เรียนๆรักๆ กูดันรักมึงเข้าแล้วซิ

-

เขียนโดย แพทครับ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15.36 น.

  4 บท
  0 วิจารณ์
  7,366 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 00.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
Love Boy Friend เรียนๆรักๆ กูดันรักมึงเข้าแล้วซิ
By PATTYRfc
 
#ภาพเขียน#
 
ณ โรงพยาบาล
 
“เฮ้ยกูกลับก่อนนะเว้ย”
 
ภาพเขียนพูดบอกลาเพื่อนๆหลังจากที่มาเยี่ยมอาจารย์ป้าของกรณ์เสร็จแล้ว
 
“มึงจะรีบไปไหนวะไอ้ภาพกลัวบ้านหายหรอวะ”
 
เจมส์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภาพเขียนดูเหมือนจะอยากกลับบ้านซะเดี๋ยวนี้
 
“เออ...กูจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านกลัวว่าจะเหลือแต่เสาวะ”
 
ภาพเขียนพูดบอกเพื่อนอย่างขำๆ แต่ที่เขารีบกลับเพราะจะรีบไปรอรับพี่สาวกลัวว่าจะมีคนมีขายขนมจีบพี่สาวตนมากเกินไป
 
“มึงจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านหรือเฝ้าพี่มึงวะ”
 
กรณ์แกล้งพูดขึ้นอย่างรู้ทันและไม่ใช่แค่กรณ์คนเดียวที่รู้แต่เพื่อนๆคนอื่นๆไม่พูดเพราะรู้อยู่แล้วไม่ใครก็ใครแหละที่จะพูด
 
“เออ...กูจะกลับไปเฝ้าพี่กู โอเคไหมวะเชี่ยรู้ทันกูตลอดเลยพวกมึงนิ่”
 
คำพูดของกรณ์ทำให้ภาพเขียนยอมรับอย่างเสียไม่ได้เพราะสิ่งที่กรณ์พูดมันเป็นเรื่องจริงแต่ก่อนที่ภาพเขียนจะเดินจากไปชิที่พึ่งเดินเข้ามาหลังคุยโทรศัพท์เสร็จทักไว้ก่อน
 
“เฮ้ยไอ้ภาพจะกลับแล้วหรอวะ...แมร่งจะรีบกลับไปเฝ้าพี่มึงรึไงวะพี่มึงไม่หายไปไหนหรอก อยู่กินข้าวกันพวกกูก่อนดิวะ”
 
ภาพเขียนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันกลับมามองที่ต้นเสียงทันที่แล้วตอบกลับไปอย่างกวนๆ
 
“ชวนกูไปกินข้าวด้วยคิดอะไรกับกูเปล่าวะไอ้ชิ...หึหึมึงเลี้ยงนะถ้าไม่กูกลับ...”
 
ชิเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แทบจำกระโดดถีบเพื่อนสนิทของตนในทันทีถ้าไม่ติดที่ว่าภาพเขียนถ้าได้ทำให้โกรธแล้วก็อย่าหวังว่าจะดีด้วยและรู้ว่าภาพเขียนพูดเล่นไม่ได้จริงจังอะไร
 
“เออๆเลี้ยงก็เลี้ยงเว้ยแต่คราวหน้ามึงเลี้ยงกูนะ”
 
ชิพูดขึ้นเมื่อภาพเขียนยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อจากนั้นภาพเขียนและเพื่อนๆก็พากันไปที่ร้านอาหารหน้าโรงพยาบาลทันที
 
“พวกมึงจะแดกไรวะเดี๋ยวกูสั่งให้”
 
เจมส์หันมาถามเพื่อนๆเมื่อเดินเข้ามาในร้านและหาที่นั่งในร้านได้แล้ว
 
“ถามพวกกูแบบนี้จะเลี้ยงพวกกูหรอวะ”
 
เชนแกล้งถามขึ้นอย่างสงสัย และทำท่าดีใจเมื่อได้ยิน แต่แล้วก็ต้องทำหน้าเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุก็ไม่ปาน เมื่อหันมาเจอสายตาของเจมส์ที่มองมา
 
“กูสั่งให้พวกมึงเฉยๆเว้ย ส่วนค่าอาหารพวกมึงจัดการของพวกมึงเองดิ”
 
เจมส์พูดบอกอีกแต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเพราะรู้ว่าชิเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเหมือนกัน
 
“เฮ้อออ...ทำไมกูไม่มีคนเลี้ยงข้าวเหมือนไอ้ภาพบ้างวะ”
 
ชิพูดขึ้นมาอีกแล้วทำหน้าหงอยๆลงไปและติดจะงอนนิดๆแต่ไม่จริงจังอะไร
 
“พวกมึงจะเสียงดังอีกนานไหมวะ แมร่งไม่เกรงใจเจ้าของร้าน เสือกไม่เกรงใจคนอื่นอีก พวกมึง 3 ตัวดูกรณ์มันหน่อยสิวะว่ามันสำรวมกว่าพวกมึงอีก”
 
ภาพเขียนพูดปามเพื่อนทั้ง 3 คน เพราะเขารู้สึกเกรงใจเจ้าของร้านและโต๊ะข้างๆเหลือเกิน
 
“เออภาพเรื่องมึงกับไอ้ธันวามึงคิดได้รึยังว่ามึงจะทำยังไงต่อไป”
 
กรณ์ที่นั่งเงียบตั้งแต่เข้ามาในร้านถามขึ้นอย่างสงสัย ทำเอาภาพเขียนชะงักนิ่งไปทันที และก็ทำให้ใครบางคนที่ตอนนี้กำลังนั่งหันหลังให้กับโต๊ะของภาพเขียนที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่นั้นยิ้มออกมาทันที
 
“ไม่รู้ว่ะ กูคิดหาทางยังไงก็คิดไม่ออกสักทีขอเวลากูคิดหน่อยนะเว้ย”
 
ภาพเขียนพูดบอกกรณ์ด้วยสีหน้าเครียด ทั้งๆที่ในใจอยากตะโกนออกมาให้สุดเสียงก็ตาม เพราะในใจของภาพเขียนตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่บอกกับเพื่อนๆไม่ได้ในตอนนี้
 
“ให้กูช่วยมึงคิดไหมวะ ภาพเขียน ^^”
 
ทันใดนั้นธันวาที่กำลังนั่งฟังบทสทนาของภาพเขียนและเพื่อนๆอยู่นั้นก็หันหน้าไปพูดกับภาพเขียนและเมื่อภาพเขียนหันมามองที่ต้นเสียงก็เล่นเอาภาพเขียนแทบช็อคไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่และอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป
 
“อะ...ไอ้ธันวา!!มึงมาที่นี่ได้ไง”
 
ภาพเขียนพูดออกมาอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่ แต่ต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับเป็นปกติเพราะธันวากำลังมองอยู่
 
(นัดตี้ ไอ้ธันวามันมาได้ยังไงเนี่ย : ภาพเขียน)
 
(นัดตี้ก็ไม่รู้สินะ คือ...อารมณ์พาไปน่ะทำไงได้ล่ะ : นัดตี้)
 
“รถกูก็มีกูก็ขับมาสิวะ กูจะมาเอาคำตอบเมื่อเช้า”
 
ธันวาพูดบอกกวนๆและถามถึงเรื่องที่ทำให้ภาพเขียนคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ขึ้นทำเอาภาพเขียนถึงกับชะงักนิ่งไปนิด
 
“กูไม่รู้ กูไม่มีคำตอบอะไรให้มึงทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมายุ่งกับกูก็พอ ไอ้เชนกูกลับก่อนนะเว้ย ส่วนข้าวกูไม่แดกแล้วว่ะแดกไม่ลง”
 
ภาพเขียนหันกลับมาพูดบอกเชนแล้วหันไปมองหน้าธันวาเขม็งและทำท่าจะหันหน้าเดินกลับออกไปที่หน้าร้านแต่ธันวากลับคว้าข้อมือไว้ซะก่อน ภาพเขียนหันกลับมาจ้องเขม็งอีกครั้งและก็ต้องตกใจเมื่อธันวาทำท่าจะลากตนตรงไปที่ห้องน้ำ
 
“มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน พวกมึงเข้าใจแล้วใช่ไหม มานี้เลยมึงอะ”
 
ธันวาหันไปพูดบอกกับเพื่อนๆของภาพเขียนเป็นเชิงห้ามว่าไม่ต้องยุ่ง เมื่อพูดจบธันวาก็กระชาก (ลาก) ข้อมือภาพเขียนให้เดินตามเข้ามาในห้องน้ำทันที
 
“เฮ้ย!!ไอ้ธันวาปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย มึงจะลากกูเข้ามาทำไม ไอ้เชน ไอ้เจมส์ ไอ้ชิ กรณ์ ช่วยกูด้วยเว้ยยยย”
 
เมื่อภาพเขียนถูกธันวาลากเข้ามาในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วก็โวยวายออกมาไม่หยุด และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆและก็ทำให้ธันวาแทบจะหมดความอดทนและโวยออกมาในที่สุด
 
“มึงจะแหกปากโวยวายทำเชี่ยไรวะ เดี๋ยวกูก็จับกดในนี้ซะดีไหมเนี่ย”
 
ธันวาพูดขึ้นเพราะเห็นว่าภาพเขียนยังคงโวยวายไม่หยุดสักที
 
“กดเหี้ยไรสัส มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย ไอ้ธันวา!! โอ้ย!!สัสเจ็บนะเว้ย แมร่ง!!”
 
เมื่อสิ้นเสียงของธันวา ภาพเขียนก็สวนกลับทันทีและหันมาโวยใส่ธันวาต่อทันที จนธันวาเผลอบีบข้อมือเล็กของภาพเขียนแรงกว่าเดิมทำให้ภาพเขียนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
 
“หึ! ดื้อฉิบหายเลยนะมึง ถ้ามึงไม่ดื้อแล้วยอมมากับกูดีๆมึงก็ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้หรอก”
 
ธันวายอมปล่อยมือจากข้อมือเล็กของภาพเขียนให้เป็นอิสระแล้วพูดบอกภาพเขียนเยาะๆ ซึ่งก็ทำให้ภาพเขียนหันมาจ้องหน้าธันวาเขม็งและแคล้นหัวเราะเบาๆ
 
“เหอะ! แล้งมึงทำอะไรให้กูควรจะทำดีด้วยบ้างไหมล่ะ ถ้ากูบอกมึงดีๆว่ากูไม่มากับมึง ยังไงมึงก็ลากกูมาด้วยอยู่ดีนั่นแหละ หรือไม่จริงล่ะวะ”
 
ภาพเขียนถามกลับอย่างท้าทาย(?)เล่นเอาธันวาเถียงไม่ออกเหมือนกัน ทั้งสองจ้องหน้ากันเขม็งและด้วยพื้นที่ในห้องน้ำแคบเกินที่คนตัวใหญ่จะเข้ามาอยู่ในนี้ถึงสองคนซึ่งทำให้ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้ร่างเล็กของภาพเขียนที่อยู่ด้านในสุดทำให้ภาพเขียนเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องนักเพราะรู้สึกว่าเมือนมีลมหายใจอุ่นๆของธันวาที่ปล่อยออกมากระทบปอยผมด้านหน้าของภาพเขียน ทำให้ภาพเขียนจากที่เมื่อกี้เกิดอาการหงุดหงิดที่ธันวาลากตนเข้ามาในห้องน้ำ เหมือนตอนนี้ความรู้สึกนั้นกำลังเปลี่ยนไปกลายเป็นอาการใจสั่นแปลกทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เคยเป็นมาก่อน
 
(นัดตี้!!ไหงเป็นงี้ได้ล่ะเนี่ย : ภาพเขียน)
 
(นัดตี้บอกแล้วไงว่ามันเป็นไปตามอารมณ์น๊ะ : นัดตี้)
 
“มะ...มึงจะเอายังไงก็ว่ามาสิ เงียบทำเหี้ยไรล่ะวะ”
 
และแล้วความเงียบในเมื่อครู่ก็ถูกภาพเขียนพูดทำลายหายไปหมด ทำให้ธันวายิ้มมุมปากและก้มลงมากระซิบข้างหูของภาพเขียน
 
“กูจะเอา…หัวใจ มึงได้ไหมล่ะ ถ้ามึงให้กูจะไม่ทำอะไรรุนแรงกับมึง แต่ถ้า ไม่ กูจะไม่มายุ่งกับมึงอีกเลย...แต่...”
 
ธันวาพูดบอกจ้องหน้าภาพเขียนนิ่งๆ และทำให้ภาพเขียนเงียบธันวาพูดให้จบ เมื่อธันวาเห็นว่าภาพเขียนไม่มีท่าทีใดๆจึงพุดต่อ
 
“แต่...ก่อนที่มึงจะตัดสินใจพูดอะไร กูขอให้มึงฟังกู...หลังจากนั่นมึงคำตอบจะเป็นยังไงก็อยู่ที่มึงแล้วล่ะ...กูไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เวลากูได้ทะเลาะกับมึง ได้เจอหน้ามึงทุกวัน ใจสั่นทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้”
 
ในความรู้สึกของภาพเขียนในตอนนี้อยากจะให้มีอะไรมาขัดซะจริงๆเพราะในใจตอนนี้มันแทบจะหลุดออกมาข้างนอก
 
“คือ...กูชะ...”
 
+++++++++++++++++++++++++++++
 
ขอกำลังใจหน่อยน้าาาาาาาาาาาาา
 
+++
++
+
ขอบคุณที่เม้นน้าาาาาาา^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา