Chocolate & Despair

7.7

เขียนโดย [NNS]

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.

  13 chapter
  1 วิจารณ์
  13.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) Strong

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          ท้องฟ้าสดใส แสงอาทิตย์ช่างอบอุ่น นกบินเล่นกันอย่างสนุกสานา เป็นวันที่ดีและเป็นวันที่น่าเบื่อผมเป็นแบบนี้มาก็5วันแล้วตั้งแต่วันเริ่มสัปดาห์ของการเรียนจนถึงวันหยุด
            “ชิมะ...”
            ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา
            “คุณ นานาชิมะ ฮารุ ครับ”
            “อะ ครับ”ผมรู้สึกตัวว่าอาจารย์ที่ปรึกษาทานากะกำลังเรียกจึงหันหน้ากลับมา
            อาจารย์หนุ่มเพิ่งบรรจุกำลังยืนเส้นเลือดปูดอย่างหงุดหงิด
            “ไม่ทราบว่าตอนนี้เราเรียนอะไรอยู่เหรอครับ”
            “อะ เอ่อ”ผมมองบนโต๊ะของตัวเองทันที
            “คะ คณิตศาสตร์ครับ”
            “เหรอ”
            “หือ”ผมเพิ่งสังเกตสื่งที่อยู่บนกระดานมันไม่ใช่สูตรคำนวณแต่อย่างใดบนกระดานมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเต็มไปหมด
            วิชาภาษาอังกฤษ
            -“คณิตศาสตร์นะมันจบไปสองคาบแล้วนะครับ”
            “ขะ ขอโทษครับ”ผมรีบเก็บหนังสือคณิตศาสตร์แล้วหยิบหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นา
            “ว่าแต่ยังติดต่อมานาเสะคุงไม่ได้อีกเหรอครับ”
            คำพูดนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาทันทีผมมองหน้าอาจารย์แล้วก้มหน้าลงทันที
            “ครับ โทรเข้ามือถือก็ไม่รับสาย”
            “งั้นเหรอ”เขาถอนหายใจ
            “ใกล้ได้ไปทัศนะศึกษา3วัน2คืนที่ทะเลแล้วแท้ๆ”แถมวันนี้ก็ต้องมาเซ็นเอกสารกับรับกำหนดการไปแท้ๆ”
            “ผมเมล์ไปบอกแล้วแต่ไม่รู้จะมาไหมนะครับถ้ายังไงกำหนดการผมจะเอาไปให้เขาพรุ่งนี้เองครับ”
            “ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
            ผมหยิบหนังสือแล้วกลับมานั่งที่เดิมมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งได้ยินเสียงถอนหายใจของอาจารย์มาจากหน้าห้องคงเหนื่อยหน้าดูก็ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เรย์หยุดเรียน
            ว่าไปหมอนั้นไม่ชอบภาษาอังกฤษนี่นะ
            ระหว่างที่ผมคิดเรื่อยเปื่อยเช่นนั้นผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเมื่อผมหันไปมอง
            “ระ รย์ “เขาอยู่ตรงนั้นสะพายกระเป๋าใบเดิมในชุดนักเรียน
            เขาก้มหัวเพื่อขออณุญาติและขอโทษที่มาสาย
            “ปะ ไปนั่งที่ก่อนเถอะนะพวกเอกสารหลังเรียนเสร็จค่อยมารับ”
            “...”เขาไม่ตอบแล้วเดินไปที่นั่ง
            “ไงเรย์หายไปไหนมาตั้งนาน”ผมทักทายเขาตอนเขาเดินผ่านโต๊ะผม
            “สวัสดี ไม่มีอะไรหรอก”เขาตอบกลับโดยไม่หันมามองผม
            แปลก ผมรู้สึกอย่างนั้นเขามีอะไรแปลกไป
            พอจบคาบสุดท้ายเขาเก็บของแล้วลุกออกไปทันทีโดยไม่พูดจา
 
            “การไปทัศนะศึกษาจะเริ่มขึ้นถัดจากนี้ไปหนึ่งสัปดาห์ระหว่างนั้นดูแลร่างกายให้ดีด้วยละ”
            “ครับ”
            “กำหนดการทั้งหมดอยู่ในนั้นแล้ววันแรกเป็นวันอิสระให้เล่นน้ำทะเลวันที่สองแบ่งกลุ่มไปตามสถานที่เก่าในเมืองวันสุดท้ายสำรวจบริเวณชายฝั่งแล้วกลับ”
            “ครับ”
            “งั้นก็เดินทางกลับระวังตัวด้วยละ
            “ครับ”พอเขาเปิดประตูห้องออกมาหันกลับไปคำนับแล้วปิดประตู
            “ไง”เสียงที่คุ้นเคยเรียกเขาจากด้านหลัง
            เขาหันกลับไปมองเด็กหนุ่มตาสีแดงที่ยืนรอเขาอยู่
 
            “ไงเรย์”ผมทักทายเขาอีกรอบ
            “มีอะไร”
            “เกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆถึงหยุดละชั้นโทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับ”
            “...มีธุระนิดหน่อยนะ”เขาหันไปด้านข้างเพื่อเดินลงบันได
            “โกหก”
            “...”เขาชะงักไปไม่หันมามองผมแล้วเดินต่อ
            “นายโกหก”ผมเดินตามเขาไปทันทีเขาเดินนำหน้าผมไปไม่ยอมหันกลับมาเลย
            “เวลานายโกหกนะน๊ะนายมักจะเคลื่นไหวร่างกายไปตรงที่ๆอีกฝ่ายไม่เห็นหน้าแล้วเดินออกไปตลอด”
            “มีอะไรเกิดขึ้นบอกชั้นหน่อยเถอะ”
            เขาไม่ตอบ ผมก็ไม่ถามเขาอีกสักพักเราก็เดินมาถึงจนใกล้ถึงคอนโดของเร็นแล้ว
            “เรย์”ผมเรียกเขา
            “ทำไมนายไม่พูดอะไรเลยละเรย์”ผมไปดึงไหล่ของเขาไว้
            เขาปัดมือของผมออก
            “ก็ บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรนะ”เขาตะคอกผมกลับมาเสียงดังจนคนรอบข้างเริ่มมองแต่สักพักเขาก็ไม่สนใจกันเรญ์ยืนหายใจแรงๆอยู่ที่เดิมคงตะโกนสุดแรงเลยทีเดียวในตอนนั้นที่เขากำลังจะพูดบางอย่าง
            “อ้าวๆนึกว่าใครมาตะโกนกลางเมืองที่แท้ก็หนุ่มน้อยนี่เอง”
            ผมกับเรย์หันไปมองต้นเสียงนั้นเป็นกลุ่มผู้ชาย5คนสูงกว่าผมไม่มากนัแต่ร่างกายดูหนามีกล่ามเนื้อมากกว่าผมดูจากการแต่งตัวแล้วไม่ใช่คนดีแน่
            คนรู้จักเรย์เหรอ ผมหันไปมองเขาแต่ผมก็เห็นสิ่งที่ขาดไม่ถึง
            สั่น เขาสั่นอยู่สั่นอย่างรุนแรงเป็นการสั่นเพราะหวาดกลัวแน่นอนเขาถอยหลังมาสามก้าวตาของเขาเบิกกว้างก่อนที่เขาจะ
            วิ่ง เขาวิ่งผ่านด้านข่างของคนกลุ่มนั้นไปผมเองก็รีบวิ่งตามเขาไปผมเหลือบไปมองคนกลุ่มนั้นเห็นพวกนั้นเข้าไปที่ซอกตึกแคบๆแต่นั้นก็ทำให้ผมโดนเรย์ทิ้งห่างเขาวิ่งไปในคอนโดแล้วหายไปด้านในผมตามเขาไม่ได้ผมครุ่นคิดสักครู่ก่อนตัดสินใจหันหลังแล้ววิ่งกลับไปกลับไปหาคนกลุ่มนั้น
            ผมมาถึงซอกตึกที่พวกนั้นเข้าไปผมว่างกระเป๋าไว้แล้วเข้าไปด้านในพวกนั้นกำลังนั่งสูบบุหรี่คุยกันอย่างสนุกสนาน
            “หืม”พวกนั้นเห็นผมจึงลุกขึ้นเดินเข้ามาหาโดยที่ยังคาบบุหรี่ไว้
            “อ้าวๆเพื่อนของพ่อหนุ่มนี่มีอะไรเหรอ”
            “พวกแกทำอะไรเรย์”
            “หืม”
            “ชั้นถามว่าพวกแกทำอะไรเรย์”
            “เฮ้ๆคิดว่าเราจะบอกง่ายๆเห...”ผมต่อยมันต่อยสุดแรงจนมันเซไปด้านหลัง
            “พวกแกทำอะไรเรย์”
            “ก็สวยเซ่”พวกนั้นเดินมาล้อมผมไว้
            “ชั้นจะบอกให้ก็ได้ว่าเราทำอะไรหนุ่มน้อยนั้น”คนตรงหน้าผมพูดออกมาผมกวาดสายตามองพวกมันรอบตัวเพื่อไม่ให้มันบุกเข้ามาได้
            “พวกเราก็แค่เล่นสนุกกับเขานิดหน่อยแล้วถ่ายรูปเก็บไว้เอง พวกเรา[ทุกคนเลยละนะ”
            “แก”ประโยคนั้นทำให้ผมขาดสติทันทีผมพุ่งไปเพื่อต่อยมันแต่
            “เผลอแล้วนะ”พวกมันด้านหลังพุ่งเข้ามาล๊อกผมไว้
            “อุ๊บ”ผมโดนต่อยที่ท้องอย่างแรงจนผมทรุดลงไปกับพื้นทันทีพวกมันใช้เท้าเตะผมพร้อมหหัวเราะอย่างสนุกสนาน
            แต่แล้วพวกมันก็หยุดคนตรงนั้งผมนั่งงอเข่าดำงผมของผมให้เงยหน้าขึ้นแล้วพ่นควันบุหรี่ใส่ผม
            “เดี๋ยวแกก็โดนไม่ต้องคิดมาก”
            “ไอ้สารเลว”ผมถุยน้ำลายใส่มัน
            “หึ แต่ว่าหน้าแกไม่ค่อยตรงเสปคชั้นวะ”
            “ขอทำให้หน้าแกตรงเสปคชั้นหนิ่ยละกัน”มันยื่นบุหรี่มาที่ตาผมใกล้เข้ามาๆ
            ผมทำได้แต่กัดฟันทนไม่ยอมหลับตาถ้าเป็นแบบนี้ตาของผมคงบอดไปข้างนึงแน่ๆแต่
            “อุ๊บ”หมอนั้นโดนกระเป๋าเขวี้ยงใส่หน้าไม่ใช่กระเป๋าของผมที่กระเป๋ามีพวงกุญแจปีกนกพันกับปีกค้างคาวตรงกลางมีตัวอักษรตัวRเขียนอยู่
            ผมหันไปตามทิศทางที่กระเป๋าลอยมาเรย์ยืนอยู่ตรงนั้นเขายืนหอบอยู่ตรงนั้นคงวิ่งตามผมมาเพราะเห็นผมวิ่งกลับไปทางเดิม
            “อ้าวๆหนุ่มน้อยมาแล้ว แต่ว่าขว้างกระเป๋าใส่เราจะดีเหรอ”พวกมันคนหนึ่งเดินเขาไปหาเรย์
            “หืมว่าไงมันใช้มือจับหัวของเรย์แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
            “เรย์ชั้นไม่เป็นไรหนีไป”ผมทำได้แต่ตะโกนผมตอนนี้ไม่มีแรงลุกขึ้นไปช่วยเขาได้
            “พอแล้วละ”เรย์พูดคำนั้นออกมาอย่างเยือกเย็น
            “หืม”พวกมันที่อยู่หน้าเขาคงไม่เข้าใจ
            “[เลือดล้างด้วยเลือด การหนีไม่ทำให้แผลหาย]ตระกูลที่รับชั้นมาเลี้ยงสอนไว้แบบนั้น”
            “เหหห นายคิดจะต่อต้านเราเหรอคิดดะ....”เขาพูดได้แค่นั้น
            เรย์ใช้มือซ้ายดึงมือของพวกนั้นออกจากหัวมือขวาของเขาขยับแต่ผมมองไม่เห็นว่าเขาทำอะไร
            “อะ อั๊ก”หมอนั่นตัวกระตุกอย่างรุนแรงแล้วนอนลงไป
            ในมือขวาของเรย์มีบางอย่างอยู่วัตถุสีดำยาว
            มีด เหรอ ไม่ใช่รูปร่างมันต่างไป
            แล้วผมก็ได้รู้มันคืออะไรเมื่อมันเปล่งประกายสีฟ้าพร้อมเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
            สตี๊นโรป
            เขาเดินมายืนตรงหน้าผมพวกมัน4คนถอยออกไปด้วยความกลัวเรย์ยืนบังผมอยู่แผ่นหลังเล็กๆของเขาในตอนนี้ดูหนักแน่นอนมากเขาถือสตี๊นโรปไว้แน่น
            “นะ หนอยแก”มีพวกมันคนนึงรวบรวมความกล้าพุ่งเขาหาเรย์เอื้อมือมาเพื่แย่งสตั๊นโร๊ปจากมือของแต่
            เรย์บิดตัวไปด้านข้างใช้มือซ้ายจับข้อมือของมันวันใช้ขาซ้ายเตะขาของมันที่ทรงตัวอยู่เรย์กดคนที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองมากลงกับพื้นได้มือขวาของเขาขยับอย่างรวดเร็วใช้สตั๊นโร๊ปโจมตีที่ท้ายทอยจนมันหมกสติไปทันที
            เขาค่อยๆยืนขึ้นโดยหันหลังให้พวกมันผมมองเห็นหน้าของเขาที่ก้มมองลงมาที่ผมสายตานั้นดูไม่เหมือนเรย์ตอนปกติสายตาของเขาที่เคยเปล่งสายงดงามตอนนี้กลับดูว่างเปล่ามีออร่าดำมืดแผ่ออกมา
            เขาหันหลังกลับไปหาพวกมันสามคน
            “พวกแกสองคนนะไปจับมันไว้”
            “หาบ้ารึไง”
            “ทำไมแกไม่ทำเองละ”
            “อาวุธมันมีชิ้นเดียวพวกแกเข้าไปพร้อมกันมันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
            สองคนนั้นกัดฟันวิ่งเข้ามาหาเรย์พร้อมกัน
            “เรย์”ผมตะโกนเรียกเขา
            เร็ว ไม่มีอะไรมากกว่านั้นอีกแล้วเรย์ย่อตัวหลบแขนของพวกมันสองคนเหยีดขาซ้ายเตะขาพวกมันให้ล้มใช้สตี๊นโร๊ปในมือขวาฟาดใส่ขาพวกมันอีกคนแล้วกลิ้งตัวออกมาพอพวกมันล้มลงเขาก็ลุกขึ้นใช้สตั๊นโร๊ปใส่ตอของพวกมันที่โดนเตะส่วนอีกคนคงชาเพราะโดนฟาดเข้าแต่เรญืก็ทำให้เขหมดสติกันไปทีละคนอย่างสวยงาม
            “กะแก”
            “...”เรยืหันไปมองพวกมันที่เหลืออยู่
            “อึก”มันหันหลังวิ่งหนีแต่
            เรย์ขว้างท่อเหล็กที่หล่นอยู่แถวนั้นขัดขามันจนล้มลง
            “อุ๊ก”มันล้มลงหัวกระแทกพื้น
            “ไง”เรย์นั่งงอเข่าตรงหัวของมันถือสคั๊นโร๊ปแบบหันเข้าด้านในจ่อที่หน้าผากมัน
            “ชะ ชั้นยอมรับอยากได้อะไรก็ชั้นจะให้”
            “ลบรูปชั้นทั้งหมดซะ”
            “ชะ ชั้นไม่ได้”
            “แกเป็นคนถ่าย”
            “อึก”
            “แกถ่าย คนเดียว ในกลุ่มด้วย”
            “เข้าใจแล้วจะลบท้งทั้งหมดเดี๋ยวนี้”มันล้วงโทรศีพธ์ออกมาเพื่อลบข้อมูล
            แต่เรย์หยิบโทรศัพธ์นั้นมาจากมือหมอนั้นเปิดดูข้อมูลข้างนั้นหมอนั้นสบโอกาศจึงค่อยๆพยายามเลื่อนตัวออกแต่
            “อุ๊บ”เรย์ยัดสตั๊นโร๊ปใส่ปากมันไว้
            “ชั้นเห็นนะ”
            “อึก”หมอนั้นร้องไห้น้ำตาไหล
            “ร้องไห้เป็นด้วยเหรอทั้งที่ทำกับชั้นแบบนั้นได้ทั้งๆที่หัวเราะเนี่ยนะ”เขาดึงสตั๊นโร๊ปออกจากปากหมอนั้น
            “ขะ ขอโทษชั้นขอโทษ”
            “ไม่มีทาง”เรย์ใช้สตั๊นโร๊ปพังโทรศัพธ์ทิ้งซะ
            “วะ เหวอ มันลุกขึ้นวิ่งหนีทันทีแต่เรย์ก็จับมันล้มลงกับพื้นอีกครั้งโดยนั่งทับมันไว้ด้วย
            “นายบอกเอาคืนหมัดเบาๆของชั้นสินะแต่ชั้นว่านายคืนมามากไปงั้นเดี๋ยวชั้นจะคืนดอกให้นายละกันนะ”ผมมองไม่เห็นหน้าเขาในตอนนี้แต่ผมก็ไม่อยากเห็นด้วย
            “นายรู้จักโอนิคามิ(เทพยักษ์)ไหม”
            “ระ รู้จัก กลุ่มที่นำโดน รุ่นที่6 มินาคามิ โชจิ “
            “ถูกต้อง”
            “ทะ ทำไมนาย”
            “ถึงรู้จักชื่อของคนในวงการมาเฟียเหรอแน่นอน”
            “มินาคามิ เรย์ เป็นชื่อเก่าชั้นนะ คุณปู่ ท่าน มินาคามิ อิจิโร่ เป็นคนเลี้ยงดูชั้นนะ”
            “!!!”มันไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย
            “จากนี้ไปนายจะได้รับคำเตือน ถ้านายไม่เลิกยุ่งกับชั้นหรือฮารุละก็ กลุ่มโอนิคามิจะเคลื่อนไหว”
            “!!!”
            “ฝันดีนะ”พอเขาพูดจบสตั๊นโร๊ปทำงานทันที
            เขายืนขึ้นถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพธ์ขึ้นมา
            “พี่โชเหรอนี่ผมเองเรย์”
            “อ่าครับไม่ได้เจอกันานจริงๆถึงผมบอกว่าจะไม่ยุ่งแต่มีเรื่องอยากขอยืมกลุ่มโอนิคามิหน่อยนะครับ”
            “ซอกตึกใกล้คอนโดผมมีพวกอันธพาลที่น่าจะรู้จักกับกลุ่มมาเฟียสลบอยู่5คนอยากให้จัดการอบรมให้หน่อย”
            “พวกมัน...ทำร้ายผม...พวกมันทำแบบนั้นกับผมขืนใจผมเมื่อสัปดห์ที่แล้ว”
            เขาพูดเสียงเบาถึงเรื่องที่เลวร้ายมากและผมก็ได้ยินอีกฝากของโทรศัพธ์ตะโกนกลับมา
            [ว่าไงอะไอ้พวกสารเลวบังอาจทำกับน้องของชั้นได้ชั้นจะสั่งสอนมันให้เห็นถึงนรกของโอนิคามิเอง]
            “ผมสั่งสอนมันไปแล้วไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก”
            “อ่าผมสบายดีไปตรวจดูแล้วไม่เป็นอะไรเลย”
            “ขอบคุณครับ”
            เขาวางสายโทรศัพธ์แล้วยืนอยู่ตรงนั้นในตินนั้นฝนก็ตกลงมาแต่เขาไม่ยอมขยับ
            ผมเริ่มมีแรงแล้วจึงพยายามลุกขึ้นแต่ไม่ไหวผมจะล้มลงแต่
            เรย์เข้ามารับผมไหว
            “อย่าฝืนสิ”เขายิ้มให้ผมแต่ในดวงตาของเขาที่กลับมามีประกาบแห่งแสงอีกครั้งกลับมีแค่ความเศร้าความกังวลอยู่มากมายเขาจับผมนั่งลงไปหยิบกระเป๋าแล้วมาพยุงผมพากลับไปที่คอนโดของเขาหยิบกระเป๋าผมแล้วไปที่ห้องของเขาเราวางกระเป๋าไว้ที่ประตูเขาจะให้ผมนอนที่โซฟาก่อนแต่เขาก็แบกผมที่ตัวใหญ่กว่าเขามาตั้งนานเขาจึงล้มลงไปกับผมด้วยในตอนนั้นเอง
            “เรย์”ผมได้ยินเสียงเขาร้องไห้
            “นายเป็นอะไรบาดเจ็บเหรอ”
            “ชั้น...ไม่ควร...พานาย...มาที่นี้...เลย”
            “หา”
            “ชั้น...แปดเปื้อ...แล้ว...เพราะพวกนั้น”
            “ชั้น...ไม่คู่ควร...กับนาย...อีก...อล้ว”
            เสียงร้องไห้กับคำพูดที่ขาดช่วงนั้นช่างดูเศร้าศร้อยที่เขากังวลไม่ใช้เริองของเขาแต่เป็นเรื่องของผม
            “”แถม...ยังทำให้...นายบาดเจ็บอีก...ชั้น...มัน...แย่มาก”
            “เรย์”
            ผมพลิกตัวเขาใช้ริมฝีปากของผมหยุดคำพูดของเขาไว้
            “ฮารุ...ถึงอย่างนั้น...ชั้นก็...ชั้นก็...ไม่อยาก....จากนายไป”
            “เรย์”ผมกอดเขาไว้ด้วยความรู้สึกทั้งหมดของผมในคืนนั้นเราได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกของกันและกันด้วยร่างกายที่เปียกปอนแต่กลับรู้สึกร้อน
            “เรย์ นาย กลัวเหรอ”ผมมองใบหน้าของเรย์ที่มีน้ำตาไหลอยู่
            “อืม แต่ ไม่เหมือนตอนนั้น ถึงชั้นจะกลัว แต่ แต่ถ้าเป็นฮารุละก็”
            “เรย์”
            เราสองคนต่างสัมผัสซึ่งกันและกัน
            “อึก”
            “เรย์นายเจ็บเหรอ”
            นิด นิดหน่อยนะ”
            “ขอโทษนะที่ทำนายเจ็บ”
            “ไม่เป็นไรถ้าเป็นฮารุ ถ้าเป็นฮารุ ชั้นต้องรู้สึกดีได้แน่ๆ”เขากอดผมไว้แน่น
            “เรย์”ผมโอบกอดเขาอย่างอ่อนโยนค่ำคืนนี้สำหรับพวกเราช่างเป็นคืนที่ยาวนานและน่าจดจำมาก
            วันรุ่งขึ้น
            “...”เด็กหนุ่มนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง
            “38องศา”
            “แฮะๆ”
            “ไม่ต้องมาแฮะๆเลยนายอ่อนแอจริงๆฮารุแค่นี้ก็เป็นหวัดแล้ว”ผมมองไปที่เด็กหนุ่มซึ่งนอนอยู่บนเตียง
            “ก็ต้องนอนกับใครไม่รู้ทั้งๆที่ตัวเปียกนี่นา”
            “พะ พูดอะไรของนายนะชั้นไม่เห็นเป็นเลยนะ”
            “นั้นสินะ
            “ชั้นทำข้าวต้มมาให้กินซะแล้วนี่ยา”
            “ขอบใจนะ”
            “นี่เรย์”
            “อะไร”
            “นาย ร่างกายไม่เป็นอะไรเหรอ”
            “ไม่เป็นอะไรนี่”
            “อุ๊บ”ฮารุเอามือปิดปากผมคิดว่าเขาอาจจะอาเจียนก็ได้
            “ดะ เดี๊ยวสิน่าจะมีถุงที่เตรียมไว้รอแป๊ปนะ”
            ในตอนที่ผมหันหลังเพื่อหาของนั้นเอง
            “!1@#$??”
            ฮารุใช้มือจับสะพกของผม
            “เจ็บจริงๆสินะ”
            “นะ นหวกหูเพราะใครกันละ”
            “เรย์”ผมเจ็บสะโพกจนดุเขาไปแต่
            ฮารุเขยิบตัวไปที่ที่ขอบเตียงใช้มือตบที่ที่นอนซึ่งว่างอยู่
            “มานี่สิ”
            “อะ อะไรเล่า”
            “นายป่วยอยู่นะนอนพักสิ”
            “ชั้นนอนคนเดียวไม่หลับนะ”
            “ครั้งเดียวนะ”ผมเดินไปนอนข้างๆฮารุเขาเข้ามากอดและลูบหัวผมเบาๆ
            “ชั้นรักนายเรย์
            “อืม”แล้วเราทั้งคู่ก็หลับไปจนถึงอีกวันหนึ่ง
                                                                                                                                                                                                                 Chapter7 End
                                                                                                (ยังไม่จบนะ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา