เกมส์ปริศนานัยย์ตาปีศาจ
10.0
เขียนโดย Selty
วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.41 น.
4 บท
4 วิจารณ์
8,297 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 15.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ท่าน้ำส่งสินค้าของเมืองเชสแบล็ค
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องไปยังผืนน้ำอันเงียบสงบและเรือใหญ่ที่คอยขนส่งสินค้าประมาณ 5-6 ลำ เทียบท่าอยู่ท่าน้ำข้างๆกำแพงเมือง เหล่าฝูงชนต่างรีบตื่นแต่เช้ามาดูสินค้าที่ได้รับการอนุญาตและเซ็นสัญญากันเรียบร้อย ยกเว้นเพียงแต่อาวุธเท่านั้น
“จะดีเหรอเพคะ ออกมานอกพระราชวังแบบนี้เดี๋ยวคิงแบล็คก็ว่าหรอกเพคะ”เด็กสาวที่ใส่เสื้อคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้ากระซิบบอกควีนคามิเรียที่ใส่เสื้อคลุมสีเดียวกันเบาๆ
“ถ้าไม่มีใครบอกก็ไม่มีใครรู้หรอกน่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าจะรับผิดชอบเองล่ะน่า แอลนี่ขี้กลัวจังเลย”ควีนคามิเรียตอบ
“เฮ้อ ควีนล่ะก็ ข้างนอกมันอันตรายนะเพคะ ถ้าอยากได้อะไรบอกหม่อมฉันก็ได้นี่เพคะ”แอลกระซิบบอก
“ถ้าเจ้ากลัวก็กลับวังไปเถอะ -3-” ควีนคามิเรียตอบแล้วเดินไปที่ร้านขายผ้าที่ลวดลายสวยงามและหลายสี
“ร..รอด้วยสิเพคะ”แอลรีบเดินจ้ำอ้าวตามควีนคามิเรียไป
“ผ้านี่สวยจังเลย”ควีนคามิเรียหยิบผ้าสีเขียวอ่อนลายดอกไม้ขึ้นมาดู
“อ่อ ผ้านั่นทอด้วยผ้าโพลิเอสเตอร์แล้วปักเย็บอย่าประณีต ราคา 50 ปอนด์” พ่อค้าที่ขายผ้าอยู่หันมาพูดกับควีนคามิเรีย
“เอาสีไหนดีล่ะเนี่ย”
“ลองสีชมพูสิเพคะ”แอลหันมาชูผ้าที่ทออย่างสวยแล้วปักด้วยลายลูกไม้
“เจ้าอย่าพูดคำว่า เพคะ สิ เดี๋ยวชาวบ้านก็รู้หมดหรอก”
“แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไงล่ะเพคะ”
“บอกว่าไม่ต้องใช้เพคะไง พูด ค่ะ ก็พอ”
“เพคะ เอ๊ย! ค่ะ”
“ข้าว่าซื้อไปฝากอลิซาเบธบ้างดีกว่านะ ไหนๆก็จะใกล้วันเกิดของนางแล้วนี่”ควีนคามิเรียยิ้มพร้อมยืนเลือกผ้าสวยงามนั้นอยู่
------------------------------------------------------------------------------------
ณ ห้องโถงพระราชวังเชสแบล็ค
“แย่แล้วท่านคิงแบล็ค ควีนคามิเรียหายไปเพคะ"สาวใช้คนหนึ่งเดินมาแจ้งข่าวให้คิงแบล็คอย่างเร่งรีบ
“อีกแล้วเหรอ!”คิงแบล็คพูดเสียงแข็ง
“ถ้าทางจะไปตลาดท่าน้ำนะเพคะ แต่ช่วงนี้ได้ยินข่าวโจรสลัดอาละวาดซะด้วยสิเพคะ”สาวใช้คนหนึ่งพึมพำ
“รีบส่งทหารออกไปตามหาตัวเถอะ!!”คิงแบล็คตะโกนสั่งทหารทุกคนลั่นห้องโถงพระราชวัง
“ทำไมหรอเพคะ?”หญิงสาวผมสีบอร์นอ่อนๆเดินเข้ามาหาคิงแบล็ค
“ควีนคามิเรีย!!”ทุกคนในห้องโถงตะโกนลั่น
“เจ้าปลอดภัยใช่มั๊ย?”คิงแบล็คหันไปถาม
“เพคะ ข้าอยู่ในพระราชวังตลอดข้าก็ต้องปลอดภัยสิเพคะ”ควีนคามิเรียตอบเสียงเรียบ
“แต่ทำไมหม่อมฉันส่งทหารออกไปตามหาทั่วพระราชวังแล้ว ทำไมถึงไม่เจอล่ะ”ทหารองครักษ์ที่ดูมีอายุเยอะหันไปถามอีก
“คิดว่าทหารท่านตั้งใจหาแล้วเหรอ?”ควีนคามิเรียตอบเสียงขุ่น
“อ่า.....เอิ่ม..ขออภัยพระย่ะค่ะ งั้นหม่อมฉันขอตัว”ทหารองครักษ์คนนั้นกล่าวขอโทษตามมารยาทและน้ำเสียงสำนึกผิด แล้วเดินจากไป
“.............”ควีนคามิเรียไม่ได้พูดอะไรได้เพียงแต่มองคิงแบล็คสักพักแล้วเดินจากไปอีกทาง
“พักนี้เจอแต่เรื่องแปลกๆนะ”คิงแบล็คบ่นพึมพำไปมาอยู่คนเดียว
-------------------------------------------------------------------------------------
เอลริค .........
ท้องฟ้าสีแดงดุจเปลวเพลิงที่ฉาบด้วยแสงอาทิศตอนเย็น และมันใกล้เวลาพลบค่ำเต็มที ฉันยืนอยู่ที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินกลับบ้าน ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่มีเสียงดนตรีที่บรรเลงสำหรับเต้นรำในจังหวะเร็วอย่างสนุกสนาน ฉันเดินเข้าไปในร้านแต่ดูเหมือนทุกคนจะมองไม่เห็นฉันเลย อีกอย่างสาวใช้ก็เดินผ่านตัวฉันไปอย่างง่ายดาย นี่ฉันกำลังฝันหรอ..........
“ร้านนี้มันคุ้นๆนะ......”ฉันพูดกับตัวเองและเดินไปรอบๆร้านจนไปเจอกับสัญลักษณ์สีดำ ที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดี นั่นคือสัญลักษณ์บ้านเกิดของฉันและรีเวียร์ มันคือสัญลักษณ์ของ เมืองเชสลาส แต่ก่อนมันเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็ได้ล่มสลายไปแล้ว
แคว้นนี้มีสงครามมาอยู่มาก มันถูกโจมตีด้วยสัญลักษณ์สีดำเหมือนกัน แต่ฉันเองก็จำไม่ได้ว่าคือแคว้นอะไร ถ้าเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อน มันปรากฏในจุดที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้........
“แย่แล้ว ทหารพวกนั้นมากันอีกแล้ว!!!”ทหารนายหนึ่งเปิดประตูร้านเข้ามาอย่างแรงพร้อมตะโกนอย่างดัง
ตู้ม!!!!!!!
เสียงระเบิดดังก้องกัมปนาถไปทั่ว เหล่าผู้คนในร้านต่างวิ่งกระเจิงออกมาจากร้านแบบเอาเป็นเอาตาย พวกเขาวิ่งฝ่าควันไฟที่ไหม้ตามตึกตราบ้านเรือนต่างๆ สงครามเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ฉันเองก็วิ่งตามพวกเขาไปจนเห็นเด็กผมสีขาวซีดและถักเปียอย่างมีระเบียบวิ่งหนีไปกับเด็กผมสีดำมัดแกละไว้ พวกเขาวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มีอะไรดลใจให้ฉันวิ่งตามพวกเขาไป.......
“นี่เจ้าน่ะ.......”เสียงแหบห้วนๆของชายใส่เสื้อคลุมสีดำจนไม่เห็นหน้าเรียกฉันพร้อมเดินออกมาจากซอกเล็กๆมืดๆ
“ท่านมองเห็นข้าด้วยหรอ?........”ฉันถามด้วยความแปลกใจ เพราะนี่มันในฝันของฉันนี่ แล้วชายนิรนามคนนี้เข้ามาในฝันได้ไง
“แน่นอน....เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่......กลับไปซะ......”ชายนิรนามเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วเอามือใหญ่ๆมาทาบหน้าฉันจนมองไม่เห็นอะไร
“ไม่!!!”ฉันรีบถอยหลังห่างออกมาจากเขาทันที
“ทำไมล่ะ.........หรืออยากจะอยู่ในนี้ไปชั่วนิรันดร์ล่ะ....?”ชายนิรนามถามเสียงเอื่อยๆ
“นี่มันคือในฝันของข้า ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้าสิ ท่านเป็นใครกันแน่!!!?”ฉันตะโกนถามชายนิรนามผู้นั้น
“หึหึหึ....ข้าก็เป็นคนที่ช่วยเจ้ามาโดยตลอดไงล่ะ......”
สิ้นสุดคำตอบนั้นฉันก็รีบวิ่งตามเด็กพวกนั้นไปต่อ เด็กพวกนั้นกำลังโดนทหารรายล้อมอยู่ที่สะพานท่าเรืออยู่.....
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”ฉันวิ่งเข้าไปกระโดดเตะทหารนายหนึ่งอย่างแรงแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะฉันเตะทะลุผ่านตัวทหารนายนั้นไปอย่างกับเตะอากาศ
“หึหึหึหึ นี่มันในฝันนะ เธอทำอะไรไม่ได้หรอก ยอมกลับไปซะจะดีกว่านะ......”ชายนิรนามเดินมาหาฉัน ฉันกะจะวิ่งหนีแต่ร่างกายฉันมันไม่ยอมขยับเลย
“ไปเจอกันในโลกความจริงนะ.......”ชายนิรนามเดินมาผลักฉันตกน้ำ
“!!!!!!!”ร่างกายที่เคลื่อนไหวไม่ได้ของฉันกำลังจมดิ่งไปในน้ำลึกจนหายใจไม่สะดวก ทุกอย่างเริ่มพร่ามัวจน
มืดมน.........
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องไปยังผืนน้ำอันเงียบสงบและเรือใหญ่ที่คอยขนส่งสินค้าประมาณ 5-6 ลำ เทียบท่าอยู่ท่าน้ำข้างๆกำแพงเมือง เหล่าฝูงชนต่างรีบตื่นแต่เช้ามาดูสินค้าที่ได้รับการอนุญาตและเซ็นสัญญากันเรียบร้อย ยกเว้นเพียงแต่อาวุธเท่านั้น
“จะดีเหรอเพคะ ออกมานอกพระราชวังแบบนี้เดี๋ยวคิงแบล็คก็ว่าหรอกเพคะ”เด็กสาวที่ใส่เสื้อคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้ากระซิบบอกควีนคามิเรียที่ใส่เสื้อคลุมสีเดียวกันเบาๆ
“ถ้าไม่มีใครบอกก็ไม่มีใครรู้หรอกน่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้าจะรับผิดชอบเองล่ะน่า แอลนี่ขี้กลัวจังเลย”ควีนคามิเรียตอบ
“เฮ้อ ควีนล่ะก็ ข้างนอกมันอันตรายนะเพคะ ถ้าอยากได้อะไรบอกหม่อมฉันก็ได้นี่เพคะ”แอลกระซิบบอก
“ถ้าเจ้ากลัวก็กลับวังไปเถอะ -3-” ควีนคามิเรียตอบแล้วเดินไปที่ร้านขายผ้าที่ลวดลายสวยงามและหลายสี
“ร..รอด้วยสิเพคะ”แอลรีบเดินจ้ำอ้าวตามควีนคามิเรียไป
“ผ้านี่สวยจังเลย”ควีนคามิเรียหยิบผ้าสีเขียวอ่อนลายดอกไม้ขึ้นมาดู
“อ่อ ผ้านั่นทอด้วยผ้าโพลิเอสเตอร์แล้วปักเย็บอย่าประณีต ราคา 50 ปอนด์” พ่อค้าที่ขายผ้าอยู่หันมาพูดกับควีนคามิเรีย
“เอาสีไหนดีล่ะเนี่ย”
“ลองสีชมพูสิเพคะ”แอลหันมาชูผ้าที่ทออย่างสวยแล้วปักด้วยลายลูกไม้
“เจ้าอย่าพูดคำว่า เพคะ สิ เดี๋ยวชาวบ้านก็รู้หมดหรอก”
“แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไงล่ะเพคะ”
“บอกว่าไม่ต้องใช้เพคะไง พูด ค่ะ ก็พอ”
“เพคะ เอ๊ย! ค่ะ”
“ข้าว่าซื้อไปฝากอลิซาเบธบ้างดีกว่านะ ไหนๆก็จะใกล้วันเกิดของนางแล้วนี่”ควีนคามิเรียยิ้มพร้อมยืนเลือกผ้าสวยงามนั้นอยู่
------------------------------------------------------------------------------------
ณ ห้องโถงพระราชวังเชสแบล็ค
“แย่แล้วท่านคิงแบล็ค ควีนคามิเรียหายไปเพคะ"สาวใช้คนหนึ่งเดินมาแจ้งข่าวให้คิงแบล็คอย่างเร่งรีบ
“อีกแล้วเหรอ!”คิงแบล็คพูดเสียงแข็ง
“ถ้าทางจะไปตลาดท่าน้ำนะเพคะ แต่ช่วงนี้ได้ยินข่าวโจรสลัดอาละวาดซะด้วยสิเพคะ”สาวใช้คนหนึ่งพึมพำ
“รีบส่งทหารออกไปตามหาตัวเถอะ!!”คิงแบล็คตะโกนสั่งทหารทุกคนลั่นห้องโถงพระราชวัง
“ทำไมหรอเพคะ?”หญิงสาวผมสีบอร์นอ่อนๆเดินเข้ามาหาคิงแบล็ค
“ควีนคามิเรีย!!”ทุกคนในห้องโถงตะโกนลั่น
“เจ้าปลอดภัยใช่มั๊ย?”คิงแบล็คหันไปถาม
“เพคะ ข้าอยู่ในพระราชวังตลอดข้าก็ต้องปลอดภัยสิเพคะ”ควีนคามิเรียตอบเสียงเรียบ
“แต่ทำไมหม่อมฉันส่งทหารออกไปตามหาทั่วพระราชวังแล้ว ทำไมถึงไม่เจอล่ะ”ทหารองครักษ์ที่ดูมีอายุเยอะหันไปถามอีก
“คิดว่าทหารท่านตั้งใจหาแล้วเหรอ?”ควีนคามิเรียตอบเสียงขุ่น
“อ่า.....เอิ่ม..ขออภัยพระย่ะค่ะ งั้นหม่อมฉันขอตัว”ทหารองครักษ์คนนั้นกล่าวขอโทษตามมารยาทและน้ำเสียงสำนึกผิด แล้วเดินจากไป
“.............”ควีนคามิเรียไม่ได้พูดอะไรได้เพียงแต่มองคิงแบล็คสักพักแล้วเดินจากไปอีกทาง
“พักนี้เจอแต่เรื่องแปลกๆนะ”คิงแบล็คบ่นพึมพำไปมาอยู่คนเดียว
-------------------------------------------------------------------------------------
เอลริค .........
ท้องฟ้าสีแดงดุจเปลวเพลิงที่ฉาบด้วยแสงอาทิศตอนเย็น และมันใกล้เวลาพลบค่ำเต็มที ฉันยืนอยู่ที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินกลับบ้าน ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่มีเสียงดนตรีที่บรรเลงสำหรับเต้นรำในจังหวะเร็วอย่างสนุกสนาน ฉันเดินเข้าไปในร้านแต่ดูเหมือนทุกคนจะมองไม่เห็นฉันเลย อีกอย่างสาวใช้ก็เดินผ่านตัวฉันไปอย่างง่ายดาย นี่ฉันกำลังฝันหรอ..........
“ร้านนี้มันคุ้นๆนะ......”ฉันพูดกับตัวเองและเดินไปรอบๆร้านจนไปเจอกับสัญลักษณ์สีดำ ที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดี นั่นคือสัญลักษณ์บ้านเกิดของฉันและรีเวียร์ มันคือสัญลักษณ์ของ เมืองเชสลาส แต่ก่อนมันเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็ได้ล่มสลายไปแล้ว
แคว้นนี้มีสงครามมาอยู่มาก มันถูกโจมตีด้วยสัญลักษณ์สีดำเหมือนกัน แต่ฉันเองก็จำไม่ได้ว่าคือแคว้นอะไร ถ้าเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อน มันปรากฏในจุดที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้........
“แย่แล้ว ทหารพวกนั้นมากันอีกแล้ว!!!”ทหารนายหนึ่งเปิดประตูร้านเข้ามาอย่างแรงพร้อมตะโกนอย่างดัง
ตู้ม!!!!!!!
เสียงระเบิดดังก้องกัมปนาถไปทั่ว เหล่าผู้คนในร้านต่างวิ่งกระเจิงออกมาจากร้านแบบเอาเป็นเอาตาย พวกเขาวิ่งฝ่าควันไฟที่ไหม้ตามตึกตราบ้านเรือนต่างๆ สงครามเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ฉันเองก็วิ่งตามพวกเขาไปจนเห็นเด็กผมสีขาวซีดและถักเปียอย่างมีระเบียบวิ่งหนีไปกับเด็กผมสีดำมัดแกละไว้ พวกเขาวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มีอะไรดลใจให้ฉันวิ่งตามพวกเขาไป.......
“นี่เจ้าน่ะ.......”เสียงแหบห้วนๆของชายใส่เสื้อคลุมสีดำจนไม่เห็นหน้าเรียกฉันพร้อมเดินออกมาจากซอกเล็กๆมืดๆ
“ท่านมองเห็นข้าด้วยหรอ?........”ฉันถามด้วยความแปลกใจ เพราะนี่มันในฝันของฉันนี่ แล้วชายนิรนามคนนี้เข้ามาในฝันได้ไง
“แน่นอน....เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่......กลับไปซะ......”ชายนิรนามเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วเอามือใหญ่ๆมาทาบหน้าฉันจนมองไม่เห็นอะไร
“ไม่!!!”ฉันรีบถอยหลังห่างออกมาจากเขาทันที
“ทำไมล่ะ.........หรืออยากจะอยู่ในนี้ไปชั่วนิรันดร์ล่ะ....?”ชายนิรนามถามเสียงเอื่อยๆ
“นี่มันคือในฝันของข้า ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้าสิ ท่านเป็นใครกันแน่!!!?”ฉันตะโกนถามชายนิรนามผู้นั้น
“หึหึหึ....ข้าก็เป็นคนที่ช่วยเจ้ามาโดยตลอดไงล่ะ......”
สิ้นสุดคำตอบนั้นฉันก็รีบวิ่งตามเด็กพวกนั้นไปต่อ เด็กพวกนั้นกำลังโดนทหารรายล้อมอยู่ที่สะพานท่าเรืออยู่.....
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”ฉันวิ่งเข้าไปกระโดดเตะทหารนายหนึ่งอย่างแรงแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะฉันเตะทะลุผ่านตัวทหารนายนั้นไปอย่างกับเตะอากาศ
“หึหึหึหึ นี่มันในฝันนะ เธอทำอะไรไม่ได้หรอก ยอมกลับไปซะจะดีกว่านะ......”ชายนิรนามเดินมาหาฉัน ฉันกะจะวิ่งหนีแต่ร่างกายฉันมันไม่ยอมขยับเลย
“ไปเจอกันในโลกความจริงนะ.......”ชายนิรนามเดินมาผลักฉันตกน้ำ
“!!!!!!!”ร่างกายที่เคลื่อนไหวไม่ได้ของฉันกำลังจมดิ่งไปในน้ำลึกจนหายใจไม่สะดวก ทุกอย่างเริ่มพร่ามัวจน
มืดมน.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ