แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!

5.5

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.

  42 chapter
  66 วิจารณ์
  48.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

41) ตอนที่ 40 ตอนจบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 40 ตอนจบ

 

           

 

“3”

 

“2”

 

“1”

 

“โยนแล้วนะ! จะโยนจริง ๆ แล้วนะครับ” ต้นข้าวยิ้มแย้มหันหลังเตรียมโยนช่อดอกไม้ในมือไปทางกลุ่มสาว ๆ ที่โบกไม้โบกมือให้โยนมาทางนี้ และก็มีอีกหนึ่งหนุ่มที่…

 

“สักทีสิวะ!! กูรอนานแล้วไอ้ข้าว” ไอ้ฟางเมียพี่ตี๋ ฉายาที่ทุกคนพร้อมใจกันตั้งให้ยืนทำหน้าเซ็งบอกบ่นขมุมขมิบ

 

“กูว่ามึงเอาดอกไม้ยัดมือมันเลยเหอะ” เต้ยตะโกนบอก

 

“ไม่ได้นะคะ ฟ้าก็อยากได้นะ” น่านฟ้าที่ยืนจองพื้นที่ข้างหน้าสุดโวยวาย

 

“ไม่ต้องแย่งกันนะครับ ผมจะโยนแล้ว เอ้า รับ!” สิ้นเสียงต้นข้าวดอกไม้ช่อใหญ่ก็ลอยขึ้นอยู่บนอากาศและตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก

 

“….อะ อะ อะไรกัน?” พีชยืนอ้ำอึ้งมองช่อดอกไม้ในมือที่ลอยลงมาอยู่บนมือได้พอดิบพอดี ต้นข้าวขยิบตาให้พี่ชายตัวเอง ต้นน้ำเดินแหวกผู้คนมาหาคนรักพร้อมกล่องแหวนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ

 

“แต่งงานกันนะพีช”

 

“น้ำ…” พีชน้ำตาคลอพยักหน้ารัวด้วยความตื้นใจ “ครับ แต่งครับ” โผกอดต้นน้ำเต็มรัก เสียงโห่ก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงแซวของป๋าใหญ่ของบ้านผ่านไมค์ลอย

 

“ลูกชายของผมก็ได้ออกเรือนไปสองคนพร้อมกันแล้วนะครับ เหลือคนกลางยังว่าง มีใครสนใจไหมครับ ฮ่า ๆ ๆ”

 

สาว ๆ ในงานก็พากันมองเพลงพลางซุบซิบกันเสียงดัง เจ้าตัวที่กำลังโดนเล่นงานอยู่ชูแก้วไวน์ขึ้นส่งสายตาเจ้าชู้พร้อมยิ้มมุมปากเต๊ะท่าเสือร้ายของวงการ ในงานมีนักข่าวมากมายที่บินตามมาทำข่าวถึงอิตาลี เรียกได้ว่างานนี้ลูกชายคนกลางของบ้านได้ดังชั่วข้ามคืนเพราะฝีมือผู้เป็นพ่อเลย

 

“ผมโสดแต่ไม่ซิง รักจริงแต่ไม่หวังแต่ง ถ้าอยากลองสนุกกันเล่น ๆ ก็เชิญนะครับ”

 

“เฮียร้ายว่ะ” ฟางกระซิบตี๋

 

“แต่กูชอบนะ น่าจะเอาเป็นแบบอย่าง มึงว่าไหม?” ตี๋แกล้งคนรักกอดคอก้มหน้าลงถามเสียงระรื่น ฟางหน้างอเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก   

 

“มึงพูดถูก ถ้ากูทำแบบนั้นมากสาว ๆ คงจะชอบ”

 

“มึงอยากตายสินะ” ตี๋เอ่ยเสียงเข้มสายตาดุมือบีบท้ายทอยฟางแน่น

 

“มึงกวนตีนกูก่อนอะแม่ง”

 

“มึงมันสันดานแย่จังวะฟาง กูยกให้คนอื่นดีไหม? ไม่อยากได้แล้วเมียอย่างมึงเนี่ย” ฟางหันขวับมองตาเขียวเม้มปากน้อย ๆ

 

“กูลีลาเด็ดนะเว้ย ทิ้งกูแล้วจะเสียใจ” คำพูดที่เจ้าตัวเชิดหน้าภูมิใจ

 

“เหรอวะ? กูก็ว่างั้น ๆ” ตี๋ยิ้มเยาะ บีบท้ายทอยคนรักเบา ๆ นิ้วเขี่ยไปตามเนื้อเนียนขาว

 

“ไม่ต้องมาจับกู มีผัวเฮงซวยแบบมึงกูไปหาคนอื่นดีกะ…อ้ะ ๆ ปล่อยสัส! กูเจ็บนะแม่ง” รอยฟันที่ต้นคอเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ฟางน้ำตาเล็ดยกกำปั้นทุบบ่าแกร่งของคนรัก

 

“ปากมึงมันน่าตัดทิ้งนะไอ้ฟาง ไม่ต้องแรดอ่อยคนอื่น ผัวยืนอยู่มึงยังกล้า” ตี๋กระชับตัวฟางให้เข้ามาใกล้

 

“กูไม่ได้ทำ” ฟางสวนทันควัน

 

“กูให้พูดอีกรอบ มึงบอกกูสิวะไอ้เหี้ยนั่นไม่ได้มองมึงอยู่ แล้วเมื่อกี้มึงไม่ได้หันไปยิ้ม” นิ้วเรียวชี้ไปที่ผู้ชายในงานคนหนึ่ง ฟางยิ้มแหยกอดแขนตี๋ซบอ้อน ๆ

 

“ขอโทษครับ ฟางไม่ได้ตั้งใจ”

 

“เล่นได้แต่อย่าเยอะ กูผลักมือที่สามออกไปแต่มึงกลับดึงมือที่สามเข้ามา ถ้ามึงยังดื้ออย่าหาว่ากูไม่เตือน”

 

“รู้แล้ว ๆ ไม่ทำแล้วไงวะ” ฟางมองหน้าคนรักที่ยังคงสีหน้าไม่ดี “ฟางไม่ทำแล้วครับพี่ตี๋ รักพี่คนเดียวนะครับ” ตี๋ยิ้มลูบหัวฟางให้เอนมาซบอกแขนตัวเองต่อ ส่งสายตาเย็นไปทางผู้ชายทุกคนที่หวังจะยุ่งกับเมียตัวเอง

 

คนนี้เมียกู ให้ตายกูก็ไม่ให้ใคร!

 

………………………………………………………………….

 

เต้ยที่เดินเล่นอยู่ในงานกับแซมยิ้มจับมือทักทายคนรู้จักไปทั่วทั้งงาน ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของต้นข้าวและเป็นคนที่เนื้อหอมพอสมควรในคณะและต่างคณะ เพียงแต่มีรังสีอำนาจมืดของหมอหล่อคอยบดบังอยู่นั่นเอง

 

“เพื่อนเยอะนะครับ” แซมเริ่มทนไม่ไหวเมื่อเต้ยเล่นกอดสาว ๆ ต่อหน้าของเขา

 

“เพื่อนไง ทำหน้าไม่พอใจคือกำลังคิดนอกกรอบใช่ไหม? ถ้าเต้ยบอกว่าเพื่อนคือเพื่อน”

 

“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร” แซมหน้างอนั่งลงบนเก้าอี้เท้าคางหันหน้าไปทางอื่น “พี่เข้าใจเต้ยครับ” เต้ยส่ายหน้าดึงมือให้ลุกขึ้น

 

“ไม่ใช่เด็กแล้วนะ งั้นเอาอย่างนี้…” แซมเหล่มอง “จับมือกันไว้ ใคร ๆ จะได้รู้ว่าเต้ยเป็นของพี่ และพี่เป็นของเต้ย”

 

“อืม งั้นก็ได้” แซมกุมมือเต้ยเดินยิ้มไปตลอดทาง พอมาเจอต้นข้าวและเพทายที่หน้าเวทีก็หยุดพูดคุยและแสดงความยินดีให้กับทั้งคู่

 

“กูขอกอดต้นข้าวนะ?” เต้ยหันมาถามคนรัก แต่เพทายกลับตอบแทนเสียงเข้ม

 

“มึงควรจะถามกูมากกว่านะ ว่ากูอนุญาตรึเปล่า?” ต้นข้าวใช้ศอกกระทุ้งท้องเพทายส่งสายตาดุ

 

“เมียชอบแรด หวงนะเว้ยเข้าใจบ้างดิ”

 

“กล้าเถียงกูเหรอหล่อ หืม มึงกล้าเหรอ?” เต้ยเลิกคิ้วมองเพทายที่ยืนกัดฟันกรอดจ้องเขาเขม็ง

 

“ก็ไม่ แต่ว่า…”

 

“ไม่มีแต่นะไอ้หล่อ มึงสัญญากับป๋าว่าอะไร มึงบอกจะตามใจกูทุกเรื่อง ไม่เถียงไม่ทำให้เสียใจ จะยอมทุกอย่างไงครับสามี แค่นี้ทำลืม” ต้นข้าวกอดอกยิ้มอย่างเหนือกว่า เพทายคิดในใจ

 

เบ่งเข้าไป ต่อหน้ากูให้มึงนะเมีย อยู่กันสองคนก่อนเถอะ หึ

 

“ยินดีด้วยนะข้าว กูก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ เอ้านี่ กูกับพี่แซมให้” เต้ยยื่นของขวัญกล่องเล็ก ๆให้ ต้นข้าวดึงเพื่อนเข้ามากอดตบหลังเบา ๆ

 

“ขอบใจว่ะ กูโคตรรักมึงเลยเต้ย ถ้าไม่มีมึง…กูก็ไม่รู้ว่ากูจะผ่านเรื่องทุกอย่างมาได้ยังไง ขอบใจนะเว้ยที่เกิดมาเป็นเพื่อนกู”

 

“กูก็…” เต้ยตบหลังต้นข้าวกลับ “รักมึง รักเพื่อนคนนี้มาก ๆ ถ้ามันทำมึงเสียใจยังมีกูอยู่เสมอ กูจะยืนรอมึงอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือผัวกูเอง หึ ๆ กูกับพี่แซมจะอยู่ข้าง ๆ มึงนะข้าว” เต้ยพูดขำ ๆ ไม่อยากให้ทั้งเพทายและแซมคิดมากในความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของตัวเองกับเพื่อนสนิทคนนี้

 

รักแรกมันก็ยากจะตัดขาด แต่วันนี้เห็นมึงมีความสุขกูก็สบายใจ

 

“กอดกันไม่เกรงใจน้องเฮียเลยนะ” พีชจูงมือต้นน้ำเดินเข้ามาร่วมวงด้วย

 

“แผนเราสำเร็จแล้วนะพี่ต้น ฮ่า ๆ ข้าวโยนแม่นเนอะว่าไหม ไม่เสียแรงที่เป็นนักบาสตัวเต็งของโรงเรียน”

 

“เก่งมาก” ต้นน้ำยกนิ้วให้ “พี่นึกว่าจะล่มซะแล้ว กำลังคิดแผนสำรองเลย” พีชหยิกแขนคนรักและตีแขนต้นข้าว

 

“เจ้าเล่ห์ทั้งพี่ทั้งน้อง แอบไปวางแผนกันตอนไหน”

 

“ในห้องแต่งตัว” ต้นน้ำพูดยิ้ม ๆ พีชหน้าเหวอ

 

“ห้ะ! เวลาแค่นั้นอะนะ แล้วแหวน…”

 

“สั่งทำไว้ตั้งนานแล้วครับ แค่คิดไม่ออกจะขอแต่งงานยังไงดี”

 

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็จดทะเบียนกันสองคู่เลยใช่ไหมครับ?” เต้ยถาม

 

“พี่คงยังนะเต้ย เพราะต้องทำเรื่องเอกสารก่อน พี่กับพีชอยากมาอยู่ที่อิตาลีดู”

 

“แล้วบ้านล่ะครับ?”

 

“พี่ยกให้ต้นข้าวแล้วครับ บ้านพร้อมเงินในบัญชีอีกไม่กี่บาท หวังว่าของขวัญแต่งงานของพี่ข้าวจะชอบนะ” ต้นน้ำยื่นสมุดธนาคารให้น้องชาย ต้นข้าวทำหน้าสงสัยเปิดออกดู

 

“เฮ้ย! พี่ต้นไปเอาเงินมาจากไหนเป็นล้านเลยครับ” นิ้วนับหลักเงินในบัญชีก็ต้องเบิกตากว้างอีกรอบ “สิบล้าน! มันเยอะไป ข้าวไม่เอา” ยื่นสมุดคืน ต้นน้ำไม่ยอมวางมือลงบนหัวน้อง

 

“เราเหนื่อยมามากแล้วนะต้นข้าว พี่อยากให้เราสบายอย่างที่พ่อแม่หวังเอาไว้ แล้วเงินนี่ก็ของพ่อแม่ทั้งนั้น ผสมกับเงินเก็บของพี่อีก จำได้ไหมที่พี่บอกว่าเราจะต้องมีวันนั้น วันที่พี่เห็นน้องพี่มีความสุขที่สุด พี่รู้ว่าถึงเราได้เงินไปก็คงจะไม่ค่อยได้ใช้อยู่ดี แต่มันก็ถึงเวลาให้ของขวัญตัวเองบ้าง พี่สั่งเลยนะ ต้นข้าวต้องทำทุกอย่างที่อย่างทำ ไปเที่ยวทุกที่ ที่น้องอยากไป ไม่ต้องเสียดายเงินที่เสียไป เพราะความสุขของน้องพี่มันมากค่ามากกว่าเงินพวกนี้”

 

“ขอบคุณนะครับ ผมรักพี่นะครับ พี่ต้นน้ำ พี่ชายสุดที่รัก” ต้นข้าวกอดพี่ชายทั้งน้ำตา

 

“พี่ก็รักเรา ฝากด้วยนะเพทาย พี่ฝากน้องพี่ด้วย”

 

“ครับ ผมก็ฝากเฮียพีชด้วยนะครับ”

 

“พี่น้ำโคตรเท่เลย เต้ยก็รักพี่เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ขอกอดสักทีได้ไหมครับ?” เต้ยแค่อยากจะมีพี่ชายกับเขาบ้าง เพราะเป็นลูกคนเดียวเลยโตมาพร้อมกับเพื่อนอย่างต้นข้าว พอได้รับกอดของต้นน้ำก็อดจะรู้สึกตื้นตันไม่ได้

 

“เต้ยก็น้องพี่นะ ใครรังแกเรามาบอกพี่ได้ พี่พร้อมจะฆ่ามัน” แซมกลืนน้ำลายลงคอ

 

“พี่แซมไว้ใจได้ ผมรับประกันด้วยหัวใจเลย”

 

“โอ๊ย! มึงหัดเลี่ยนนะเต้ย ติดเชื้อไอ้ฟางมารึไงวะ พูดแล้วก็มาเลย…” ฟางเดินฉีกยิ้มมาพร้อมกล่องของขวัญในมือ

 

“ปีหน้าอย่าลืมมางานแต่งกูนะข้าว เต้ย”

 

“กูบอกมึงตอนไหนว่าจะแต่งปีหน้า” ตี๋ขัดขึ้น

 

“อย่าขัดกูสักเรื่องจะได้ไหม! เอาเป็นว่าของขวัญชิ้นนี้กูเลือกเองกับมือ คิก ๆ” ต้นข้าวมองกล่องในมือก่อนจะหันมาสบตาเพทาย

 

“ไอ้ฟาง มึงคงไม่ซื้ออะไรแปลก ๆ มาให้กูนะ” เพทายระแวงมือเขย่าหูแนบฟังเสียงว่าอะไรอยู่ข้างใน

 

“ไม่เหลือ” ตี๋ยิ้มขำ

 

“เอ๊ะ! หุบปากแล้วอยู่เงียบ ๆ นะไอ้ตี๋ กูจะตบปากให้ถ้ายังพูดอีก” ฟางยกมือขู่

 

“ส่วนใหญ่ไอ้พวกปากดีกับผัวมักจะเสร็จบนเตียงทุกราย” เพทายกล่าวลอย ๆ ต้นข้าวเหล่มอง

 

“มึงว่ากูรึเปล่าวะหล่อ”

 

“แล้วแต่จะคิดครับเมีย” ต้นข้าวพยักหน้าสายตาประมาณว่าเดี๋ยวรู้กัน

 

“มาอยู่นี่เอง ป๋าเรียกหาทั้งคู่เลย ทั้งเพทั้งเฮีย” เพลงวิ่งมาตาม ทุกคนจึงแยกย้ายเข้าไปรวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ นักข่าวก็เก็บข่าวอย่างเป็นระเบียบ เพราะเพลงได้จัดการเตือนว่าอย่าวุ่นวาย แล้วมีหรือใครจะกล้าขัด

 

พิธีต่าง ๆ เป็นไปตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ ปาร์ตี้สำหรับกลุ่มเพื่อนจึงเริ่มต้นขึ้นหลังจากงานแต่งได้จบลง เพลงเดินส่งแขกแทนป๋าที่นั่งคุยอยู่กับอาหมอประจำบ้าน ซัมเมอร์ที่เดินออกมาส่งเพื่อนที่รถกลับเข้ามาในบ้านขนเข้ากับเพลงเต็ม ๆ

 

“ขอโทษครับ” ซัมเมอร์เงยหน้ามองก่อนจะถอนหายใจ กลอกตาไปมาเดินผ่านร่างสูงไป

 

“ชนแล้วหนีเหรอไง พ่อนายยังไม่กลับตอนนี้หรอกน่า อยู่เป็นเพื่อนคุยฉันก่อนสิ” เพลงรั้งแขนเอาไว้

 

“ผมไม่เคยมีเพื่อนแก่กว่า”

 

“นี่นาย! เหอะ เอาเถอะ อยากนายมันพูดดี ๆ ไม่รู้เรื่องต้องให้ใช้กำลัง”

 

“เฮ้!! จะพาผมไปไหน” ซัมเมอร์ดึงแขนตัวเองกลับ เพลงก็คว้าเอาไว้ได้อีกก่อนจะลงแรงกระชากไปทางชั้นสองของบ้าน

 

“ตรงนี้ไม่มีใครอยู่ นายร้องไปก็เท่านั้นแหละ”

 

“คิดว่าผมไม่กล้าหรือไง ช่วยด้วยครับป๋า!! ลูกป๋าแกล้งผม” ซัมเมอร์ตะโกนลั่นบ้าน แน่นอนว่าต้องมีคนได้ยิน เพลงรีบเอามือมาอุดปากลากไปที่มุมอับของบ้าน

 

“เมื่อกี้เสียงเหมือนลูกชายผมเลยนะครับ” หมอใหญ่เดินออกมาดูแต่ก็ไม่พบใคร ซัมเมอร์ที่โดนปิดปากอยู่พูดอู้อี้ในลำคอ

 

“นั่นสิครับ หรือเราแก่แล้วเลยหูแว่วไป งั้นเราออกไปปาร์ตี้กับเด็ก ๆ ข้างนอกสักหน่อยดีกว่านะครับ ดูท่าจะสนุก”

 

“ผมก็คิดอย่างนั้น”

 

ป๋าเหลือบมองเงาที่ไหวอยู่บนพื้นแล้วอมยิ้ม เอาอีกแล้วนะเจ้าลูกชาย เพลงชะโงกหน้าออกมามองว่ามีใครเดินผ่านมาอีกหรือไม่ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวสะบัดมือข้างที่โดนกัดไปมา

 

“โอ๊ย! นายจะฆ่าฉันรึไงวะ”

 

“อย่ามายุ่งกับผมถ้าคุณเพลงไม่อยากตาย! ผมเตือนด้วยความหวังดีแล้วนะครับ ที่ผมยอมเพราะเห็นแก่หน้าพ่อคุณหรอกนะ ถ้าวันไหนความอดทนผมมันหมดลง คุณ! เตรียมตัวตายได้เลย” ซัมเมอร์พูดทิ้งท้ายจัดสูทให้เข้าที่ออกไปสมทบกับคนข้างนอก

 

“เล่นตัวจังวะ ชิบ! เลือดจนได้” เพลมองตามสายตาแค้น ยิ่งได้มายากยิ่งสนุก แบบนี้สิค่อยน่าลองหน่อย ง่ายไปมันก็น่าเบื่อ

 

ฉันอยากได้อะไร ฉันก็ต้องได้ สักวันเถอะซัมเมอร์ หึ

 

…………………………………………………………….

 

กลางดึกของคืนวันนี้มีดาวกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า ผ้าม่านพัดไหวไปมาลมเย็นโบกพัดเข้ามาในห้องนอนของคนทั้งคู่ ต้นข้าวยืนยิ้มมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายอยู่ที่ระเบียง เพทายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จรีบเข้าไปแต่งตัวออกมาในชุดนอนสบาย ๆ

 

สวบ

 

“คิดอะไรอยู่?” สองมือกอดเอวคนรักเอียงหน้าซบต้นคอหอมกรุ่น ต้นข้าววางมือทับมือใหญ่ทั้งสองข้าง

 

“กูมีความสุขจังหล่อ กูโคตรจะมีความสุขเลยมึงรู้ไหม”

 

“กูมีความสุขเมื่อมีมึงอยู่ ที่ไหนมีมึงที่นั่นคือความสุขของกู”

 

“นึกยังไงมึงมาชอบกูวะ กูทั้งจนทั้งไม่มีดีอะไรเลย”

 

“กูก็ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายหรอกนะเอาจริง ๆ แต่พอมีอะไรกันไปแล้วมันก็รู้สึกดี กูหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้หรอกว่ะ แค่รู้ว่ากูปล่อยมึงไปไม่ได้ กูต้องแย่งมึงมาให้ได้ มึงต้องเป็นของกูคนเดียว ความคิดพวกนี้มันเข้ามาในหัวตั้งแต่ตอนไหนกูยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีกูก็รักมึงไปแล้ว” ต้นข้าวเม้มปากยิ้มเขิน

 

“อืม กูก็ชอบมึงตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ตอนเจอหน้ามึงครั้งแรกโคตรโมโหเลย มีผู้ชายเหี้ยที่ไหนมารู้ลากกูไปเอาเฉย กูเคยคิดที่จะเก็บมึงด้วยนะหล่อ มันเสียศักดิ์ศรีความเป็นชายกูหมดเลย แต่เพราะมึงหล่อกูเลยให้อภัย คิก ๆ มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูชอบอ่านนิยาย และมึงรู้ไหมว่าในห้องกูมีนิยายพวกนี้เยอะมาก” เพทายจับตัวคนรักหันหน้าเข้าหา

 

“แปลกตรงไหนวะผู้ชายอ่านนิยาย เพื่อนผู้หญิงกูยังอ่านเยอะแยะไป ที่พระเอกแม่งโหด ๆ นางเอกสวย ๆ”

 

“ไม่ใช่ กูอ่านนิยาย…ชายรักชายต่างหาก” เพทายเบิกตากว้าง

 

“งั้นมึงก็เป็นเกย์มาตั้งแต่ก่อนจะรู้จักกูแล้วดิ” ต้นข้าวพยักหน้ายอมรับ

 

“อืม ความลับของกูเลยนะ พี่ต้นก็รู้แต่เขาไม่พูด จนมาเจอมึงเอานี่แหละกูเลยฟินตายมีผัวเป็นตัวเป็นตนแถมหน้าตาก็ดีอีก ความฝันกูชัด ๆ แต่แอบเคืองมึงนิดหน่อยเรื่องสันดานขี้หวงเนี่ย มึงควรเชื่อใจกูบ้างนะ”

 

“เดี๋ยวนะ…มึงจะบอกว่ามึงไม่ได้เกลียดกูที่เอามึง แต่มึงแค่ไม่พอใจเรื่องนิสัยกู งั้นที่ผ่าน ๆ มามึงเล่นตัวไปงั้นใช่ไหมต้นข้าว? ที่มึงสะดีดสะดิ้งงั้นก็…”

 

“คิดจะอ่อยมันต้องมีแผนกันหน่อย” เพทายอ้าปากค้างเมื่อเห็นสีหน้าชั่วร้ายของต้นข้าว “มึงยังต้องรู้จักกูอีกเยอะว่ะเหรอ เพราะความแรดของเหมือนเกมที่เพิ่มเลเวลไปเรื่อย ๆ แต่มึงไม่ต้องห่วงนะ กูเป็นแค่กับมึงคนเดียว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มึงนอกใจกู” ต้นข้าวลูบกลางกายคนรักมือวนไปมา”กูใช้แผนอ่อยขั้นสุดยอดไปทำกับคนอื่น และไอ้นี่ของมึงมันก็จะหายไป”

 

“มึงไม่น่าจะใช่คนแบบนี้ ไม่นะ…กูว่าไม่ใช่ต้นข้าวเมียกูแน่ ๆ”เพทายก้าวถอยห่างเข้าห้อง

 

“หึ คิดจะคบกับมึงมันก็ต้องร้ายให้ทัน ไม่งั้นจะเอามึงอยู่เหรอ” ต้นข้าวดันตัวเพทายเข้ามาในห้องมือปิดประตูเลื่อนผ้าม่านให้ชิดกัน

 

ร่างขาวโพลนเปลือยต่อหน้าเพทายเมื่อชุดคลุมสีขาวถูกกระตุกหลุดไปกองกับพื้น สายตากวาดมองร่างนุ่มนิ่มของเมียตัวเองแล้วต้องลอบกลืนน้ำลายหลายอึก ต้นข้าวผลักร่างใหญ่กว่าลงบนเตียงก่อนจะยกตัวขึ้นคร่อมเลียริมฝีปากยั่วยวน เพทายหลับตาลงเมื่อมือนุ่มสัมผัสไปตามร่างกายที่ได้สัดส่วนของเขา

 

“กูรักมึง…เพทายของต้นข้าว” เสียงกระซิบมาพร้อมกับฟันซี่เล็กขบกัดใบหู เพทายขนลุกชันนอนแผ่หลาให้เมียตัวแสบจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งหมด มือใหญ่ขย้ำก้นนิ่มบีบคลึงทั้งสองข้าง

 

“รักเหมือนกันครับ ต้นข้าวของเพทาย”

 

ท้องฟ้าและหมู่ดาวเป็นพยานรักให้คนทั้งคู่ เสียงแห่งความสุขกับเงาที่เคลื่อนไหวภายในห้องล่วงรู้ได้ว่าภายในร้อนแรงแค่ไหน และเหมือนราตรีนี้จะอีกยาวไกล หลังจากแสดงความรักเสร็จสิ้น ร่างใหญ่ของเพทายก็นอนกอดคนรักที่หลับไปแนบอก จมูกโด่งสูดดมความหอมที่ขมับต้นข้าว ปากกระซิบข้างหู

 

“แรดชิบหาย เมียอย่างมึง… แต่กูชอบมันเว่อร์ชั่นนี้นะ จุ๊บ! ฝันดีครับเมียแรด” ผ้าห่มตวัดขึ้นสูงชิดคอปิดเปลือกตาลงนอนหัวแนบอิงซบกัน

 

ความรัก…มีได้ก็ต้องรักษาได้ และพร้อมที่จะดูแลมัน แค่เราเชื่อมั่นว่าความรักไม่ผิด…และกล้าที่จะทำตามใจตัวเองสักครั้ง รักให้ถูกที่ ถูกเวลา เผชิญหน้ากับปัญหาทุกอย่างได้ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมีรักที่แท้จริงได้….

 

 

TBC.

 

  

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา