกันเลย แต่โรวว์แซนก็พออกพอใจกับความคิดนี้

            แมคซ์ยังจำได้ดี เมื่อแม่เขาเคยเล่าให้ฟังว่า โรวว์แซนนั้นถอดแบบมาจากแม่ของเขาไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ และทุกครั้งเมื่อพูดถึง… ธัญญ่า วินด์เซอร์  เรื่องก็จะจบอยู่เพียงเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นๆตามมาอีก

            อืม ความเจ็บปวด... ของโรวว์แซน ของตระกูลวินด์เซอร์

 

            รถประจำทางแล่นต่อไปเรื่อยๆ โรวว์แซนกำลังนั่งกอดอกด้วยท่าทีผ่อนคลาย ต่อมาก็เปลี่ยนท่าเป็น เอนหลังพิงพนัก แล้วประกบนิ้วเข้าด้วยกัน เขาหวนนึกถึงเรื่องเมื่อวาน สาวน้อยของชายผู้สวมสูทผูกไท และกระดาษแผ่นนั้น

            เขายิ้ม เมื่อเห็นว่ารถประจำทางกำลังเตรียมจอดที่ป้ายหยุดรถถนนกรีนสตรีท เมื่อประตูรถเปิดออก เขามองเธอก้าวขึ้นมา เธอเลือกที่นั่งกลางๆ เธอขยับตัวเข้าไปนั่งริมหน้าต่าง

            ใช่แล้ว เธอนั่งคนเดียว

            ทันใดนั้น แมคซ์ทำท่ากระแอมเสียงดัง ขัดขึ้นมา

            “มองอะไรเหรอ” เขาถาม

            “…….” โรวว์แซนไม่ตอบแต่ยักไหล่ให้ แล้วยิ้ม

            “ไปเลยพวก ฉันรู้น่า” แมคซ์เชียร์

            โรวว์แซนมีสีหน้าลังเลอยู่พักหนึ่ง หันมามองหน้าแมคซ์ แล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไป

 

            แอลลิเซ่นกำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อควานหาหูฟัง แต่แล้วเธอก็ชะงักนิดหนึ่ง เธอหันขวับมาทางขวามือ ผู้ชายคนนั้นนั่นเอง เธอคิด

            โรวว์แซน ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงและยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส ต่างจากใบหน้าอันเย่อหยิ่งที่เธอเห็นเมื่อวานนี้โดยสิ้นเชิง เธอยิ้มตอบ ผงกศีรษะเล็กน้อยตามมารยาท แล้วเขาก็หย่อนกายลงข้างๆ เธอ นั่งเอียงกายหันมาทางเธอเล็กน้อยทำมุม อืม กิริยาที่แสนสุภาพ

 

            “ไฮ !”

            เอ่อ ไฮ  เนี่ยนะ เธอคิด

            “หวัดดี” เธอตอบ

            เขาพยักหน้าเล็กน้อย

            “ผมชื่อ โรวว์แซน เมื่อวานนี้ได้รับข้อความจากคุณ”

            แอลลิเซ่นยิ้ม พยายามซ่อนความขัดเขิน

            “อ่อ เอ่อ ใช่ ฉันชื่อแอลลิเซ่น ขอบคุณอีกครั้งเรื่องที่ช่วยฉันวันนั้น เอ่อ ไม่ว่าคุณตั้งใจจะทำอยู่แล้วหรือมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ฉันก็ต้องขอบคุณ”

            โรวว์แซนเอียงศีรษะเล็กน้อย ทำสีหน้าประหลาดใจ แล้วยิ้มร่าเริง

            เธอยิ้มตอบ เป็นรอยยิ้มที่น่าขันนัก

 

            แอลลิเซ่นเพิ่งได้มองเขาใกล้ๆ เป็นครั้งแรก เธอสังเกตว่า ผมของเขาเป็นสีทองเงางามทั้งศีรษะ นัยน์ตาของเขา… สีเขียวอ่อนหรือสีฟ้านะ เธอคิด

            ทั้งสองคนเริ่มสนทนาทำความรู้จักกันด้วยคำถามทั่วๆ ไป เช่น เรื่องโรงเรียน เรื่องเทศกาลอาหารที่เพิ่งจบลง และที่มาที่ไปของชื่อ

            อืม ใช่แล้ว ที่มาที่ไปของชื่อแอลลิเซ่น นั่นเอง

            “เอ่อ รังเกียจมั้ยถ้าผมอยากจะถามถึงชื่อของคุณ” เขายิ้ม

            แอลลิเซ่นสะกดใจไม่ให้เผลอกลอกตา

            “อืม ชื่อของฉัน เอ่อ… ALLICENNE มาจากคำภาษาเยอรมันเก่านะ คำเดิมคือ ALISON แต่พ่อของฉันตั้งใจคิดชื่อนี้ขึ้นมา มาจากชื่อคุณยาย A L I C E และชื่อคุณแม่ A N N A ค่ะ”

            โรวว์แซนยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น เขาพยักหน้าน้อยๆ

            แอลลิเซ่นเห็นว่า ถึงตาเธอแล้ว

            “แล้วชื่อคุณหล่ะ”

            “หืมม ชื่อโรวว์แซน นะหรอ” เขาว่า

            เธอขำเบาๆ “ก็ใช่นะสิ คุณมีหลายชื่อหรือไง”

            เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย ขำเบาๆ

 

            โรวว์แซนรู้สึกชื่นชมในตัวเธออย่างมาก เธอเป็นคนผิวขาวเหลืองสมบูรณ์แบบ เขายังดูออกว่าใบหน้าของเธอไม่มีเครื่องสำอางค์ใดๆ มาบดบังความเรียบเนียนของผิวหนังเลย เธอมีดวงตาโตที่เรียวงามคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ เมื่อใดที่เธอยิ้มเขารู้สึกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่จริงใจและเธอมักแสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้า ทำให้โรวว์แซนอดขำไม่ได้

            เขายักไหล่ก่อนตอบเธอ

            เสี้ยววินาที แอลลิเซ่นมองเห็นความโศกเศร้าผ่านเข้ามาในดวงตาสีเขียวฟ้าคู่นั้น แล้วก็ผ่านไป เขายิ้ม

            “อ่า ผมมีชื่อเดียว โรวว์แซน เขียนว่า RAUSANNE เข้าใจว่าคุณแม่ของผมชื่นชมงานเขียนของจิตรกรหญิงท่านหนึ่งที่ชื่อโรแซน ส่วนความหมายคือ กุหลาบที่สวยสดงดงาม”

            แอลลิเซ่นอ้าปากค้าง แล้วหุบลงในครึ่งวินาทีต่อมา

            “สรุปว่า ชื่อของคุณเป็นชื่อผู้หญิงงั้นหรอ”

            “ใช่” เขาตอบ

            “อืม ก็ดีนะ ไม่เหมือนใคร”

            เขายิ้มพลางกลอกตาให้กับข้อสังเกตของเธอ

            เมื่อแอลลิเซ่นเหลียวมองไปทางหลัง แมคซ์กำลังจ้องเขม็งมาทางนี้ แล้วรีบหันไปทางอื่นทันทีที่เธอเห็นเขา

            “นั่นเพื่อนคุณนี่คะ”

            เขาตอบ “ใช่”

            “แล้วทำไมปล่อยให้เขานั่งคนเดียวหล่ะ”

            เขายิ้ม ยักไหล่ “เขาเป็นคนไล่ผมมา”

            แอลลิเซ่นขมวดคิ้ว แล้วยิ้ม

 

            โรวว์แซนก้มดูนาฬิกา เขาคำนวณดูแล้วอีกไม่กี่นาทีนี้ รถก็จะแล่นไปถึงป้ายหยุดรถโรงเรียนเฮกซ์เตอร์ เขานึกอะไรได้อย่างหนึ่ง

            “เดี๋ยวผมมานะแอลล์”

            แอลลิเซ่นพยักหน้างงๆ …แอลล์เนี่ยนะ เธอคิด

            โรวว์แซนเดินกลับไปยังที่นั่งของเขาข้างๆ แมคซ์ ทำอะไรบางอย่างลุกลี้ลุกลน แล้วเดินกลับมานั่งข้างแอลลิเซ่น

            อึดใจต่อมา รถเตรียมจอดที่ป้ายโรงเรียนเฮกซ์เตอร์

            “ไว้เจอกันใหม่” เขาเอ่ย

            แอลลิเซ่นพยักหน้า เขายิ้มให้เธอก่อนผละลุกขึ้นไป แอลลิเซ่นสังเกตว่า ใบหน้าของเธอ จู่ๆ ก็รู้สึกอุ่นขึ้นมาซะอย่างนั้น

            แอลลิเซ่นลงจากรถประจำทางในเวลาต่อมา

 

            เธอเดินตรงไปยังอาคารห้องสมุด วันนี้เธอตกลงกับมีว่าจะไปนั่งค้นคว้าหาข้อมูลทำรายงานกัน เมื่อเธอไปถึงหน้าอาคารก็พบว่า มีนั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว มีนั่งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง หยอกล้อกันไปมา แอลลิเซ่นเดาได้ทันทีว่า เป็นแฟนหนุ่มของมี… แมททิว ชาง นั่นเอง

            มี เคยเล่าให้ฟังว่า แฟนหนุ่มของเธอเรียนอยู่ที่เฮกซ์เตอร์ไฮสคูล ครอบครัวของแมททิวเพิ่งย้ายมาจากไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว ส่วนมีนั้น เธอเกิดและโตที่นี่ แม่ของเธอเป็นสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาพบรักกับพ่อของเธอซึ่งเป็นอเมริกัน มีจึงพูดได้ทั้งภาษาจีนกลางและอังกฤษ จุดเริ่มต้นที่ทั้งสองคบหากันก็มาจากการที่พูดภาษาเดียวกันนี่เอง

            แอลลิเซ่นทักทายมี

            “ไฮ้! มี รอฉันนานรึเปล่า”

            แมททิวยิ้ม พยักหน้า

            มี เงยหน้าขึ้น

            “อ้าว เฮ้ แอลลี่ ฉันกับแมทเพิ่งมาถึง เรายังคุยเรื่องเธอกันอยู่เลย”

            “ยินดีที่ได้พบกันเสียทีนะแอลลี่” แมททิวว่า เขายิ้ม

            “อ๋อ ใช่สิ มีคงจะเอาเรื่องเสียๆ หายๆ ของฉันไปคุยไว้เยอะละสิ”

            เธอหันไปค้อนใส่มีหนึ่งที มีค้อนกลับ   แมททิวท้วงขึ้น

            “เปล่าเลยแอลลี่ มีบอกว่าชอบเธอ ชมนั่นชมนี่ ไม่ขาดปาก”

            มีแลบลิ้นใส่เธอ “เห็นมั้ยละจ้ะ เพื่อนสาว”

             “เอาละๆ เราจะเริ่มทำรายงานกันได้หรือยังหล่ะ” แอลลิเซ่นยิ้ม

            แมททิวว่า “โอเค งั้นเชิญสาวๆ ไปทำรายงานกัน ผมต้องไปเรียนแล้ว”

            “จ้ะ ไว้เจอกัน” แอลลิเซ่นว่า

            มีทำมือเป็นโทรศัพท์มือถือ แมททิวยิ้ม พยักหน้าแล้วผละออกไป

            แอลลิเซ่นหันหลังเดินไปยังประตูทางเข้าห้องสมุด มีเดินตามมาติดๆ เธอเริ่มต้นพูดขึ้น แล้วชะงักกลางคัน   
            “แอลลี่ นี่เราจะเริ่มต้นทำหัวข้อ…………”

 

            แอลลิเซ่นหันหน้ามา พบว่า มีกำลังดึงอะไรบางอย่าง สีขาวๆ ออกจากชายผ้าพันคอของเธอ กระดาษนั่นเอง มีกระพริบตาถี่ๆ ทำหน้าประหลาดใจ แล้วยื่นกระดาษเล็กๆ ใบนั้นมาให้เธอ

            แอลลิเซ่นหยิบมา มีข้อความปรากฏอยู่บนกระดาษ

            ด้วยความยินดี !!  

            เธอยิ้มและเข้าใจทันทีที่เห็นข้อความนั้น

            เป็นข้อความจากโรวว์แซนแน่ๆ คงเป็นคำตอบรับข้อความของเธอที่ขอบคุณเขาเมื่อครั้งก่อน แต่เธอก็ยังแปลกใจว่าเขามาทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน อืม คงเป็นตอนที่คุยกันบนรถประจำทาง เธอคิด

 

            “ใครนะ แอลลี่ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ” มีถามขึ้น

            แอลลิเซ่นตอบ “เพื่อนคนหนึ่งนะ ฉันเพิ่งรู้จักเขาวันนี้นี่เอง”

            “เขา หรอ เขาหมายถึงผู้ชายนะสิ บอกมาเดี๋ยวนี้ แบบละเอียดเลยนะ”

            อืม นั่นหละ มีตัวจริง

            แอลลิเซ่นเลยต้องเล่าเรื่องโรวว์แซน ให้มีฟัง มีถึงกับตะลึงเมื่อเธอรู้ว่าเป็นโรวว์แซนคนที่เธอเคยพบครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่แมททิวพาเธอไปที่ชมรมว่ายน้ำที่เฮกซ์เตอร์

            “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย แอลลี่ เธอรู้มั้ยเมื่อตอนที่ฉันพบเขาที่เฮกซ์เตอร์นะ ฉันแอบจับตามองเขาอยู่หลายครั้งเลยหละ คนอะไรไม่รู้ดูดีชะมัด เขาแค่เดินไปเดินมา ไม่ค่อยสุงสิงกับใครนะ ฉันเคยซื้อนิตยสารวัยรุ่นชื่อดังเล่มหนึ่งที่มีเขาขึ้นปกนะ รู้มั้ย เขาไม่เคยออกเดทกับใครเลย อ้อ หรืออาจจะเคย… กับสาวสวยคนหนึ่ง… ฮืมม… ใช่รึเปล่านะ”

            “ตกลงว่าเราเปลี่ยนหัวข้อรายงานเป็นหัวข้อเรื่อง โรวว์แซน ดีมั้ย” แอลลิเซ่นท้วงขึ้นมาก่อนที่เรื่องราวจะไปไกลมากกว่านี้

            แล้วบทสนทนาหัวข้อเรื่อง โรวว์แซน ก็จบลง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา