Mobile Suilt Gundam UC.0179 New Destiny

-

เขียนโดย ไีรโฮ

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.25 น.

  19 ตอน
  0 วิจารณ์
  21.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) สหพันธ์โลก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
กันเลโอมีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างชัดเจน
“อึก!!! เปลี่ยนสิๆ!!!”เอวิลพยายามบังคับให้กันเลโอเปลี่ยนโหมด
สีตาของกันเลโอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างสีเขียวและแดง และอ่อร่าสีทองก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างสีทองและสีแดง  ตัวกันเลโอมีปฏิกิริยาอย่างชัดเจน
“เอวิล!! อย่าฝืนสิ!!!”เบลติดต่อเข้ามา
“ไม่ได้!!!! ถ้าควบคุมเจ้าร่างสีแดงนั้นไม่ได้!!! มันก็จะต้องมีการสูญเสียอีก!!!”
กันเลโอเริ่มจะทำท่าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มตัวเรื่อยๆ
“ย๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เปรี้ยะ!! ตัวของกันเลโอเริ่มช็อตเล็กน้อยเพราะผลของการต่อต้านของ เดสทอรยโหมด ขณะนั้นเองตัวของเอวิลก็เริ่มออกอาการจะโดนควบคุมอีกครั้ง
“ไม่...ยอม!!! ไม่ยอมให้ควบคุมเด็ดขาด!!”
ขณะนั้นเองก็เหมือนมีเงาของมือคนมาจับที่มือของเอวิล เอวิลหันไปมองเป็นภาพจางๆเจ้าของมือจางๆนั้นก็คือลิเดีย
“ลิเดีย..”
ขณะนั้นเองก็มีมือเงาจางๆอีกข้างมาจับมืออีกข้างของเอวิล เอวิลหันไปมองเป็นภาพจางๆก็คือเฟส
“เฟส...”
“เครื่องจักรมีเพียงแค่สองอย่างที่บ่งบอกว่ามันแข็งแกร่ง คือ ควบคุมผู้ใช้ และ ต่อต้าน แต่มนุษย์มีมากกว่านั้นและยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ ควบคุมเครื่องจักรที่แข็งแกร่ง”เสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมา
เอวิลหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
“กันเลโอ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
วิ้ง!ออร่าสีทองเปลี่ยนเป็นสีแดงดวงตาจากสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
“แฮ่กๆ”เอวิลหอบเหนื่อย
กันเลโอหยุดนิ่งไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน
“สำเร็จแล้วฉัน... ควบคุมได้แล้ว”
อีกด้าน ณ ประเทศออสเตรเลีย
“ตามข้อมูลที่ได้มาปัจจุบันพวกมันน่าจะใกล้ถึงฐานทัพของพวกมันแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ออกเดินทางไปเตรียมพร้อมที่จะถล่ม ได้แล้ว”แกรนซันในชุดไพล็อตพูด
แกรนซันยืนมองเกียนของตัวเองที่กำลังขนย้ายขึ้น ยานรบชั้นเซรามิส  ขณะนั้นเองซิลเวียร์ก็เดินเข้ามาแล้วถามแกรนซันขึ้น
“องค์ชายไม่จำเป็นต้องออกไปรบเลยนี้ค่ะ”
“ไม่ได้หรอกครับคุณซิลเวียร์  เรื่องใหญ่ๆแบบนี้ผมต้องเข้าไปจัดการด้วย แล้วชินกับซีโร่นีเมซิสหรือยังละครับ”
“พอที่จะชินแล้วละค่ะ แต่ว่าเรื่องฟันเนลเหมือนดิฉันจะยังใช้มันได้ไม่คล่องเท่าไหร่”
ซิลเวียร์พูดจบแล้วก็เดินขึ้นยานเซรามิสไปขณะนั้นเองลูซิเฟอร์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดกับแกรนซันขึ้น
“องค์ชายมั่นใจเหรอครับว่าจะให้ซิลเวียร์ ใช้ฟันเนลจริงๆทั้งๆที่ตัวซิลเวียร์เองก็คุมฟันเนลไม่ค่อยอยู่”
“เอาเถอะน่า ลูซิเฟอร์”
ประเทศแคนนาดา
แม็กซ์เซ็นลายเซ็นลงในเอกสารแล้วยืนให้เจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็รับเอกสารมาแล้วเดินออกจากห้องไป ขณะนั้นเองพีเรียสที่นั่งมองอยู่ก็ถามขึ้น
“ร้อยโทค่ะ เอกสารอะไรเหรอค่ะ”
“อ่อ เอกสารรับรองเรื่องการขอย้ายน่ะ”
“ขอย้ายเหรอค่ะ!? จะย้ายไปไหนเหรอค่ะร้อยโท!”
“ขอย้ายทีมพวกเราทั้งหมดไปยังอินโดนีเซีย ความจริงอยู่ที่นี้ก็ดีอยู่หรอกนะครับแต่ว่า เราจะทิ้งภารกิจหลักไม่ได้”
ขณะนั้นเองแฟรงค์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น
“ร้อยโทครับ ผบ.เขารับรองเรื่องการย้ายที่ประจำการเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดี อีก 2 วันพวกเราก็จะย้ายที่ประจำการแล้ว โมบิลสูทของพวกเราก็น่าจะซ่อมแซ่มเสร็จทัน”
“แล้วพวกเราจะเดินทางไปยังไงละค่ะ อินโดนีเซียไกลมากนะค่ะ”พีเรียสถามขึ้น
“พวกเราจะเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มยานเซรามิส ที่จะเดินทางไปออสเตรเลีย พวกเราจะร่วมเดินทางไปกับพวกเขาแล้วพวกเราจะลงที่อินโดนีเซีย”
“แต่ว่าพวกเราจะไปทำอะไรกันที่อินโดนีเซียเหรอค่ะ”
“มันค่อนข้างจะใกล้กับออสเตรเลีย ถ้าเกิดพวกกบฏคิดที่จะบุกออสเตรเลียพวกเราก็น่าจะถ่วงไว้ให้ได้ทันการอยู่ละน่ะ”
ขณะนั้นเองแถบโอเดสซ่า
เจกันพลัสหลายเครื่องของฝ่ายกบฏ และกลุ่มยานแอสเทรียกำลังเดินทางเพื่อมุ่งหน้าจะไปที่ใดที่หนึ่ง ทันใดนั้นเอง  บึ้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับยานแอสเทรียลำหนึ่งที่ระเบิดไป  เจกันพลัสทั้งหมดพุ่งลงพื้นแล้วเตรียมปะทะ  ครืด! เสียงล้อตีนตะขาบดังขึ้น  รถถังปากกระบอกยิงคู่หลายเครื่องวิ่งมาจากหลังเนิน ระดมยิงใส่ฝูงเจกันพลัส    ปิ้ว! เจกันพลัสยิงบีมไรเฟิลใส่รถถัง  แต่รถถังหลบได้ทันแล้ววิ่งวนรอบตัวเจกันพลัสเครื่องนั้นแล้วยิงปืนใหญ่ใส่นัดแรกทำให้เกราะที่กันค็อกพิทเริ่มเปราะ แล้วยิงนัดสองตามไปทำให้ค็อกพิททะลุแล้วระเบิดค็อกพิท
“หึ่ย!!!! ศัตรูเป็นแค่พวกรถถังกระจอกทำลายมันสิว่ะ!!!”หัวหน้าเจกันพลัสทีมตะโกนขึ้น
“พวกเราโดนทำลายไป 20% แล้วครับ!!!! อ๊าก!!!!”
ขณะนั้นเองยานแอสเทรียทั้ง 10 กว่าลำก็เล็งป้อมปืนลงมาที่ภาคพื้นดิน ทันใดนั้น บึ้ม! กาบซ้ายของยานแอสเทรียทั้ง 10 ลำเกิดการระเบิดขึ้น
“มันยิงมาจากไหนกันน่ะ!!!!!!”
ทันใดนั้นเองDom(ดอม) จำนวน 20 เครื่องก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วออกมาจากหลังเนิน แล้วระดมยิงบาซูก้าใส่ยานแอสเทรีย   
“อึก!!! กาบขวาของยานเสียหาย 90% ครับ!!!”โอเปเรเตอร์รายงาน
“หึ่ย!!! ยิงปืนใหญ่สวนมันลงไป!!!!”ผบ.ออกคำสั่ง
“ไม่ได้ครับ!!!! ปืนใหญ่เสียหาย 80% ถ้าเรายิงออกไปมันจะระเบิดใส่พวกเราเองครับ!!”
“หน่อยแน่ไอ้เจ้าพวกนี้มันเป็นใครกัน!!!”
ขณะนั้นเองรถถังจำนวนมากพร้อมด้วยดอม ก็เข้ารอบบริเวณโดยรอบไว้ กองทัพรถถังที่เข้าบู๊กับกลุ่มเจกันพลัสก็รีบถอยออกมารวมกลุ่มทันที
“โมบิลสูทและรถถังของศัตรูล้อมพวกเราไว้หมดแล้วครับ!!!!”
ขณะนั้นเอง  จิมสีขาวที่โล่มีสัญลักษณ์เขียนไว้ E.F.S.F  ก็ออกมายืนแล้วประกาศขึ้น
“เราขอประกาศให้พวกคุณยอมจำนนต่อพวกเราแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นผมจะออกคำสั่งถล่มพวกคุณให้ไม่เหลือซากโดยทันที”
“พวกแกคิดว่าเป็นใครกันหะ!!!!!!!!!!”ผบ.ตะโกนออกไป
“ในนามของ เรซิล ผู้นำกองทัพภาคพื้นดินแห่งกองทัพสหพันธ์โลกขอประกาศเตือนเป็นครั้งสุดท้าย!”ไพล็อตของจิสีขาวที่ชื่อ เรซิล ประกาศออกไป
“สหพันธ์มันก็แค่ขยะชิ้นหนึ่งพวกแกไม่มีสิทธิมาสั่งพวกเรา!!!!”
“ในเมื่อเตือนแล้วพวกคุณไม่ฟัง!  ทำการทำลายล้าง!!!”
รถถังจำนวนมากระดมยิงปืนใหญ่เข้าไปใส่ยานแอสเทรียและกลุ่มเจกันพลัส  บึ้ม!! ยานแอสเทรียทั้งหมดระเบิดไปเจกันพลัสหลายเครื่องระเบิดออกเป็นชิ้นๆ
“แม้จะจนตรอกซะขนาดนี้ ก็ยังไม่เกรงกลัวสหพันธ์เลยแม้แต่น้อยสิน่ะ”
ขณะนั้นเองวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น เรซิลก็รับสัญญาญ
“พันตรีเรซิลครับ!!!  เราจับดักคลื่นสื่อสารของพวกกบฏได้แล้วครับ!”เสียงทหารนายหนึ่งรายงานขึ้น
“ดีมาก!!! เก็บข้อมูลและระบุพิกัดไว้ด้วย ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
ค่ายของสหพันธ์
เรซิลในชุดนอมอลสูทเดินเข้าไปในเต็นท์ส่วนของโอเปเรเตอร์
“ขอดูคลื่นสื่อสารที่ดักได้มาสิ”เรซิลพูดขึ้นแล้วกางแผนที่ออกไว้บนโต๊ะ
“ครับจะเปิดคลื่นสื่อสารเสียงเดี๋ยวนี้ละครับ”
โอเปเรเตอร์เปิดคลื่นสื่อสารเสียงที่ดักได้ขึ้น เป็นเสียงสนทนาระหว่างสองคน
“พวกเราจะโจมตียานไวทแองเจิล ของพวกแองเจิลเบสที่กำลังจะกลับไปที่ฐานใหญ่ของพวกมันขอให้เตรียม กำลังเสริมมาสนับสนุนไว้ด้วย”
“ได้ พวกเราจะเตรียมกำลังเสริมไว้ให้และพวกเราเตรียมจะออกเดินทางไปยัง จีน ที่พวกนายคาดว่าพวกมันกำลังลงไปที่นั้น เราจะเตรียมยานรบแอสเทรีย 3 ลำและกลุ่มเจกันพลัส ไปเสริมพวกนาย”
แล้วสัญญาญเสียงก็ตัดหายไป เรซิลมองแผนที่แล้วถามโอเปเรเตอร์ขึ้น
“สัญญาญนี้ ดักได้ตั้งแต่ตอนไหน”
“ประมาณ  30 นาที แล้วครับ หลังจากที่แฮ็คเข้าไปเอาข้อมูลของพวกมันก็ได้ดักสัญญาญเสียงนี้ไว้ แล้วก็ได้มาครับ”
“การป้องกันข้อมูลความปลอดภัยของพวกกบฏ นี้มันต่ำจริงๆ”
เรซิลวงกลมจุดสีแดงไว้สามจุดบนแผนที่ แล้ววางปากกาไว้ ก่อนที่จะครุ่นคิดสักเล็กน้อย
“ยานขนส่งเราพอที่จะบรรทุกรถถังไปได้กี่คัน ต่อ 1 ลำ”เรซิลถามขึ้น
“ 5 คันต่อ 1 ลำครับแต่ว่าสามารถบรรจุเพิ่มได้อีก 4 คันแต่ถ้าทำอย่างนั้นจะไม่สามารถบรรทุกโมบิลสูทได้น่ะครับ”โอเปเรเตอร์ตอบคำถาม
“งั้นเหรอ เรียกประชุมพวกหัวหน้าหน่วยต่างๆของกองทัพภาคพื้นดินเราตอนนี้ด่วน!”
10 นาทีต่อมา
“จากที่บอกไป เราจะต้องช่วยเหลือแองเจิลเบส จากการถูกพวกกบฏถล่มฐานที่มั่น  ใครมีอะไรข้องใจไหม”เรซิลถามขึ้น
ทั้งห้องประชุมเงียบ ไม่มีใครสงสัยอะไรเรซิลจึงเริ่มพูดต่อ
“ตามจากการที่พวกดักเสียงมาได้ พวกกบฏจะมีสองชุด ชุดแรกเราไม่ทราบจำนวนของศัตรู แต่ชุดที่สองเราทราบแน่นอว่าเป็นยานแอสเทรียจำนวน 3 ลำและโมบิลสูทกลุ่มเจกันพลัส”
เรซิลกางแผนที่ออกแล้วติดแผนที่ไว้กับผนัง แล้วชี้ไปที่จุดแดงจุดแรงบริเวณอาฟกานิสถาน
“ที่อาฟกานิสถาน จะเป็นจุดที่ชุดที่สองจะออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าจีนไปเสริมชุดแรง คาดว่าฐานที่มั่นของชุดที่สองก็อยู่ที่อาฟกานิสถาน เพราะฉะนั้นหลังเสร็จภารกิจช่วยเหลือ แล้วเราจะบุกอาฟกานิสถาน”
เรซิลเลื่อนไปชี้ที่จุดที่สองบริเวณชายแดนประเทศจีน
“ถ้าการคาดเดาไม่ผิดเพี้ยนไป ยานไวทแองเจิล จะหยุดที่เขตชายแดนจีนเพราะที่นั้นจะเป็นฐานที่มั่น ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราต้องรีบรุดไปที่นั้นแต่ว่า..”
เรซิลเลื่อนไปชี้จุดที่มองโกเลีย แล้วพูดขึ้น
“บริเวณนี้ที่ทราบกันดี เป็นพื้นที่ของพวกกบฏจุดหนึ่ง ซึ่งก็หมายความว่าพวกชุดหนึ่งอาจจะมาจากจุดนี้ และเราก็ไม่ทราบจำนวนศัตรูเพราะฉะนั้น หน่วยที่จะเข้าไปลอบตลบหลังพวกชุดที่หนึ่งก็ต้องระวังตัวกันให้มาก และหลังจากจบภารกิจช่วยเหลือ เราก็จะถล่มพวกมันที่มองโกเลียด้วย”
ประเทศออสเตรเลีย
ยานเซรามิสจำนวน 5 ลำบินขึ้นท้องฟ้าแล้วเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นไปยังจีน
ห้องของซิลเวียร์ บนยานเซรามิส
‘พี่ หนูจะได้สู้กับพี่แล้วใช้ไหมค่ะ’
ซิลเวียร์ครุ่นคิดแต่เรื่องการต่อสู้ ขณะนั้นเองลูซิเฟอร์ก็เดินเข้ามาในห้องแล้วพูดขึ้น
“อย่ามั่วแต่ครุ่นคิดเรื่องการต่อสู้มากนักเลย เก็บแรงไว้ใช้ตอนรบจะดีกว่า”
“อาจาร์ยรู้เหรอค่ะว่าหนูคิดแต่เรื่องการต่อสู้กับพี่”
“ดูจากท่าทางก็รู้แล้ว แต่ว่าฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”
“เรื่องอะไรเหรอค่ะ”
“เธอรู้เรื่องพ่อของเธอมากแค่ไหน”
“แม่ไม่ค่อยเล่าเรื่องพ่อให้ฟังเท่าไหร่ แต่บอกแค่ว่าอยากให้ลูกๆเป็นแบบพ่อ แต่ไม่อยากให้ไปเผชิญกับโชคชะตาที่โหดร้ายแบบพ่อนะค่ะ”
“พ่อของเธอเป็นนิวไทป์ ที่มีพลังจัดอยู่ในนิวไทป์ขั้นสูง แถมฝีมือของเขาก็ไม่ใช้เล่นๆแต่ก็ใช้ว่าจะเก่งมาก แต่ที่แน่ๆพวกเราแอมไพรไม่มีใครสู้เข้าได้”
“หนูได้ยินข่าวลือมาว่าพ่อหนูเป็นคนทำลายกองยานของพวกเราในกาแล็คซี่รอบๆจนเกือบหมดภายในเวลา 1 อาทิตย์เหรอค่ะ”
“ใช้ นั้นเป็นเรื่องจริง”
ขณะนั้นเองโรงเก็บโมบิลสูท
“นี้น่ะเหรอ แมสโปรดักต์ของทราเวลที่ถูกส่งมาเมื่อกี้”แกรนซันพูดขึ้น
แกรนซันยืนมองโมบิลสูทสีขาวทั่วตัวตาสองสีเขียวกันดั้มไทป์
‘ถึงเป็นแมสโปรดักต์แต่ก็แค่มีความสามารถที่ใกล้เคียง ถึงจะไม่ได้บรรจุแบล็คโฮลต์เข้าไปก็เถอะ’
แกนซันหันหลังให้โมบิลสูทสีขาวแล้วเดินออกไปจากโรงเก็บโมบิลสูท
‘อยากลองสู้ด้วยสักครั้ง กันเลโอ’
เวลา 8.40 น. เขตชายแดนประเทศจีน
ครืด!! ประตูหลับใต้ดินขนาดใหญ่ค่อยๆเปิดออกแล้วยานไวทแองเจิลค่อยๆลดเพดานบินลงไปข้างล่าง
5 นาทีต่อมา ยานไวทแองเจิลจอดอยู่ในฐานใต้ดินและกำลังชาร์จพลังงาน ขณะนั้นเอง ผบ.ประจำฐานทัพก็ออกมาต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับค่ะ ผบ.สูงสุด”ผบ.กล่าวขึ้น
“สถานการณ์แถบนี้เป็นยังไงบ้าง”ส้มถามขึ้น
“พวกกบฏยังอยู่บริเวณนี้ไม่ไกลมาก แต่ด้วยภูมิศาสตร์ที่เป็นป่าก็เลยช่วยพวกเราได้เยอะเลยค่ะ”
ขณะนั้นเอง เอวิลก็เดินลงมาจากยานแล้วเดินเข้ามาหาส้มแล้วถามขึ้น
“เจ๊ ที่นี้มีที่พักผ่อนอะไรบ้างไหม”
“ไปหาเอาเองสิ”
“ถามดีๆก็ไม่ตอบ ไปหาเองก็ได้”
เอวิลพูดจบแล้วเดินจากไป
“นั้นคือ ร้อยโทเอวิลใช้ไหมค่ะ”ผบ.ถามส้มขึ้น
“ใช้ นั้นแหละร้อยโทที่ถล่มยานรบรุ่นใหม่ของแอมไพรได้ด้วยตัวคนเดียว”
“ดิฉันได้ข่าวมาว่า เซต้าทีม และ สคัลทีม ที่ติดมากับยานพวกคุณด้วยได้สูญเสียบุคลากรไปงั้นเหรอค่ะ”
“ใช้ และดูเหมือนคนที่เศร้าใจมากที่สุดก็คงเป็นร้อยโทเอง”
ขณะนั้นเองเอวิลกำลังจะเดินออกไปจากท่าเทียบยาน แฟอารี่ก็เดินเข้ามาหา
“ขอไปด้วยได้ไหม”แฟอารี่ถามเอวิลขึ้น
“ก็ตามมาสิ”
แฟอารี่เดินตามเอวิลออกไปจากท่าเทียบยาน
“ก่อนหน้าที่เราจะเดินทางมาที่โลก เราเคยได้ยินว่าโลกมีกองทัพที่ชื่อว่า สหพันธ์”
“ตอนนี้มีก็เหมือนไม่มี ตอนนี้ก็คงต้องเรียกว่า สหพันธ์ที่ลงเหลือ อยู่ละมั้ง”
“สหพันธ์ที่ลงเหลือยังงั้นเหรอ?”
“ใช้หลังจากโลกกลายเป็นอณานิคมของแอมไพรไป สหพันธ์ก็สูญเสียอำนาจไปแน่นอน จะเหลือก็แค่สหพันธ์ที่ไม่ยอมจะปล่อยให้โลกกลายเป็นอณานิคม แต่ว่าวิธีการของพวกเขามันไม่เหมือนพวกเรา หรือพวกกบฏเลย”
“ยังไงเหรอ”
“พวกเขาทำเหมือนเป็นกองทหารอิสระ สิ่งที่พวกเขาทำคือการกำจัดภัยคุกคามแก่ประชาชน และดูเหมือนแอมไพรจะเมินเฉยสหพันธ์ที่เหลือดู”
“ยังงั้นมันก็เหมือนกับว่าสหพันธ์ไม่ได้คิดที่จะต่อต้านแอมไพรเลยแม้แต่น้อยสิ”
“มันก็ไม่เชิง ใครจะไปรู้ว่าพวกเขามีแผนอะไรอยู่กันแน่”
เอวิลเปิดประตูห้องๆหนึ่งเข้าไป เป็นห้องโถงที่มีขนาดกว้างด้านซ้ายมือ เป็นกลุ่มโต๊ะสนุกเกอร์จำนวนมากที่เจ้าหน้าที่หลายคนกำลังเล่นอยู่ทางซ้ายเป็นโซนโซฟานั่งพักผ่อน เอวิลเดินไปนั่งที่โซฟา แฟอารี่เห็นจึงเดินไปนั่งข้างๆ
“ตอนแรกที่ฉันต้องมาขับโมบิลสูท มันเหมือนกับการโดนดึงลงนรก ใครมันจะไปคิดละว่าต้องมาแบกรับหน้าที่แบบนี้เอาไว้ ใครๆก็ไม่อยากเผชิญโชคชะตาที่แสนโหดร้ายหรอกน่ะ”เอวิลเอ่ยขึ้น
“พวกคุณชาวโลก ไม่ใช้พวกนิยมสงครามหรอกเหรอ ต่างจากพวกเราจังน่ะ บุกรุกกาแล็คซี่อื่นไปทั่วเพื่อยึดเป็นอณานิคม”
“สงครามไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก  มันมีแต่ความสูญเสีย ในสงครามมันก็ถูกและผิดทั้งสองฝ่าย ความจริงแล้วพวกที่ทำสงครามเพื่อเรียกร้องสันติภาพหรือก่อการร้ายยับยั้งสงคราม เพื่อเรียกร้องสันติภาพ มันน่าขำสิ้นดี”
“น่าขำเหรอ ยังไง”
“การกระทำของพวกเขามันขัดแย้งกับสิ่งที่ต้องการ สันติภาพที่เกิดขึ้นแบบนั้นก็คงเป็นได้ แค่สันติภาพจอมปลอม แต่ว่าสงครามมันก็เป็นเส้นทางสู่สัติภาพที่แท้จริง แต่ถ้าจะหยุดสงคราให้หมดละก็ คงต้องทำลายมนุษย์ไปให้หมดนั้นแหละ”
ขณะนั้นเองก็มีหญิงสาวในเสื้อเจ้าหน้าที่มีผ้าคลุ่ม คลุ่มด้านหลังเดินเข้ามาหาเอวิล
“มาตั้งแต่ตอนไหนกัน ร้อยโท”หญิงสาวเอ่ยขึ้น
“พึ่งมาเมื่อสักครู่นี้เองครับ ร้อยเอกเจน”
หญิงสาวที่ชื่อเจน ยืนพิจราณาสักครู่
“แล้วนี้ก็คงเป็นคนสำคัญของพวกแอมไพรสิน่ะ ได้ข่าวมาว่าต้องการให้พวกเราช่วยเหลืองั้นเหรอ”เจนหันไปถามแฟอารี่
“ใช้ เราไม่เห็นด้วยกับวิธีการของฝ่ายเราเอง เราเลยต้องการยืมมือพวกคุณ”
“พวกเราพร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว”เจนนั่งลงข้างๆแฟอารี่
เอวิลถอนหายใจสักพัก แล้วพูดขึ้น
“ร้อยเอก พอจะทราบไหมครับว่า แถวนี้ที่ไหนบ้างที่เป็นอณาเขตของพวกกบฏหรือแอมไพรนะครับ”
“ถ้าลงล่างไปเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเขตของพวกกบฏเสียซะส่วนใหญ่ ยกเว้นอินโดนีเซียแต่ประเทศที่หน้าเป็นห่วงที่สุด ก็คือ ประเทศที่ประชาชนไปหลงเชื่อคำพูดของพวกกบฏซะมากแถม ในตัวประเทศยังมีเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองอีก จะเอาไงกับประเทศนี้ดี”
“หมายถึง ประเทศไทย นั้นใช้ไหมครับ”
“ใช้มันก็ขัดแย้งกันมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศักราชแล้วล่ะ จนถึงยุคสมัยอวกาศประเทศนั้นก็ยังทุจริตเหมือนเดิม จนสหพันธ์สมเพชรเลยปล่อยไป ปัจจุบันประเทศนั้นก็ยังไม่มีโมบิลสูทใช้ น้อยคนที่จะได้ออกไปสู่อวกาศ”
“ที่นั้นจะเป็นจุดสุดท้ายที่พวกกบฏจะซ่อนตัวหากการกวาดล้างกบฏครั้งใหญ่เริ่มขึ้น เพราะยังไงๆ แอมไพรก็ไม่ชอบฆ่าประชาชนแน่  แต่เอาเถอะก็ใช้ว่าประชาชนทุกคนในประเทศนั้นจะสนับสนุนกบฏนี้น่า”
เจนลุกขึ้นแล้วมายืนข้างหน้าเอวิลแล้วพูดขึ้น
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน มาลองสู้กันดูสักหน่อยดีกว่าไหม”
“ก็ได้ครับ ผมไม่ได้ใช้การต่อสู้ระยะประชิดนานแล้ว”
ณ โรงยิมในฐานทัพ
เจนและเอวิล ยืนเผชิญหน้ากันทั้งสองอยู่ในสภาพพร้อมพุ่งเข้าหากัน
“ได้ข่าวว่าตลอดระยะเวลาที่ออกไปลุยเดี่ยวมานี้ ทำผลงานได้ดีนิ”เจนพูดขึ้น
“ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอกครับ”เอวิลหันหน้าออกทางขวาแล้วพูด
ฟุ่บ! เจนพุ่งเข้าหาเอวิลแล้วต่อยหมัดเข้าที่หน้าแต่ เอวิลใช้มือรับหมัดไว้ได้โดยที่ไม่หันหน้ามามอง
“การออกหมัดเร็วขึ้นดีนะครับ”เอวิลหันมามอง
“ยังประสาทไวเหมือนเดิมนี้”
เจนสะบัดมือเอวิลออก แล้วฟาดขาใส่เอวิล  เอวิลยกขารับไว้ได้ทันแล้วต่อยหมัดสวนคืนไป เจนตั้งการ์ดรับไว้ได้ทันแล้ว ต่อยเสยใส่เอวิล แต่เอิวลเบี่ยงตัวหลบออกทัน แล้วต่อยหมัดสวนคืนไป เจนเบี่ยงตัวหลบออกทางซ้ายอย่างรวดเร็ว  ทั้งสองยืนนิ่งๆ
“ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนนี้” “คุณก็เหมือนกันครับร้อยเอก  บล็อกได้หมดพัฒนาขึ้นแล้วนี้ครับ”
หวอ!!! หวอ!! เสียงสัญญาญเตือนภัยดังขึ้น
“ศัตรูเหรอ!!!?”
ขณะนั้นเองป้อมมิสไซของฐานก็ค่อยๆโผล่ขึ้นจากใต้ดิน จำนวน 10 ป้อม แล้วยิงมิสไซจำนวนมากออกไปใส่ยานแอสเทรียจำนวน  5 ลำที่บินเข้ามาเหนือน่านฟ้า
“ยิงปืนทำลายมิสไซ!!!”
แตร๊ดๆ! ปืนต่อต้านมิสไซถูกยิงออกมาจากยานแอสเทรียทั้งหมดทำลายฝูงมิสไซที่กำลังพุ่งเข้ามาจนหมดสิ้น แล้วยิงบีมถล่มป้อมมิสไซทันที
ห้องบัญชาการ
“คาตาพอลไม่สามารถเปิดได้ค่ะ!!!! ศัตรูยิงบีมมาอย่างต่อเนื่อ!!”โอเปเรเตอร์รายงานผล
“ป้อมมิสไซเราล่ะ!!!”ผบ.ถาม
“พังหมดแล้วค่ะ!!!”
“ชิ!! ไม่คิดเลยว่ามันจะมาเร็วซะขนาดนี้”
“ใจเย็นๆน่ามันต้องมีทางออก ให้นักบินโมบิลสูททุกคนไปประจำการที่โมบิลสูทของตัวเอง แล้วหาช่องทางเปิดคาตาพอลให้ได้”ส้มตบไหล่ ผบ.แล้วออกคำสั่งขึ้น
ยานแอสเทรียนทั้ง 5 ลำระดมยิงมิสไซและบีมทั้งหมดอย่างต่อเนื่องเข้ากวาดล้างพื้นที่โดยรอบ
“ช่องทางที่จะเปิดคาตาพอลออกไปได้มีแค่ 10% เองค่ะ!!! อีก 90% มีโอกาสโดนทำลายระหว่างเปิดคาตาพอลค่ะ!!!!”
“พยายามหาช่องทางให้ได้!!! เตรียมพร้อมเปิดคาตาพอลทุกเมื่อ!!!! หากศัตรูหยุดยิงแล้วให้รีบเปิดคาตาพอลทันที!!!”ผบ.ออกคำสั่ง
“โมบิลสูททุกเครื่องให้เตรียมพร้อมที่คาตาพอลไว้!!! แล้วรอคำสั่งออกตัว!!!!”ส้มออกคำสั่งเสริม
“แย่แล้วค่ะ!!! ประตูบริเวณท่าเทียบยานเสียหาย  60% ค่ะ!!!!!”
“ว่าไงน่ะ!!!! จะให้มันพังประตูเข้ามาไม่ได้!!! ให้แองเจิลจิม 10 เครื่องไปเฝ้าท่าเทียบยาน!!!”
“เดี๋ยวน่ะ ประตูท่าเทียบยาน ถ้าปล่อยให้ประตูพัง แล้วปล่อยโมบิลสูทออกไปสกัดยานแอสเทรีย แล้วรีบเปิดคาตาพอล”ส้มหันไปมอง ผบ.แล้วพูด
“เป็นความคิดที่ดีนะค่ะ แต่ว่าแองเจิลจิม ของที่นี้ไม่ได้มี I-fild เหมือนแองเจิลจิมของที่อื่นหรอกนะค่ะ”ผบ.พูดทักท้วง
“ชิ!! จะเอายังไงดี”
“โมบิลสูทของศัตรู!! เจกันพลัสจำนวน  20 เครื่องออกมาจากยานแอสเทรียค่ะ!!!!”
“แย่ละสิ!!!! เป็นไงเป็นกัน!!! เตรียมเปิดคาตาพอล!!!”
“ใจเย็นๆสิ”เสียงหนึ่งติดต่อเข้ามาในคลื่นสื่อสาร
“ใครกันน่ะ”ส้มถาม
“จำผมไม่ได้เหรอครับพันเอก เรซิลไงละครับ”เรซิลที่ติดต่อเข้ามาตอบ
ขณะนั้นเองยานขนส่งจำนวน 5 ลำก็บินเข้ามาในบริเวณ แล้วปล่อยรถถังจำนวน 20 เครื่องลงไปที่ภาคพื้นดิน ตามด้วยดอมจำนวน 10 เครื่อง แล้วจิมสีขาวที่ติด Flight unit ก็บินออกมาจากยานขนส่ง
“รถถังทุกคันเปลี่ยนโหมด ทันที!!!!ดอม เข้าจัดการกับพวกเจกันพลัส  ส่วนยานขนส่งยิงบีมต่อต้านยานแอสเทรีย!!!”
รถถังทุกคนทันทีที่ลงพื้น ก็ยืดแขนออกมาจับพื้นดินไว้  แล้วเลื่อนปลายกระบอกปืนใหญ่มาเชื่อมต่อที่ปืนใหญ่อีกรอบแล้วเล็งไปที่ยานแอสเทรีย  ดอมทั้ง 10 เครื่องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเข้าปะทะกับ เจกันพลัสอย่างรวดเร็ว จิมสีขาวแบกมิสไซลอนเชอร์ไว้แล้วบินพุ่งไปหายานแอสเทรียทั้ง 5 ลำ
“จิมสีขาว ไวทจิม นั้นมัน”ผบ.หันมาถามส้ม
“ใช้แล้ว กองทัพสหพันธ์ภาคพื้นดิน”ส้มตอบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา