นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  42.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) ตอนที่ 22 บ้านต้นไม้ของเฟรม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บ้านตระกูลแคเบล เวลา 09.10. น.
เฟรมนอนเล่นที่เตียงโดยมีคู่มือเกี่ยวกับคาราเต้กางหน้าทิ้งไว้ นับแต่กลับบ้านมาเขาไม่อยากพบหน้าใครมากโดยเฉพาะบรรดาพี่ๆของตน ที่วันๆจ้องแต่จะกลั่นแกล้งเขาที่ตัวเล็กกว่าซึ่งกับคริสตอฟนั้น เฟรมรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้อิจฉาปนหมั่นไส้เขาที่อิลซ่าผู้เป็นแม่นั้นรักเขามากกว่าพี่คนอื่น โดยอิลซ่าให้เหตุผลว่าเฟรมคือน้องคนเล็กสุดของบ้าน แน่นอนว่าเหตุผลแบบนี้มันฟังไม่ขึ้นเขารู้สึกแย่มากๆจนอยากกลับค่ายตอนนี้เลยดีกว่า และเหนือสิ่งอื่นใดเขาคิดถึงเพื่อนสนิทสองคนที่ค่ายมาก ไม่นานนักประตูห้องของเขามีเสียงเคาะดังสามครั้งก่อนจะเปิดประตูออกมา เฟรมรีบนอนตะแคงหันหลังเพราะนั้นคือแม่เขาเอง
    "เฟเดอริก มากินข้าวเถอะพ่อกับพี่ๆรออยู่" อิลซ่าพูดเสียงอ่อนโยนกับลูกชาย
    "ผมยังไม่หิว แม่ไปกินกับพวกเขาเลย" เฟรมกล่าวสั้นๆแต่ไม่มองแม่ตนเอง
    "เป็นอะไรลูกบอกแม่มาสิ" อิลซ่าถามด้วยความห่วงใย
    "ถ้าผมบอกแม่แล้ว... แม่จะเลิกอุ้มชูผมต่อหน้าพวกพี่เขาไหม" เฟรมหันมามองหน้าอิลซ่าตรงๆ
    เมื่ออิลซ่าได้สบตากับลูกชายคนนี้ของเธอนั้น ก็รับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของแม่ว่าตอนนี้เขากำลังจะเปลี่ยนไป ไม่ใช่ลูกน้อยคนเดิมที่เธอรู้จักมันเป็นแววตาที่เหมือนกันหมด เด็กที่ไปเกณฑ์เป็นยุวชนทหารจะมีแววตาแบบนี้หมด เธอใจหายไม่น้อยที่ตอนนี้เฟรมก็รับผลกระทบนี้ไม่ต่างจากลูกคนอื่นๆ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอเลือกแต่งงานกับชาวฟรอนร์เทียร์แล้ว ก็ต้องรับกฎหมายของประเทศให้ได้
    "ทำไมลูกพูดแบบนี้ละ แม่แค่เป็นห่วงลูกเท่านั้น"
    "แม่รู้ไหมทำไมพี่คริสตอฟเขาถึงเกลียดผม... เพราะแม่ทำแบบนี้ไง" เฟรมตัดบท
    "อย่าคิดแบบนั้นแม่รักลูกเท่ากันหมด อีกอย่างคริสตอฟเขาไม่ได้เกลียดลูกหรอกเขารักลูกแต่ไม่แสดงออก" อิลซ่าพูด
    "พี่เขาบอกหรือแม่คิดไปเองครับเอาเถอะครับ เอาที่แม่สบายใจละกันถ้าอยากให้ผมไปกินมาก...ผมก็จะไปให้"
    พูดจบเฟรมลุกพรวดพรากออกไปจากห้องทันทีโดยไม่สนอิลซ่าเลย เขาเดินลงบันไดมายังห้องกินข้าวที่อยู่ด้านขวาของบ้าน ห้องกินอาหารอาจไม่ใหญ่มากนัก โต๊ะเป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้าไม้ยาวคนที่นั่งรออยู่คือ เบดเดอร์ส มิร่า ลูอิส คริสตอฟ และทริสทันขาดไปคนหนึ่งซึ่งนั้นก็คือ ฟาร์เรน แคเบลพี่สาวคนโตสุดของบ้าน ซึ่งตอนนี้ยอมเดินลงมาจากห้องคงเพราะอิลซ่าไปตามให้กินข้าว ฟาร์เรนเป็นสาวผมแดง ดวงตาสีน้ำตาลผิวขาวรูปรางสูงบางและตอนนี้เธอดูหงุดหงิดเล็กน้อย ที่โดนแม่มาตามให้กินข้าวด้วย
    "แม่จะมาปลุกหนูทำไมคนจะหลับจะนอน รู้ไหมว่าที่ค่ายนะหนูแทบไม่ได้นอนแบบนี้นะ" ฟาร์เรนพูดอย่างไม่พอใจอย่างมาก
    "มันสายแล้วอย่างน้อยๆกินข้าวกันหน่อยสิลูก ไม่ได้กินพร้อมหน้ากันนานแล้ว" อิลซ่าพูดอย่างอ่อนโยน
    ฟาร์เรนไม่ตอบอะไรนอกจากเดินไปนั่งข้างๆมิร่า ซึ่งเฟรมสังเกตอากัปกิริยาได้ว่ามิร่ากับฟาร์เรนก็ไม่ค่อยถูกชะตากัน อิลซ่าหยิบไส้กรอก เนื้อไก่ชิ้นปานกลาง ไข่ดาวลงจานของแต่ละคน ส่วนของเบดเดอร์สนั้นอิลซ่ารินเครื่องดื่มไวน์ใส่แก้วให้ ก่อนจะมานั่งจัดการกับจานอาหารของตนเอง ทุกคนนั่งกินอาหารบนจานโดยไม่พูดคุยกันเลยมันทำให้เฟรมรู้สึกหว่าเว้ มีคิดถึงเพื่อนสองคนของเขามากขึ้นเป็นทวีคูณ
    "นานแล้วนะที่ผมไม่ได้กินอาหารของแม่ อยู่ที่ค่ายได้กินแค่ข้าวกับซุปเห็ดหอมเท่านั้นเอง" ลูอิสพูดขึ้น
    "พูดมากอยู่ได้จะอยู่ค่ายหรือบ้าน ไอ้ที่เรากินๆอยู่นะมันก็อาหารกินๆไปเถอะ" คริสตอฟพูดเสียงกร้าวขึ้น
    "นายเป็นหมารึไงกัดคนอื่นไปทั่วนะ" ทริสทันพูดเสียบเรียบขึ้นทำให้คริสตอฟมองหน้าไม่พอใจมาก
    "พอได้แล้วทะเลาะกันทำไม แม่อุตส่าห์ทำให้กินพวกลูกตอบแทนแม่แบบนี้เหรอ" เบดเดอร์สพูดเสียงดุขึ้น
    ทุกคนพากันเงียบกริบหมดแน่นอนว่าหากเบดเดอร์สที่เงียบๆ เริ่มพูดเมื่อไหร่แปลว่าเขาหมดความอดทนจริงๆ เฟรมตอนนี้กินอะไรไม่ค่อยลงเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เด็กชายหันไปมองแม่ ซึ่งเธอได้แต่ก้มหน้าเหมือนลึกๆแล้วเธอก็กลัวสามีเช่นเดียวกับลูกๆของเธอ แต่อาจมียกเว้นคนหนึ่งนั้นคือ ฟาร์เรน ที่ดูเหมือนอยากท้าทายพ่อมาก ไม่รู้ว่ามันสืบเนื่องจากการที่เธออายุได้ 15 ขึ้น 16 เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อหรือจะเรียกว่าวัยต่อต้านกันแน่ แต่ที่แน่ๆเบดเดอร์สไม่พอใจกิริยานี้ของลูกคนนี้มาก
    "ผมอิ่มแล้วนะครับ" เฟรมพูดขึ้นก่อนจะนำจานไปไว้อ่าง
    "ลูกจะไปไหน" อิลซ่าถาม
    "บ้านต้นไม้ครับ" เฟรมกล่าวสั้นๆ
    "แม่จะถามทำไมอีกละถ้าไม่อยู่ในห้อง ก็สิงอยู่ในบ้านต้นไม้นั้นแหละ" คริสตอฟพูดไม่นาน แต่ก็สงบคำเมื่อเห็นสายตาตำหนิของแม่มองมา
    เฟรมไม่สนใจคนที่อยู่ในบ้านแล้วเขาสนแค่อย่างเดียวว่า จะออกจากบ้านไปยังต้นไม้ต้นใหญ่พอสมควรอยู่ไม่ห่างจากบ้าน เท่าที่จำความได้ต้นไม้ตนนี้อยู่คู่บ้านตระกูลแคเบลมายาวนานมาก แต่ไฮไลอยู่ที่บ้านต้นไม้ที่ทำจากไม้อย่างดีมีบันได ที่เรียวม้วนลงมาสำรหรับเดินขึ้นบนบ้านโดยเฉพาะ สำหรับเด็กชายแล้วบ้านต้นไม้หลังนี้คือหลบภัยชั้นดีของเขา ที่ไม่ต้องเจอหน้าพวกคริสตอฟหรือบรรยากาศที่จะทำให้เขารู้สึกแยก
    เด็กชายก็วิ่งขึ้นบันไดเพื่อไปที่ประตูบ้านและทำการเปิดเข้าไป ภายในบ้านต้นไม้นั้นไม่ค่อยต่างจากห้องนอนเขาเท่าไหร่ มันมีโต๊ะเก้าอี้ไม้เคียงคู่ด้วยโคมไฟ และมีเตียงนอนเดี่ยวที่มีหมอนกับผ้าห่มสีฟ้าวางอยู่ นอกจากนั้นก็จะเป็นของเล่นที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่นัก ของเล่นส่วนใหญ่ที่เขาชอบจะเน้นที่รถถังเป็นพิเศษ เพราะเขามีความฝันว่าอยากเป็นทหารรถถังที่เก่ง ดังนั้นเวลาที่เฟรมเห็นของเล่นพวกรถถังเขาจึงชอบมาก ระหว่างที่เขาเล่นจับวางรถถังตามจุดยุทธศาสตร์สงครามแบบรถถัง แล้วใช้จินตนาการอยู่นั้นปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงของเด็กผู้ชายสองคนที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก
    "เฟรม ! อยู่ป้าวเพื่อนส่งเสียงหน่อย" อาถิงตะโกนจากข้างล่าง เด็กชายตัดสินใจเปิดต่างออกมาก็ต้องประหลาดใจ เพราะเขาเห็นอาชินและอาถิงยืนข้างล่างโดยมีจักรยานสองคัน จอดอยู่ข้างๆทำให้เขาเดาออกว่าเพื่อนทั้งสองเดินทางมายังไง
    "นายสองคนรู้ได้ไงว่าบ้านฉันอยู่ไหน" เฟรมถามอย่างแปลกใจ
    "เสิร์ชหาตำแหน่งบ้านนายจากสายรัดนะ โคตรไกลชะมัดทำเอาฉันกับอาชินเหงื่อท่วมเลย" อาถิงบอก
    "งั้นขึ้นมาสิเพื่อน" เฟรมกล่าวชักชวน ซึ่งทั้งสองไม่รอช้าต่างก็รีบวิ่งขึ้นไปที่บ้านต้นไม้ตามคำชักชวนของเพื่อน
    อาชินกับอาถิงเข้ามาในบ้านต้นไม้แล้วนั้น เฟรมทำการปิดประตูให้สนิทก่อนจะมาทำการเปิดแอร์ เหงื่อของอาชินกับอาถิงนั้นทำให้สีเสื้อของพวกเขาดูเข้มมาก ซึ่งเฟรมคงพอจะเข้าใจว่าทั้งสองคงเดินทางมาไกลมาก อาชินค้นกระเป๋าแล้วเอากระติกน้ำสีดำขึ้นมาดื่ม อาถิงเห็นของเล่นรถถังหลายคันของเฟรมแล้วทำให้เขาอยากเล่นขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยรู้สึกร้อนเท่าที่ควรนอกจากทิ้ง กระเป๋าแล้วมานั่งตรงกระดานจุดยุทธศาสตร์สงครามรถถัง
    โดยร่วมแล้วของเล่นของเด็กฟรอนร์เทียร์นั้นค่อนข้างจะกำจัดมาก หากเทียบกับของเล่นของเด็กพลเรือนที่จะมี ความหลากหลายมากกว่าซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ของเล่นยอดฮิตของเด็กอย่างพวกอาชินจะเป็นดาบกับปืน พวกรถถัง เครื่องบินและเรือรบจะรองลงมาส่วนผู้หญิงจะเน้นยิงธนูหรือของเล่นที่พัฒนาสมองเช่น รูบิค เป็นต้น
    "ของเล่นนายมีแต่รถถังทั้งนั้นเลยนี่" อาถิงพูดขึ้น
    "ใช่ ฉันชอบรถถังมากเลย" เฟรมตอบ
    "ของฉันก็มีนะแต่... ฉันชอบเรือรบมากกว่า" อาถิงพูดเสร็จ ก็คว้ารถถังสีลายพรางสีดำซึ่งมีปากกระบอกตั้ง 4 กระบอก จากนั้นเขาถึงจะดึงเรือรบลำใหญ่ออกมา
    "จือชินของนายละ" เฟรมหันมาถาม
    "ฉันไม่ชอบพวกรถถังนะ แต่เล่นด้วยได้" อาชินตอบ
    และแล้วทั้งสามคนก็พากันนั่งลงที่แผ่นกระดานจุดยุทธศาสตร์สงครามรถถัง ในความรู้สึกของเฟรมตอนนี้เขาดีใจมากๆ ที่ได้เจอเพื่อนทั้งสอง แม้จะไม่ได้อยู่ในค่ายเขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากอีกแล้ว ในระหว่างที่พวกเขาเล่นสงครามรถถังกันอยู่บนบ้านต้นไม้นั้น ทริสทันแอบมายืนดูใต้บ้านต้นไม้อย่างเงียบๆในท่ามือล้วงกระเป๋ากางเกง ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่นอกจากตัวเขาเอง
         
                             
                                                                      +++++++++++++++++++                                                           

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา