The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

50) ไวโอลีน ร้องไห้..

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        

ในร้านอาหารราคาแพงในห้างกลางเมือง  อ๊อดมองอาหารนิ่งๆ จนสรรค์ต้องถามว่า

“ไม่หิวเหรอ” สรรค์กล่าว

“ของชอบทั้งนั้นเลยนี่”

อ๊อดจึงตื่นตัวแล้วก็ยิ้มออกมา เมื่อสักครู่ตอนได้เห็นอาหารเขาคิดไปถึงอาหารถุงง่ายๆที่เคยจัดเรียงบนโต๊ะในห้องอพาร์ทเม้นท์..

“อ้อไม่ใช่ครับ”  แล้วเขาก็ลงมือกิน

“เอ่อเดี่ยวกันเสร็จพี่ว่าจะไปเยี่ยมญาติของพี่หน่อย  เห็นว่าอาการหนักมาก  เดี่ยวอ๊อดก็ไปด้วยกันนะ”

อ๊อด จำได้ว่าคนที่ว่าคือคนที่สรรค์บอกว่าแนะนำอ๊อดให้กับสรรค์ได้รู้จัก  แต่จนป่านนี้ด้วยข้ออ้างที่ว่าเคยไม่ถูกกันอย่างรุนแรงทำให้สรรค์ยังไม่ยอม บอกว่าเป็นใคร

“พอเจอกันก็อโหสิต่อกันนะ  อย่าให้เรื่องเก่าๆมันค้างคาใจ” สรรค์กล่าว

 

พอไปถึงโรงพยาบาลสรรค์ก็ถามจากพยาบาลแต่ข้อมูลทำให้ตกใจ

“คนไข้เสียชีวิตแล้วค่ะ  ตอนนี้อยู่ที่ห้องดับจิตแล้ว”

ทั้ง คู่เลยมาที่ห้องดับจิต  อ๊อดรู้สึกแปลกๆในหัวใจ  เขากลัวอย่างไรพิกล  ไม่ใช่เพราะกลัวการไปห้องดับจิต  แต่ทุกก้าวที่ย่างไปเหมือนกับหัวใจมันกำลังจะบอกอะไรเขา  มันเต้นแรงอย่างผิดปกติ

ที่หน้าห้องมีจุ๊ย อ็อย และอาราอิ

“อ้าวทำไมมากันหมดเลย  แสดงว่าสนิทกันอย่างนั้นใช่ไหม” สรรค์หันมาถามกับอ๊อด

อ๊อดไม่ตอบ  เขาเดินไปยืนตรงหน้าจุ๊ย

“อ๊อดมึงควรจะเข้าไปดูหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย  แต่ถ้ามึงจะไม่เข้าไปกูก็ไม่ว่าหรอก” จุ๊ยกล่าวแต่ก็หลบสายตาอ๊อด

 

ร่างที่นอนอยู่บนเตียงซูบซีด  ผิวที่ขาวอยู่แล้วจึงซีดเป็นกระดาษ  ใบหน้าซูบซีดนั้นสงบนิ่ง

อ๊อดยืนคู่กับสรรค์

“กล่าวอโหสิกรรมกันสิ  แล้วถ้าโกรธอะไรกันก็เลิกแล้วต่อกันนะ”

อ๊อดไม่พูดสักคำ  เขาหันหลังออกมาจากห้องนั้น

“ผมกลับก่อนนะพี่  ผมง่วงนอน”

 

งาน ศพเมืองฟ้าผ่านไปแล้วสามวัน  จุ๊ยเองแม้จะไปทุกวันแต่ก็ไม่ได้กล้าเอ่ยปากอะไรกับอ๊อดที่ไม่ได้ไปเลย  เขาเหมือนเป็นปกติและทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มันอะไรของมัน” ฮ้อยถามออกมาตอนมองอ๊อดกำลังสนทนากับพวกหน่องอย่างร่าเริง

“มันไม่เสียใจอะไรเลยหรือไงวะ”

“มึงเอาเทปที่เมืองเขาขอโทษ มัมไปหรือยัง”

“เปิดให้มันฟังเลย  บังคับด้วย  แต่มันไม่ได้พูดอะไร” จุ๊ยถอนหายใจชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง

“แต่ กูว่านะ  มันแปลกๆ  มันน่าจะพูดอะไรบ้าง มันน่าจะแสดงอาการอะไรบ้าง  นี่มันผ่านมาไม่เท่าไหร่เองนะ  แล้วมันจะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆเหรอ  แต่ที่มันทำมันเย็นชาเกินไป  จะว่าโกรธก็ไม่ใช่  อะไรของมันกูก็งง”

แต่สักครู่ สิทธิก็เดินมาถึง  แต่เดินผ่านไปยังตรงที่อ๊อดนั่งอยู่

“พี่อ๊อดผมขอคุยด้วยหน่อยสิ”

 จุ๊ยกับฮ้อยมองหน้ากัน

 

“ผมขอร้อง  ผมแค่อยากให้พี่ไปเล่นไวโอลีนหน้าศพพี่เมืองเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง” สิทธิแทบจะคุกเข่าอยู่แล้วตอนที่พูดประโยคนั้น

“ก็ให้จุ๊ยมันเล่นสิ  ไวโอลีนของจุ๊ยมันก็ไม่ต่างกับฉันหรอก  มันเก่งนะ” อ๊อดตอบ แล้วหันไปมองทางอื่น

“พี่ใจร้ายมาก” สิทธิกล่าวออกมามองอ๊อดอย่างเจ็บปวดใจ

“พี่เมืองทำเพื่อพี่ทั้งนั้น  พี่จะคิดว่าพี่เขาโกหกพี่ หลอกพี่ หรืออะไรก็ตาม  แต่ผมอยากจะบอกว่าเพราะพี่เขารักพี่มากพี่เขาถึงได้ทำอย่างนั้น”

อ๊อดเงียบไปนาน

แล้วหันมา

“เขารักนายมากกว่า..” อ๊อดกล่าวเสียงที่ระคนด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“ถ้า เขารักฉัน ทำไมในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาไม่ให้ฉันดูแล  ทำไมเขาไม่บอกลาฉันด้วยตัวเอง  ทำไมเขาถึงทิ้งฉันไปอย่างนั้น  ทำไมเขาต้องทำอย่างนี้  ทำไมล่ะนายช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อย”

“ในเมื่อเขาต้องการแบบนี้  แปลว่าเขาก็อาจไม่ได้ต้องการให้ฉันไปเล่นจริงๆ  แล้วมีประโยชน์อะไรที่ฉันไป  ให้ไอ้จุ๊ยไปก็แล้วกัน”

แล้ว เขาก็เดินผ่านหน้าสิทธิที่ยืนนิ่งไร้คำตอบหรือเสียงท้วงติง  และผ่านจุ๊ยกับฮ้อยที่ตามมาดูเหตุการณ์  โดยเพื่อนทั้งสองก็ไม่กล้าจะหยุดยั้งเขาไว้

 

ในงานศพของเมืองฟ้า  มีญาติและเพื่อนของเมืองฟ้ามาหลายคนโดยเฉพาะแก๊งค์เกย์สาวที่เคยสนิทกันมา กันเกือบครบ เดฟก็ยังมาทั้งที่ขายังพันผ้าโดยมีอัศวะตามมาด้วย 

ฮ้อยจัดการจูนเสียงคีย์บอร์ด  แล้วก็หันไปมองจุ๊ยที่ไม่ได้ถือไวโอลีนแต่เป็นฟรุ๊ต

“ถ้ามันไม่มาล่ะจุ๊ย” ฮ้อยถาม

จุ๊ยไม่ได้ตอบ  แต่หันไปมองอาราอิที่ยืนอยู่ตรงแถวด้านนอกพื้นที่ฌาปนสถาน เขาส่ายหน้าแสดงว่ายังไม่มีวี่แวว

“มันต้องมากูเชื่อ  มันไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้น”

สิทธิมองรูปเมืองฟ้า  แล้วหันไปหาสรรค์พี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ  สรรค์ยังไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น 

มัคนายกเดินเขามาสอบถามกับมารดาและบิดาของเมืองฟ้า  เหมือนเธอจะตอบว่าพร้อมแล้ว

ตอนนั้นจุ๊ยชักใจแป๋ว เพราะแปลว่าเขากำลังต้องเล่น

แต่แล้วอาราอิก็แสดงอาการตื่นตัว  โบกมือบอกจุ๊ย

อ๊อดในชุดสีขาวล้วนเดินมาพร้อมกับไวโอลีนของเขา  เขาไม่ได้พูดกับอาราอิตอนเดินผ่านมายืนข้างๆจุ๊ย

เขาหันไปมองฮ้อย  ก่อนจะหันไปสบตาจุ๊ยแล้วก็ตั้งท่าพร้อม หนีบไวโอลีนตัวเอกเอาไว้ด้วยคาง หันไปหารูปของเมืองฟ้า

แล้วเขาก็เริ่มต้นสีเพลงที่ทำให้เขาได้พูดคุยกับเมืองฟ้าเป็นครั้งแรก

Sad Romance ของ Ji Pyeongkeyon..

เสียงไวโอลีนนั้นยิ่งทำให้บทเพลงที่ประพันธ์อย่างเศร้าสร้อยอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้ มันเศร้าไปมากกว่าเดิม  เสียงของมันพริ้วไหวและคล้ายกับการครวญสะอื้นของสายลมที่อยู่รอบตัว

เราพึ่งย้ายมาน่ะ

ทำไม อ๊อดเศร้าจังเลย คือเมืองอาจเล่นดนตรีสากลไม่เป็นนะ แต่ชอบฟังมากๆ  โดยเฉพาะไวโอลิน  แต่เสียงไวโอลินของอ๊อด เมืองว่ามันเศร้าจัง มีเรื่องอะไรรึเปล่า

โอ๊ยแล้วจะเสียใจทำไมเนี่ย... ได้ที่สองจากคนเป็นร้อยก็เก่งจะแย่แล้ว

อ๊อด บางอย่างมันไม่ต้องมีเหตุผลหรอก  เราก็แค่ทำตามหัวใจของเรา  เราอยากเป็นอะไร หรือไม่อยากเป็นอะไร  มันอยุ่ที่ตัวเราตัดสินใจไม่ใช่เหรอ... ในโลกของเมืองไม่มีพระเจ้ากำหนด  แม่บอกว่าเราเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด

สำหรับเมือง... เมืองไม่อยากรู้ว่ามันผิดหรือถูกแต่ เมืองแค่อยากจะอยู่ใกล้คนที่เรารักเท่านั้นเอง

แล้วน้ำตาก็อาบลงมาอย่างห้ามไม่ได้  ในม่านน้ำตา อ๊อดคล้ายจะเห็นเทวดาตัวน้อยของเขา  เทวดาที่ยืนเคียงข้างเขาในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่อัดอั้นตันใจ  เทวดาดูแลเขาด้วยความรักตลอดมา และเทวดาที่โอบกอดเขาอย่างอ่อนโยนในคืนที่เหน็บหนาว

สรรค์เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาได้จากในระยะไกล  น้ำตานั้นมาจากความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งแน่นอนที่สุด

“สิทธิ  เมืองไม่ใช่แค่เพื่อนของอ๊อดใช่ไหม...” เขาหันมาถามกับน้องชาย

เสียงไวโอลีนท่อนสุดท้ายหวีดขึ้นกรีดความรู้สึก  แล้วอ๊อดก็ทิ้งกายลงกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง

จุ๊ยส่งฟรุ๊ตให้อาราอิ  แล้วก็นั่งลงพอเขาวางมือบนบ่า  อ๊อดก็กอดเขาไว้แน่น

“ทำไม จุ๊ย ทำไมเมืองทำแบบนี้กับกู  กูรักเขามากเลยมึงรู้ไหม  ทำไมเขาไม่ให้กูดูแลเขานาทีสุดท้าย  ทำไมเขาไม่ให้กูได้บอกลาเขา  ทำไมล่ะจุ๊ย  ทำไมเขาต้องทำกับกูแบบนี้  กูไม่ใช่สิ่งของจุ๊ย  กูเป็นคน คนที่รักเขา.. ทำไมเขาทำกับกูแบบนี้”

จุ๊ยมองหน้าฮ้อยที่ย่อเข่าลงมาข้างๆ ก่อนเขาจะตอบออกไป

“แล้ว ถ้ามึงได้อยู่จริงๆ  มึงทำได้ไหมล่ะที่จะส่งเขาด้วยรอยยิ้ม มึงทำได้ไหมที่จะปล่อยเขาโดยดีโดยไม่พยายามรั้งเขาไว้ทั้งที่รั้งไม่ได้  มึงทำได้หรือเปล่า” จุ๊ยกล่าว

“เมือง รักมึงมากอ๊อด  สิ่งที่เมืองทำอาจแปลกๆ  แต่เขารักมึงมากจนไม่รู้จะทำยังไง  แล้วเขาก็เป็นห่วงมึงมาก  ด้วยหัวใจที่อ่อนแอของเขา  แต่เขากลับกลั่นใจทำในสิ่งทีเขาเจ็บปวดที่สุด" 

"มึงคิดว่าเขาทำได้เพราะอะไรหล่ะ  นี่มันไม่ใช่ความใจร้ายนะอ๊อด  แต่เขาทำเพราะเขาเป็นห่วงมึง  และเขาทำเพราะเขาทนเห็นมึงเสียใจไม่ได้  เขาทนที่จะจากมึงไปทั้งที่มึงกำลังร้องไห้ครำครวญไม่ได้”

“ทั้งหมด มันคือะไร มันคือความรักที่เสียสละไม่ใช่เหรอ... ความรักของคนที่อยากให้มึงมีความสุขที่สุดในชีวิตของเขาไม่ใช่เหรออ๊อด”

อาราอิต้องเบือนหนีไปจากภาพนั้น  เขามองขึ้นฟ้าเพื่อไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา

ความเสียสละอย่างนั้นหรือ  นี่คือรูปแบบหนึ่งของความรักที่เสียสละใช่หรือไม่...

เพราะ รู้ว่าไม่อาจเคียงข้าง  จึงทนเห็นเขาไปกับคนอื่น  เพราะรู้ว่าไม่อาจจากไปโดยต้องเห็นคนรักต้องเสียใจ  ก็เลยยอมทนจากไปอย่างเดียวดาย ตายไปในความเงียบงันที่เจ็บปวด...

อย่างนี้เรียกว่าอะไร...  ใช่ความรัก หรือไม่

ความรักมีคำจำกัดความหลากหลาย  หลากหลายเกินไปจริงๆ

 

หลังจากเหตุการณ์ในวันเผาศพเมืองฟ้า  อ๊อดก็ซึมเศร้าไปหลายวัน นานเกือบเป็นเดือน  

จากที่อ๊อดเล่า สรรค์เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด  แต่ก็ยังยืนยันว่าความรักของเขาไม่ได้เกิดอย่างฉาบฉวย  เขาก็รักอ๊อดจริงๆตั้งแต่แรกเห็น  แต่ก็เข้าใจอ๊อด  และยินดีจะปล่อยถอยออกมาให้อ๊อดได้ใช้เวลากับตัวเอง 

ฮ้อยก็เลยให้อ๊อดย้ายมาอยู่กับเขาเป็นการชั่วคราว  ซึ่งจะอยู่ไปเลยก็ได้  เพราะยังไงเขาก็อยู่คนเดียว  แต่ทั้งนี้ก็มอบให้เป็นการตัดสินจากอ๊อด ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต

และแม้สรรค์จะทิ้งระยะห่างกับอ๊อด  เขาก็ไม่ได้ทอดทิ้ง The Trio Tenders แต่ยังส่งงานดีๆให้มากกว่าเดิม  จนจุ๊ยแอบได้ยินวงอื่นที่อยู่ในการดูแลของสรรค์เหมือนกันบ่นว่าน้อยใจ

ดังนั้นในความรู้สึกของจุ๊ย  บางทีเมืองฟ้าอาจไม่ได้คิดผิด  เขาเป็นญาติกับพี่สรรค์เขาคงเลือกแล้วว่าใครกันแน่ที่จะดูแลอ๊อดที่เขารัก ต่อไปได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา