Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  42.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) อิสระของนกในกรง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่เกิดขึ้นทันทีที่สัตว์ประหลาดถูกกำจัดลงได้นั้นได้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความตื่นตระหนกขึ้นในใจของมนุษย์ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นโดยไม่รู้ตัว พื้นดินและใบหญ้าเกิดการพองตัวจากด้านล่างขึ้นไปแทนที่อากาศเหนือชั้นพื้นก่อนจะเกิดการปะทุตัวขึ้นสูงจนมีเศษฝุ่นสีน้ำตาลคล้ำและก้อนกรวดสีเทาแข็งๆกระเด็นออกไปทั่วบริเวณ บางชิ้นก็ตกลงสู่พื้นโดยสวัสดิภาพ แต่ก็มีหลายชิ้นที่จู่โจมใส่ตึกรามบ้านช่องรอบๆจนเสียหายไปตามๆกัน


"นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!"

หากแต่ความโกลาหลที่เกิดขึ้นนั้นหาได้เป็นเพราะการปะทะตัวของหน้าดินนั้นไม่... หลังฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นนั้นจางลงก็ปรากฏหลุมลึกขนาดเส่นผ่านศูนย์กลางราวๆสองเมตรที่พื้นถนน เมื่อกลุ่มคนที่เริ่มตั้งสติได้และหันมาสนใจสิ่งที่อาจจะมอบเลขเด็ดให้กับพวกเขาได้นั้น... ความโกลาหลที่แท้จริงก็อุบัติขึ้นมา


ครั้งนี้ไม่ใช่อาฟเตอร์ช็อคที่ปรากฏให้เห็นเป็นแฟล็กประจำภาพยนตร์หรือนวนิยายเอาชีวิตรอดที่มีให้เห็นจนเหมือนกับเป็นคู่มือการเขียนช่วงต้นเรื่องแต่อย่างใด หากแต่เจ้าสิ่งนั้นอยู่ในรูปของสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดขนาดเท่ากระซู่ที่ทั้งลำตัวถูกหุ้มด้วยผิวหนังเกราะสีน้ำตาลอิฐ


สิ่งมีชีวิตไม่ระบุประเภทตัวนั้นค่อยๆคลานออกมาจากปากหลุมที่ถูกเปิดออกเมื่อสักครู่นี้พร้อมทั้งแผดเสียงคำรามอันน่าหวาดเกรงออกมาจากช่องปากที่มีฟันอันแหลมคมขึ้นแทรกอยู่ทั่วจนเกือบจะล้นออกมาข้างนอก ดวงตาของมันที่เหลือบไปมองสิ่งมีชีวิตรูปร่างบอบบางที่กำลังยืนล้อมตัวมันอยู่นั้นราวกับสายตาของนักล่าที่กำลังจ้องมองผู้ที่รบกวนการหลับนอนอย่างสงบสุขของมัน

และในขณะนี้...สิ่งที่จะระบายความเครียดของมันได้...ก็อยู่ตรงหน้าแล้ว


"จะ-เจ้านั่นมัน...อะไรกันน่ะ!?"

"นอกจากสัตว์ประหลาดตัวเมื่อกี้แล้ว...ยังมีตัวอื่นอยู่อีกเหรอ!!"


ฝูงชนที่เคยยืนล้อมวงอยู่รอบๆหลุมประหลาดที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นคลานออกมาถึงกับแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางในทันทีที่สบตากับมัน ในตอนนั้นเองที่สิ่งที่พวกเขาเลือกที่จะทำนั้นได้ไปปลุกต่อมอารมณ์โกรธให้พลุ่งพล่านขึ้นมา


เอาง่ายๆคือ... เวลาที่คุณถูกใครก็ไม่รู้มากระโดตบหัวจากด้านหลัง เมื่อคุณหันไปมอง คุณจะคิดว่าระหว่างคนที่ยืนอยู่นิ่งๆกับคนที่กำลังวิ่งออกห่างจากตัวคุณนั้น ใครคือคนที่มายั่วโมโหคุณกันล่ะ!?

"คนที่กำลังวิ่งหนี"...ใช่ไหม!?



ในตอนนั้นเอง ฮิซาชิเห็นท่าทีของสัตว์ประหลาดเริ่มเปลี่ยนไป มันเกร็งขาหน้าของมันราวกับคนที่กำลังจะดันตัวเองขึ้นจากพื้นในท่าวิดพื้น ซึ่งสำหรับสัตว์สี่เท้าอย่างมัน...การลุกขึ้นยืนสองขานั้นเป็นการเปิดช่องโหว่ให้อีกฝ่ายเล่นงานฟรีๆโดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย

แล้วทำไมสัตว์ประหลาดตัวนั้นถึงต้องทำเช่นนั้นกันล่ะ..!?



"แย่แล้ว... รีบหาที่หลบเร็ว!!!"

น่าเสียดายที่เสียงตะโกนของเด็กชายอายุเพียง5ขวบนั้นไม่มีทางที่จะถูกส่งไปถึงพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไปเกือบ500เมตรได้ เมื่อระบุเป้าหมายที่แน่นอนได้แล้ว สัตว์ประหลาดเกราะหนาก็ดันตัวเองขึ้นมายืนด้วยขาหลังสองข้างเผยให้เห็นช่องท้องที่มีกรงเล็บซ้อนกันเป็นซี่ๆได้ชัดเจน หลังจากที่มันทรงตัวได้แล้ว... กรงเล็บที่ท้องของสัตว์ประหลาดก็เปิดออกให้เห็นก้อนเนื้อสีส้มเรืองแสงที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน

หลังจากนั้นเพียงวินาทีเดียว... สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ปล่อยลูกไฟจำนวนมหาศาลออกมาจากช่องท้องจู่โจมใส่ทุกสิ่งที่อยู่ข้างหน้าอย่างไร้ความปราณี

ด้วยพลังทำลายของลูกไฟนั้น ทำให้พื้นที่ที่ถูกมันโจมตีใส่เกิดระเบิดเสียหายอย่างรุนแรง... ต่อหน้าต่อตาฮิซาชิและseiriทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น


"น...หนอยแก!!!!"

แต่แม้ว่าเหล่าseiriจะระดมกำลังทั้งหมดโจมตีใส่สัตว์ประหลาดตัวนั้นสักเท่าไหร่ก็ตาม เกราะสีน้ำตาลที่หุ้มร่างมันไว้ก็สามารถดูดซับพลังทำลายเอาไว้ได้เกือบทั้งหมด สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าseiriเป็นอย่างมากจนพวกเธอหยุดมือลงชั่วขณะ ราวกับว่าพวกเธอต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดC.O.V.ที่มิรันเพิ่งจะกำจัดลงไปได้เมื่อสักครู่นี้อีกรอบอย่างนั้นแหละ

และในชั่วพริบตาที่การโจมตีที่ต่อเนื่องราวสายฝนที่หยุดการเคลื่อนไหวของอัลเกียเกิดชะงัก ก็กลายมาเป็นโอกาสในการโจมตีสวนในสิ่งที่ผู้ก่อกวนมีปีกกลุ่มเล็กๆทำเอาไว้อย่างสาแก่ใจ


"แย่แล้วสิ... เอจิสใช้ไม่ได้ผลหรอก!! รีบหนีออกมา!!!"

แล้วก็อย่างที่เคยว่าเอาไว้... เสียงของฮิซาชินั้นไม่สามารถถูกส่งไปถึงเหล่าseiriที่กำลังต่อสู้อยู่ได้เลยแม้แต่คนเดียว และก็เป็นไปตามคาด... อัลเกียสามารถสาดลูกไฟใส่พวกนางฟ้าที่ลอยอยู่กลางอากาศชุดใหญ่ได้โดยไม่มีอะไรหยุดยั้งมันได้ ซึ่งพวกseiriก็กางม่านเอจิสป้องกันไว้จริงๆ

"ปัดโธ่เอ๊ย!! ถ้าพลังของเราไม่กลับไปเป็นเมล็ดละก็นะ..!!"

แม้ว่าระบบเอจิสจะเป็การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกseiriก็ตาม... แต่ด้วยพลังลูกไฟที่ทรงพลังเทียบเท่ากับท่าBlazing Waveของฮิซาชิในร่างโคโรน่าที่ประจุอยู่ในลูกไฟแต่ละลูกนั้น ได้ทำให้เอจิสที่เหล่าแองเจลอยดืและอควารอยด์ขั้นที่หนึ่งและสองที่กางป้องกันไว้ถึงกับถูกทำลายลงทันที!!!

และลูกไฟที่แทบจะไม่ได้ถูกบั่นทอนพลังลงเลยของอัลเกียก็พุ่งเข้าปะทะร่างของพวกเธออย่างรวดเร็ว ด้วยความห่างชั้นกันของพลังของทั้งสองฝ่าย...ทำให้seiriที่รับการโจมตีของมันเข้าไปนั้นบาดเจ็บสาหัสกันเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว


"พอสักที... หยุดได้แล้ว!!!!"

ฮิซาชิในร่างของเด็กห้าขวบที่ไร้พลังหลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ที่แท้จริงซึ่งมีความโหดร้ายเป็นคนละเรื่องกับในยุคสมัยของเขานั้นเรียกได้ว่าแทบจะกระโดดเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วยเลยทีเดียว หากแต่ก่อนที่เขาจะออกไปนั้น...ได้มีปีกนางฟ้าคู่นั้นกางออกมาขวางระหว่างตัวเขาเอาไว้

"มิรัน... เธอ-!"

"ขอบใจนะ...ที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกเรา แต่จากนี้ไปให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ ในฐานะseiriที่เกิดขึ้นมาเพื่อปกป้องพวกมนุษย์ด้วย"

ฮิซาชิไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่ที่จะให้แองเจลอยด์ที่น่าจะอยู่ในขั้นที่2หากสังเกตจากชุดต่อสู้ที่เธอสวมเป็นชุดวันเกิดอย่างมิรันออกไปสู้กับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับร่างโคโรน่าของตัวเองเพียงลำพัง หากแต่ในตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับมนุษย์เดินดินธรรมดาเลย ฮิซาชิจึงจำยอมให้มิรันออกไปเผชิยหน้ากับอัลเกียตามคำขอ

เพราะถ้าเขาตายไปในการต่อสู้ครั้งนี้...ความพยายามและความปรารถนาทุกอย่างที่เหล่านางฟ้าได้ฝากฝังเขาไว้ก่อนจะหมดลมหายใจก็จะกลายเป็นเพียงอากาศเท่านั้น


"ฉันขอร้องเธอแค่อย่างเดียวนะ มิรัน... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...อย่าตายนะ!"




"รับทราบ... ฮิซาชิคุง"

ตรงหน้าสายตาของเด็กชายที่ยืนดูการต่อสู้ระหว่างเหล่านางฟ้ากับสัตว์ประที่ไม่มีใครที่จะใจกล้าพอแม้แต่จะสบหางตาด้วย แองเจลอยด์ที่มอบช่วงต่อที่อยู่อาศัยให้กับฮิวาชิก็ได้สร้างสิ่งที่เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนขึ้นมาทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก!!!!




ตรงหน้าสายตาอันตื่นตะลึงของฮิซาชิที่มองสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่ถูกแสดงให้เห็นตรงหน้านั้น ปรากฏมิรันที่เร่งพลังในกายขึ้นสูงมากจนมีไอร้อนพวยพุ่งจากทั่วทั้งร่างทั้งอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้เด็กชายคนนั้นเกิดอาการตาค้างไม่ใช่หยดเหงื่อที่ไหลผ่านเรือนร่างอันขาวผ่องชองseiriคนนั้นแต่อย่างใด หากแต่เป็นเพราะระดับพลังที่สูงกว่าร่างโคโรน่าที่ฮิซาชิเคยทำสถิติเอาไว้จนเทียบชั้นกันไม่ได้แล้ว...

ซึ่งเท่าที่ฮิซาชิรู้จักพวกseiriมา แม้แต่ชิบุกิที่ได้รับพลังเพิ่มขึ้นจากการดูดกลืนพลังครึ่งหนึ่งของอควารอยด์คู่แฝดของเธอแล้วได้รับวิวัฒนาการเป็นขั้นที่2ก็ยังมีระดับพลังที่ทำได้แค่เทียบเท่ากับร่างโคโรน่าเท่านั้นเอง แล้วระดับพลังที่เหนือชั้นกว่าร่างที่พัฒนาของฮิซาชิที่มิรันมีนั้นได้รับมาจากไหน!?

และแล้วฮิซาชิก็เกิดสะกิดใจได้บางอย่าง


"พลังของseiriสมัยก่อน...แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ!?"



ไม่ผิดแน่... ลางสังหรณ์ที่เปิดกว้างของฮิซาชินั้นยังคงความแม่นยำอยู่แม้จะเกิดการเจริญเติบโตย้อนกลับก็ตาม ทันทีที่มิรันก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียว แรงกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมารอบทิศซึ่งก่อกวนระบบหายใจของฮิซาชิอยู่นั้นก็พลันจางหายไป เขาเห็นมิรันกำลังฉีกยิ้มอยู่ราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้

มิรันหันกลับมามองเด็กชายที่อยู่เป็นคู่สนทนาของเธอตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว พลันปรากฏรอยยิ้มเล็กๆที่สดใสมากบนใบหน้าของเธออีกครั้งหนึ่ง ความสดใสของมันนั้นทำให้สัญชาตญาณความเป็นชายของฮิซาชินั้นตื่นขึ้นมา


"ขอบใจนะ... มนุษย์ผู้มีอิสระ"

หรือจะเป็นเดจาวูก็ไม่ทราบได้ ทันทีที่มิรันหมดเรื่องคุยกับฮิซาชิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางฟ้าผู้ถูกสร้างก็สับขาวิ่งเข้าไปขัดขวางกระแสความบ้าคลั่งของสัตว์ประหลาดที่กำลังมุ่งหน้าไปยังแหล่งชุมชนโดยไม่รอให้มันได้สร้างความเสียหายไปได้มากกว่านี้แน่...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา