[RED THREAD] ปาฏิหาริย์รักด้ายแดง
-
เขียนโดย GChiiz
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 16.32 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
8,438 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) โชคชะตาที่เปลี่ยนไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อผมกับขวัญขึ้นมาบนห้องและนั่งจับกลุ่มคุยกับน้ำได้ซักพัก ผมก็ต้องหันไปมองกิ่งที่นั่งจดโน้ตลงสมุดอยู่คนเดียว ผมสังเกตว่านอกจากพวกผมสามคนแล้ว กิ่งแทบไม่ได้คุยกับใครเลยจะด้วยลักษณะท่าทางของเธอที่ขี้อายหรือเพราะเธอไม่ค่อยไปสุงสิงกับใคร เห็นแบบนั้นแล้วผมคงปล่อยให้เธอนั่งเหงาอยู่คนเดียวไม่ได้ ปกติแล้วเธอก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะชวนคุยอื่นคุยอยู่แล้ว
“ เออ .... กิ่ง ... ขอโทษนะที่เมื่อวานหลบหน้ากิ่ง ... คือมันไม่ทันตั้งตัวที่ได้ยินเรื่องแบบนั้น ... “ ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะอายหากคนอื่นที่ไม่ใช่น้ำกับขวัญได้ยิน กิ่งหันมามองหน้าผมช้า ๆ ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย
“ อือ ... กิ่งผิดเองแหละที่อยู่ดี ๆ ก็ไปบอกแบบนั้น “ คำตอบของกิ่งทำให้ผมโล่งใจไปมากเลยทีเดียว
“ ขอโทษจริง ๆ นะ “ ผมย้ำคำขอโทษอีกครั้ง กิ่งยิ้มตอบรับก่อนพงกหัวนิดหน่อย แต่รู้สึกเหมือนจะโดนใครบางคนจ้องมองแบบอาฆาตอยู่ .. พอหันไปมองก็โดนสายตาอำหิตของขวัญจ้องมาเหมือนมีรังสีสังหารแผ่พุ่งเข้ามาที่ผมยังไงยังงั้น ส่วนไอน้ำก็หันมาก่อนนั่งยิ้มอยู่คนเดียว ...
“ แล้วหยกไม่โกรธกิ่งหรอ ที่ไปบอกเรื่องด้ายแดงกับขวัญ “ กิ่งถามคำถามนี้ขึ้นมาเล่นเอาผมเหวอไปสามวิเลยทีเดียว จะบอกว่าโกรธก็โกรธ แต่จะไม่โกรธก็ไม่โกรธ เพราะเหมือนกับว่ากิ่งได้นำทางขวัญกับผมไปเผชิญกับอีกฟากหนึ่งของโลกแล้วยังไงยังงั้น
“ หืม ... ไม่นิ ผมก็บอกเรื่องนี้กับไอน้ำไปแล้วเหมือนกันกิ่งจะโกรธมั้ยล่ะ “
“ อ่า .. อย่างงั้นหรอ ... งั้นก็แปลว่าพวกเราก็ไม่มีความลับกันแล้วสินะ “
“ ความลับซักวันมันก็ต้องไม่ใช่ความลับอยู่ดี อยู่ที่จะช้าหรอเร็วเท่านั้นแหละ เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่าที่จะให้เรามีความลับแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ “ หลังจากนั้นกิ่งก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหันมายิ้มให้ผมอย่างเดียว ผมจึงกลับไปนั่งที่โต๊ะเรียนตามเดิม
“ ว่าแต่ว่าทำไมถึงมีข่าวลือเรื่องเธอล่ะขวัญ “ ไอน้ำถามขึ้น ทำเอาขวัญหันควับมาจ้องหน้าผมทันที ส่วนผมก็สะดุ้งโหยงเพราะไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ ไอน้ำมันจะถามเรื่องแบบนี้ในตอนนี้ ในตอนที่ผมกับขวัญพึ่งจะปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อยแล้ว ขวัญหน้าแดงขึ้นมาทันทีสีหน้าเขินอายของเธอแสดงออกมาได้ชัดเจนมาก ส่วนผมก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว
“ น.. น่ะ ... นายสนใจด้วยงั้นหรอ จุ้นไม่เข้าเรื่องน่า !! “ ขวัญตอบน้ำไปด้วยสีหน้าเขินอายอย่างเห็นได้ชัดน้ำเสียงก็สั่นเครือไปหมด ทำให้ไอน้ำยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก
“ แล้วทำไมเธอต้องหน้าแดงแบบนั้นด้วยเนี่ย หรือว่าเป็นเรื่องจริ .. อั่กกก !! “ ไอน้ำพูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนหนังสือวิทย์เล่มหนาฟาดเข้าเต็มหน้าซะแล้ว
“ เจ็บนะเฟ้ยยัยนี่ !! “
“ เชอะ !! “
“ ไอหยกเองทำอะไรซักอย่างดิ ไม่มีใครเอายัยนี่อยู่หรอกแรงยังกะลิงภูเขา “ ไอน้ำหันมาบอกผม ทำเอาผมจ้องหน้ามันแบบไม่อยากจะสนใจมากนัก ก่อนทำมือเป็นท่าทางบอกมันว่าช่วยอะไรเองไม่ได้หรอกเพื่อน ...... จากนั้นสงครามย่อย ๆ ก็เกิดขึ้นทันที ไอน้ำทั้งแกล้ง ทั้งแซวขวัญ จนมีเสียงดังปุกปักดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นฝ่ายขวัญคนเดียวที่โจมตีไอน้ำอยู่ฝ่ายเดียว .... สงสัยเธอจะเขินจริง ๆ แฮะ .. ผมก็ได้แต่นั่งมองและอมยิ้มกับเพื่อนสองคนนี้อยู่คนเดียว หันไปมองทางกิ่งก็นั่งหัวเราะเล็ก ๆ อยู่คนเดียวเช่นกัน
หลังเสร็จสิ้นสงครามและชั่วโมงเรียนแล้วก็ได้เวลาพักกลางวันเสียที วันนี้พวกเราทั้งสี่คนได้ไปนั่งกินอาหารกลางวันด้วยกันเป็นวันแรก ทั้งผม น้ำ ขวัญ และกิ่ง และแน่นอนว่าวันนี้คุยกันไว้ก่อนแล้วว่าต้องได้กินเมนูพิเศษ ซึ่งวันนี้สาขาการโรงแรมได้มีเมนูสปาเก็ตตี้ไวส์ซอสมาขาย จึงต้องจัดแจงกำลังรบกันหน่อยโดยที่ผม ไอน้ำเป็นตัวล่อสาว ๆ ให้หันมาสนมัน ขวัญเป็นตัวล่อหนุ่ม ๆ ส่วนกิ่งนั้นเป็นแนวหลังคอยสังเกตการณ์ส่วนผมเป็นฝ่ายวางแผน แผนง่าย ๆ คือไอน้ำเดินฝ่ากลางดงสาว ๆ เข้าไปซื้อมาสองจาน ส่วนขวัญนั้นเดินฝ่าดงหนุ่ม ๆ เข้าไปซื้อมาอีกสองจาน ที่จริงผมไม่ต้องวางแผนอะไรพวกนี้หรอกถ้าทั้งสองคนรู้ตัวว่าตัวเองเป็นที่สนใจและดึงดูดเพศตรงข้ามมากขนาดไหน แต่ดันไม่รู้ซะนี่ ...
“ พร้อมแล้วลุยเลยทั้งสองคน “ ผมออกคำสั่งทันทีเมื่อมองดูว่าทั้งกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายได้แยกกันออกเป็นกลุ่ม ๆ แล้วตามแผน
“ โอเคดาร์ลิ่ง “ ขวัญตอบพร้อมกับหันมาแลบลิ้นให้ผม ทำเอาผมตกใจไปชั่วครู่ ... คนอะไรน่ารักจริง ๆ นั่นแหละ
“ ได้ครับท่าน ดีครับนาย รอทานสปาเก็ตตี้ได้เลย !! “ ไอน้ำหันมาทำท่าวันทยหัตถ์กับผมทีนึง ก่อนจะกลับหลังหันเดินตรงแน่วไปยังร้านค้าสาขาการโรงแรมทันที
แน่นอนครับว่าแผนการของผมไม่เคยผิดพลาด สาว ๆ เมื่อเห็นไอน้ำก็หันมาซุบซิบกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ส่วนขวัญนั้นหนุ่ม ๆ หลีกทางให้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วผมกับกิ่งจึงพากันเดินไปจับจองที่นั่งให้เรียบร้อย แต่มีอย่างเดียวที่ผมไม่คิดล่วงหน้าเอาไว้ และมันยังทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นมาอีกด้วย …..
หลังจากที่ผมกับกิ่งหาโต๊ะที่จะนั่งทานข้าวกันได้แล้ว ผมก็ขอตัวกิ่งไปซื้อน้ำดื่มสำหรับเราทั้งสี่ทันที ไม่นานนักก็กลับมาที่โต๊ะแต่ก็ต้องมาตกใจกับภาพที่อยู่ข้างหน้า ด้านหลังของขวัญที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเต็มไปด้วยพวกผู้ชายมายืนจ้องเขม็งไปที่จานสปาเก็ตตี้สีเหลืองนวลที่ด้านบนราดด้วยซอสสีขาวที่ยังเหลืออยู่อีกจานนึง ซึ่งดูจากตำแหน่งของโต๊ะกินข้าวแล้ว มันเป็นของผมอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะผมเป็นคนฝากเธอซื้อ ส่วนด้านหลังของไอน้ำก็มีพวกผู้หญิงมายืนออกันพร้อมกับจ้องมองไปกิ่งเหมือนกับว่าเครียดแค้นมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ...
“ ใครกันครับขวัญ ที่ทำให้ขวัญต้องถือจานมาให้แบบนี้ !! “ พวกผู้ชายเริ่มโวยวาย ผมเห็นแบบนั้นจากที่จะเดินเข้าไปนั่งก็หยุดกึกทันทียังกะโดนดึงเบรกมือ
“ ใครมันบังอาจมาใช้งานเจ้าหญิงของพวกเราแบบนี้ มาถึงพ่อจะตืบให้เละ !! “
“ ใช่ !! ตืบมัน ตืบมัน ตืบมัน ตืบมัน !! “
“ พี่น้ำ ยัยนี่เป็นใคร ทำไมน้ำถึงถือสปาเก็ตตี้มาให้ยัยนี่ด้วย บอกมาเลยนะ “ คราวนี้เป็นฟากของหนุ่มหล่อเพอร์เฟ็คอย่างไอน้ำที่โดนสาว ๆ ระดมยิงคำถามมาเพียบ
“ นี่หล่อนไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยหรือไง แล้วเป็นใครกันอยู่ดี ๆ ถึงมานั่งกินข้าวกับน้ำอย่างสนิทสนมแบบนี้ จะมากไปแล้วนะ “ คราวนี้เรื่องก็ไปถึงกิ่งจนได้ กิ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบคุยหรือสุงสิงกับใครอยู่แล้วมาเจอสถานการณ์แบบนี้ยิ่งดูก็ยิ่งรู้ว่าเธอนั้นทำตัวไม่ถูกเลย เห็นแบบนั้นแล้วผมที่เป็นลูกผู้ชายเต็มตัวก็เริ่มจะทนไม่ไหวกับกริยาของทั้งพวกผู้ชายและพวกผู้หญิงจึงรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทันที และไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าสายตาทั้งหมดจ้องมาที่ผมทันที
“ พอได้หรือยังครับ รบกวนเวลากินข้าวของพวกผมนะครับ “
“ หา ... “
“ พวกผมเป็นเพื่อนกันมานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้มันผิดปกติหรือไงครับ ขอร้องรบกวนช่วยหยุดได้แล้วครับ “ ผมพูดออกไปพรางจ้องหน้าพวกผู้ชายที่ยืนอยู่หลังขวัญไปด้วย ตาต่อตาประสานกัน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาจ้องหน้าพวกชายโฉดพวกนี้ในเวลาแบบนี้ ให้ตายเถอะ ผมกลัวเหมือนกันนะครับ ...
“ หยกเค้าเป็นแฟนฉันเอง เลิกมาจุ่นจ้านได้แล้ว !! “ เอ๋ .....
“ ........................... “
“ อะไรนะครับขวัญ .... ผมได้ยินไม่ค่อยชัด “
“ เฮ้ย ๆ เดี๋ยวสิ .... ขวัญพูดอะไร เดี๋ยวก็เข้าใจผิดไปกันใหญ่ทั้งโรงเรียนหรอก .. แล้วยัง ... “ ผมอึ้งไปชั่วครู่ทำไมขวัญถึงบอกแบบนั้นไป พอผมพูดเสร็จขวัญก็ทำท่าห้ามผมพูดต่อทันที
“ ชัดเจนแล้วนะ เลิกวุ่นวายกันได้แล้ว คนจะกินข้าวกินปลา “ พวกผู้ชายพากันมองหน้าเลิกลั่ก โดยเฉพาะผมที่นั่งนิ่งทำหน้าเอ๋อไปแล้วเรียบร้อย ไอน้ำหันมาหัวเราะใส่ผมนิดหน่อย
“ แล้วผู้หญิงคนนี้ก็แฟนน้ำงั้นหรอ “ ยิงได้ตรงเป้าและตรงประเด็นมาก ๆ เลยครับท่านผู้หญิงทั้งหลาย ...
“ หืมม .... “ ไอน้ำทำท่าครุ่นคิด .....
“ ใช่ที่ไหน คนนี้ชื่อกิ่งเป็นเพื่อนใหม่ของผม เป็นแฟนไอหยกมันนู้น “
“ เอ๋ .... “ กิ่งช็อคทำช้อนกับซ้อมในมือหล่นทันที ....
เฮ้ย !!!!! เดี๋ยวก่อน ขอเวลานอก อะไรของเองว่ะไอน้ำ !!
“ ห๊า.... นี่เองควบสองเลยหรอไอหยก !!! “ คราวนี้เหมือนพวกผู้ชายจะแผ่รังสีอำมหิตมากขึ้นกว่าเก่าจนผมรู้สึกได้ หยกสัมผัสได้ครับ ....
“ เดี๋ยวสิ .... ขอเวลานอกแป๊บ !! “ ไม่พูดอะไรต่อแล้ว ผมรีบคว้าจานสปาเก็ตตี้แล้วรีบถือจานวิ่งหนีมวลมหาประชาชนทันที ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอการยัดเยียดข้อหาเป็นแฟนกับผู้หญิงสวยระดับท็อปของโรงเรียนแบบนี้ทีเดียวสองคน ให้ตายเถอะครับนั่งกินอย่างสบายใจตรงนี้ไม่ได้แล้ว
“ เองจะหนีไปไหน มานี่เลยเฮ้ยย !! “ เสียงพวกผู้ชายวิ่งตายมาอย่างกระชั้นชิด โถ่ชีวิตผมต้องจบลงวันนี้หรือนี่ ผมวิ่งไปเรื่อย ๆ ขึ้นลงชั้นสองทีชั้นสามที จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าวิ่งมาอยู่ตึกกันแน่เพราะแต่ล่ะตึกมันก็มีทางเชื่อมที่สามารถเดินไปมาหากันได้อยู่ อ่อ ... ในมือผมก็ยังคงถือจานสปาเก็ตตี้อยู่นะครับ เมนูพิเศษ ๆ แบบนี้ทิ้งไว้ไม่ได้หรอก
“ พี่หยก ... ทางนี้ค่ะ …“ โอ้ .... น้องเฟิร์น โพล่มาได้ถูกจังหวะมา ๆ ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปในห้องที่น้องเฟิร์นอยู่ทันที ..
“ ทำไมวิ่งถือจานอาหารมาแบบนี้ล่ะคะ “
“ แฮ่ก ๆ ๆ ... เรื่องมันยาว ... เออ ... แฮ่ก ๆ ... ก็ไม่ยาวมากหรอกแต่ไม่ค่อยอยากจะเล่า ... เหนื่อยวุ้ย ... “ ผมก้มตัวหายใจหอบแฮ่ก ๆ เปรียบเสมือนหมาหอบแดดเลยทีเดียว จะให้บอกว่าโดนยัดเยียดข้อหาให้เป็นแฟนผู้หญิงทีเดียวสองคนได้ยังไง
“ ใจเย็น ๆ หายใจลึก ๆ นะคะ “ แย่จริง ๆ นะครับที่ผมต้องให้สาวรุ่นน้องมาช่วยเหลือเนี่ย ..
“ ขอบใจมากนะน้องเฟิร์นไม่ได้น้องมาช่วยนี่สงสัยจะแย่จริง ๆ “ ผมบอกกับน้องเฟิร์นออกไปก่อนที่จะม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากทันที เพราะด้วยความหิวบวกกับความเหนื่อย ... มันใช่เวลาที่ผมต้องมาทำแบบนี้ต่อหน้าน้องเค้ามั้ยเนี่ย
“ แต่หนูว่าพี่หยกลืมไปอย่างนะคะ “
“ เอ๋ ... พี่ลืมอะไรอย่างงั้นหรอ “ ผมหันไปหาน้องเฟิร์นด้วยความสังสัย
“ หนูว่าพี่ลืมเอาน้ำดื่มมาด้วยน่ะสิคะ “
“ อะ ... ก็จริงของน้องเฟิร์น แค่วิ่งถือจานสปาเก็ตตี้มาแบบนี้ก็แปลกคนแล้ว จะให้พี่วิ่งถือขวดน้ำมาด้วยก็จะแปลกเข้าไปใหญ่นะ “
“ ค่ะ ... คิคิ “ น้องเฟิร์นหัวเราะเล็ก ๆ ออกมาทำเอาผมอดที่จะมองไม่ได้ อย่างที่บอกว่าเธอเป็นน้องสาวของพี่มิ้นท์ผู้หญิงที่ผมคิดว่าน่ารักที่สุดแล้วที่ผมเคยเห็นมา โดยเฉพาะทรงผมเปิดเหม่งของพี่มิ้นท์ แล้วน้องเฟิร์นที่หน้าตาแทบจะเหมือนกันยังกะฝาแฝดก็อดไม่ได้ที่ผมจะมองน้องเฟิร์นด้วยความเอ็นดู ... แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องเค้าไปมากกว่าน้องของรุ่นพี่ที่รู้จัก อีกอย่างคือน้องเฟิร์นคุยกับผมได้อย่างปกติ แต่กับไอน้ำแล้วน้องเฟิร์นมักจะหลบหน้าด้วยความเขินอายตลอดเวลาที่เจอกัน
“ งั้นถ้าพี่หยกไม่ถือสาอะไรเอาน้ำดื่มของหนูไปก็ได้นะค่ะ เดี๋ยวเส้นสปาเก็ตตี้ติดคอตายแล้วจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ … มีแต่น้ำชาเขียวไม่มีน้ำตาลคงไม่ว่าอะไรนะคะ “ พูดเสร็จน้องเฟิร์นก็ยื่นขวดชาเขียวมาให้ผม ผมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับขวดชาเขียวทันที
“ ขอบคุณมากนะน้องเฟิร์น “
“ ค่ะ “ น้องเฟิร์นยิ้มรับคำขอบคุณของผมด้วยสีหน้าแจ่มใส ทำให้ผมอดที่จะเอ็นดูน้องสาวคนนี้ไม่ได้ ..
จากนั้นผมใช้เวลาพักกลางวันไปกับการหลบกลุ่มชายโฉดพร้อมกับทานอาหารกลางวันที่ห้องเรียนของน้องเฟิร์นที่เพื่อน ๆ ลงไปข้างล่างกันหมด มีเพียงน้องเฟิร์นเท่านั้นที่ยังคงอยู่บนห้องเรียนเพราะต้องทำงานที่ยังค้างไว้อยู่ เหมือนกับว่าน้องเฟิร์นไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่นักแต่ดูแล้วเธอก็คงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายล่ะมั๊ง
“ ว่าแต่เพื่อน ๆ ของน้องเฟิร์นไปไหนกันหมด แล้วนี่ทานอะไรหรือยังอดอาหารไม่ดีรู้มั้ย “ ผมถามในขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องเพื่อไปเก็บจานที่ถือมาด้วย น้องเฟิร์นหันมายิ้มให้ผมในขณะที่กำลังสะสางงานของเธออยู่ที่โต๊ะของเธอเอง
“ หนูทานขนมปังกับนมแล้วค่ะ ช่วงพักกลางวันมันวุ่นวายหนูไม่ชอบที่จะต้องลงไปช่วงนี้เท่าไหร่ “
“ อ่อ ... งั้นก็พี่ไปก่อนนะขอบคุณสำหรับชาเขียวและห้องหลบภัยมาก ๆ “ ผมตอบก่อนหันไปบอกน้องเฟิร์น น้องเฟิร์นหันมายิ้มให้นิดหน่อย ก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับงานของเธอต่อ
เปิดประตูห้องน้องเฟิร์นมาก็ต้องมองซ้ายมองขวา ตั้งสตินิดหน่อยว่าตอนนี้ผมอยู่ส่วนไหนของโรงเรียน แถมตอนนี้สถานการณ์ของผมคงไม่เหมือนเดิมแล้วแน่ ๆ ทั้งข้อหาเป็นแฟนของขวัญ กัปตันชมรมว่ายน้ำผู้เป็นที่หมายปองของนักเรียนชายทั้งปวง และกิ่ง ... เออ ... จะว่าไปผมยังไม่รู้เลยว่ากิ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนนี้มาก่อนหรือว่าพึ่งเข้ามาใหม่ ส่วนมากเวลาอยู่ในห้องก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แล้วอีกอย่างเธอรู้จักผมได้ยังไง ... เออวุ้ย ...
หันซ้ายหันขวาไม่มีอันตราย คิดทบทวนอีกนิดหน่อยน้องเฟิร์นเรียนสาขาอะไร .... อ่า .... เออ ... อ่อ ... เออใช่ สาขาการท่องเที่ยว เมื่อรู้ตำแหน่งแล้วก็ไม่รอช้ารีบเดินลงจากอาคารทันที แต่จะเดินลงไปดุ่ย ๆ เลยท่าจะไม่ดี ผมจึงตัดสินใจเดินไปที่สกายวอร์คเพื่อเดินไปยังตึกคอมแล้วค่อยลงไปที่โรงอาหารทีเดียวจะใกล้และเสี่ยงน้อยที่สุด ... แต่ก็ไม่พ้นสายตาของนักเรียนคนอื่น ๆ อยู่ดี
“ นี่ไง ๆ ... แฟนพี่ขวัญ “ นักเรียนหญิงสามสี่คนที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่สกายวอร์คพูดขึ้น
“ อะเด๊ะ ?? ... “
“ นี่พี่คบกับพี่ขวัญนานยังอ่ะ “ เอ๋ ... ทำไมอยู่ ๆ น้องสาวถึงมาถามแบบนี้ล่ะครับ
“ หนูอยู่ชมรมว่ายน้ำ อยากรู้ว่าพี่เป็นแฟนกัปตันจริง ๆ หรือเปล่า บอกหน่อยสิข่าวลือแรงมากเลยนะค่ะช่วงนี้ ถ้าใช่งั้นที่มีข่าวลือว่าพี่ขวัญจูบผู้ชายก็ต้องเป็นพี่แน่นอนเลย “ อีกแล้ว ... ผมต้องมาเจอสถานการณ์ที่ต้องบังคับให้ตอบอะไรแบบนี้อีกแล้ว แถมคราวนี้เป็นรุ่นน้องในชมรมว่ายน้ำซะด้วย ... ผมได้แต่ยิ้มให้น้องสาวทั้งสี่ไปโดยที่ไม่ตอบอะไร ตั้งหน้าตั้งตาเดินให้ถึงจุดหมายที่ผมต้องการ เพื่อที่จะทำภารกิจนี้ให้ได้ ภารกิจนี้ไม่ใช่อะไรนั่นคือเก็บจานนน !!!!
ระหว่างเดินมาก็มีเสียงซุบซิบ ดั่งระงมไปตลอดทางที่ผมเดินผ่านทั้งพวกผู้ชายทั้งพวกผู้หญิง ... ไม่รู้ว่าผมจะภูมิใจกับมันดีหรือเปล่าที่อยู่ดี ๆ ก็จะได้เป็นแฟนกับนักเรียนหญิงสุดป็อปแห่งโรงเรียนนี้ ...
“ เฮ้อ .... ถึงซะที “ และแล้วข้างหน้าผมก็เป็นที่เก็บจานซักที ... ภารกิจสำเร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาที่แขวนอยู่กลางเสาต้นหลักของโรงอาหารก็ใกล้เวลาที่จะต้องขึ้นไปเรียนคาบต่อไปแล้ว
“ หายหัวไปไหนมาเนี่ย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ “ เสียงไอน้ำดังขึ้นข้าง ๆ ผม
“ เหอะ ๆ ... ก็เพราะเองนั้นแหละอยู่ดี ๆ โยนกิ่งมาให้เป็นแฟนข้าซะงั้น “ ผมตอบไปด้วยอารมณ์หัวเสียนิดหน่อย
“ ฮ่าฮ่า .. ก็รู้นี่หว่าว่าข้าล้อเล่น ไม่คิดว่าเองจะเผ่นไปแบบนี้ไป ๆ รีบขึ้นห้อง .... “ ไอน้ำหัวเราะเยาะผมทันที ผมก็ได้แต่มองหน้ามันแบบข้องใจนิดหน่อย แต่ก็ช่างเถอะอยู่กับหมอนี่แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีมีเรื่องให้ปวดหัวตลอด ....
“ แล้วกิ่งกับขวัญล่ะ “ ผมถาม
“ ขึ้นห้องไปก่อนแล้ว พวกผู้ชายมันรุมถามกันใหญ่เลยทนไม่ไหว “
“ ก็เพราะเองอีกนั่นแหละ “
“ เองไม่ชอบหรอ ... ก็เห็นท่าทางเองชอบกิ่งเค้านี่หว่า เลยช่วยให้กระชับความสัมพันธ์หน่อยนึง “ ไอน้ำยิ้มกริ่ม ..
“ ไปกันใหญ่ล่ะ อย่าคิดเองเออเองไปคนเดียวดิ ทำแบบนี้กิ่งเค้าก็เดือดร้อนไปด้วย นี่เองเล่นแบบนี้กับเพื่อนใหม่ที่พึ่งคุยกันได้สองสามวันเนี่ยนะ “
“ อ่า .... เออ .... จริงอย่างที่เองว่า เดี๋ยวข้าไปขอโทษกิ่งล่ะกันตอนขึ้นไปบนห้อง ป่ะ ... ไปกันเหอะเสียเวลาเดี๋ยวเข้าสายโดนบ่นอีก “ ผมบ่นไอน้ำไปนิดหน่อยเพราะคิดว่ามันเล่นแรงเกินไป แม้นิสัยขี้เล่นของมันจะทำให้มันเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน แต่กับกิ่งที่พึ่งจะรู้จักกันมาไม่กี่วันมันก็ไม่น่าจะทำแบบนี้
แต่จะว่าไปตอนที่ไอน้ำบอกว่ากิ่งเป็นแฟนผม ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตอนเกิดเหตุการณ์นั้น ภาพของกิ่งที่ตกใจจนทำช้อนกับซ้อมหลุดมือนี่ทำผมฮายังไม่หาย ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่มีอาการตกใจได้แบบนั้น ... แถมหน้าแดงเป็นเนื้อแตงโมเลยทีเดียว ....
ผมกับไอน้ำก็เดินขึ้นมาทางบันไดเช่นเดิมเพราะลิฟท์สองตัวสาว ๆ ยืนออรอขึ้นลิฟท์กันเต็มไปหมด นี่ก็คืออีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ เป็นโรงเรียนเอกชนที่แสนจะหรูหรา ค่าเทอมก็ไม่ใช่ถูก ๆ แต่ทำไมถึงมีลิฟท์ให้ใช้สอยน้อยขนาดนี้ อีกอย่าง ตึกที่สูงที่สุดก็มีแค่ห้าชั้น พวกสาว ๆ ก็ไม่เลือกที่จะเดินขึ้นดันเลือกที่จะไปออยืนรอลิฟท์แทนซะอย่างงั้น .... ไม่นานนักผมกับไอน้ำก็เดินเข้ามาถึงห้องเรียนซักที แต่คราวนี้เพื่อน ๆ ในห้องที่ผมไม่ได้สนิทด้วยก็หันมาที่ผมกันพรึ่บ ...
“ พ่อหนุ่มเหมาสองมาแล้วเว้ยเฮ้ย !! “
“ ร้ายไม่เบานะนายหยก เปิดเรียนได้ไม่กี่วันก็เหมาสองเลยแบบนี้ “
นั่นคือเสียงสรรเสริญที่ผมได้รับทันทีจากพวกเพื่อน ๆ ในห้อง ให้ตายสิแค่ไม่ถึงชั่วโมงทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ..
“ จะบ้าไง ก็แค่ล้อเล่นกัน ใช่ป่ะขวัญ “ ผมหันไปถามขวัญที่นั่งมองออกไปข้างนอกหน้าต่างโดยที่ไม่หันมามองผมเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังทำหน้าบูดเหมือนกับไม่พอใจผมซะด้วย
“ กิ่ง ... “ กิ่งก็เช่นเดียวกัน ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออย่างเดียว
“ มาคุสุด ๆ เลยว่ะเพื่อนรัก ... “ ไอน้ำพูดขึ้นก่อนเอามือมาพาดไหล่ผม ... เองไม่ต้องมาปลอบข้าเลย เพราะเองคนเดียวเลยไอตัวแสบเอ้ย ....
“ เองไปขอโทษกิ่งก่อนเลย ขวัญเดี๋ยวข้าคุยเอง “ ผมบอก ไอน้ำรับคำทันทีก่อนจะเดินไปคุยกับกิ่งทันทีส่วนผมนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะของตัวเองทันที ขวัญที่นั่งอยู่ด้านหน้าผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหันมามองผม
“ ขวัญ ... นี่ ... ขวัญ .. “ ผมพยายามเรียกเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจผมเท่าไหร่นัก
“ โกรธอะไรอีกล่ะเนี่ย เพราะงี้ไงถึง ... “
“ เพราะงี้ทำไม … “ อยู่ดี ๆ ขวัญก็หันควับมาหาผมทันที ทำเอาผมตกใจเล็กน้อย
“ ป ... เปล่า ... ไม่มีอะไร “
“ เฮ่อ ... ตาบื้อ … “ แล้วขวัญก็หันกลับไปอีกครั้ง
“ เป็นอะไรของเธอเนี่ย นี่มันไม่ใช่ความผิดฉันเลยนะ เธอเป็นคนที่ทำให้คนอื่น ๆ เค้าเข้าใจผิดเองนะ “
“ ยะ .. ยุ่งน่า .... คนอื่นเข้าใจผิดก็ดีแล้ว ... “ ขวัญตอบด้วยน้ำเสียงไม่ปกติเท่าไหร่นัก
“ นี่เธอ ... “
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่ใช่ว่าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไร แต่ผมเขินครับ .... ที่เธอบอกว่าให้คนอื่นเข้าใจผิดก็แล้วเพราะคนอื่นจะได้รู้ว่าผมเป็นแฟนเธออย่างงั้นหรอ .... เริ่มแย่แล้วล่ะครับ ... หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ไม่เคยเป็นแบบนี้ด้วยแม้กระทั่งตอนที่เราคุยกันที่สวนหย่อมสวนนั้น ... ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกอีกแล้ว เราสองคนต่างฝ่ายต่างไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาอีกเลย คราวนี้ขวัญไม่ได้ท้าวคางมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่เธอก้มหน้าลงไปกับโต๊ะเลย หรือเธอจะเขินเหมือนกัน .... เสียงหัวใจผมเต้นรัวมาก แค่คำพูดแค่นิดเดียวแค่นี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ...
“ เฮ้ย ๆ .... “ ไอน้ำเรียกผมทำเอาผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที
“ จะไม่ไปคุยกับกิ่งหน่อยหรอ ข้าขอโทษไปแล้วเองก็ไปขอโทษด้วยอีกคนสิ “
“ อ่า ... เออ ... ได้ “ ผมตอบรับคำไปก่อนจะลุกจากโต๊ะเดินไปยืนข้าง ๆ กิ่งทันที
“ กิ่ง ... “ ผมเรียกเธอในขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ กิ่งเงยหน้ามาทางผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ คือว่า ... เอ่อ ..ขอโทษแทนไอน้ำมันด้วยนะกิ่ง ที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่องทำให้เธอเดือดร้อนด้วยแบบนี้ “
“ ไม่เป็นจ่ะ ... ฉันไม่คิดอะไรอยู่แล้ว .. “ กิ่งตอบเสียงเรียบ
“ แต่มันจะทำให้เธอโดนเข้าใจผิดไปนะ “
“ อืม .. ช่างมันเถอะจ่ะ หยกไม่ต้องกังวลหรอกนะ “
“ แต่ว่า ... อืม ... อือ .... เอางั้นก็ได้ ยังไงก็ขอโทษกิ่งอีกที เองด้วยไอน้ำ !! “ ผมก้มหัวขอโทษกิ่งทันทีก่อนจะลากตัวไอน้ำมาขอโทษอีกที กิ่งก็ได้แต่ยกไม้ยกมือบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ยังทำให้ผมไม่สบายใจอยู่ดี
“ พอเถอะน่า ... หยกน้ำ ... แค่ฉันมีพวกเธอเป็นเพื่อนด้วยก็ดีใจแล้ว หยอกกันเล่นแค่นี้นิด ๆ หน่อย ๆ ฉันไม่ใส่ใจหรอกจ่ะ “
“ งั้นเดี๋ยววันนี้พากิ่งไปเลี้ยงข้าวเย็นล่ะกัน “ ไอน้ำพูดขึ้นก่อนเหล่ตามาที่ผม
“ เอ๋ ไม่ต้องก็ได้จ่ะ ฉันต้องกลับไปช่วยที่ร้านด้วย “
“ ไม่ได้ ไม่ได้ ยังไงกิ่งก็ต้องไปไม่งั้นจะถือว่ากิ่งไม่รับคำขอโทษจากน้ำกับไอหยกมัน “
“ เดี๋ยวดิเฮ้ย ... แล้วเองจะพากิ่งไปที่ไหน “ ผมถาม
“ แน่อยู่แล้วใกล้ที่สุด สะดวกสำหรับเองที่สุดร้านโซระที่เองทำงานอยู่ไง “
“ เฮ้ย !! .. “ และแล้วเหมือนหวยจะมาออกที่ผมอีกครั้ง
“ งั้นฉันไปด้วยสิ !! “ ขวัญเดินมาพร้อมกับกอดอกแน่น สายตาอาฆาตจ้องมองมาที่ผมกับไอน้ำอย่างเยือกเย็น
“ แล้วทำไมเธอต้องไปด้วยล่ะเนี่ย ไหนบอกไม่ชอบกินข้าวเย็นไง “ ไอน้ำถาม
“ เอ่อ .... “ กิ่งเริ่มทำตัวไม่ถูกที่อยู่ดี ๆ ก็จะโดนลากไปกินข้าวเย็นซะอย่างงั้น
“ ไม่ต้องเถียงกันละ ... ไปก็ไปเดี๋ยวบริการเอง “ ผมรีบพูดตัดบทก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ทันที โดยมีขวัญหันไปยิ้มเยาะเย้ยไอน้ำนิดหน่อย ก่อนจะเดินตามผมมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ยอมยกนายให้กิ่งหรอกน่า “ ขวัญยิ้มให้ผมอีกแล้ว และอีกครั้งผมมองหน้าเธอตรง ๆ ไม่ไหว ...
“ ระ ... รู้แล้วน่า ... “ ผมก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาเธออีกครั้ง
“ หืม ... ทำไมก้มหน้าก้มตาแบบนั้นกันล่ะ เขินหรอ ..เหหหห ”
“ นี่ .... รู้มั้ยว่านั่นก็เป็นอีกจุดนึงที่ทำให้ฉันชอบหยกนะ “ ขวัญมากระซิบที่ข้างหูผมด้วยถ้อยคำแผ่นเบา ... บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว ... ผมไม่กล้ามองหน้าเธอเลย ทำยังไงดี ... หัวใจเต้นรัวอีกแล้ว ...
“ ย ... ยะ ... ยัยบ้า ... “
“ เอ๊ะ ... มะ ... เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ “
“ ปะ ... ปะ ... เปล่า ... ไม่มีอะไร …. “
ดูเหมือนว่าโชคชะตาของผมนั้นกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว ผมเริ่มมีความรู้สึกกับขวัญเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อวาน บางทีเธอก็หลบหน้าผมเหมือนว่าเธอก็อายที่จะต้องคุยกับผม แต่บางทีเธอก็ทำพฤติกรรมแปลก ๆ แบบนี้ผมไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร ... ที่ผมหวั่นไหวแบบนี้เพราะด้ายแดงของเธอที่ผมเห็นว่าพุ่งมาที่ผมหรือเปล่า ... แล้วกับกิ่งล่ะ ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิ่งกับผมมันไม่ได้คืบหน้าไปมากกว่าเพื่อนเลยนี่น่า ... แต่ผมก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่าผมชอบขวัญไปแล้วหรือยัง ....
“ เออ .... กิ่ง ... ขอโทษนะที่เมื่อวานหลบหน้ากิ่ง ... คือมันไม่ทันตั้งตัวที่ได้ยินเรื่องแบบนั้น ... “ ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะอายหากคนอื่นที่ไม่ใช่น้ำกับขวัญได้ยิน กิ่งหันมามองหน้าผมช้า ๆ ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย
“ อือ ... กิ่งผิดเองแหละที่อยู่ดี ๆ ก็ไปบอกแบบนั้น “ คำตอบของกิ่งทำให้ผมโล่งใจไปมากเลยทีเดียว
“ ขอโทษจริง ๆ นะ “ ผมย้ำคำขอโทษอีกครั้ง กิ่งยิ้มตอบรับก่อนพงกหัวนิดหน่อย แต่รู้สึกเหมือนจะโดนใครบางคนจ้องมองแบบอาฆาตอยู่ .. พอหันไปมองก็โดนสายตาอำหิตของขวัญจ้องมาเหมือนมีรังสีสังหารแผ่พุ่งเข้ามาที่ผมยังไงยังงั้น ส่วนไอน้ำก็หันมาก่อนนั่งยิ้มอยู่คนเดียว ...
“ แล้วหยกไม่โกรธกิ่งหรอ ที่ไปบอกเรื่องด้ายแดงกับขวัญ “ กิ่งถามคำถามนี้ขึ้นมาเล่นเอาผมเหวอไปสามวิเลยทีเดียว จะบอกว่าโกรธก็โกรธ แต่จะไม่โกรธก็ไม่โกรธ เพราะเหมือนกับว่ากิ่งได้นำทางขวัญกับผมไปเผชิญกับอีกฟากหนึ่งของโลกแล้วยังไงยังงั้น
“ หืม ... ไม่นิ ผมก็บอกเรื่องนี้กับไอน้ำไปแล้วเหมือนกันกิ่งจะโกรธมั้ยล่ะ “
“ อ่า .. อย่างงั้นหรอ ... งั้นก็แปลว่าพวกเราก็ไม่มีความลับกันแล้วสินะ “
“ ความลับซักวันมันก็ต้องไม่ใช่ความลับอยู่ดี อยู่ที่จะช้าหรอเร็วเท่านั้นแหละ เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่าที่จะให้เรามีความลับแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ “ หลังจากนั้นกิ่งก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหันมายิ้มให้ผมอย่างเดียว ผมจึงกลับไปนั่งที่โต๊ะเรียนตามเดิม
“ ว่าแต่ว่าทำไมถึงมีข่าวลือเรื่องเธอล่ะขวัญ “ ไอน้ำถามขึ้น ทำเอาขวัญหันควับมาจ้องหน้าผมทันที ส่วนผมก็สะดุ้งโหยงเพราะไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ ไอน้ำมันจะถามเรื่องแบบนี้ในตอนนี้ ในตอนที่ผมกับขวัญพึ่งจะปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อยแล้ว ขวัญหน้าแดงขึ้นมาทันทีสีหน้าเขินอายของเธอแสดงออกมาได้ชัดเจนมาก ส่วนผมก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว
“ น.. น่ะ ... นายสนใจด้วยงั้นหรอ จุ้นไม่เข้าเรื่องน่า !! “ ขวัญตอบน้ำไปด้วยสีหน้าเขินอายอย่างเห็นได้ชัดน้ำเสียงก็สั่นเครือไปหมด ทำให้ไอน้ำยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก
“ แล้วทำไมเธอต้องหน้าแดงแบบนั้นด้วยเนี่ย หรือว่าเป็นเรื่องจริ .. อั่กกก !! “ ไอน้ำพูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนหนังสือวิทย์เล่มหนาฟาดเข้าเต็มหน้าซะแล้ว
“ เจ็บนะเฟ้ยยัยนี่ !! “
“ เชอะ !! “
“ ไอหยกเองทำอะไรซักอย่างดิ ไม่มีใครเอายัยนี่อยู่หรอกแรงยังกะลิงภูเขา “ ไอน้ำหันมาบอกผม ทำเอาผมจ้องหน้ามันแบบไม่อยากจะสนใจมากนัก ก่อนทำมือเป็นท่าทางบอกมันว่าช่วยอะไรเองไม่ได้หรอกเพื่อน ...... จากนั้นสงครามย่อย ๆ ก็เกิดขึ้นทันที ไอน้ำทั้งแกล้ง ทั้งแซวขวัญ จนมีเสียงดังปุกปักดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เป็นฝ่ายขวัญคนเดียวที่โจมตีไอน้ำอยู่ฝ่ายเดียว .... สงสัยเธอจะเขินจริง ๆ แฮะ .. ผมก็ได้แต่นั่งมองและอมยิ้มกับเพื่อนสองคนนี้อยู่คนเดียว หันไปมองทางกิ่งก็นั่งหัวเราะเล็ก ๆ อยู่คนเดียวเช่นกัน
หลังเสร็จสิ้นสงครามและชั่วโมงเรียนแล้วก็ได้เวลาพักกลางวันเสียที วันนี้พวกเราทั้งสี่คนได้ไปนั่งกินอาหารกลางวันด้วยกันเป็นวันแรก ทั้งผม น้ำ ขวัญ และกิ่ง และแน่นอนว่าวันนี้คุยกันไว้ก่อนแล้วว่าต้องได้กินเมนูพิเศษ ซึ่งวันนี้สาขาการโรงแรมได้มีเมนูสปาเก็ตตี้ไวส์ซอสมาขาย จึงต้องจัดแจงกำลังรบกันหน่อยโดยที่ผม ไอน้ำเป็นตัวล่อสาว ๆ ให้หันมาสนมัน ขวัญเป็นตัวล่อหนุ่ม ๆ ส่วนกิ่งนั้นเป็นแนวหลังคอยสังเกตการณ์ส่วนผมเป็นฝ่ายวางแผน แผนง่าย ๆ คือไอน้ำเดินฝ่ากลางดงสาว ๆ เข้าไปซื้อมาสองจาน ส่วนขวัญนั้นเดินฝ่าดงหนุ่ม ๆ เข้าไปซื้อมาอีกสองจาน ที่จริงผมไม่ต้องวางแผนอะไรพวกนี้หรอกถ้าทั้งสองคนรู้ตัวว่าตัวเองเป็นที่สนใจและดึงดูดเพศตรงข้ามมากขนาดไหน แต่ดันไม่รู้ซะนี่ ...
“ พร้อมแล้วลุยเลยทั้งสองคน “ ผมออกคำสั่งทันทีเมื่อมองดูว่าทั้งกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายได้แยกกันออกเป็นกลุ่ม ๆ แล้วตามแผน
“ โอเคดาร์ลิ่ง “ ขวัญตอบพร้อมกับหันมาแลบลิ้นให้ผม ทำเอาผมตกใจไปชั่วครู่ ... คนอะไรน่ารักจริง ๆ นั่นแหละ
“ ได้ครับท่าน ดีครับนาย รอทานสปาเก็ตตี้ได้เลย !! “ ไอน้ำหันมาทำท่าวันทยหัตถ์กับผมทีนึง ก่อนจะกลับหลังหันเดินตรงแน่วไปยังร้านค้าสาขาการโรงแรมทันที
แน่นอนครับว่าแผนการของผมไม่เคยผิดพลาด สาว ๆ เมื่อเห็นไอน้ำก็หันมาซุบซิบกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ส่วนขวัญนั้นหนุ่ม ๆ หลีกทางให้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วผมกับกิ่งจึงพากันเดินไปจับจองที่นั่งให้เรียบร้อย แต่มีอย่างเดียวที่ผมไม่คิดล่วงหน้าเอาไว้ และมันยังทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นมาอีกด้วย …..
หลังจากที่ผมกับกิ่งหาโต๊ะที่จะนั่งทานข้าวกันได้แล้ว ผมก็ขอตัวกิ่งไปซื้อน้ำดื่มสำหรับเราทั้งสี่ทันที ไม่นานนักก็กลับมาที่โต๊ะแต่ก็ต้องมาตกใจกับภาพที่อยู่ข้างหน้า ด้านหลังของขวัญที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเต็มไปด้วยพวกผู้ชายมายืนจ้องเขม็งไปที่จานสปาเก็ตตี้สีเหลืองนวลที่ด้านบนราดด้วยซอสสีขาวที่ยังเหลืออยู่อีกจานนึง ซึ่งดูจากตำแหน่งของโต๊ะกินข้าวแล้ว มันเป็นของผมอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะผมเป็นคนฝากเธอซื้อ ส่วนด้านหลังของไอน้ำก็มีพวกผู้หญิงมายืนออกันพร้อมกับจ้องมองไปกิ่งเหมือนกับว่าเครียดแค้นมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ...
“ ใครกันครับขวัญ ที่ทำให้ขวัญต้องถือจานมาให้แบบนี้ !! “ พวกผู้ชายเริ่มโวยวาย ผมเห็นแบบนั้นจากที่จะเดินเข้าไปนั่งก็หยุดกึกทันทียังกะโดนดึงเบรกมือ
“ ใครมันบังอาจมาใช้งานเจ้าหญิงของพวกเราแบบนี้ มาถึงพ่อจะตืบให้เละ !! “
“ ใช่ !! ตืบมัน ตืบมัน ตืบมัน ตืบมัน !! “
“ พี่น้ำ ยัยนี่เป็นใคร ทำไมน้ำถึงถือสปาเก็ตตี้มาให้ยัยนี่ด้วย บอกมาเลยนะ “ คราวนี้เป็นฟากของหนุ่มหล่อเพอร์เฟ็คอย่างไอน้ำที่โดนสาว ๆ ระดมยิงคำถามมาเพียบ
“ นี่หล่อนไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยหรือไง แล้วเป็นใครกันอยู่ดี ๆ ถึงมานั่งกินข้าวกับน้ำอย่างสนิทสนมแบบนี้ จะมากไปแล้วนะ “ คราวนี้เรื่องก็ไปถึงกิ่งจนได้ กิ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบคุยหรือสุงสิงกับใครอยู่แล้วมาเจอสถานการณ์แบบนี้ยิ่งดูก็ยิ่งรู้ว่าเธอนั้นทำตัวไม่ถูกเลย เห็นแบบนั้นแล้วผมที่เป็นลูกผู้ชายเต็มตัวก็เริ่มจะทนไม่ไหวกับกริยาของทั้งพวกผู้ชายและพวกผู้หญิงจึงรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทันที และไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าสายตาทั้งหมดจ้องมาที่ผมทันที
“ พอได้หรือยังครับ รบกวนเวลากินข้าวของพวกผมนะครับ “
“ หา ... “
“ พวกผมเป็นเพื่อนกันมานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้มันผิดปกติหรือไงครับ ขอร้องรบกวนช่วยหยุดได้แล้วครับ “ ผมพูดออกไปพรางจ้องหน้าพวกผู้ชายที่ยืนอยู่หลังขวัญไปด้วย ตาต่อตาประสานกัน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาจ้องหน้าพวกชายโฉดพวกนี้ในเวลาแบบนี้ ให้ตายเถอะ ผมกลัวเหมือนกันนะครับ ...
“ หยกเค้าเป็นแฟนฉันเอง เลิกมาจุ่นจ้านได้แล้ว !! “ เอ๋ .....
“ ........................... “
“ อะไรนะครับขวัญ .... ผมได้ยินไม่ค่อยชัด “
“ เฮ้ย ๆ เดี๋ยวสิ .... ขวัญพูดอะไร เดี๋ยวก็เข้าใจผิดไปกันใหญ่ทั้งโรงเรียนหรอก .. แล้วยัง ... “ ผมอึ้งไปชั่วครู่ทำไมขวัญถึงบอกแบบนั้นไป พอผมพูดเสร็จขวัญก็ทำท่าห้ามผมพูดต่อทันที
“ ชัดเจนแล้วนะ เลิกวุ่นวายกันได้แล้ว คนจะกินข้าวกินปลา “ พวกผู้ชายพากันมองหน้าเลิกลั่ก โดยเฉพาะผมที่นั่งนิ่งทำหน้าเอ๋อไปแล้วเรียบร้อย ไอน้ำหันมาหัวเราะใส่ผมนิดหน่อย
“ แล้วผู้หญิงคนนี้ก็แฟนน้ำงั้นหรอ “ ยิงได้ตรงเป้าและตรงประเด็นมาก ๆ เลยครับท่านผู้หญิงทั้งหลาย ...
“ หืมม .... “ ไอน้ำทำท่าครุ่นคิด .....
“ ใช่ที่ไหน คนนี้ชื่อกิ่งเป็นเพื่อนใหม่ของผม เป็นแฟนไอหยกมันนู้น “
“ เอ๋ .... “ กิ่งช็อคทำช้อนกับซ้อมในมือหล่นทันที ....
เฮ้ย !!!!! เดี๋ยวก่อน ขอเวลานอก อะไรของเองว่ะไอน้ำ !!
“ ห๊า.... นี่เองควบสองเลยหรอไอหยก !!! “ คราวนี้เหมือนพวกผู้ชายจะแผ่รังสีอำมหิตมากขึ้นกว่าเก่าจนผมรู้สึกได้ หยกสัมผัสได้ครับ ....
“ เดี๋ยวสิ .... ขอเวลานอกแป๊บ !! “ ไม่พูดอะไรต่อแล้ว ผมรีบคว้าจานสปาเก็ตตี้แล้วรีบถือจานวิ่งหนีมวลมหาประชาชนทันที ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอการยัดเยียดข้อหาเป็นแฟนกับผู้หญิงสวยระดับท็อปของโรงเรียนแบบนี้ทีเดียวสองคน ให้ตายเถอะครับนั่งกินอย่างสบายใจตรงนี้ไม่ได้แล้ว
“ เองจะหนีไปไหน มานี่เลยเฮ้ยย !! “ เสียงพวกผู้ชายวิ่งตายมาอย่างกระชั้นชิด โถ่ชีวิตผมต้องจบลงวันนี้หรือนี่ ผมวิ่งไปเรื่อย ๆ ขึ้นลงชั้นสองทีชั้นสามที จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าวิ่งมาอยู่ตึกกันแน่เพราะแต่ล่ะตึกมันก็มีทางเชื่อมที่สามารถเดินไปมาหากันได้อยู่ อ่อ ... ในมือผมก็ยังคงถือจานสปาเก็ตตี้อยู่นะครับ เมนูพิเศษ ๆ แบบนี้ทิ้งไว้ไม่ได้หรอก
“ พี่หยก ... ทางนี้ค่ะ …“ โอ้ .... น้องเฟิร์น โพล่มาได้ถูกจังหวะมา ๆ ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปในห้องที่น้องเฟิร์นอยู่ทันที ..
“ ทำไมวิ่งถือจานอาหารมาแบบนี้ล่ะคะ “
“ แฮ่ก ๆ ๆ ... เรื่องมันยาว ... เออ ... แฮ่ก ๆ ... ก็ไม่ยาวมากหรอกแต่ไม่ค่อยอยากจะเล่า ... เหนื่อยวุ้ย ... “ ผมก้มตัวหายใจหอบแฮ่ก ๆ เปรียบเสมือนหมาหอบแดดเลยทีเดียว จะให้บอกว่าโดนยัดเยียดข้อหาให้เป็นแฟนผู้หญิงทีเดียวสองคนได้ยังไง
“ ใจเย็น ๆ หายใจลึก ๆ นะคะ “ แย่จริง ๆ นะครับที่ผมต้องให้สาวรุ่นน้องมาช่วยเหลือเนี่ย ..
“ ขอบใจมากนะน้องเฟิร์นไม่ได้น้องมาช่วยนี่สงสัยจะแย่จริง ๆ “ ผมบอกกับน้องเฟิร์นออกไปก่อนที่จะม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากทันที เพราะด้วยความหิวบวกกับความเหนื่อย ... มันใช่เวลาที่ผมต้องมาทำแบบนี้ต่อหน้าน้องเค้ามั้ยเนี่ย
“ แต่หนูว่าพี่หยกลืมไปอย่างนะคะ “
“ เอ๋ ... พี่ลืมอะไรอย่างงั้นหรอ “ ผมหันไปหาน้องเฟิร์นด้วยความสังสัย
“ หนูว่าพี่ลืมเอาน้ำดื่มมาด้วยน่ะสิคะ “
“ อะ ... ก็จริงของน้องเฟิร์น แค่วิ่งถือจานสปาเก็ตตี้มาแบบนี้ก็แปลกคนแล้ว จะให้พี่วิ่งถือขวดน้ำมาด้วยก็จะแปลกเข้าไปใหญ่นะ “
“ ค่ะ ... คิคิ “ น้องเฟิร์นหัวเราะเล็ก ๆ ออกมาทำเอาผมอดที่จะมองไม่ได้ อย่างที่บอกว่าเธอเป็นน้องสาวของพี่มิ้นท์ผู้หญิงที่ผมคิดว่าน่ารักที่สุดแล้วที่ผมเคยเห็นมา โดยเฉพาะทรงผมเปิดเหม่งของพี่มิ้นท์ แล้วน้องเฟิร์นที่หน้าตาแทบจะเหมือนกันยังกะฝาแฝดก็อดไม่ได้ที่ผมจะมองน้องเฟิร์นด้วยความเอ็นดู ... แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องเค้าไปมากกว่าน้องของรุ่นพี่ที่รู้จัก อีกอย่างคือน้องเฟิร์นคุยกับผมได้อย่างปกติ แต่กับไอน้ำแล้วน้องเฟิร์นมักจะหลบหน้าด้วยความเขินอายตลอดเวลาที่เจอกัน
“ งั้นถ้าพี่หยกไม่ถือสาอะไรเอาน้ำดื่มของหนูไปก็ได้นะค่ะ เดี๋ยวเส้นสปาเก็ตตี้ติดคอตายแล้วจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ … มีแต่น้ำชาเขียวไม่มีน้ำตาลคงไม่ว่าอะไรนะคะ “ พูดเสร็จน้องเฟิร์นก็ยื่นขวดชาเขียวมาให้ผม ผมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับขวดชาเขียวทันที
“ ขอบคุณมากนะน้องเฟิร์น “
“ ค่ะ “ น้องเฟิร์นยิ้มรับคำขอบคุณของผมด้วยสีหน้าแจ่มใส ทำให้ผมอดที่จะเอ็นดูน้องสาวคนนี้ไม่ได้ ..
จากนั้นผมใช้เวลาพักกลางวันไปกับการหลบกลุ่มชายโฉดพร้อมกับทานอาหารกลางวันที่ห้องเรียนของน้องเฟิร์นที่เพื่อน ๆ ลงไปข้างล่างกันหมด มีเพียงน้องเฟิร์นเท่านั้นที่ยังคงอยู่บนห้องเรียนเพราะต้องทำงานที่ยังค้างไว้อยู่ เหมือนกับว่าน้องเฟิร์นไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่นักแต่ดูแล้วเธอก็คงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายล่ะมั๊ง
“ ว่าแต่เพื่อน ๆ ของน้องเฟิร์นไปไหนกันหมด แล้วนี่ทานอะไรหรือยังอดอาหารไม่ดีรู้มั้ย “ ผมถามในขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้องเพื่อไปเก็บจานที่ถือมาด้วย น้องเฟิร์นหันมายิ้มให้ผมในขณะที่กำลังสะสางงานของเธออยู่ที่โต๊ะของเธอเอง
“ หนูทานขนมปังกับนมแล้วค่ะ ช่วงพักกลางวันมันวุ่นวายหนูไม่ชอบที่จะต้องลงไปช่วงนี้เท่าไหร่ “
“ อ่อ ... งั้นก็พี่ไปก่อนนะขอบคุณสำหรับชาเขียวและห้องหลบภัยมาก ๆ “ ผมตอบก่อนหันไปบอกน้องเฟิร์น น้องเฟิร์นหันมายิ้มให้นิดหน่อย ก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับงานของเธอต่อ
เปิดประตูห้องน้องเฟิร์นมาก็ต้องมองซ้ายมองขวา ตั้งสตินิดหน่อยว่าตอนนี้ผมอยู่ส่วนไหนของโรงเรียน แถมตอนนี้สถานการณ์ของผมคงไม่เหมือนเดิมแล้วแน่ ๆ ทั้งข้อหาเป็นแฟนของขวัญ กัปตันชมรมว่ายน้ำผู้เป็นที่หมายปองของนักเรียนชายทั้งปวง และกิ่ง ... เออ ... จะว่าไปผมยังไม่รู้เลยว่ากิ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนนี้มาก่อนหรือว่าพึ่งเข้ามาใหม่ ส่วนมากเวลาอยู่ในห้องก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แล้วอีกอย่างเธอรู้จักผมได้ยังไง ... เออวุ้ย ...
หันซ้ายหันขวาไม่มีอันตราย คิดทบทวนอีกนิดหน่อยน้องเฟิร์นเรียนสาขาอะไร .... อ่า .... เออ ... อ่อ ... เออใช่ สาขาการท่องเที่ยว เมื่อรู้ตำแหน่งแล้วก็ไม่รอช้ารีบเดินลงจากอาคารทันที แต่จะเดินลงไปดุ่ย ๆ เลยท่าจะไม่ดี ผมจึงตัดสินใจเดินไปที่สกายวอร์คเพื่อเดินไปยังตึกคอมแล้วค่อยลงไปที่โรงอาหารทีเดียวจะใกล้และเสี่ยงน้อยที่สุด ... แต่ก็ไม่พ้นสายตาของนักเรียนคนอื่น ๆ อยู่ดี
“ นี่ไง ๆ ... แฟนพี่ขวัญ “ นักเรียนหญิงสามสี่คนที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่สกายวอร์คพูดขึ้น
“ อะเด๊ะ ?? ... “
“ นี่พี่คบกับพี่ขวัญนานยังอ่ะ “ เอ๋ ... ทำไมอยู่ ๆ น้องสาวถึงมาถามแบบนี้ล่ะครับ
“ หนูอยู่ชมรมว่ายน้ำ อยากรู้ว่าพี่เป็นแฟนกัปตันจริง ๆ หรือเปล่า บอกหน่อยสิข่าวลือแรงมากเลยนะค่ะช่วงนี้ ถ้าใช่งั้นที่มีข่าวลือว่าพี่ขวัญจูบผู้ชายก็ต้องเป็นพี่แน่นอนเลย “ อีกแล้ว ... ผมต้องมาเจอสถานการณ์ที่ต้องบังคับให้ตอบอะไรแบบนี้อีกแล้ว แถมคราวนี้เป็นรุ่นน้องในชมรมว่ายน้ำซะด้วย ... ผมได้แต่ยิ้มให้น้องสาวทั้งสี่ไปโดยที่ไม่ตอบอะไร ตั้งหน้าตั้งตาเดินให้ถึงจุดหมายที่ผมต้องการ เพื่อที่จะทำภารกิจนี้ให้ได้ ภารกิจนี้ไม่ใช่อะไรนั่นคือเก็บจานนน !!!!
ระหว่างเดินมาก็มีเสียงซุบซิบ ดั่งระงมไปตลอดทางที่ผมเดินผ่านทั้งพวกผู้ชายทั้งพวกผู้หญิง ... ไม่รู้ว่าผมจะภูมิใจกับมันดีหรือเปล่าที่อยู่ดี ๆ ก็จะได้เป็นแฟนกับนักเรียนหญิงสุดป็อปแห่งโรงเรียนนี้ ...
“ เฮ้อ .... ถึงซะที “ และแล้วข้างหน้าผมก็เป็นที่เก็บจานซักที ... ภารกิจสำเร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาที่แขวนอยู่กลางเสาต้นหลักของโรงอาหารก็ใกล้เวลาที่จะต้องขึ้นไปเรียนคาบต่อไปแล้ว
“ หายหัวไปไหนมาเนี่ย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ “ เสียงไอน้ำดังขึ้นข้าง ๆ ผม
“ เหอะ ๆ ... ก็เพราะเองนั้นแหละอยู่ดี ๆ โยนกิ่งมาให้เป็นแฟนข้าซะงั้น “ ผมตอบไปด้วยอารมณ์หัวเสียนิดหน่อย
“ ฮ่าฮ่า .. ก็รู้นี่หว่าว่าข้าล้อเล่น ไม่คิดว่าเองจะเผ่นไปแบบนี้ไป ๆ รีบขึ้นห้อง .... “ ไอน้ำหัวเราะเยาะผมทันที ผมก็ได้แต่มองหน้ามันแบบข้องใจนิดหน่อย แต่ก็ช่างเถอะอยู่กับหมอนี่แล้วเป็นแบบนี้ทุกทีมีเรื่องให้ปวดหัวตลอด ....
“ แล้วกิ่งกับขวัญล่ะ “ ผมถาม
“ ขึ้นห้องไปก่อนแล้ว พวกผู้ชายมันรุมถามกันใหญ่เลยทนไม่ไหว “
“ ก็เพราะเองอีกนั่นแหละ “
“ เองไม่ชอบหรอ ... ก็เห็นท่าทางเองชอบกิ่งเค้านี่หว่า เลยช่วยให้กระชับความสัมพันธ์หน่อยนึง “ ไอน้ำยิ้มกริ่ม ..
“ ไปกันใหญ่ล่ะ อย่าคิดเองเออเองไปคนเดียวดิ ทำแบบนี้กิ่งเค้าก็เดือดร้อนไปด้วย นี่เองเล่นแบบนี้กับเพื่อนใหม่ที่พึ่งคุยกันได้สองสามวันเนี่ยนะ “
“ อ่า .... เออ .... จริงอย่างที่เองว่า เดี๋ยวข้าไปขอโทษกิ่งล่ะกันตอนขึ้นไปบนห้อง ป่ะ ... ไปกันเหอะเสียเวลาเดี๋ยวเข้าสายโดนบ่นอีก “ ผมบ่นไอน้ำไปนิดหน่อยเพราะคิดว่ามันเล่นแรงเกินไป แม้นิสัยขี้เล่นของมันจะทำให้มันเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน แต่กับกิ่งที่พึ่งจะรู้จักกันมาไม่กี่วันมันก็ไม่น่าจะทำแบบนี้
แต่จะว่าไปตอนที่ไอน้ำบอกว่ากิ่งเป็นแฟนผม ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตอนเกิดเหตุการณ์นั้น ภาพของกิ่งที่ตกใจจนทำช้อนกับซ้อมหลุดมือนี่ทำผมฮายังไม่หาย ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่มีอาการตกใจได้แบบนั้น ... แถมหน้าแดงเป็นเนื้อแตงโมเลยทีเดียว ....
ผมกับไอน้ำก็เดินขึ้นมาทางบันไดเช่นเดิมเพราะลิฟท์สองตัวสาว ๆ ยืนออรอขึ้นลิฟท์กันเต็มไปหมด นี่ก็คืออีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ เป็นโรงเรียนเอกชนที่แสนจะหรูหรา ค่าเทอมก็ไม่ใช่ถูก ๆ แต่ทำไมถึงมีลิฟท์ให้ใช้สอยน้อยขนาดนี้ อีกอย่าง ตึกที่สูงที่สุดก็มีแค่ห้าชั้น พวกสาว ๆ ก็ไม่เลือกที่จะเดินขึ้นดันเลือกที่จะไปออยืนรอลิฟท์แทนซะอย่างงั้น .... ไม่นานนักผมกับไอน้ำก็เดินเข้ามาถึงห้องเรียนซักที แต่คราวนี้เพื่อน ๆ ในห้องที่ผมไม่ได้สนิทด้วยก็หันมาที่ผมกันพรึ่บ ...
“ พ่อหนุ่มเหมาสองมาแล้วเว้ยเฮ้ย !! “
“ ร้ายไม่เบานะนายหยก เปิดเรียนได้ไม่กี่วันก็เหมาสองเลยแบบนี้ “
นั่นคือเสียงสรรเสริญที่ผมได้รับทันทีจากพวกเพื่อน ๆ ในห้อง ให้ตายสิแค่ไม่ถึงชั่วโมงทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ..
“ จะบ้าไง ก็แค่ล้อเล่นกัน ใช่ป่ะขวัญ “ ผมหันไปถามขวัญที่นั่งมองออกไปข้างนอกหน้าต่างโดยที่ไม่หันมามองผมเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังทำหน้าบูดเหมือนกับไม่พอใจผมซะด้วย
“ กิ่ง ... “ กิ่งก็เช่นเดียวกัน ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออย่างเดียว
“ มาคุสุด ๆ เลยว่ะเพื่อนรัก ... “ ไอน้ำพูดขึ้นก่อนเอามือมาพาดไหล่ผม ... เองไม่ต้องมาปลอบข้าเลย เพราะเองคนเดียวเลยไอตัวแสบเอ้ย ....
“ เองไปขอโทษกิ่งก่อนเลย ขวัญเดี๋ยวข้าคุยเอง “ ผมบอก ไอน้ำรับคำทันทีก่อนจะเดินไปคุยกับกิ่งทันทีส่วนผมนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะของตัวเองทันที ขวัญที่นั่งอยู่ด้านหน้าผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหันมามองผม
“ ขวัญ ... นี่ ... ขวัญ .. “ ผมพยายามเรียกเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจผมเท่าไหร่นัก
“ โกรธอะไรอีกล่ะเนี่ย เพราะงี้ไงถึง ... “
“ เพราะงี้ทำไม … “ อยู่ดี ๆ ขวัญก็หันควับมาหาผมทันที ทำเอาผมตกใจเล็กน้อย
“ ป ... เปล่า ... ไม่มีอะไร “
“ เฮ่อ ... ตาบื้อ … “ แล้วขวัญก็หันกลับไปอีกครั้ง
“ เป็นอะไรของเธอเนี่ย นี่มันไม่ใช่ความผิดฉันเลยนะ เธอเป็นคนที่ทำให้คนอื่น ๆ เค้าเข้าใจผิดเองนะ “
“ ยะ .. ยุ่งน่า .... คนอื่นเข้าใจผิดก็ดีแล้ว ... “ ขวัญตอบด้วยน้ำเสียงไม่ปกติเท่าไหร่นัก
“ นี่เธอ ... “
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่ใช่ว่าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไร แต่ผมเขินครับ .... ที่เธอบอกว่าให้คนอื่นเข้าใจผิดก็แล้วเพราะคนอื่นจะได้รู้ว่าผมเป็นแฟนเธออย่างงั้นหรอ .... เริ่มแย่แล้วล่ะครับ ... หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ไม่เคยเป็นแบบนี้ด้วยแม้กระทั่งตอนที่เราคุยกันที่สวนหย่อมสวนนั้น ... ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกอีกแล้ว เราสองคนต่างฝ่ายต่างไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาอีกเลย คราวนี้ขวัญไม่ได้ท้าวคางมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่เธอก้มหน้าลงไปกับโต๊ะเลย หรือเธอจะเขินเหมือนกัน .... เสียงหัวใจผมเต้นรัวมาก แค่คำพูดแค่นิดเดียวแค่นี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ...
“ เฮ้ย ๆ .... “ ไอน้ำเรียกผมทำเอาผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที
“ จะไม่ไปคุยกับกิ่งหน่อยหรอ ข้าขอโทษไปแล้วเองก็ไปขอโทษด้วยอีกคนสิ “
“ อ่า ... เออ ... ได้ “ ผมตอบรับคำไปก่อนจะลุกจากโต๊ะเดินไปยืนข้าง ๆ กิ่งทันที
“ กิ่ง ... “ ผมเรียกเธอในขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ กิ่งเงยหน้ามาทางผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ คือว่า ... เอ่อ ..ขอโทษแทนไอน้ำมันด้วยนะกิ่ง ที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่องทำให้เธอเดือดร้อนด้วยแบบนี้ “
“ ไม่เป็นจ่ะ ... ฉันไม่คิดอะไรอยู่แล้ว .. “ กิ่งตอบเสียงเรียบ
“ แต่มันจะทำให้เธอโดนเข้าใจผิดไปนะ “
“ อืม .. ช่างมันเถอะจ่ะ หยกไม่ต้องกังวลหรอกนะ “
“ แต่ว่า ... อืม ... อือ .... เอางั้นก็ได้ ยังไงก็ขอโทษกิ่งอีกที เองด้วยไอน้ำ !! “ ผมก้มหัวขอโทษกิ่งทันทีก่อนจะลากตัวไอน้ำมาขอโทษอีกที กิ่งก็ได้แต่ยกไม้ยกมือบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ยังทำให้ผมไม่สบายใจอยู่ดี
“ พอเถอะน่า ... หยกน้ำ ... แค่ฉันมีพวกเธอเป็นเพื่อนด้วยก็ดีใจแล้ว หยอกกันเล่นแค่นี้นิด ๆ หน่อย ๆ ฉันไม่ใส่ใจหรอกจ่ะ “
“ งั้นเดี๋ยววันนี้พากิ่งไปเลี้ยงข้าวเย็นล่ะกัน “ ไอน้ำพูดขึ้นก่อนเหล่ตามาที่ผม
“ เอ๋ ไม่ต้องก็ได้จ่ะ ฉันต้องกลับไปช่วยที่ร้านด้วย “
“ ไม่ได้ ไม่ได้ ยังไงกิ่งก็ต้องไปไม่งั้นจะถือว่ากิ่งไม่รับคำขอโทษจากน้ำกับไอหยกมัน “
“ เดี๋ยวดิเฮ้ย ... แล้วเองจะพากิ่งไปที่ไหน “ ผมถาม
“ แน่อยู่แล้วใกล้ที่สุด สะดวกสำหรับเองที่สุดร้านโซระที่เองทำงานอยู่ไง “
“ เฮ้ย !! .. “ และแล้วเหมือนหวยจะมาออกที่ผมอีกครั้ง
“ งั้นฉันไปด้วยสิ !! “ ขวัญเดินมาพร้อมกับกอดอกแน่น สายตาอาฆาตจ้องมองมาที่ผมกับไอน้ำอย่างเยือกเย็น
“ แล้วทำไมเธอต้องไปด้วยล่ะเนี่ย ไหนบอกไม่ชอบกินข้าวเย็นไง “ ไอน้ำถาม
“ เอ่อ .... “ กิ่งเริ่มทำตัวไม่ถูกที่อยู่ดี ๆ ก็จะโดนลากไปกินข้าวเย็นซะอย่างงั้น
“ ไม่ต้องเถียงกันละ ... ไปก็ไปเดี๋ยวบริการเอง “ ผมรีบพูดตัดบทก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ทันที โดยมีขวัญหันไปยิ้มเยาะเย้ยไอน้ำนิดหน่อย ก่อนจะเดินตามผมมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ยอมยกนายให้กิ่งหรอกน่า “ ขวัญยิ้มให้ผมอีกแล้ว และอีกครั้งผมมองหน้าเธอตรง ๆ ไม่ไหว ...
“ ระ ... รู้แล้วน่า ... “ ผมก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาเธออีกครั้ง
“ หืม ... ทำไมก้มหน้าก้มตาแบบนั้นกันล่ะ เขินหรอ ..เหหหห ”
“ นี่ .... รู้มั้ยว่านั่นก็เป็นอีกจุดนึงที่ทำให้ฉันชอบหยกนะ “ ขวัญมากระซิบที่ข้างหูผมด้วยถ้อยคำแผ่นเบา ... บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว ... ผมไม่กล้ามองหน้าเธอเลย ทำยังไงดี ... หัวใจเต้นรัวอีกแล้ว ...
“ ย ... ยะ ... ยัยบ้า ... “
“ เอ๊ะ ... มะ ... เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ “
“ ปะ ... ปะ ... เปล่า ... ไม่มีอะไร …. “
ดูเหมือนว่าโชคชะตาของผมนั้นกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว ผมเริ่มมีความรู้สึกกับขวัญเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อวาน บางทีเธอก็หลบหน้าผมเหมือนว่าเธอก็อายที่จะต้องคุยกับผม แต่บางทีเธอก็ทำพฤติกรรมแปลก ๆ แบบนี้ผมไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร ... ที่ผมหวั่นไหวแบบนี้เพราะด้ายแดงของเธอที่ผมเห็นว่าพุ่งมาที่ผมหรือเปล่า ... แล้วกับกิ่งล่ะ ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิ่งกับผมมันไม่ได้คืบหน้าไปมากกว่าเพื่อนเลยนี่น่า ... แต่ผมก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่าผมชอบขวัญไปแล้วหรือยัง ....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ