ศึกมารสะท้านยุทธภพ
8.0
เขียนโดย Nj4566
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.16 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
18.89K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 21.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ศึกมารสะท้านยุทธภพ ตอนที่ 13
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคืนนั้นฮันโซกลับมานอนครุ่นคิดในใจ แม้นประมุขฉู่จะเลวร้าย แต่อนึ่งเขาก็เป็นเช่นผู้มีพระคุณของนาง หากไม่มีเขา ไหนเลยนางจะได้เหยียบย่างเข้ามายังพรรคพิรุณสวรรค์ บัดนี้ราวกับว่านางกับกงจั่ว กลับสมคบกัน ช่วงชิงตำแหน่งประมุขพรรคมาเสียเอง ...เหล่านี้เป็นเรื่องถูก หรือผิดกันแน่?... ที่ข้าทำไปเพื่อความสงบสุขของพรรค หรือเพื่อตัวข้าเองกันแน่? ใจหนึ่งนางก็บังเกิดความรู้สึกผิด แต่อีกใจกลับปราโมทย์
แลเสียงแห่งความปรีดาในใจเหล่านั้น ก็ได้กลบเสียงแห่งสำนึกไปจนสิ้น
- - -
กงจั่วแจ้งข่าวแก่สองพี่น้องตระกูลเจี่ยว ที่พรรคคิมหันต์สราญเกิดการเลี้ยงฉลองถึงข่าวดีที่เกิดขึ้น ครั้นแล้วประมุขเจี่ยว ซึ่งยังเจ็บแค้นใจแก่ประมุขฉู่ ที่ได้มาทำร้ายน้องชายตนจึงคิดในใจว่า จักมิให้กงจั่วเอาชีวิตมันไว้ เพราะอาจย้อนกลับมาเป็นภัยแก่ตนสืบต่อไปในเบื้องหน้า หากตีงูแล้วไซร้ ต้องตีให้ตาย เหตุอันแท้จริงที่ประมุขเจี่ยวเกลียดชังฉู่ซ่งหมิง เพราะกลัวตนเองสูญเสียอำนาจ แลเสียผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าฉู่ซ่งหมิงจะขอสิ่งใดจากเสวียจื่อ เสวียจื่อก็อนุมัติให้มิได้ขาด ฉู่ซ่งหมิงนั้นผลาญเงินทองไปเดือนเดียวถึงสามแสนตำลึงทอง แลประมุขเจี่ยวคิดในใจอยู่ตลอดเวลา ว่าเงินทองจำนวนนี้ของเสวียจื่อมันควรเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ตนเองนั้นคิดอยากกำจัดฉู่ซ่งหมิงมานานแล้ว ประจวบเหมาะกับที่จ้าวเพียนนำแผนการมาเสนอ แต่หากตนบอกให้กงจั่วสังหารประมุขฉู่ เห็นทีผู้เป็นคนยุติธรรมเช่นนั้น เป็นได้ว่าอาจจะมิทำเป็นแน่
แต่หากเป็นคนอีกผู้หนึ่งเล่า...? คิดได้ดังนั้นสองพี่น้องจึงวางแผนการกัน ประมุขเจี่ยวแสร้งถูกยาพิษเจ็บหนัก เสวียจื่อรู้พลัน ได้เร่งมาหาคนรักของตนด้วยความร้อนใจ ประมุขเจี่ยวนอนอยู่บนเตียง มีหมอมาคอยดูอาการ เสวียจื่อน้ำตาไหล ร้องห่มร้องไห้
เสวียจื่อ : เป็นผู้ใดกันเล่า เป็นผู้ใดที่ทำกับเจ้าเยี่ยงนี้ ท่านหมอ อาเจี่ยวเป็นเช่นไรบ้าง?
หมอ : โชคดีประมุขเจี่ยวมิได้โดนพิษมาก จึงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ...แต่...
เสวียจื่อ : แต่อันใด เร่งพูดมา!
หมอ : พิษชนิดที่ประมุขเจี่ยวโดนนี้ เป็นพิษของพรรคพิรุณสวรรค์
เสวียจื่อได้ยินดังนั้นคิดในใจพลันทันที ว่าต้องเป็นฝีมือของฉู่ซ่งหมิงเป็นแน่ เพราะเขาเพิ่งประมือแลพ่ายแพ้แก่อาเจี่ยว เสวียจื่อโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงสั่งการเรียกให้ฮันโซมาพบอย่างลับๆ
ฮันโซ : ท่านเจ้าเมืองเรียกข้ามาพบกลางดึกเช่นนี้ มีเรื่องอันใดสำคัญหรือ โปรดสั่ง
เสวียจื่อ : พรุ่งนี้ เมื่อกงจั่วพบกับฉู่ซ่งหมิง เรื่องที่จะปลดมันลงจากตำแหน่ง แล้วตั้งเจ้าขึ้นเป็นประมุข เจ้าจงฆ่าฉู่ซ่งหมิงซะ
ฮันโซ : (ตกใจ) ..หา.. ประมุขฉู่นั้นแม้นจะเลวร้าย แต่โทษก็มิสมควรถึงตายมิใช่หรือ
เสวียจื่อ : มันวางยาพิษหวังฆ่าประมุขเจี่ยว พรรคคิมหันต์สราญ ตอนนี้มันสมควรตายแล้วหรือไม่ ต่อแต่นี้ไปเจ้าจักขึ้นเป็นประมุขพรรคพิรุณสวรรค์ อยู่เหนือคนทั่วหล้า อยู่ใต้ข้าเพียงคนเดียว แต่ข้ามิเคยหวังให้เจ้าอยู่ใต้ข้า ข้าเพียงหวังใจว่า วันข้างหน้าเจ้าจะเป็นดั่งพี่น้องของข้า เช่นนั้น เจ้าควรภักดีต่อใคร แต่เจ้าจงอย่าได้เล่าเรื่องนี้ให้กงจั่วรู้ก่อนเป็นอันขาด ข้าขี้เกียจฟังเค้ามาขัดขวางให้วุ่นวายอีก
ฮันโซ : น้อมรับคำสั่งท่านเจ้าเมือง
จริงแท้ หากมีข้า ก็มีฉู่ซ่งหมิงไม่ได้ ฮันโซคิด
ฉู่ซ่งหมิงเอ๋ย ช่างน่าเวทนา วันพรุ่งนี้เจ้าจะต้องตายเพราะคนที่เจ้านำเข้ามานี่เอง
- - -
วันนั้นเวลาบ่าย กงจั่วเรียกตัวฉู่ซ่งหมิงกลับเข้ามาในพรรค บรรยากาศทุกคนล้วนเงียบกริบ ไร้คำสรรเสริญสดุดีจากศิษย์ในพรรค ฉู่ซ่งหมิงมาถึงยังโถงใหญ่ เห็นฮันโซกับกงจั่วนั่งอยู่เคียงข้างกัน พลันมีลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นในใจ กงจั่วทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถือป้ายทองประกาศิตของประมุขพรรคพิรุณสวรรค์ในมือ กล่าวขึ้น
กงจั่ว : ฉู่ซ่งหมิง จงรับคำสั่งจากเจ้าเมืองเสวียจื่อ ให้ขับออกจากพรรคพิรุณสวรรค์ พ้นตำแหน่งประมุข
ฉู่ซ่งหมิงตกใจเป็นอย่างมาก หรือว่าจะเป็นด้วยเรื่องที่ตนมีเหตุขัดแย้งกับประมุขเจี่ยว นึกแล้วเชียว คนนั่งคุยย่อมต่างจากคนนอนคุย ไม่ได้การ เหตุใดเขาจะยอมสละตำแหน่งประมุขพรรคพิรุณสวรรค์ไปง่ายๆ
ฉู่ซ่งหมิง : นี่มันเรื่องตลกบ้าบออันใด ข้าจะเข้าไปพบเจ้าเมืองที่พรรคเหมันต์เมฆา ถามให้รู้เรื่อง
กงจั่ว : เจ้าเมืองไม่ต้องการพบเจ้า ป้ายทองประกาศิตประมุขพรรคพิรุณสวรรค์ในมือข้า คือตัวแทนเจ้าเมือง พบป้ายทองเหมือนพบเสวียจื่อ เจ้าเป็นประมุขพรรคอย่างไรมิเคยรู้ว่าของศักดิ์สิทธิ์ 3 สิ่งของพรรคประกอบด้วย 1.ป้ายทองคำสั่ง เก็บแก่ข้า ผู้ร่วมกับเจ้าเมืองก่อตั้งพรรค 2. แหวนประมุขพรรค ประมุขใส่ติดตัว 3.ดาบลงอาญา เก็บแก่ผู้คุมกฎในพรรค ตัวเจ้าเป็นประมุขมา เจ้าเคยมีสิ่งใดบ้าง?
ฉู่ซ่งหมิง : ข้าไม่ไป จนกว่าข้าจะได้พบท่านเสวียจื่อ
กงจั่ว : ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องล่วงเกิน รับกระบี่!
พลันกงจั่วก็ชักกระบี่ทะยานออกไปสู้กับฉู่ซ่งหมิง ฮันโซนั้นเพียงยืนดูสถานการณ์ กงจั่วใช้เพียงไม่กี่กระบวนท่าฉู่ซ่งหมิงก็พ่ายแพ้ กระบี่ของกงจั่วจ่ออยู่ที่อกของฉู่ซ่งหมิง ฉู่ซ่งหมิงกลัวตาย ร้องขอชีวิตแก่กงจั่ว กงจั่วไล่ให้ฉู่ซ่งหมิงไสหัวไปให้พ้นจากพรรคพิรุณสวรรค์ นับต่อแต่นี้จงอย่าได้กลับเหยียบย่างเข้ามาที่นี่อีก ฉู่ซ๋งหมิงตบปากรับคำ
แต่ก่อนที่กงจั่วจะละกระบี่ซึ่งจ่อหน้าอกของฉู่ซ่งหมิงลง ฮันโซเข้าซัดพลังวัตร ผลักไหล่กงจั่วอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตากระบี่ในมือกงจั่วแทงทะลุหน้าอกฉู่ซ่งหมิง สิ้นใจตายคาที่ กงจั่วตกตะลึง มิคิดว่าฮันโซจะทำเยี่ยงนี้
ฮันโซ : ข้าขอโทษอาจารย์ แต่นี่เป็นคำสั่งลับโดยตรงจากเจ้าเมืองเสวียจื่อ หากท่านข้องใจประการใด โปรดจงได้ไปไต่ถามจากเจ้าเมืองเถิด
กงจั่วรู้ดังนั้นก้ได้แต่พยักหน้า แลพูดไม่ออก ไม่คิดว่าเสวียจื่อจะทำเช่นนี้ บรรดาศิษย์ทั้งหลายและสาวกที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงต่อสู้ จึงวิ่งกรูกันเข้ามา พบฉู่ซ่งหมิงตายภายใต้คมกระบี่ของกงจั่ว ทุกคนก็ล้วนตกตะลึง ฮันโซเห็นดังนั้น จึงฉวยโอกาสประกาศแก่ทุกคนในที่นั้นว่า
ฮันโซ : บัดนี้ท่านกงจั่วได้กำจัดภัยของพรรคพิรุณสวรรค์ สังหารฉู่ซ่งหมิงแล้ว
ศิษย์ทั้งหลายได้ยินดังนั้นจึงโห่ร้องด้วยความยินดี แลยกย่องกงจั่ว และสนับสนุนฮันโซขึ้นเป็นประมุขพรรคพิรุณสวรรค์
เดือน 8 ปีม้าศึก ฮันซินอ้าย (ฮันโซ)
ขึ้นเป็นประมุขพรรคพิรุณสวรรค์
สตรีคนแรก ในประวัตศาสตร์ทั้ง 3 พรรคมาร ของเจ้าเมืองเสวียจื่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ