นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
42.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) ตอนที่ 19 กลับบ้าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหน้าค่ายยุวชนทหาร เวลา 06.00 น.
อากาศยามเช้าสดใสทำให้เหล่ายุวชนทหารนั้นรู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้นมา สาเหตุเพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้กลับบ้านหลังจากต้องอยู่ค่ายมา 6 เดือนกว่าแล้วซึ่งการได้กลับบ้านจึงเป็นเรื่องน่ายินดี แต่กับอาชินที่นั่งหลับอยู่นั้นกลับไม่มีความรู้สึกกะปรี้กะเปร่าแบบนั้นเหงื่อท่วมร่างกายเขาเต็มไปหมด ภาพที่เขาเห็นในตอนที่นั่งสมาธิผุดขึ้นมาอีกครั้งแต่คราวนี้มาพร้อมกับเสียงด้วย เสียงพูดคุยหลายคนปนกันจนแทบแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นของใคร ภาพที่อยู่ในหัวเดินเรื่องเร็วจนอาชินตามไม่ทันและภาพสุดท้ายคือ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคลอดลูกและ... ตายทั้งที่ยังกอดลูกตัวเอง
"อาชินตื่น !"
เสียงตะโกนของอาถิงที่นั่งข้างๆทำให้อาชินสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขามองซ้าย-ขวาพบว่าตัวเองนั่งอยู่ม้านั่งหน้าค่าย เด็กชายรับรู้ถึงเหงื่อที่ไหลอาบแก้มได้จึงใช้แขนเสื้อปาดมันออก อาถิงที่มองญาติตัวเองอยู่ก็อดสงสัยไม่ได้เพราะนับแต่วันนั้น อาชินก็เก็บตัวเงียบไม่พูดคุยกับเขาหรือแม้แต่กับอาเจี๋ยและเฟรมเลย เขารู้ว่าอาชินมีอะไรอยู่ในใจแน่นอนเพียงแค่อีกฝ่ายเลือกที่จะเก็บไว้ ทั้งที่ใจจริงอาถิงอยากรบเร้าให้อาชินบอกว่าคิดอะไรอยู่ แต่อาถิงเลือกที่จะเคารพการตัดสินใจของอาชิน เขาจะรอให้อาชินพร้อมที่จะบอกเอง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ" อาชินถาม
"ฉันเห็นท่าทางนายเหมือนฝันร้าย เลย...."
ไม่นานนักเฟรมก็เดินมาแต่ไกลท่าทางเหมือนดีใจ ซึ่งอาชินกับอาถิงเดาได้ว่าพ่อแม่ของเฟรมคงมารับแล้ว แต่ที่ทั้งสองให้ความสนใจคือ เด็กโตอายุประมาณ 7-8 ปี ใส่ชุดทหารสามนายเดินตามหลังมา หลังสุดไปอีกเป็นยุวชนทหารหญิงน่าจะอายุมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ สิ่งที่ชัดเจนมากที่หนึ่งในเด็กโตสามคนนั้นมองอาชินกับอาถิงแบบไม่เป็นมิตร เปรียบเทียบได้เหมือนกับที่หวงฉางเฉินมองอาถิงที่เป็นน้องชายแท้ๆเลย
"ว่าไงพวก ยังไม่มีใครมารับเลยเหรอ" เฟรมพูดอย่างร่าเริง
"ยังเลย... นั้นพี่นายเหรอ" อาถิงถามขึ้น
"ใช่.. สามคนนี้คือพี่ชายฉันเอง" เฟรมกล่าวแนะนำ
พี่ชายของเฟรมหนึ่งในสามคนนั้นยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ซึ่งตรงข้ามกับอีกสองคนที่แทบจะไม่สนใจอาชินกับอาถิงเลย ส่วนอีกคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่สาวของเฟรม ก็เอาแต่นั่งรับลมไม่สนใจน้องๆตัวเองเลย วินาทีนั้นทำให้เด็กชายทั้งสองพอเข้าใจความรู้สีกของเฟรมแล้วว่า ทำไมถึงไม่อยากเจอกับพี่ๆของตนเพราะทั้งสี่คนทำเหมือนเฟรมไร้ตัวตน พี่ชายของเฟรมที่เป็นมิตรเดินเข้ามาหาอาชินกับอาถิงแบบไม่ทันตั้งตัว
"สวัสดีฉันชื่อ ลูอิส แคเบล ยินที่ได้รู้จักนะ" เขากล่าวแนะนำตนเอง
ลูอิสนั้นมีสีผิวขาวแบบออกไปทางสีเผือกมากกว่า มีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าอ่อน เขาสูงกว่าเฟรมพอสมควรทำให้อาชินพอที่จะคาดเดาอายุอีกฝ่ายได้ว่าอายุเท่าไหร่แล้ว อาชินสังเกตมองเฟรมเล็กน้อยซึ่งอากัปกิริยาของเพื่อนเขานั้น เงียบสงบผิดปกติมันไม่เหมือนตอนที่เฟรมอยู่กับตนและอาถิงเลย เด็กชายเริ่มชั่งใจว่าควรเป็นมิตรกับบรรดาพี่ๆของเฟรมไหม
"ยินดีที่ได้รู้จักกันฉันชื่อ หวงจือชิน ส่วนนี้ญาติลูกพี่ลูกน้องชื่อ หวงอี้ถิง” อาชินกล่าวแนะนำกลับ
"เฮ้ คริสตอฟ ทริสทัน มิร่ามารู้จักกับเพื่อนของเฟเดอริกหน่อยสิ" ลูอิสหันไปพูดกับอีกสามคนที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
เด็กชายผิวขาวผมสีขาวบลอนด์ทอง ดวงตาสีเขียวมรกตสูงกว่าลูอิสนิดหน่อย หันมามองทางอาชินในเชิงไม่เป็นมิตรปนมีความเหยียดๆด้วย ที่ปกเสื้อของอีกฝ่ายปักชื่อไว้ว่า "คริสตอฟ แคเบล" ดูไปสำหรับอาชินเห็นหมอนี้มันอดนึกถึงหวงฉางเฉินไม่ได้เลย คงจะเป็นพวอีโก้สูง หลงตัวเองพอสมควรซึ่งมันน่าแปลกคือไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
"ทำไมฉันต้องลดตัวไปแนะนำตัวเองกับพวกนี้ด้วยละ" คริสตอฟพูดอย่างหยิ่งผยอง อาชินยิ้มที่มุมปาก
"ไม่ต้องห่วงหรอกฉันก็ไม่อยากปีนขึ้นที่สูง ไปแนะนำตัวกับนายหรอกบังเอิญว่ากลัวที่สูงนะ" อาชินตอกกลับทันที
คริสตอฟทำท่าว่าจะหาเรื่องอาชินซึ่งเด็กชายพร้อมตั้งรับอยู่แล้ว แต่คริสตอฟถูกห้ามโดยเด็กชายอีกคนซึ่งคงเป็น ทริสทัน แคเบล เขาสูงกว่าคริสตอฟมาผิวแบบเดียวกับลูอิส สีผมทองเข้มดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกลมท่า คริสตอฟหันมาเห็นทริสทันก็ถึงกับหน้าเจื่อนทันทีอาชินคิดว่าคริสตอฟน่าจะเกรงใจอีกฝ่ายพอสมควร ยุวชนทหารหญิงที่ชื่อ มิร่า แคเบล ก็หันมามองน้องๆของตนเหมือนเบื่อหน่าย
"โอ๊ย เงียบๆได้ไหมจะโวยวายมีเรื่องทำไม รำคาญ" มิร่าพูดใส่อย่างอารมณ์เสีย
"ถ้าไม่คิดทำหน้าที่ของพี่คนโตก็หุบปากไปเลยดีกว่ามิร่า" ทริสทันพูดใส่แล้วส่งสายตาดุดันใส่ ทำเอามิร่าเงียบทันที
อาชินกับอาถิงส่งภาษาทางสายตาให้กันอย่างไม่มีนัดหมาย และเฟรมก็เดินห่างออกมานั่งใกล้ๆกับเพื่อนสองคน ดีกว่าไปอยู่ใกล้ๆพี่ร่วมสายเลือดของตน อาชินกับอาถิงจึงได้แต่ปลอบเพื่อนเท่านั้น สักพักก็มีรถMazda CX-5 สีขาวแล่นมาจอดไม่ห่างจาก จุดที่พวกอาชินอยู่เท่าไหร่ และชายในชุดทหารก็เดินออกมาจากรถพร้อมโบกมือทักทาย อาชินเดาว่านี้คงเป็นพ่อของเฟรมแน่นอน
"เฟรมนั้นพ่อนายใช่ไหม" อาถิงถาม
"ใช่ นั้นพ่อกับแม่ฉัน เบดเดอร์สกับอิลซ่า แคเบล" เฟรมกล่าว
พวกพี่ๆของเฟรมพุ่งเข้าสวมกอดพ่อกับแม่ของตนอย่างดีใจ ไม่นานนักเมื่ออิลซ่าเห็นเฟรมไม่ยอมมาหาเธอจึงผงะออกมา เพื่อมาหาลูกชายคนเล็กของเธอ เมื่อเห็นอิลซ่าชัดเจนขึ้นก็เห็นว่าเธอค่อนข้างสวยพอ ผิวขาวเหลืองนิดๆผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน แววตาที่มองเฟรมนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
"เฟเดอริกแม่มารับกลับบ้านแล้วนะ" อิลซ่าพูดอย่างอ่อนโยน
"แม่นี้เพื่อนผมชื่อ หวงจือชินกับหวงอี้ถิง" เฟรมกล่าวแนะนำเพื่อนให้แม่ตน
"สวัสดีจ๊ะ ขอบคุณเธอทั้งสองมากที่เป็นเพื่อนเขา" อิลซ่ากล่าวขอบคุณและยิ้มให้
"ไม่เป็นไรครับ” อาชินกับอาถิงพูดพร้อมกัน
สักพักเบตเดอร์สก็เดินมาหาภรรยาและลูกชายในทำนองว่า ควรจะกลับได้แล้วซึ่งเขายกกระเป่าของเฟรมไปแต่ ตัวของเฟรม กลับมีท่าทีเหมือนไม่อยากไป อิลซ่าแปลกใจที่เฟรมมีท่าทีแบบนี้ อาชินกับอาถิงเข้าใจแต่คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเฟรม ก้าวก่ายไม่ได้เฟรมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันมาโบกมือให้ อาชินกับอาถิงแล้วเดินจูงมือกับอิลซ่าเพื่อไปขึ้นรถ
"เฟรม !" อาชินตะโกนขึ้น เฟรมหันมามอง
"เจอกันเดือนหน้า" อาถิงตะโกนบ้าง
เฟรมไม่ตอบอะไรก็ขึ้นรถแล้วเมื่ออิลซ่าขึ้นข้างคนขับ เบตเดอร์สก็ขับรถแล่นออกไปทันทีแต่อาชินกับอาถิง ยังเห็นเฟรมที่นั่งหลังสุดนั้นหันกลับมามองเขาทั้งสองอยู่ ทั้งสองยอมรับว่าไม่เคยเห็นโมเม้นท์นี้จากเฟรมเท่านั้น เพราะคาแรคเตอร์ของเพื่อนคนนี้คือตลกเฮฮา และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนมากกว่า อาชินเลยหวนนึกถึงประโยคหนึ่งที่เฟรมเคยบอกว่าไม่อยากเจอพี่ๆ ตอนแรกเขายังไม่ค่อยเข้าใจจนได้พบคำตอบตอนนี้
"นายคิดว่าเฟรมจะเป็นอะไรไหม" อาถิงถาม
"ไม่หรอก" อาชินตอบ
สักพักหนึ่งรถคลาสสิกสีเทาที่พวกเขาคุ้นเคยก็แล่นมาจอดใกล้ๆ หวงฉี่ชุ่นมาในชุดธรรมดาใส่เสื้อคอโปโลสีขาว สวมใส่กางเกงยีนสีน้ำเงินเอาตามจริงหายากมากที่จะเห็นปู่ใส่แบบนี้ อาถิงผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาไม่เห็นหม่าญวนผู้เป็นย่ามาด้วย อาชินจำเป็นต้องสะกิดให้อาถิงรีบแบกกระเป๋าไปที่รถ เมื่อทั้งสองเข้ามาในรถแล้วบรรยากาศในรถก็ดูไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่
"ย่าไม่มาด้วยเหรอครับปู่" อาถิงถาม
"ทำอาหารที่หลานชอบมากๆรออยู่ที่บ้าน เพื่อต้อนรับการกลับบ้านไง...ตอนนี้ก็กลับกันเถอะ" หวงฉี่ชุ่นกล่าว
และแล้วรถก็แล่นออกจากค่ายไปซึ่งอาชินกับอาถิงก็ทำแบบเดียวกัน เหมือนตอนวันไปรายงานตัวคือหันไปมองจากเบาะหลังรถ หน้าค่ายก็ค่อยๆไกลออกไปทุกที ทั้งสองจำได้ว่าวันแรกที่มาอยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่พอได้กลับจริงๆทำไมพวกเขารู้สึกอยากอยู่ต่อก็ไม่รู้ แต่การได้อยู่บ้านหนึ่งเดือนก็ดีเหมือนกัน เพราะพวกเขาคิดถึงอาหารฝีมือของหม่าญวนมากเหลือเกิน
+++++++++++++++++++++
อากาศยามเช้าสดใสทำให้เหล่ายุวชนทหารนั้นรู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้นมา สาเหตุเพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้กลับบ้านหลังจากต้องอยู่ค่ายมา 6 เดือนกว่าแล้วซึ่งการได้กลับบ้านจึงเป็นเรื่องน่ายินดี แต่กับอาชินที่นั่งหลับอยู่นั้นกลับไม่มีความรู้สึกกะปรี้กะเปร่าแบบนั้นเหงื่อท่วมร่างกายเขาเต็มไปหมด ภาพที่เขาเห็นในตอนที่นั่งสมาธิผุดขึ้นมาอีกครั้งแต่คราวนี้มาพร้อมกับเสียงด้วย เสียงพูดคุยหลายคนปนกันจนแทบแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นของใคร ภาพที่อยู่ในหัวเดินเรื่องเร็วจนอาชินตามไม่ทันและภาพสุดท้ายคือ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคลอดลูกและ... ตายทั้งที่ยังกอดลูกตัวเอง
"อาชินตื่น !"
เสียงตะโกนของอาถิงที่นั่งข้างๆทำให้อาชินสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขามองซ้าย-ขวาพบว่าตัวเองนั่งอยู่ม้านั่งหน้าค่าย เด็กชายรับรู้ถึงเหงื่อที่ไหลอาบแก้มได้จึงใช้แขนเสื้อปาดมันออก อาถิงที่มองญาติตัวเองอยู่ก็อดสงสัยไม่ได้เพราะนับแต่วันนั้น อาชินก็เก็บตัวเงียบไม่พูดคุยกับเขาหรือแม้แต่กับอาเจี๋ยและเฟรมเลย เขารู้ว่าอาชินมีอะไรอยู่ในใจแน่นอนเพียงแค่อีกฝ่ายเลือกที่จะเก็บไว้ ทั้งที่ใจจริงอาถิงอยากรบเร้าให้อาชินบอกว่าคิดอะไรอยู่ แต่อาถิงเลือกที่จะเคารพการตัดสินใจของอาชิน เขาจะรอให้อาชินพร้อมที่จะบอกเอง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ" อาชินถาม
"ฉันเห็นท่าทางนายเหมือนฝันร้าย เลย...."
ไม่นานนักเฟรมก็เดินมาแต่ไกลท่าทางเหมือนดีใจ ซึ่งอาชินกับอาถิงเดาได้ว่าพ่อแม่ของเฟรมคงมารับแล้ว แต่ที่ทั้งสองให้ความสนใจคือ เด็กโตอายุประมาณ 7-8 ปี ใส่ชุดทหารสามนายเดินตามหลังมา หลังสุดไปอีกเป็นยุวชนทหารหญิงน่าจะอายุมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ สิ่งที่ชัดเจนมากที่หนึ่งในเด็กโตสามคนนั้นมองอาชินกับอาถิงแบบไม่เป็นมิตร เปรียบเทียบได้เหมือนกับที่หวงฉางเฉินมองอาถิงที่เป็นน้องชายแท้ๆเลย
"ว่าไงพวก ยังไม่มีใครมารับเลยเหรอ" เฟรมพูดอย่างร่าเริง
"ยังเลย... นั้นพี่นายเหรอ" อาถิงถามขึ้น
"ใช่.. สามคนนี้คือพี่ชายฉันเอง" เฟรมกล่าวแนะนำ
พี่ชายของเฟรมหนึ่งในสามคนนั้นยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ซึ่งตรงข้ามกับอีกสองคนที่แทบจะไม่สนใจอาชินกับอาถิงเลย ส่วนอีกคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่สาวของเฟรม ก็เอาแต่นั่งรับลมไม่สนใจน้องๆตัวเองเลย วินาทีนั้นทำให้เด็กชายทั้งสองพอเข้าใจความรู้สีกของเฟรมแล้วว่า ทำไมถึงไม่อยากเจอกับพี่ๆของตนเพราะทั้งสี่คนทำเหมือนเฟรมไร้ตัวตน พี่ชายของเฟรมที่เป็นมิตรเดินเข้ามาหาอาชินกับอาถิงแบบไม่ทันตั้งตัว
"สวัสดีฉันชื่อ ลูอิส แคเบล ยินที่ได้รู้จักนะ" เขากล่าวแนะนำตนเอง
ลูอิสนั้นมีสีผิวขาวแบบออกไปทางสีเผือกมากกว่า มีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าอ่อน เขาสูงกว่าเฟรมพอสมควรทำให้อาชินพอที่จะคาดเดาอายุอีกฝ่ายได้ว่าอายุเท่าไหร่แล้ว อาชินสังเกตมองเฟรมเล็กน้อยซึ่งอากัปกิริยาของเพื่อนเขานั้น เงียบสงบผิดปกติมันไม่เหมือนตอนที่เฟรมอยู่กับตนและอาถิงเลย เด็กชายเริ่มชั่งใจว่าควรเป็นมิตรกับบรรดาพี่ๆของเฟรมไหม
"ยินดีที่ได้รู้จักกันฉันชื่อ หวงจือชิน ส่วนนี้ญาติลูกพี่ลูกน้องชื่อ หวงอี้ถิง” อาชินกล่าวแนะนำกลับ
"เฮ้ คริสตอฟ ทริสทัน มิร่ามารู้จักกับเพื่อนของเฟเดอริกหน่อยสิ" ลูอิสหันไปพูดกับอีกสามคนที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
เด็กชายผิวขาวผมสีขาวบลอนด์ทอง ดวงตาสีเขียวมรกตสูงกว่าลูอิสนิดหน่อย หันมามองทางอาชินในเชิงไม่เป็นมิตรปนมีความเหยียดๆด้วย ที่ปกเสื้อของอีกฝ่ายปักชื่อไว้ว่า "คริสตอฟ แคเบล" ดูไปสำหรับอาชินเห็นหมอนี้มันอดนึกถึงหวงฉางเฉินไม่ได้เลย คงจะเป็นพวอีโก้สูง หลงตัวเองพอสมควรซึ่งมันน่าแปลกคือไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
"ทำไมฉันต้องลดตัวไปแนะนำตัวเองกับพวกนี้ด้วยละ" คริสตอฟพูดอย่างหยิ่งผยอง อาชินยิ้มที่มุมปาก
"ไม่ต้องห่วงหรอกฉันก็ไม่อยากปีนขึ้นที่สูง ไปแนะนำตัวกับนายหรอกบังเอิญว่ากลัวที่สูงนะ" อาชินตอกกลับทันที
คริสตอฟทำท่าว่าจะหาเรื่องอาชินซึ่งเด็กชายพร้อมตั้งรับอยู่แล้ว แต่คริสตอฟถูกห้ามโดยเด็กชายอีกคนซึ่งคงเป็น ทริสทัน แคเบล เขาสูงกว่าคริสตอฟมาผิวแบบเดียวกับลูอิส สีผมทองเข้มดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกลมท่า คริสตอฟหันมาเห็นทริสทันก็ถึงกับหน้าเจื่อนทันทีอาชินคิดว่าคริสตอฟน่าจะเกรงใจอีกฝ่ายพอสมควร ยุวชนทหารหญิงที่ชื่อ มิร่า แคเบล ก็หันมามองน้องๆของตนเหมือนเบื่อหน่าย
"โอ๊ย เงียบๆได้ไหมจะโวยวายมีเรื่องทำไม รำคาญ" มิร่าพูดใส่อย่างอารมณ์เสีย
"ถ้าไม่คิดทำหน้าที่ของพี่คนโตก็หุบปากไปเลยดีกว่ามิร่า" ทริสทันพูดใส่แล้วส่งสายตาดุดันใส่ ทำเอามิร่าเงียบทันที
อาชินกับอาถิงส่งภาษาทางสายตาให้กันอย่างไม่มีนัดหมาย และเฟรมก็เดินห่างออกมานั่งใกล้ๆกับเพื่อนสองคน ดีกว่าไปอยู่ใกล้ๆพี่ร่วมสายเลือดของตน อาชินกับอาถิงจึงได้แต่ปลอบเพื่อนเท่านั้น สักพักก็มีรถMazda CX-5 สีขาวแล่นมาจอดไม่ห่างจาก จุดที่พวกอาชินอยู่เท่าไหร่ และชายในชุดทหารก็เดินออกมาจากรถพร้อมโบกมือทักทาย อาชินเดาว่านี้คงเป็นพ่อของเฟรมแน่นอน
"เฟรมนั้นพ่อนายใช่ไหม" อาถิงถาม
"ใช่ นั้นพ่อกับแม่ฉัน เบดเดอร์สกับอิลซ่า แคเบล" เฟรมกล่าว
พวกพี่ๆของเฟรมพุ่งเข้าสวมกอดพ่อกับแม่ของตนอย่างดีใจ ไม่นานนักเมื่ออิลซ่าเห็นเฟรมไม่ยอมมาหาเธอจึงผงะออกมา เพื่อมาหาลูกชายคนเล็กของเธอ เมื่อเห็นอิลซ่าชัดเจนขึ้นก็เห็นว่าเธอค่อนข้างสวยพอ ผิวขาวเหลืองนิดๆผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน แววตาที่มองเฟรมนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
"เฟเดอริกแม่มารับกลับบ้านแล้วนะ" อิลซ่าพูดอย่างอ่อนโยน
"แม่นี้เพื่อนผมชื่อ หวงจือชินกับหวงอี้ถิง" เฟรมกล่าวแนะนำเพื่อนให้แม่ตน
"สวัสดีจ๊ะ ขอบคุณเธอทั้งสองมากที่เป็นเพื่อนเขา" อิลซ่ากล่าวขอบคุณและยิ้มให้
"ไม่เป็นไรครับ” อาชินกับอาถิงพูดพร้อมกัน
สักพักเบตเดอร์สก็เดินมาหาภรรยาและลูกชายในทำนองว่า ควรจะกลับได้แล้วซึ่งเขายกกระเป่าของเฟรมไปแต่ ตัวของเฟรม กลับมีท่าทีเหมือนไม่อยากไป อิลซ่าแปลกใจที่เฟรมมีท่าทีแบบนี้ อาชินกับอาถิงเข้าใจแต่คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเฟรม ก้าวก่ายไม่ได้เฟรมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันมาโบกมือให้ อาชินกับอาถิงแล้วเดินจูงมือกับอิลซ่าเพื่อไปขึ้นรถ
"เฟรม !" อาชินตะโกนขึ้น เฟรมหันมามอง
"เจอกันเดือนหน้า" อาถิงตะโกนบ้าง
เฟรมไม่ตอบอะไรก็ขึ้นรถแล้วเมื่ออิลซ่าขึ้นข้างคนขับ เบตเดอร์สก็ขับรถแล่นออกไปทันทีแต่อาชินกับอาถิง ยังเห็นเฟรมที่นั่งหลังสุดนั้นหันกลับมามองเขาทั้งสองอยู่ ทั้งสองยอมรับว่าไม่เคยเห็นโมเม้นท์นี้จากเฟรมเท่านั้น เพราะคาแรคเตอร์ของเพื่อนคนนี้คือตลกเฮฮา และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนมากกว่า อาชินเลยหวนนึกถึงประโยคหนึ่งที่เฟรมเคยบอกว่าไม่อยากเจอพี่ๆ ตอนแรกเขายังไม่ค่อยเข้าใจจนได้พบคำตอบตอนนี้
"นายคิดว่าเฟรมจะเป็นอะไรไหม" อาถิงถาม
"ไม่หรอก" อาชินตอบ
สักพักหนึ่งรถคลาสสิกสีเทาที่พวกเขาคุ้นเคยก็แล่นมาจอดใกล้ๆ หวงฉี่ชุ่นมาในชุดธรรมดาใส่เสื้อคอโปโลสีขาว สวมใส่กางเกงยีนสีน้ำเงินเอาตามจริงหายากมากที่จะเห็นปู่ใส่แบบนี้ อาถิงผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาไม่เห็นหม่าญวนผู้เป็นย่ามาด้วย อาชินจำเป็นต้องสะกิดให้อาถิงรีบแบกกระเป๋าไปที่รถ เมื่อทั้งสองเข้ามาในรถแล้วบรรยากาศในรถก็ดูไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่
"ย่าไม่มาด้วยเหรอครับปู่" อาถิงถาม
"ทำอาหารที่หลานชอบมากๆรออยู่ที่บ้าน เพื่อต้อนรับการกลับบ้านไง...ตอนนี้ก็กลับกันเถอะ" หวงฉี่ชุ่นกล่าว
และแล้วรถก็แล่นออกจากค่ายไปซึ่งอาชินกับอาถิงก็ทำแบบเดียวกัน เหมือนตอนวันไปรายงานตัวคือหันไปมองจากเบาะหลังรถ หน้าค่ายก็ค่อยๆไกลออกไปทุกที ทั้งสองจำได้ว่าวันแรกที่มาอยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่พอได้กลับจริงๆทำไมพวกเขารู้สึกอยากอยู่ต่อก็ไม่รู้ แต่การได้อยู่บ้านหนึ่งเดือนก็ดีเหมือนกัน เพราะพวกเขาคิดถึงอาหารฝีมือของหม่าญวนมากเหลือเกิน
+++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ