ศึกมารสะท้านยุทธภพ
8.0
เขียนโดย Nj4566
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.16 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
18.90K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 21.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ศึกมารสะท้านยุทธภพ ตอน 14
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกงจั่วอยู่บนหอสูง หอคอยทรงกลม ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาพิรุณสวรรค์ ซึ่งเป็นหอของประมุข สายตาเหม่อมองทอดยาวออกไปสู่ทิวทัศน์เบื้องหน้า ฮันโซเดินเข้ามาข้างหลังเงียบๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฮันโซ : ท่านอาจารย์โกรธข้าเรื่องประมุขฉู่อยู่หรือไม่
กงจั่ว : (ทอดถอนใจ) ไม่หรอก ข้ารับรู้เรื่องราวทุกสิ่งแล้ว จะโกรธเจ้าได้อย่างไร
กงจั่วหันกลับมามองยังฮันโซ แล้วพูดต่อไปว่า
กงจั่ว : เจ้าคิดจริงหรือว่าอาเจี่ยวถูกยาพิษ รอบกายเขาล้วนมีบริวารมากมาย ฉู่ซ่งหมิงจะย่างกรายเข้าไปลอบวางยาถึงชั้นในของพรรคคิมหันต์สราญได้นับว่าเป็นเรื่องยากลำบากยิ่ง ใยจะต้องทำถึงเช่นนั้น
ฮันโซ : ข้ามิได้คิดสิ่งใด คิดเพียงแต่ทำตามคำสั่งท่านเสวียจื่อ
ฮันโซปฏิเสธ
กงจั่ว : แม้นเจ้าจะรู้ว่าคำสั่งนั้นผิดหลักคุณธรรมของมนุษย์นั่นหรือ? ฉู่ซ่งหมิงเลวร้าย แต่ก็หาได้ถึงขั้นควรตาย
ฮันโซ : ท่านอาจารย์ เรื่องยาพิษนี้เป็นอย่างไรหามีผู้ใดสามารถไขได้กระจ่าง คนตายก็ตายไปแล้ว จะสืบสาวหาความไปอีกก็ไร้ประโยชน์ ถ้าข้าไม่ทำ ฉไนเลยเหตุการณ์นั้นจะสามารถสงบลงโดยง่าย ปล่อยเสือเข้าป่าวันข้างหน้ารังแต่จะเป็นภัย ประมุขฉู่จักแค้นเคืองท่านแลข้าสืบไปภายหน้า
ฮันโซตอบอาจารย์ไปเช่นนั้น ทั้งที่ในใจนางรู้แน่ชัด ว่าตนทำไปเพื่อสิ่งใด ประมุขพรรคพิรุณสวรรค์จะมีสองคนไม่ได้ หากมีคนหนึ่ง อีกคนต้องมอดม้วย แลนางไม่อาจฆ่าฉู่ซ่งหมิงด้วยตนเองได้ เพราะตนเพิ่งเป็นผู้ที่เข้ามาใหม่ จึงได้ยืมมือของอาจารย์ตนให้ผู้คนเข้าใจว่าเขาเป็นคนสังหารเช่นนั้นแลดีแล้ว หากเป็นกงจั่ว ก็มิมีผู้ใดครหา
กงจั่วครุ่นคิด ที่ฮันโซพูดมาก็มีเหตุผล เขาไม่นึกว่าเด็กสาวผู้นี้จะมีความคิดเด็ดขาดถึงเพียงนี้ วูบหนึ่งเขารู้สึกถึงความอำมหิต แต่เขาอาจจะคิดมากเกินไป ที่ผ่านมาตัวเขาเองก็ได้ลงโทษ สังหารศิษย์ทรยศไปไม่น้อยเช่นกัน
กงจั่ว : เรื่องมันแล้วไปแล้ว ช่างมันเถิด เราอย่าได้คุยถึงมันอีกเลย มานี่สิ ฮันโซศิษย์ข้า
ฮันโซเดินเข้าไปหาอาจารย์ กงจั่วโอบบ่าฮันโซไว้ แล้วชี้ให้ฮันโซมองไปเบื้องล่าง
กงจั่ว : เจ้าสามารถเห็นพิรุณสวรรค์ทั้งหมดจากตรงนี้ ต่อนี้ไปเจ้าจะต้องปกครองที่นี่ ในฐานะที่เจ้าเป็นศิษย์ข้า ข้าจะมอบป้ายทองคำสั่งให้แก่เจ้า เจ้าจะเป็นประมุขผู้เดียวที่ครอบครองวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของพรรคถึง 2 สิ่ง และเจ้าจะมีข้าเป็นดังเงา คอยอยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของเจ้า
...ผู้นำทุกคนล้วนมีปณิธาน ทีนี้ ไหนเจ้าลองบอกความคาดหวังในใจของเจ้ามาให้ข้าฟังซิ ข้าจะได้รู้ว่าควรสนับสนุนเจ้าไปในทางใด
ฮันโซ : อาจารย์ ท่านเห็นสิ่งก่อสร้างอันงดงาม บนภูเขาถัดไปอีกสองลูก ที่อยู่ไกลๆนั่นหรือไม่
ฮันโซยิ้ม แล้วยื่นกล้องส่องให้แก่อาจารย์ตน กงจั่วรับไปส่องดู นั่นคือวังหลวงมิผิดแน่
กงจั่ว : ข้าเห็นสถานที่นั้นแล้ว มีสิ่งใดหรือ?
กงจั่วถามแก่ฮันโซ ฮันโซยิ้มเจ้าเล่ห์ ตอบอาจารย์ของตนว่า
ฮันโซ : ข้าอยากนำพรรคพิรุณสวรรค์ให้ท่านเสวียจื่อ แลวันหนึ่งข้างหน้า ข้าอยากครอบครองสิ่งนั้น ท่านจะช่วยให้ข้าสมใจหวังได้หรือไม่?
กงจั่วแอบตกตะลึงในใจ นางผู้นี้เป็นผู้ใดแน่ มิใช่สตรีธรรมดา แต่นางหวังในใจว่าจะขึ้นเป็นกษัตริย์ กงจั่วจึงกล่าวติดตลกแก่ศิษย์ว่า
กงจั่ว : หัวข้ากับเจ้าคงจะหลุดจากบ่า ข้าส่งเจ้าไปไม่ถึงหรอก
ฮันโซ : ไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรเล่า?... อาจารย์ (ยิ้มเจ้าเล่ห์ กึ่งล้อเล่น กึ่งพูดจริง)
กงจั่วได้แต่มองดูศิษย์ของตนแล้วแสร้งหัวเราะขบขันกลบเกลื่อน ...ดูท่า พิรุณสวรรค์ครานี้จะมีเหตุไม่ธรรมดาเสียแล้ว
ฮันโซ : ท่านอาจารย์โกรธข้าเรื่องประมุขฉู่อยู่หรือไม่
กงจั่ว : (ทอดถอนใจ) ไม่หรอก ข้ารับรู้เรื่องราวทุกสิ่งแล้ว จะโกรธเจ้าได้อย่างไร
กงจั่วหันกลับมามองยังฮันโซ แล้วพูดต่อไปว่า
กงจั่ว : เจ้าคิดจริงหรือว่าอาเจี่ยวถูกยาพิษ รอบกายเขาล้วนมีบริวารมากมาย ฉู่ซ่งหมิงจะย่างกรายเข้าไปลอบวางยาถึงชั้นในของพรรคคิมหันต์สราญได้นับว่าเป็นเรื่องยากลำบากยิ่ง ใยจะต้องทำถึงเช่นนั้น
ฮันโซ : ข้ามิได้คิดสิ่งใด คิดเพียงแต่ทำตามคำสั่งท่านเสวียจื่อ
ฮันโซปฏิเสธ
กงจั่ว : แม้นเจ้าจะรู้ว่าคำสั่งนั้นผิดหลักคุณธรรมของมนุษย์นั่นหรือ? ฉู่ซ่งหมิงเลวร้าย แต่ก็หาได้ถึงขั้นควรตาย
ฮันโซ : ท่านอาจารย์ เรื่องยาพิษนี้เป็นอย่างไรหามีผู้ใดสามารถไขได้กระจ่าง คนตายก็ตายไปแล้ว จะสืบสาวหาความไปอีกก็ไร้ประโยชน์ ถ้าข้าไม่ทำ ฉไนเลยเหตุการณ์นั้นจะสามารถสงบลงโดยง่าย ปล่อยเสือเข้าป่าวันข้างหน้ารังแต่จะเป็นภัย ประมุขฉู่จักแค้นเคืองท่านแลข้าสืบไปภายหน้า
ฮันโซตอบอาจารย์ไปเช่นนั้น ทั้งที่ในใจนางรู้แน่ชัด ว่าตนทำไปเพื่อสิ่งใด ประมุขพรรคพิรุณสวรรค์จะมีสองคนไม่ได้ หากมีคนหนึ่ง อีกคนต้องมอดม้วย แลนางไม่อาจฆ่าฉู่ซ่งหมิงด้วยตนเองได้ เพราะตนเพิ่งเป็นผู้ที่เข้ามาใหม่ จึงได้ยืมมือของอาจารย์ตนให้ผู้คนเข้าใจว่าเขาเป็นคนสังหารเช่นนั้นแลดีแล้ว หากเป็นกงจั่ว ก็มิมีผู้ใดครหา
กงจั่วครุ่นคิด ที่ฮันโซพูดมาก็มีเหตุผล เขาไม่นึกว่าเด็กสาวผู้นี้จะมีความคิดเด็ดขาดถึงเพียงนี้ วูบหนึ่งเขารู้สึกถึงความอำมหิต แต่เขาอาจจะคิดมากเกินไป ที่ผ่านมาตัวเขาเองก็ได้ลงโทษ สังหารศิษย์ทรยศไปไม่น้อยเช่นกัน
กงจั่ว : เรื่องมันแล้วไปแล้ว ช่างมันเถิด เราอย่าได้คุยถึงมันอีกเลย มานี่สิ ฮันโซศิษย์ข้า
ฮันโซเดินเข้าไปหาอาจารย์ กงจั่วโอบบ่าฮันโซไว้ แล้วชี้ให้ฮันโซมองไปเบื้องล่าง
กงจั่ว : เจ้าสามารถเห็นพิรุณสวรรค์ทั้งหมดจากตรงนี้ ต่อนี้ไปเจ้าจะต้องปกครองที่นี่ ในฐานะที่เจ้าเป็นศิษย์ข้า ข้าจะมอบป้ายทองคำสั่งให้แก่เจ้า เจ้าจะเป็นประมุขผู้เดียวที่ครอบครองวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของพรรคถึง 2 สิ่ง และเจ้าจะมีข้าเป็นดังเงา คอยอยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของเจ้า
...ผู้นำทุกคนล้วนมีปณิธาน ทีนี้ ไหนเจ้าลองบอกความคาดหวังในใจของเจ้ามาให้ข้าฟังซิ ข้าจะได้รู้ว่าควรสนับสนุนเจ้าไปในทางใด
ฮันโซ : อาจารย์ ท่านเห็นสิ่งก่อสร้างอันงดงาม บนภูเขาถัดไปอีกสองลูก ที่อยู่ไกลๆนั่นหรือไม่
ฮันโซยิ้ม แล้วยื่นกล้องส่องให้แก่อาจารย์ตน กงจั่วรับไปส่องดู นั่นคือวังหลวงมิผิดแน่
กงจั่ว : ข้าเห็นสถานที่นั้นแล้ว มีสิ่งใดหรือ?
กงจั่วถามแก่ฮันโซ ฮันโซยิ้มเจ้าเล่ห์ ตอบอาจารย์ของตนว่า
ฮันโซ : ข้าอยากนำพรรคพิรุณสวรรค์ให้ท่านเสวียจื่อ แลวันหนึ่งข้างหน้า ข้าอยากครอบครองสิ่งนั้น ท่านจะช่วยให้ข้าสมใจหวังได้หรือไม่?
กงจั่วแอบตกตะลึงในใจ นางผู้นี้เป็นผู้ใดแน่ มิใช่สตรีธรรมดา แต่นางหวังในใจว่าจะขึ้นเป็นกษัตริย์ กงจั่วจึงกล่าวติดตลกแก่ศิษย์ว่า
กงจั่ว : หัวข้ากับเจ้าคงจะหลุดจากบ่า ข้าส่งเจ้าไปไม่ถึงหรอก
ฮันโซ : ไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรเล่า?... อาจารย์ (ยิ้มเจ้าเล่ห์ กึ่งล้อเล่น กึ่งพูดจริง)
กงจั่วได้แต่มองดูศิษย์ของตนแล้วแสร้งหัวเราะขบขันกลบเกลื่อน ...ดูท่า พิรุณสวรรค์ครานี้จะมีเหตุไม่ธรรมดาเสียแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ