ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  72.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

35) หวั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 "เจ้ากินโอสถนี่ซะ บาดแผลของเจ้าจะได้หายเร็วขึ้น"

  เสียงของยักษ์หนุ่ม 'วิรุฬจักร' เอ่ยกล่าวนาคาน้อยชลัญธรีที่ตอนนี้นางฟื้นแล้ว

 "ไม่!! ข้าไม่กิน เจ้านำออกไปเสียเถอะ"

  แต่ทว่าถึงแม้นางจะฟื้นแล้ว แต่นางก็ยังคงไม่ยอมกินยาเพื่อรักษาบาดแผล ถึงแม้ว่าวิรุฬจักรจะปลอบโยนนางยังไง แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคง 'ไม่!!' เหมือนเดิม

 "แต่แผลของเจ้ายังไม่หายเลยนะ" วิรุฬจักรพยายามหาเหตุผลมาอ้างให้นางกินยา

 "ไม่จำเป็น!! นาคราชอย่างข้าไม่จำเป็นต้องง้อยักษาอย่างเจ้า!"

  แต่สุดท้ายคำตอบก็เป็นเช่นเดิม 

 "นี่! นาคาน้อย เจ้าอย่ามีทิฐิเลย ข้าขอร้องล่ะ"

 "ข้าชื่อชลัญธรี ไม่ใช่นาคาน้อย!!"

  ชลัญธรีกล่าว โดยที่ยังคงหันหลังให้แก่วิรุฬจักร ถึงแม้วิรุฬจักรจะพยายามเอาใจนางแค่ไหนก็ตาม

 "งั้นก็ตามใจ ข้าจะไม่กวนเจ้าแล้ว ชลัญธรี" ชายหนุ่มพูดก่อนที่จะเสด็จออกจากพระตำหนัก โดยหารู้ไม่ว่าสตรีที่พระองค์สนทนาเมื่อครู่ทรงพระกันแสง!!

  ทางด้านหนึ่งของวิมานพิทยาธร ถึงแม้จะล่วงเลยมา4วันแล้ว สุพรรณิการ์ก็ยังคงเศร้าหมองถึงแม้ว่าเพทายจะเนรมิตสิ่งสวยงามมาให้มากมาย แต่นางก็ยังคงไม่ยอมคุยกับเพทายอยู่ดี

 "สุพรรณิการ์ เมื่อใดเจ้าจะยอมรับรักข้าเสียที" เพทายเอ่ยอ้อน ก่อนจะนั่งแนบชิดกับร่างบาง แต่สิ่งที่ได้คือนางเสด็จหลีกหนี ซึ่งกับเป็นการหักหาญน้ำพระทัยของเพทายสิ้น

 "ท่านไม่ต้องมาหว่านล้อมข้าหรอก เพทาย ยังไงซะ ข้าก็ไม่ได้รักท่าน!"

  นารีผลสุพรรณิการ์เอ่ย ทำให้เพทายเจ็บในหทัยมาก เขารักนาง แต่นางก็พยายามปฏิเสธเขา เขาควรทำเช่นไรดี

 "นั่นสินะ ข้าน่าจะรู้ตัวดี ข้าคงต้องให้เวลาเจ้า ข้าจะไม่บังคับเจ้าแล้วกัน สุพรรณิการ์"

  เพทายเอ่ย ก่อนจะเสด็จออกนอกวิมาน โดยที่สุพรรณิการ์ก็คลี่รอยยิ้ม เพราะเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับพิทยาธรหนุ่มผู้นี้เสียแล้ว แต่นางก็ยังคงปากแข็ง เพื่อลองใจชายผู้นี้...

  ทางด้านวงศ์สุมาลี เมื่อต้องกลายร่างเป็นยักษ์และยังต้องดูแลสตรีแปลกหน้าผู้นี้อีก ทำให้เขาอยากจะฆ่าธีรสุวัฒน์มาก โทษฐานโยนภาระให้เขา!!

  ดูเหมือนร่างบางของหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัวแล้ว วรินนาราในร่างของวงศ์สุมาลีคิด แต่ถ้าหากนางฟื้นขึ้นมาแล้วเธอเขาอยู่ในร่างยักษ์ นางคงต้องสลบไปอีกแน่ วงศ์สุมาลีคิด ก่อนจะลดกายเพื่อให้นางฟื้นก่อน

  ทันทีที่ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวปริศนาเปิดขึ้น ดูเหมือนนางจะตกใจมาก เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มรูปงามเฝ้ามองเธออยู่ตอนนี้ ใบหน้าของนางเริ่มแสดงสีหน้าแดงระเรื่อ ซึ่งวงศ์สุมาลีเองไม่ทันได้สังเกต

 "เจ้าเป็นใคร แล้วใยต้องมาหนีราชสีห์ด้วย"

 บุรุษหนุ่มรูปงามเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนที่ร่างบางจะเรียบเรียงคำพูด

 "ข้าชื่อประไพลักษณา เป็นธิดาของท้าวเหมราช จ้าวแห่งราชสีห์ทั้งปวง" หญิงสาวใบหน้าสวยหวานเอ่ย แต่คำตอบที่ได้รับทำให้วงศ์สุมาลีรู้สึกสับสน

 "แล้วทำไมเจ้าต้องหนีราชสีห์ด้วย?" 

 คำถามของวงศ์สุมาลีทำให้ประไพลักษณายิ้มออกมาเนื่องจากท่าทีงุนงงของยักษ์หนุ่ม

 "ท่านคงยังไม่รู้ว่าราชสีห์นั้นมี2เผ่าพันธุ์ คือ ราชสีห์แต่กำเนิดกับเทวราชสีห์ ซึ่งถ้าราชสีห์แต่กำเนิดได้ลิ้มลองรสของเนื้อเทวราชสีห์ จะสามารถกลายเป็นเทวราชสีห์ได้ และนั่นคือสาเหตุที่ข้าต้องหนีราชสีห์ตนนั้น"

 เมื่อวงศ์สุมาลีได้ยินดังนั้นก็เข้าใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้!

 "งั้นเจ้าก็คือเทวราชสีห์งั้นสิ!!"

 แต่สิ่งที่ได้รับแทนคำตอบคือการพยักหน้าของหญิงสาว

 "เจ้าเข้าใจถูกแล้ว!"

 ประไพลักษณายิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะถามเรื่อราวเกี่ยวกับชายหนุ่ม

 "แล้วเจ้าล่ะ เป็นใครกัน?"

 "ข้าชื่อวงศ์สุมาลี คะ...คะ...คือ...ข้า...ข้า...ข้าเป็นยักษ์!"

 วรินนาราเลือกที่จะบอกสถานะในตอนนี้แทนที่จะเลือกบอกความจริงเรื่องโดนสาป

 "งั้นรึ ถ้างั้นเจ้าก็คงเป็นยักษ์ที่รูปงามเป็นแน่แท้..."

  ประไพลักษณากล่าวแก่ชายหนุ่ม ก่อนจะหันพระพักตร์สบสายตาที่วงศ์สุมาลีมองมา

 "เจ้าก็ว่าไป ความจริงแล้วข้าไม่ใช่อย่างที่เจ้าเห็นหรอก..."

  วงศ์สุมาลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน ก่อนจะหันไปสบพระเนตรกับประไพลักษณาโดยบังเอิญ...

'สำอางเอี่ยมเทียมเทพเลขา              ดูดวงเนตรขนงดังวงเดือน

       ทั้งคมขำล้ำอย่างนางมนุษย์              ประเสริฐสุดหมื่นสตรีไม่มีเหมือน'

  หากดั่งศรรักปักในดวงหทัย เมื่อวงศ์สุมาลีเกิดอาการหวั่นไหวในจิต เมื่อต้องประสบเนตรกับนางราชสีห์ ซึ่งวรินนาราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องหวั่นไหวกับประไพลักษณาด้วย ถึงแม้กายเธอจะเป็นชาย แต่จิตใจของเธอก็ยังคงเป็นหญิง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!

  ประไพลักษณาเองก็เช่นกัน นางเริ่มหวั่นไหวต่อชายหนุ่มตรงหน้า ถึงแม้เขาจะเป็นยักษ์แต่เธอก็มิได้หวาดกลัว แต่ตรงกันข้าม ธิดาราชสีห์เริ่มแสดงอาการเขินอาย ก่อนจะหันพระพักตร์หลบเลี่ยงวงศ์สุมาลี

  วงศ์สุมาลีเริ่มไม่เข้าใจในตัวเอง จึงออกมาเดินเล่นริมลำธาร โดยเขาบอกกับประไพลักษณาว่าจะมาสรงน้ำ

 "นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย? หรือว่าเราเป็นเลสเบี้ยน!!"

  วรินนาราเอ่ยพึมพำกับตนเอง ก่อนที่จะปรากฏร่างของหญิงสาวผู้ที่คุ้นเคย

 'เทพีแห่งมณีมนตรา นิลุบลอัจฉรา!'

 ร่างของผู้มาเยือนเริ่มคลี่รอยยิ้ม ก่อนจะอธิบายเรื่องราวที่วรินนาราสับสน โดยที่เจ้าตัวเองยังไม่ได้เอ่ยวาจาไถ่ถาม

 "เจ้ามิต้องสงสัยหรอก ถึงแม้เจ้าจะเป็นหญิง แต่ ณ เวลานี้ เจ้าเป็นชาย ดังนั้นเจ้าย่อมมีจิตใจหวั่นไหวต่อสตรีเพศ และทุกๆ 3 วันเจ้าจะมีจิตใจเป็นชายเต็มตัว โดยที่เจ้าไม่อาจรับรู้อะไรได้ และเมื่อนั้น เจ้าจะมีอีกร่าง!"

 นิลุบลอัจฉราเอ่ยก่อนที่ร่างอรชรจะค่อยๆ จางหายไปในที่สุด

 "เดี๋ยวสิ! นิลุบลอัจฉรา"

 แต่ดูเหมือนเสียงเรียกจะไม่เป็นผล เมื่อร่างของเทพีแห่งมณีมนตราได้หายไปเสียแล้ว...

 'ทุกๆ3วัน งั้นก็คืนนี้สิ!'

 วรินนาราคิด ก่อนจะเริ่มเข้าใจในความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อประไพลักษณา

 'เป็นเพราะนางจะกลายเป็นชายเต็มตัวในคืนนี้น่ะสิ!'

 วรินนาราในร่างชายหนุ่มนึกอย่างกังวล ก่อนที่เธอจะนึกถึงใบหน้าของใครบางคน

 'ธีรสุวัฒน์ ถ้าเจ้าอยู่ด้วยก็คงดี เฮ้ออออออออออ!!'

  

  

ฮู้ววววววววววววววววว!! กว่าจะอัพจบ

แต่งห่วยยยยยยยยยTToTT

(ในที่สุดก็จบจนได้ TToTT)

ขอบคุณนะค่ะที่ทนอ่านจนจบ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา