เบี่ยนซื่อนั้นรัก และห่วงใยฮันโซนัก ใจหนึ่งไม่เคยนึกอยากให้ฮันโซจากไป แต่เมื่อน้องรักจะได้เป็นใหญ่ตนจึงมิควรขัดขวาง ด้วยเมืองฝ่ายธรรมะนั้นมีลำดับชั้น กฎเกณฑ์ขั้นตอนมากมาย หากต้องการสนับสนุนให้ฮันโซได้เป็นใหญ่คงต้องกินเวลายาวนาน แลเบี่ยนซื่อนั้นได้ใคร่ครวญจากคุณลักษณะของฮันโซที่เอาแต่มุ่งมั่นเพื่อก้าวกระโดดข้ามขั้นแล้ว ไม่วันใดวันหนึ่งนางก็ต้องจากไป วันที่ฮันโซมากล่าวลา เบี่ยนซื้อสวมกอดนางไว้ พร้อมกำชับว่า หากวันใดเจ้าสิ้นหวังในทางที่เจ้าเลือก ขอจงได้กลับมายังที่นี่ แม้นปากจะพูดไป แต่ใจเบี่ยนซื่อย่อมรู้แจ้ง คนอย่างฮันโซไม่เคยถอยหลังกลับ
เบี่ยนซื่อจัดขบวนผู้ติดตาม บรรดาสหายสนิทของฮันโซเพื่อเดินทางไปส่งฮันโซยังพรรคพิรุณสวรรค์ พรรคที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูง แต่ไปถึงได้แค่กลางทาง ก็ปรากฎขบวนเกี้ยวของพรรคมาร ทะยานมาจากฟ้าด้วยวิชาตัวเบาอันล้ำลึกของศิษยานุศิษย์พรรคพิรุณสวรรค์มากมาย นำโดยประมุขฉู่ ได้มารอรับฮันโซด้วยตนเอง
ฮันโซขึ้นเกี้ยวไปกับประมุขฉู่ บรรดาเพื่อนพ้องที่รักใคร่กันก็ได้แต่มองจนลับตา... ฮันโซเอ๋ย พี่จะคอยฟังข่าวคราวและเฝ้าดูเจ้าอยู่เสมอ ขอให้เจ้านำคุณธรรมที่พี่เคยสอนสั่ง ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่เมืองฝ่ายอธรรมนั้นเถิด เผื่อสวรรค์อาจเมตตา นำความเปลี่ยนแปลงสู่ผู้คนเหล่านั้นบ้างไม่มากก็น้อย เบี่ยนซื่อคิด
ฮันโซแต่งกายเป็นชายเดินตามประมุขฉู่ก้าวเข้าสู่ประตูของพรรคพิรุณสวรรค์ ทัศนียภาพบนภูเขาช่างงดงามตระการตา แต่ที่งามเหนือกว่าคือภายในพรรค ที่แบ่งเป็น 3 ลำดับชั้น ชั้นแรกอยู่เชิงเขา บรรดาสาวกพรรคเหล่านี้ เรียก ศิษย์ส่วนล่าง ถัดขึ้นไปอีกชั้น อยู่กลางภูเขา สาวกที่อยู่ส่วนนี้ เรียก ศิษย์ส่วนบน ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นที่อยู่ของประมุขพรรค เป็นหอสูงบนยอดเขา และหอตำราสรรพวิชา รวมถึงหอเก็บกุมความลับต่างๆในพรรคมากมาย ประมุขฉู่นั้นพออกพอใจกับการที่ได้ฮันโซผู้ลือนามมาร่วมด้วยมาก ถึงกับนำฮันโซเข้าไปสู่หอประมุข ซึ่งเป็นส่วนที่ห้ามมิให้ผู้ใดที่ไม่ได้รับอนุญาติเข้าล่วงล้ำ ที่หอสูงนี้มีกล้องส่องอันใหญ่ที่สามารถส่องมองลงไปเห็นทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นภายในพรรคได้แทบทุกซอกทุกมุม ประมุขฉู่กล่าวแก่ฮันโซว่า ต่อไปในวันข้างหน้า หากวันใดที่ตนมีภาระกิจ ก็จะมอบหมายให้ฮันโซเป็นตัวแทนของตน คอยดูแลกิจการต่างๆในพรรคแทน โดยรับมอบคำสั่งจากตนอีกที และอีกภายในไม่กี่วันนี้ ตนจะพาฮันโซไปกราบคาราวะท่านเจ้าเมืองเสวียจื่อ
การมาถึงพรรคพิรุณสวรรค์ครั้งนี้ ทำให้ฮันโซตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก นับเป็นการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ที่นางต้องพยายามตั้งรับ ทั้งผู้คนแปลกๆ แต่งกายแปลกๆแต่ก็ดูแล้วสวยงามทะมัดทะแมง ทั้งสถานที่ ทั้งระบบต่างๆภายในพรรคที่ล้วนเป็นสิ่งใหม่สำหรับนาง "นี่หรือคือพรรคมารที่ผู้คนกล่าวขาน" นางคิด "หากพรรคมารสวยงามสำราญใจเช่นนี้ช่างไม่แปลกใจเลย ที่มีแต่ผู้คนหลงใหลปรารถนา"
แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของฮันโซอีกหนึ่งสิ่งยิ่งกว่านั้น คือการได้พบเจ้าเมืองเสวียจื่อ หัตถ์เทวะผู้ยิ่งใหญ่ชื่อเสียงกระฉ่อนแคว้น นางรู้สึกตัวเล็กจ้อยไปทันทีเมื่อกล่าวถึงชื่อนี้ เสวียจื่อผู้นี้เป็นที่เลื่องลือว่ามีใจกว้างและโอบอ้อมอารีย์ยิ่งนัก เป็นประมุขพรรคมารผู้ยิ่งใหญ่ซ้ำคุณธรรมล้ำเลิศจนฝ่ายธรรมะยังให้ความยำเกรงและยกย่อง ช่างเป็นวาสนานักที่มีโอกาสจะได้พบกับท่าน แต่อีกใจหนึ่งก็ยังกริ่งเกรงไปพร้อมกัน