กว่าจะรู้ ว่า 'รัก'
เขียนโดย กวางตุ้ง
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.35 น.
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 11.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ทดลองงาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“โอ้ย หาไม่เจอ มันไปอยู่ไหนหวะเนี่ย เอกสารใบเดียว หาตั้งหลายรอบไม่เจอสักที” คงจะเจอได้ง่ายๆหรอก ก็ภัทรธาเล่นรื้อเอกสารออกมาดู ตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ได้เก็บเลยสักแฟ้ม
“ใกล้เที่ยงแล้ว ชวนพวกข้างนอกไปกินข้าวดีกว่า”ภัทรธา วางมือจากการหาเอกสาร แล้วลุกออกไปจากห้องทันที
เงียบ ทั้งแผนก ที่มีทรัพยากรบุคคลอยู่3คน หายไปกันหมด ไม่มีใครอยู่กันสักคนเดียว สงสัยไปที่ห้องอาหารของบริษัทแล้วละมั้ง ภัทรธาคิดในใจ ก่อนเดินตามไป แล้วก็พบ กำลังนั่งทานข้าวแล้วก็เม้าท์เพลินกับยัยเปี๊ยก ว่าที่ผู้ช่วยคนใหม่ของเธอ
“ไง ทำไมวันนี้ถึงหายหัวออกมาพร้อมกันหมดแถมเร็วขนาดนี้ได้เนี่ย” ภัทรธา เดินไปยืนที่หัวโต๊ะ พร้อมกับเสียงทักที่ค่อนข้างดัง ทำให้ทุกสายตาหันมาจ้องเธอเพียงผู้เดียว
“โหย คุณเบล เสียงเบาหน่อยก็ได้ พวกเราไม่ได้หูหนวกนะคะ” นารินทร์ แกล้งเอามือแคะหู เหมือนมันระคายเคืองมาก
“แล้วคุณเบล ทานอะไรครับวันนี้ แปลกนะเนี่ยไม่มีสาวๆแผนกอื่นมาโฉบไป ปกติแทบไม่ได้ทานข้าวที่ห้องอาหารบริษัทเลยนี่ครับ”เอนกแซวกลับ คุณเบลมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกันอย่างเหลือหลาย สาวๆในบริษัท หรือนางแบบที่เคยร่วมงานด้วย แทบจะต่อคิวจองตัวทานข้าวอยู่ทุกวัน
“นั่นสิเบล วันนี้ไม่ออกไปทานข้าวกับใครหรอ เอ หรือเสน่ห์ตกแล้ว ก็ดีนะแผนกเราได้สงบๆบ้าง” มีแต่ฟาริดาเท่านั้น ที่เรียกเบลอย่างเพื่อน เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนที่จะเข้าทำงานที่นี่พร้อมกัน และยังรู้เรื่องราวหลายๆเรื่อง ที่น้อยคนนักจะได้รู้
“ทานอะไรล่ะ เดี๋ยวฝ้ายไปซื้อมาให้” ฟาริดา อาสาอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่น้องใหม่ตรงหน้ากลับใช้ความช่างสังเกต และคิดจินตนาการไปซะไกล
“ไม่ต้องหรอก ฝ้ายทานเถอะ เดี๋ยวเบลไปเดินดูเองดีกว่า ไม่รู้จะทานอะไรดีเหมือนกัน”ภัทรธา รีบบอกก่อนที่เพื่อนเขาจะลุก
“เจ้านายเขาก็เป็นผู้หญิงนี่คะ ทำไมถึงว่ามีสาวๆมาสนใจเยอะละคะ”ดาราวดี สงสัย แต่นั่นกลับเรียกเสียงหัวเราะจากบุคคลทั้งสามแทบทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า เดียร์ก็ดูสิ เจ้านายเราเขามองตรงไหนบ้างที่เป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้น ไม่แปลกหรอกที่จะมีสาวๆสนใจ ก็คุณเบลเขาหล่อกว่าผู้ชายบางคนอีกนะ สาวๆเผลอมาหลงก็ไม่แปลกหรอก แต่คุณเบลจะหลงตอบหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ”นารินทร์ขำคนถาม กับคนที่ถูกพาดพิง
“นั่นนะซิ แต่คุณเบลเขามีฝ้าย อยู่แล้วนี่นา อะไรๆก็ฝ้าย ฝ้ายก็ระวังแรงอาฆาตจากสาวๆรอบๆตัวคุณเบลนะ แต่สงสัยเดียร์จะยังเด็กอยู่มั้ง เลยไม่ค่อยเข้าใจโลกภายนอกสักเท่าไร”เอนก เอามือมาจับหัวของดาราวดี ด้วยความเอ็นดู แต่ก็เรียกอาการสะดุ้งสุดตัวจากดาราวดีได้เลยทีเดียว
“เป็นอะไรหรือเปล่าเดียร์ พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจฉวยโอกาส แค่รู้สึกเหมือนเราเป็นน้องนะ”เอนก ตกใจ ไม่คิดว่าดาราวดี จะสะดุ้งขนาดนั้น
“แหะๆ ไม่เป็นไรค่ะ พี่เอก เดียร์ขอโทษนะคะ มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติเหมือนกัน เดียร์คงไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายสักเท่าไรมั้งคะ” ดาราวดี ขอโทษขอโพย ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเธอ พลางลอบผ่อนลมหายใจเมื่อไม่มีคนสังเกต แต่ก็ไม่รอดสายตาฟาริดาจนได้
เมื่อภัทรธามาถึงก็จัดการลากเก้าอี้มานั่งที่หัวโต๊ะ ซึ่งดาราวดีและฟาริดานั่งตรงข้ามกันอยู่ และไม่นานก็มีสาวสวยนางหนึ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะที่ทุกคนนั่งกันอยู่
“เบลคะ น้ำหวาน นั่งด้วยคนได้ไหมคะ เห็นเบลยังไม่มีน้ำ น้ำหวานเลยซื้อน้ำมาให้ค่ะ”น้ำหวาน แผนกบัญชี บังเอิญเห็นภัทรธาตอนซื้อข้าว เลยเดินตามมา
“เชิญฮะ น้ำหวาน ขอบคุณสำหรับน้ำนะครับ”ภัทรธายื่นมือไปรับแก้วน้ำ แล้วพยักพเยิดให้น้ำหวานนั่งแต่เป็นโต๊ะอีกตัวที่อยู่หัวโต๊ะอีกด้านนึง แต่สายตาน้ำหวานกลับมองดาราวดี และสื่อออกมาว่าต้องการนั่งที่ของเธอ เอนกเห็นก็กำลังจะเขยิบให้ แต่ดาราวดีกลับลุกขึ้นเสียก่อน
“เชิญคุณนั่งที่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ ฉันอิ่มพอดี พี่ๆคะ เดียร์ขอตัวก่อนนะคะ” ดาราวดี ลุกจากเก้าอี้เจ้าปัญหา จริงๆเธอก็กำลังหาทางชิ่งอยู่แหละ เพราะอยู่ไปก็อึดอัด ทั้งกับเอนก และเจ้านายคนใหม่ของเธอ
หลังจากที่ดาราวดี ลุกออกมาก็ตั้งใจจะเดินไปที่แผนกครีเอทีฟ เพื่อศึกษาดูล่วงหน้า ก่อนที่เจ้านายเธอจะมาสั่งการ
“เธอ นี่เธอ เธอนั่นแหละ”ดาราวดีมองซ้ายขวา ไม่รู้ว่าสาวสวยตรงหน้าเรียกใคร ก่อนจะจิ้มมาที่ตัวเอง
“ซื่อบื้อจริงๆแม่บ้านที่นี่ เธอนะ เห็นคุณเบลไหม ฉันนัดเขาทานข้าว มาที่ห้องทำงาน ไม่มีใครอยู่สักคน”
“เอ่อ คุณเบลอยู่ที่ห้องอาหารของบริษัทค่ะ” ดาราวดีตอบออกไป พลางคิด ใครนะหน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่เมื่อได้คำตอบสาวสวยนางนั้นก็ก้าวฉับๆออกไป ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณสักคำ
“เดียร์เอ้ย แต่งตัวยังไงเนี่ย โดนมองเป็นแม่บ้านสองคนแล้วนะ”ดาราวดีบ่นกับตัวเองเบาๆ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่านะเวลานี้ ที่ห้องอาหารเกิดกลียุคขนาดย่อมๆ โดยเจ้านายเธอเป็นเป้าหมายนั่นเอง
ดาราวดี เข้ามาในห้องทำงานของภัทรธา ผู้เป็นเจ้านาย ตอนเธอเข้ามาครั้งแรกกับคุณนันทพร ก็เห็นเหมือนกับเขากำลังหาอะไรอยู่
“ก็รกขนาดนี้ เอกสารกระจัดกระจายขนาดนี้ จะหาอะไรเจอไหมเนี่ย”ดาราวดี พึมพำ กับตัวเองเบาๆ ก่อนเริ่มต้นจัดการเก็บเอกสารต่างๆเข้าแฟ้ม โดยที่ดูเนื้อเรื่องและหมวดหมู่ให้เข้าพวกกันก่อนจัดเรียงวางไว้ให้บนโต๊ะเหมือนเดิม เมื่อเสร็จเรียบร้อย เธอจึงลองมาเปิดคอมที่โต๊ะหน้าห้อง เพื่อศึกษาข้อมูลเด่าๆว่ามีอะไรบ้างไฟล์งานเก่าๆและตารางการนัดหมาย ที่คนเก่าเขาทำไว้ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนดีจริงๆ เธอนั่งกดคอมดูข้อมูลไปมาสักพัก ก็เห็นทั้งเจ้านายแล้วก็พี่ๆของแผนก เดินหน้ายุ่งกันมา สภาพของแต่ละคนนี่เหมือนไปวิ่งรอบสนามกันมาเลย ก็เกือบจะถามไปแล้วดีนะที่ยั้งปาก เพราะทันเห็นสายตาของฟาริดาที่จ้องมาพร้อมการส่ายหน้า ภัทรธาเดินเข้าห้องทำงานทันที ไม่เหลือบแลใครทั้งนั้น
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่ฝ้าย พี่น้ำ พี่เอก ทำไมสภาพทุกคนเหมือนไปสงครามกันมาเลย โดยเฉพาะเจ้านาย”ประโยคสุดท้าย เธอกระซิบ เหมือนกลัวว่าคนในห้องจะได้ยิน
“เดียร์ เข้ามาในห้องหน่อย” เสียงอันน่ากลัวในความรู้สึกของดาราวดีดังขึ้น ฉันจะถูกฆ่าหมกห้องไหมเนี่ย เธอทำหน้าเหยเกจะร้องไห้ เมื่อพี่ๆทั้ง3ไม่มีใครว่าอะไร ก็เลยต้องจำใจเดินเข้าไปในห้องอย่างหงอยๆ
“เราเป็นคนจัดโต๊ะหรอ” ภัทรธาถามขึ้นเมื่อเข้ามาแล้วเอกสาร ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะทำงานของตัวเอง
“ค่ะ เจ้านาย” ดาราวดี ยิ้มอย่างกว้างขวาง เมื่อไม่ได้ถูกดุอย่างที่คิด
“ไหนๆก็เก็บโต๊ะให้แล้ว ถามหน่อยสิเจอเอกสารการเซ็นสัญญาของบริษัททิพมณี ไหม พอดีฉันหาแต่เช้าแล้วยังไม่เจอ”
“อืม เดียร์คุ้นๆ เหมือนผ่านตาเลย ขอเดียร์ค้นจากแฟ้มดูก่อนนะคะ เอ่อ เจ้านายไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไหมคะ มันเหมือนยังมีคราบน้ำหวานอยู่เลย เดี๋ยวมดจะขึ้นหน้าเอา”ดาราวดี ทักด้วยความใสซื่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเปิดแฟ้มที่เธอเพิ่งจัด จำได้ว่าเธอแยกแฟ้มเกี่ยวกับเอกสารที่เซ็นสัญญาไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่แฟ้มไหน ด้วยความที่ก้มหน้าก้มตาหาเอกสาร จึงไม่มีโอกาสได้เห็นการกั้นยิ้มจากเจ้านายเธอ มีอย่างที่ไหนพูดมาได้ มดจะขึ้นหน้า แต่ก็รู้สึกเหนียวๆหน้าเหมือนกัน งั้นก็ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาหน่อยก็ดี
“ในที่สุดก็เจอซะที” หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตาหาจนรู้สึกปวดตา เพราะใส่แว่นไว้ ดาราวดีจึงถอดแว่นเหน็บไว้ที่กระดุมเสื้อ ก่อนจะเจอเอกสารในแฟ้มแฟ้มหนึ่งที่อยู่เกือบล่างสุด ก็พอดีกับที่ภัทรธาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“เจอแล้วเหรอ ในที่สุดก็เจอสักที หามาตั้งแต่เช้า”ภัทรธาหยิบเอกสารไปดู ก็พบว่าเป็นสิ่งที่ต้องการใช้นั่นเอง
“หื้ม..”
“อุ้ย ขอโทษค่ะ เดียร์ลืมตัวไปหน่อย หน้าเจ้านายมีแต่คราบน้ำ ถ้าไม่รังเกียจใช้ผ้านี่เช็ดหน้าก่อนไหมคะ วันนี้เดียร์ยังไม่ได้ใช้เลย รับรองความสะอาดค่ะ” ดาราวดี ยิ้มแหยๆ ก็มันลืมตัวจริงๆนี่นา ลืมไปว่าเขาคือเจ้านาย เพิ่งเกือบจะมีเรื่องกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง
“เอาซิ ขอบใจนะ พอดีทิชชู่คงหมดมั้ง เลยกะปล่อยให้มันแห้งเอง แล้วที่ว่าลืมตัวนี่ เคยทำให้ใครบ่อยเหรอไง” ภัทรธาใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบน้ำออกจากหน้าตัวเอง
“ค่ะ ก็เช็ดให้คุณแม่ เพราะบางทีคุณแม่ทำเค้กแล้วมือเลอะ ก็จะเช็ดเองไม่ได้ เดียร์ก็บริการถึงหน้าเลย แล้วยิ่งตกงานเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็ช่วยคุณแม่อยู่ทุกวันค่ะ”
“เอ่อ เดี๋ยวเดียร์เอาไปซักเองก็ได้ เจ้านายไม่ต้องหรอกค่ะ”เธอรีบร้องห้ามเมื่อเห็นภัทรธา เก็บผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋าเขาเอง
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าจะถามอยู่ ไม่ได้สายตาสั้นหรอ”สายตาของภัทรธามองลงไปที่แว่น ที่ดาราวดีเหน็บไว้ที่กระดุมเสื้อ
“เอ่อ แหะๆใส่ไว้เอ่อ เพื่อความน่าเชื่อถือค่ะ”แล้วเธอก็รีบก้มหน้าก้มตาหยิบแว่นขึ้นมาใส่
“ขอดูหน่อยซิ”ไม่ได้รอให้ดาราวดีหยิบมาให้แต่อย่างใด เขากลับชะโงกตัวเองไปคว้ามาจากหน้าของเธอเลย ก่อนจะนำมาใส่แล้วหยิบกระจกขึ้นมาดู
“เพิ่มอายุได้ดีจริงๆ แถมแต่งตัวเป็นคุณป้าขนาดนี้อัพจาก24ไปเป็น40ได้เลยมั้งเนี่ย” ภัทรธาโยนแว่นของเธอเก็บเข้าลิ้นชัก บ่งบอกว่าไม่ให้ใส่อีกต่อไป
“แล้วทีเจ้านายละคะ ใส่แว่นเหมือนกันนี่สายตาสั้นไม่ใช่หรอ แล้วมาใส่แว่นที่เลนส์ปกติของเดียร์จะมองกระจกเห็นชัดได้ยังไง” ดาราวดี เริ่มโวยวาย ทำไมต้องเอาแว่นของเธอไปด้วย แค่บอกไม่ให้ใส่ก็น่าจะพอแล้วนี่
“รู้ไหมว่าเหตุผลที่ฉันใส่แว่นคืออะไร”ภัทรธา แกล้งคนตัวเล็กที่หน้าเริ่มซีดตัวเริ่มหดลงเล็กลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเขาค่อยๆก้าวเข้าไปช้าๆ คล้ายหมาป่าเตรียมโอกาสขย้ำลูกแกะ แล้วดาราวดีแทบกระโจนออกจากห้องทันที เธอกะจังหวะก่อนที่จะกระโดดหนีไปที่ประตู แต่ พลาด
“คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ ยัยลูกแกะตัวเปี๊ยก”สองมือของภัทรธาคว้าคนตัวเล็กมาประชิดตัว ก่อนจะแกล้งยกตัวลอยเหนือพื้น เธอจึงเหมือนตะกายอากาศอยู่นั่นเอง
“เจ้านายจะแกล้งเดียร์ไปถึงไหน พอแล้ว เดียร์ขอโทษค่ะ แว่นเดียร์เจ้านายอยากได้เอาไปเลย ส่วนแว่นเจ้านายเดียร์ก็จะไม่พูดอะไรแล้ว” เสียงเดียร์เกือบตะโกนด้วยซ้ำ แต่แปลก คนข้างนอกไม่คิดจะมีใครเข้ามาเลยหรอไง
“เสียใจด้วยนะ ห้องทำงานฉันเป็นห้องเก็บเสียง เธอจะตะโกนดังแค่ไหนหรือร้องดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก หึหึหึ”เสียงหัวเราะออกแนวโรคจิตมากในความรู้สึกของดาราวดี
“เดียร์ขอโทษ อย่าทำอะไรเดียร์เลยนะ ถ้าเจ้านายไม่อยากให้เดียร์ทำงานนี้นัก เดี๋ยวเดียร์ไปลาออกเลยก็ได้”จินตนาการของดาราวดีเริ่มไปไกล เจ้านายเธอนี่เป็นทอมแหงๆ แล้วน่าจะโรคจิตด้วย เธอรีบไปก่อนดีกว่า เขาว่าทอมนี่รักแรงเกลียดแรงแถมอาฆาตแรงด้วยนี่นา แต่วันนี้เดียร์จะรอดไหมคะเนี่ย
“คิดไปไหนเนี่ย ดาราวดี ฉันแค่แหย่เธอเล่น ”แล้วภัทรธาก็ปล่อยเธอลงพื้น เมื่อเห็นอาการโอเวอร์ของอีกฝ่าย
“จริงๆแล้วแว่นเนี่ย มันช่วยพลางสายตาเย็นชาของฉันมากกว่า”ภัทรธาหยิบแว่นขึ้นมามองมันอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะสวมใส่อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เห็นสายตางงๆของดาราวดีเป็นสิ่งตอบแทน
“เดียร์ว่า เจ้านายปิดบังสายตาขี้อายของตัวเองมากกว่า”ดาราวดี พึมพำเบาๆ แต่ภัทรธาก็ยังได้ยิน
“เธอนี่นา ชอบหาเรื่องจริงๆ”ภัทรธา อดหมันเขี้ยวสาวตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้ จึงคว้าเอวมากอด และก้มลงเอาจมูกไปประทับที่แก้มบาง อึ้ง ช็อค ตาคู่สวยของดาราวดีเบิกโพลง อย่างน่ากลัวจะหลุดออกมา
“กรี๊ดดดด.......อุบส์” ดาราวดี กรีดร้องเสียงแหลม ก่อนจะรีบเอามือปิดปากทันที
“ถ้าไม่หยุดกรี๊ด ฉันจะใช้ปากปิดปากเธอ” ประโยคสั้นๆแต่ได้ผล เงียบกริบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วันนี้จะกลับก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มงาน ผ่านการทดลองงานแล้วล่ะ งานก็หาเจอ จัดเอกสารก็เรียบร้อยดี แถมแก้มก็หอมอีกต่างหาก”ภัทรธา แกล้งยักคิ้วลิ่วตาให้
“ค่ะ”ดาราวดี รับคำ ก่อนคิด เธอจะมาทำงานวันพรุ่งนี้หรือจะลงไปลาคุณนันทพรเลยดี
“เห้อ เอาน่า เจ้านายผู้หญิงยิ่งมีน้อยๆอยู่ อย่าเลือกมากนักเลย เลือกมากมักได้แร่ จำไว้ๆ”ดาราวดี แอบพึมพำก่อนจะเปิดประตูออกไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ