Rainbow University(2)บทรักยึดหัวใจนายต่างชาติ
เขียนโดย Greek
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.59 น.
แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 21.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ทำความรู้จัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ฉันได้คิดทบทวนอยู่หลายวันว่าจะไปสอบเรียนที่จีนดีรึเปล่า สมองมันบอกว่า ไกลพ่อไกลแม่นะ แต่หัวใจของฉันมองบอกว่า ไปเลยไปเลย ก็เลยลองโทรไปหาแม่ แม่บอกว่าไม่ให้ไป แต่ถ้าสอบได้ค่อยว่ากัน อ้าว ยังไงกันแน่ งั้นฉันสมัครสอบแล้วนะ
ถึงสมองจะคิดยังไง แต่ร่างกายก็พามาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง SF (Student Foreigners) เพราะรายละเอียดบอกว่าให้มาส่งใบสมัครที่นี่ ฉันผลักประตูเข้าไปแบบลังเลนิดหน่อย ห้องนี้เงียบจัง จะมีใครอยู่ไหม มันเป็นพักเที่ยงเค้าจะไปกินข้าวกันหมดรึเปล่า
“ขอโทษนะคะ” เอ๊ะ นั่นมีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องนี้พอดี เป็นอาจารย์หน้าตาลูกครึ่งฝรั่ง หล้อหล่อ อย่างกับนายแบบแน่ะ
“อ้าว...มีไรเหรอ” พูดไทยชัดเวอร์ ศัพท์ก็วัยรุ่นใช้ได้ สนใจมาเป็นพระเอกหนังของฉันไหมคะ (ชวนมันแม่งทุกคน)
“คือ...หนูจะมาสมัครสอบทุนไปเรียนที่จีนค่ะ”
“^_^ เชิญนั่งๆ” เค้ายิ้มแล้วพาเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับยื่นใบสมัครให้ฉันนั่งกรอกข้อมูล
ฉันจะต้องใช้ชื่อไหน ใช้ชื่อที่สมัครเรียนที่นี่ใช่ไหม หรือชื่อจริงๆ เอ๊ะ แต่ข้อมูลที่อยู่ในม.นี้เป็นชื่อ ช่อม่วง นี่หน่า ช่อม่วงก็ช่อม่วง บ้านมาจากต่างจังหวัดไกลๆแถวๆสกลนคร ป้าที่เป็นพี่สาวของแม่อยู่ที่นั่น ฉันใช้นามสกุลแม่แทนนามสกุลพ่อ ต้องทำให้เหมาะกับบทเด็กสาวที่มาจากบ้านนอกเพื่อมาเรียนตามความฝัน ฮิฮิ
เมื่อเขียนเสร็จก็ยื่นใบสมัครให้อาจารย์จอนนี่ ชื่อก็หล่อ คนอะไรก็ไม่รู้มีแฟนรึยังคะอาจารย์ (หม้ออาจารย์คร้า)
“ ^^+ อยู่การแสดงปี 1 หรอ” อะ อาจารย์ยิ้มแบบนั้นทำไมคะ หนูเขียนอะไรผิดรึเปล่า อ๋อ สงสัยอาจารย์คิดอยู่ว่าอยู่การแสดงมันแปลกกับหนังหน้าอยู่ใช่ไหมคะ อาจารย์ไม่หล่อเล่า
“ค่ะ ทำไมเหรอคะ” จะพูดอย่างที่ฉันคิดใช่มะ เชอะ
“ถ้าอย่างงั้น เธอก็เจอกับหลีเย่แล้วล่ะสิ” แป่ว หน้าแตก ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดหรอกหรอ แล้วทำไมกับนายนั่นล่ะ
ใจของฉันหล่นไปอยู่ตาตุ่มทันทีเมื่อนึกถึงอีตามาเฟียนั่น อาจารย์ถามถึงทำไม ใจไม่ดีเลย
“กะ ก็ เจอค่ะ แค่ครั้งเดียว ตอนจับบัดดี้”
“^^+” ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว มันต้องมีเรื่องคอขาดบาดตายแน่ๆ
“เธอพอจะรู้ไหมว่าใครเป็นบัดดี้ของเค้า” ฉันรู้สึกเหมือน...โดนเตะลูกบอลอัดกลางท้อง จุกสุดๆ
“ระ รู้ค่ะ” หยุดติดอ่างได้แล้ว พูดให้เป็นผู้เป็นคนหน่อยสิเฌอมินทร์
“ใครเหรอ ช่วยบอกชื่อให้อาจารย์หน่อยสิ อาจารย์ต้องการความช่วยเหลือจากเค้า” ตะ ต้องการความช่วยเหลืออะไรกัน ใจไม่ดี ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ชะ ช่อ...ม่วง” อาจารย์จอนนี่พยักหน้าแล้วก็มองใบสมัครของฉัน พร้อมกับพูดว่า
“อาจารย์ว่าชื่อคนนี้คุ้นๆเนอะ เคยได้ยินที่ไหนนร้า” ลื่นตาขึ้นไปดูชื่อใบสมัครสิคะ แล้วจะรู้ว่าเคยได้ยินที่ไหน
“O_O โอ้ เธอนี่หน่า” อาจารย์ได้ยินที่ฉันคิดในใจใช่ไหม ไม่น่าคิดเลย
“อาจารย์อยากจะให้หนูช่วยอะไรคะ” ไหนๆก็ไหนๆ ฉันก็คงต้องจำยอม
“พอดีว่า อาจารย์พึงไปคุยกับคณะบริหารของมหาลัยนี้มาเมื่อกี้ พวกเค้าบอกว่าต้องการให้หวัง หลี่เย่ เรียนอยู่ที่นี่จนจบ”
“o_O?” แล้วไงอะ เกี่ยวไรกับฉัน
“ในฐานะที่เธอเป็นบัดดี้ของเค้า อาจารย์อยากให้เธอทำยังไงก็ได้ ให้เค้าคิดว่า การเรียนที่นี่นั้นเป็นสิ่งที่วิเศษมาก”
“OoO” งานเข้า!!!!!!! ฉันเนี่ยนะ
“ถ้าเธอทำสำเร็จ ทางมหาวิทยาลัยจะตอบแทนเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะการไปเรียนที่จีนโดยที่ไม่ต้องสอบหรือมีเงื่อนไขใดๆ”
“O[]O” ความฝันของฉันกำลังจะเป็นจริง เพียงแค่ทำให้นายนั่นเรียนอยู่ที่นี่ต่อแค่นั้น แล้วฉันก็จะได้ไปลั่นล้าที่จีนอย่างมีความสุขตลอดไป(?)
“แล้วถ้าหนูทำไม่สำเร็จล่ะคะ” ฉันจะซวยไหมที่ถามแบบนี้
“ก็ไม่มีอะไรแค่...ถูกตัดสิทธิกับการไปเรียนที่จีน” ไม่ยุติธรรมอะ ถ้าอย่างงั้น ชีวิตของฉันก็ขึ้นอยู่กับนายหลี่เย่แล้วล่ะสิ ฉันไม่ยอมนะ
“ถ้าเธอรับข้อเสนออะนะ” นี่มันธุรกิจชัดๆ เดี๋ยวนะ หมายความว่า ฉันจะทำหรือไม่ทำก็ได้ใช่มะ
“ไม่เป็นไร ค่อยๆคิดก็ได้นะช่อ...”
“รับค่ะ” ฉันไม่ให้อาจารย์พูดจบ ก็ชิงตอบไปก่อน เอาวะ ชีวิตมันต้องเสี่ยง มันจะยากซะแค่ไหนกัน กะอีแค่เรียนอยู่ที่นี่จนจบ นายนั่นมันคงไม่ใช่คนเกเรหรอกมั้ง...นะ
ยากตั้งแต่จะเข้าไปคุยทำความรู้จักแล้ว หลังจากคิดอยู่นานว่าจะทำยังไงให้นายหลี่เย่อยู่ที่นี่ ฉันก็ลืมไปเสียสนิทว่าตั้งแต่เจอกันวันจับบัดดี้นั้น ฉันยังไม่ได้เข้าไปทำความรู้จักเลย วันนี้แหล่ะ
เดินจนปวดขาก็เจอจนได้ นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงม้าหินอ่อนข้างสนามบอลนั่นไง เอาวะ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอจะต้องทำได้เฌอมินทร์ทำได้ๆ
“อะ เอ่อ เฮ้นาย หวัดดี” ฉันก้าวยาวๆไปหยุดตรงหน้าเค้า พร้อมพูดคำที่ฉันคิดว่ามันปัญญาอ่อนมาก ไม่มีคำอื่นทักแล้วรึไง ทำไมไม่คิดมา
“o_o?” เค้าเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย ว่ายัยบ้านี่มาทักฉันทำไม ต้องการอะไรจากฉัน ประมาณนั้น
“จำฉันได้ไหม ฉันเป็นบัดดี้ของนายไง”
“o_o?” ก็ยังคงทำหน้าเดิม ฉันพูดอะไรผิด หรือว่าเค้าฟังฉันไม่รู้เรื่อง งั้นเอาใหม่
“ฉันชื่อช่อม่วง เป็นบัดดี้ของนาย นาย...นายชื่ออะไรนะ”
“ ^^ ทุกคนเรียกฉันว่าคุณหวัง” คุณหวัง อู้ว คุณเลยเหรอ แต่เอ๊ะเค้ายิ้มนี่หน่า ฉันว่าเค้าน่าจะตลกท่าทางที่ฉันชี้ไปชี้มาเพื่อให้เค้าเข้าใจมากกว่า นายคงคิดว่าฉันเป็นคนต๊องๆใช่มะ
“นาย...คุณหวัง...ฉันว่า เราควรทำความรู้จักกันเอาไว้”
“ทำไม” อย่าทำเสียงโหดดิ ใจไม่ดีนะ
“ยังไงเราสองคนก็ต้องใช้หรือรับผลประโยชน์ร่วมกันไปอีกนาน รู้จักกันไว้นั่นแหล่ะดีแล้ว” เค้าหันไปสนใจหนังสือต่อพร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำให้หัวใจของฉันเหี่ยวตายในทันที
“ฉันอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก เธอไม่จำเป็นต้องลำบากมาทำความรู้จักกับฉันก็ได้” นั่นแหล่ะคือเหตุผลที่ฉันต้องรู้จักนาย ต้องรีบตีสนิทหาจุดอ่อนให้นายอยู่ที่นี่ เข้าใจไหม!!!!
“รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย อะนี่ กำไลคู่หูบัดดี้ของเรา” ฉันยื่นกำไลลิสแบรนยางพาราให้กับเค้า สีแดงเลือดหมูเพ้นคำว่า MYBUDDY เป็นสีขาวตัวหนา ไปเจอตรงตลาดนัดมาเส้นละ 20 บาท ทุนมันน้อยได้แค่นี้แหล่ะ
“o_o?” นายสมหวัง ฉันเรียกนายในใจอย่างงี้นะ เค้าหยิบมันขึ้นมาดูแบบงงๆ พร้อมกับมองฉันเหมือนเป็นตัวประหลาด
“คนอื่นเค้าจะได้รู้ไง ว่าเราเป็นบัดดี้กัน ใส่ด้วยนะ ไปละ” ไม่ทันให้เค้าได้ตอบฉันก็วิ่งออกมา
ภารกิจแรกจบไปแล้ว อย่างน้อยฉันก็ก้าวข้ามความกลัวเข้าไปคุยกับเค้า หวังว่า นายคงไม่ส่งคนมาฆ่าปิด เพราะฉันเอากำไลที่ใส่แล้วดูปัญญาอ่อนไปให้นายหรอกนะ นายสมหวัง ฮิฮิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ