kiss hostilities จุมพิตสงคราม
9.2
เขียนโดย หนูหวาน
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.44 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
5,878 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 21.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันหนูหวานนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕ สายภาษาญี่ปุ่น เรียนอยู่โรงเรียนบ้านนอกติดชายแดน ถึงจะแบบนั้นโรงเรียนฉันก็มีอาคาร๓ชั้นถึง๔อาคารอาคารโรงอาหารอีก๑อาคารฉันเองก็เรียนอยู่ชั้น๒ของอาคารที่๔ ฉันเองมีความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นจากการดูอนิเมะตอนเด็กๆทำให้ฉันสามารถอ่านเขียนพูดฟังได้พอๆกับคนญี่ปุ่นเอง จึงทำให้ทางญี่ปุ่นติดต่อมาจะให้เข้าเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรงหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่๖
ตัวฉันเองก็ไม่ค่อยชอบหลักการสอนของที่นี่เท่าไรมันน่าเบื่อมากๆ ต้องมาทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบทั้งๆที่ฉันอยากออกจากห้องเรียนนี้แทบแย่ฉันไม่ชอบวิชาประวัติศาสตร์เสียเท่าไรมันทำให้ฉันง่วง
“กริ๊ง!!”
เสียงกระดิ่งจากสวรรค์ ทุกคนในห้องลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงกระดิ่งนั้นฉันเองก็เช่นกันฉันทิ้งของไว้บนโต๊ะเรียนแล้วรีบลงไปด้านล่างทันที
ฉันวิ่งไปอาคาร๑หวังเพียงเห็นบางสิ่ง เด็กชายตัวขาวสูงค่อยๆเดินลงมาจากอาคารพร้อมเพื่อนของเขา น้องคนนี้สะกดใจฉันทุกครั้งที่เห็นเขา ใบหน้าคมชั่งบาดใจฉันเสียจริงๆ ใบหน้าขาวเนียนนั่นค่อยๆหันมาที่ฉันฉันรีบหลบไปด้านข้างของอาคารทันที แค่เพียงได้มองก็เพียงพอสำหรับวันนี้แล้วละทั้งๆที่ฉันไม่รู้ชื่อน้องฉันก็ชอบน้องมาได้๒ปีหลังจากที่น้องเข้ามัธยมศึกษาปีที่๑ที่นี่ ฉันค่อยๆเดินตามหลังน้องไปเพื่อไปโรงอาหาร แผ่นหลังที่กว่างนี่เข้าไปสบทำให้ใจฉันเต้นรัวมากขึ้นเรื่อยๆ อาการของคนแอบชอบนี่มันชั่งลำบากเสียจริงๆ
“ครืด...ครืด.”
เสียงบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ๆ
“ตั๊บๆๆๆๆ”
เสียงเครื่องบินเข้ามาด้านเหนือของโรงเรียนมาหยุดบนของโรงเรียนเด็กๆทุกคนมองขึ้นไปด้านบน แต่เสียงบางอย่างเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนจากเครื่องบินออกไป
“ซ่า..นักเรียนทุกคนฟังทางนี้ ของอภัยในความไม่สะดวกแต่ทางเราได้รับจดหมายด่วนจากทางราชการให้ทุกคนอพยพออกจากเขตโรงเรียนและไปรวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลทันที...”
เสียงประกาศจากทางโรงเรียนทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง
“จะบ้าหรอโรงพยาบาลอยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบ๙กิโลเมตรเลยนะใครจะบ้าเดินไป”
ฉันพลั้งปากพูดออกไป ทำให้คนอื่นๆเริ่มซุบซิบกัน และแล้วเสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ประกาศอีกครั้งนี่ไม่ใช่การซ้อมแต่อย่างใด ให้ทุกคนอพยพโดยด่วน...ซ่า”
ทุกคนยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ปัง!!”
เสียงปืนดังขึ้นทำให้ทุกคนเริ่มแตกตื่น และเริ่มวิ่งกัน
“กึกๆ..ซ่า โปรดอยู่ในความสงบ”
เสียงจากลำโพงของเครื่องบินด้านบนก้องออกมาทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง ทุกคนค่อยๆเงยขึ้นไปด้านบน แต่เสียงแบบนี้ทำให้ฉันรู้อยู่นึงอย่างคือพวกเขาเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆ
“ทางเราจะยึดโรงเรียนเป็นฐานทัพ โปรดให้ความร่วมมือและหนีออกไปซะ ภายใน๑ชั่งโมงใครยังอยู่ตาย”
ทุกคนเริ่มวิ่งกัน ตัวฉันเองก็วิ่งเช่นกัน
“โป๊ก!!”
มีคนวิ่งชนฉัน มันทำให้ฉันล้มลงไปกองก็พื้น
“โอ๊ย”
ฉันร้องโอดโอยแต่เขาก็ยังไม่ลุกฉันค่อยเขยิบตัวออก ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉันรู้จักดี จะมีความสุขในเวลาแบบนี้ทำไมเนี้ย
“ฉึก!!”
เสียงบางอย่างแทงเข้าไปที่หลังของน้อง ฉันพยายามที่จะดันตัวน้องออกให้เร็วที่สุด และฉันก็ออกมาได้ศรธนูปักอยู่ด้านหลังของน้อง เราคงต้องรีบไปรวมตัวกับทุกคนเสียแล้วละ
“น้อง”
ฉันเขย่าตัวน้อง แต่ดูเหมือนน้องจะไม่ยอมตื่น ฉันเอานาฬิกาจากข้อมือซ้ายมาดูทำให้ฉันรู้ว่าเรามีเวลาอีกแค่๓๕นาทีที่จะหนี ฉันพยายามเขย่าตัวน้องให้น้องตื่นแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ “โธ่..โว๊ยยย”
ตัวฉันเองก็ไม่ค่อยชอบหลักการสอนของที่นี่เท่าไรมันน่าเบื่อมากๆ ต้องมาทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบทั้งๆที่ฉันอยากออกจากห้องเรียนนี้แทบแย่ฉันไม่ชอบวิชาประวัติศาสตร์เสียเท่าไรมันทำให้ฉันง่วง
“กริ๊ง!!”
เสียงกระดิ่งจากสวรรค์ ทุกคนในห้องลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงกระดิ่งนั้นฉันเองก็เช่นกันฉันทิ้งของไว้บนโต๊ะเรียนแล้วรีบลงไปด้านล่างทันที
ฉันวิ่งไปอาคาร๑หวังเพียงเห็นบางสิ่ง เด็กชายตัวขาวสูงค่อยๆเดินลงมาจากอาคารพร้อมเพื่อนของเขา น้องคนนี้สะกดใจฉันทุกครั้งที่เห็นเขา ใบหน้าคมชั่งบาดใจฉันเสียจริงๆ ใบหน้าขาวเนียนนั่นค่อยๆหันมาที่ฉันฉันรีบหลบไปด้านข้างของอาคารทันที แค่เพียงได้มองก็เพียงพอสำหรับวันนี้แล้วละทั้งๆที่ฉันไม่รู้ชื่อน้องฉันก็ชอบน้องมาได้๒ปีหลังจากที่น้องเข้ามัธยมศึกษาปีที่๑ที่นี่ ฉันค่อยๆเดินตามหลังน้องไปเพื่อไปโรงอาหาร แผ่นหลังที่กว่างนี่เข้าไปสบทำให้ใจฉันเต้นรัวมากขึ้นเรื่อยๆ อาการของคนแอบชอบนี่มันชั่งลำบากเสียจริงๆ
“ครืด...ครืด.”
เสียงบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ๆ
“ตั๊บๆๆๆๆ”
เสียงเครื่องบินเข้ามาด้านเหนือของโรงเรียนมาหยุดบนของโรงเรียนเด็กๆทุกคนมองขึ้นไปด้านบน แต่เสียงบางอย่างเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนจากเครื่องบินออกไป
“ซ่า..นักเรียนทุกคนฟังทางนี้ ของอภัยในความไม่สะดวกแต่ทางเราได้รับจดหมายด่วนจากทางราชการให้ทุกคนอพยพออกจากเขตโรงเรียนและไปรวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลทันที...”
เสียงประกาศจากทางโรงเรียนทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง
“จะบ้าหรอโรงพยาบาลอยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบ๙กิโลเมตรเลยนะใครจะบ้าเดินไป”
ฉันพลั้งปากพูดออกไป ทำให้คนอื่นๆเริ่มซุบซิบกัน และแล้วเสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ประกาศอีกครั้งนี่ไม่ใช่การซ้อมแต่อย่างใด ให้ทุกคนอพยพโดยด่วน...ซ่า”
ทุกคนยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ปัง!!”
เสียงปืนดังขึ้นทำให้ทุกคนเริ่มแตกตื่น และเริ่มวิ่งกัน
“กึกๆ..ซ่า โปรดอยู่ในความสงบ”
เสียงจากลำโพงของเครื่องบินด้านบนก้องออกมาทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง ทุกคนค่อยๆเงยขึ้นไปด้านบน แต่เสียงแบบนี้ทำให้ฉันรู้อยู่นึงอย่างคือพวกเขาเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆ
“ทางเราจะยึดโรงเรียนเป็นฐานทัพ โปรดให้ความร่วมมือและหนีออกไปซะ ภายใน๑ชั่งโมงใครยังอยู่ตาย”
ทุกคนเริ่มวิ่งกัน ตัวฉันเองก็วิ่งเช่นกัน
“โป๊ก!!”
มีคนวิ่งชนฉัน มันทำให้ฉันล้มลงไปกองก็พื้น
“โอ๊ย”
ฉันร้องโอดโอยแต่เขาก็ยังไม่ลุกฉันค่อยเขยิบตัวออก ใบหน้าหล่อเหลาที่ฉันรู้จักดี จะมีความสุขในเวลาแบบนี้ทำไมเนี้ย
“ฉึก!!”
เสียงบางอย่างแทงเข้าไปที่หลังของน้อง ฉันพยายามที่จะดันตัวน้องออกให้เร็วที่สุด และฉันก็ออกมาได้ศรธนูปักอยู่ด้านหลังของน้อง เราคงต้องรีบไปรวมตัวกับทุกคนเสียแล้วละ
“น้อง”
ฉันเขย่าตัวน้อง แต่ดูเหมือนน้องจะไม่ยอมตื่น ฉันเอานาฬิกาจากข้อมือซ้ายมาดูทำให้ฉันรู้ว่าเรามีเวลาอีกแค่๓๕นาทีที่จะหนี ฉันพยายามเขย่าตัวน้องให้น้องตื่นแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ “โธ่..โว๊ยยย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ