นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  42.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

42) ตอนที่ 42 การตัดสินใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บ้านท่านทูตอากิระ เวลา 09.00 น.
อาชินนั่งครุ่นคิดอยู่ที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนในสวนกลางบ้าน เขานั่งนึกทบทวนต่อหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา ตั้งแต่วันที่มาเกณฑ์เป็นยุวชนทหารได้กลายมาเป็นนักรบฟินิกซ์ มาอยู่บ้านท่านทูตอากิระมา 6 ปี อาชินถึงได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อตนเอง ที่หวงฉี่ชุ่นกับหม่าญวนปิดบังที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ อาถิงก็สมรู้ร่วมคิดปิดบังเขาด้วยเช่นกัน จึงนำมาสู่การตัดขาดกันอย่างถาวรแล้วไฟโทสะก็ยังคงเผาไหม้ในจิตใจของเขามาตลอด ซึ่งอาชินพยายามหาทางดับไฟโทสะนี้แต่ก็ไร้ผลมันกลับ มีแต่ทรมานมากขึ้นจนบางทีอดคิดถึงข้อเสนอของร้อยเอกหลี่ชิงโปไม่ได้
     พวกอาเจี๋ยพากันแอบดูอาชินแบบห่างๆเพราะไม่แน่ใจว่า หากเข้าไปหาอาชินตอนนี้มันสมควรไหมแต่ทว่าอาชินรู้อยู่แล้วว่า เพื่อนๆอยู่ไม่ห่างจากทางเข้าเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เขาไม่อยากสนใจใครนอกจากคำถามมากมายที่ ประดังเข้ามาในสมองของเด็กชายเมื่อก่อนเขารู้ว่าตัวเองเป็นใครมีเป้าหมายอะไร แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างของเด็กชายมันว่างเปล่าไปหมด จนแทบไม่รู้เลยว่าเขาควรจะเดินไปทางไหนดีไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ อาชินรู้แค่ว่าตนเองกำลังโกรธแล้วมันไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
     "เอาไงดีเนี่ยจะเข้าไปหากันไหม ไม่อยากปล่อยให้มันง่อยแบบนี้เลย" อาหลงพูดขึ้น
     "อย่าพึ่งดีกว่าท่าทางอาชินจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่" เสี่ยวหู่พูด
     สักพักมีเด็กชายซึ่งสูงกว่าพวกเสี่ยวหู่เล็กน้อยเขาเป็นคนผิวขาวเหลือง มีผมกับดวงตาสีดำจ้องมองอาชินเหมือนไม่พอใจผสมกับความหมั่นไส้อาชินเล็กน้อย อาเจี๋ยสัมผัสได้ว่าตอนนี้ หยางเสี่ยวจุน คิดจะเข้าไปหาอาชิน แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะไปหาแบบไหนเพราะเท่าที่รู้เสี่ยวจุนกับอาชินไม่ได้สนิทกัน และแล้วเสี่ยวจุนก็พุ่งตรงเข้าไปหาอาชินแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนเพื่อนรอบข้างใจหายมาก
     เสี่ยวจุนสะกิดตัวอาชินเล็กน้อยและเมื่ออาชินหันหน้ามา กำปั้นขวาของเสี่ยวจุนก็อัดเข้าหน้าของอาชินเต็มแรง จนอาชินกระเด็นตกม้าหินอ่อนลงไปกับพื้น สิ่งที่เสี่ยวจุนทำลงไปนั้นพวกอาเจี๋ยตาค้างไปตามๆกัน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นโหดขนาดนั้นอาชินพยุงตัวเองขึ้นมา เพื่อมองหน้าคนที่ต่อยหน้าเขาซึ่งไอ้เจ้าของกำปั้นเมื่อกี้ อาชินจำได้ว่าแทบไม่ค่อยคุยกันและไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน มาต่อยแบบนี้ยิ่งทำให้อาชินโมโหมากขึ้นไปอีก
     "มาต่อยฉันทำไม" อาชินถามเชิงแบบสันติไว้ก่อน
     "หมั่นไส้ไม่มีเหตุผล คิดว่าตัวเองมีปมคนเดียวรึไงว่ะ" เสี่ยวจุนไม่พูดเปล่า เดินตรงมาผลักตัวของอาชินเดินเซไปข้างหลัง เนื่องจากเสี่ยวจุนสูงกว่าอาชินพอสมควร ดังนั้นแรงผลักจึงค่อนข้างเยอะความโกรธของอาชินกำลังจะเพิ่มมากขึ้น ไฟที่มือเขากำลังจะติดซึ่งอาหลงที่สังเกตเห็นเริ่มใจคอไม่ดีและมีท่าทีจะห้าม แต่กลับมีทอมบอยคนหนึ่งมาห้ามพร้อมส่งสายตาประมาณว่า ให้อาหลงยืนอยู่เฉยๆ
     "มันเรื่องของฉันไม่เกี่ยวนายสักนิด" อาชินพูดอย่างอดกลั่นมากๆ แต่เสี่ยวจุนเดินมาตบหน้าอาชินในเชิงแบบเชิงเหยียดหยามนิดๆ อารมณ์ของอาชินเริ่มเดือดมากขึ้น ซึ่งเสี่ยวจุนไม่มีท่าทีจะเกรงใจเขาเลยแม้แน่น้อย          
     "งั้นการที่ฉันหมั่นไส้นายเนี่ยมันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน... ทำไมมองหน้าแบบนี้คิดว่าเหรอลองสักตั้งป้าว ไอ้ลูกหมา !"
     สิ้นคำของเสี่ยวจุนอาชินระเบิดความโกรธด้วยซัดกำปั้น ที่ตอนนี้เรือนแสงเปลวเพลิงใส่ที่กลางท้องของเสี่ยวจุน หวังจะเอาให้จุกจนแบบไม่ต้องพูดมาก แต่เสี่ยวจุนรับหมัดของอาชินทันซึ่งมือของเสี่ยวจุน ก็เรือนแสงเหมือนกันแต่เป็นสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีแดงของอาชินสบตากับเสี่ยวจุนแล้วถึงกับตกตะลึง เพราะดวงตาสีดำของเสี่ยวจุนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม พลังที่ได้มาจากลูกแก้วที่แข็งแกร่งที่สุดใน 13 ลูกอาชินไม่อยากเชื่อว่าเสี่ยวจุนจะได้รับพลังจากลูกแก้วสีน้ำเงิน
     เสี่ยวจุนใช้มือซ้ายคว้าเสื้อของอาชินแล้วทุ่มร่างของอาชินแบบยูโด กระแทกลงกับพื้นปูนเต็มแรงจนมีรอยร้าวพอสมควร อาหลงอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น ในขณะที่คนอื่นกลับคิดว่ากำลังได้ดูมวยโชว์สดกันแล้ว อาชินไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดเขาหมุนตัวโดยใช้มือยันพื้น แล้วเหวี่ยงแข้งเตะที่ขาท่อนล่างของเสี่ยวจุน ซึ่งมันทำให้เสี่ยวจุนทรุดลงกับพื้นก่อนที่อาชินจะ เสิร์ฟด้วยลูกถีบบนใส่หน้าเสี่ยวจุนแต่อีกฝ่ายเอนตัวไปข้างหลังแทน   
     อาชินกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งซึ่งคราวนี้ตาเขาเป็นสีแดง และที่กำปั้นก็เรือนแสงเป็นสีเพลิงพร้อมลุยแล้ว เสี่ยวจุนถอดเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นกล้ามมัดๆหนาๆของตน ดวงตาของเสี่ยวจุนเป็นสีน้ำเงินและมือของเขาก็เรือนแสงเช่นกัน หากแต่เป็นสีน้ำเงินที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนรอบกำปั้น อาชินก็ถอดเสื้อออกบ้างเพื่อความถนัดในการต่อสู้ เสี่ยวจุนเดินออกมาเผชิญหน้ากับอาชินตรงกลางสวน ด้วยแสงแดดที่ส่องลงมาทำให้มองเห็นเด็กชายทั้งสองชัดเจน
     แน่นอนว่าฝ่ายอาชินเริ่มเปิดฉากเริ่มก่อนด้วยการ กระโดดฟาดส้นเท้าลงมาหวังจะให้โดนหัวแต่เสี่ยวจุนหลบทัน ก่อนยกขาเตะสูงสวนกลับทันควัน ขาของเสี่ยวจุนเกือบจะโดนหน้าของอาชินแล้วหากเขาไม่เอาแขนกันไว้ชะก่อน อาชินยังไม่ทันตั้งหลักได้นั้นเสี่ยวจุนก็พุ่งทะยานเข้า กระหน่ำกำปั้นขวา-ซ้ายใส่อาชินแต่บังเอิญว่า เขาปัดป้องได้ทันพอดีแต่อาชินพบว่ามันเป็นกลลวง เสี่ยวจุนต้องการให้อาชินสนใจปัดป้องท่าชก แต่เสี่ยวจุนใช้ท่าเตะล่างเข้าที่ขาซ้ายซึ่งอาชินทรุดเล็กน้อย แต่เขาไม่ยอมล้มและเอาหัวโขกใส่หน้าเสี่ยวจุนเต็มๆ จนเสี่ยวจุนนั้นแหละที่ต้องถอย
     "มันดีว่ะ ว่าแต่เสี่ยวจุนเป็นไรของมันว่ะ ของขึ้นหรือไง" เด็กชายข้างๆพูดขึ้น
     "เออนั้นดิ มาอารมณ์ไหนว่ะ" เด็กทอมบอยอีกคนเสริมด้วย
     เสี่ยวจุนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเอาจริงชะที อาชินรับรู้ถึงความคิดของเสี่ยวจุนผ่านโทรจิต เด็กชายจึงเตรียมการตั้งรับแต่ยังไม่ทันไร เสี่ยวจุนก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าอาชินโดยที่เขายังไม่ทันกระพริบตา เสี่ยวจุนกระหน่ำกำปั้นเป็นชุดเสมือนปืนกล M-60 ใส่อาชิน เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเสี่ยวจุนได้ เพราะมันรวดเร็วและรุนแรงมากแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่่า เขาจะปล่อยให้ตัวเองโดนฝ่ายเดียว อาชินเปร่งพลังพลังเนตรสุดขีดออกมา พลังของเขาเกิดเปลวไฟขึ้นเล็กน้อยทำให้บริเวณเกิดลุกไหม้ ผิวของเสี่ยวจุนโดนสะเก็ดไฟแต่มันก็ไม่ได้เกิดบาดแผลอะไร
     "เครื่องติดแล้วสินะ ได้ ! เข้ามาเลย" เสี่ยวจุนตะโกนเสียงดัง
     ทั้งคู่ไม่รอช้าพุ่งเข้าหากันโดยตั้งใจจะปิดยกนี้ให้ได้ แต่เมื่อกำปั้นทั้งสองสวนทางกันและมันก็กระแทกหน้าของกันและกัน อาชินกลับเหมือนถูกดูดเข้าไปในหัวของเสี่ยวจุน เขาเห็นทุกความทรงจำของเสี่ยวจุนทั้งหมด เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นแล้วทั้งคู่ก็กระเด็นไปคนละมุมของสวน อาชินทั้งจุกและมึนหัวมากแน่นอนว่าเสี่ยวจุนก็ไม่ต่างกัน เสี่ยวหลงเริ่มสำรวจรอบๆสวนแล้วตอนนี้มันเละเทะ ไปหมดผลจากการประทะเมื่อครู่ ส่งผลให้รูปปั้นที่ใช้ประดับสวนและม้าหินอ่อนหลายตัว พังกลายเป็นเศษหินไปเรียบร้อยแล้วซึ่งหากทั้งคู่ยังคิดจะสู้ต่อคงไม่ดี
     "มันเรื่องอะไรกัน" เสียงทุ่มใหญ่ของเด็กรุ่นโตดังขึ้นมาแต่ไกลแล้วฝ่าวงล้อมกลุ่มของอาเจี๋ยออกมา เสี่ยวจุนรีบทำความเคารพทันทีที่เห็นเจ้าของเสียงดังกล่าว อาชินเดาว่าน่าจะเป็นพี่น้องกันแต่ยังไงเขาก็ต้องเคารพด้วย เพราะอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ที่มาก่อน 
     หยางไป๋เฟย เป็นรุ่นพี่ที่โตที่สุดของบ้านมีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ของหยางเสี่ยวจุนอีกด้วย ปีนี้หยางไป๋เฟยกำลังจะอายุครบ 19 ปี นั้นแปลว่าเขาต้องย้ายออกจากบ้านนี้ เพราะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนั้นคือกฎของบ้านนี้ หยางไป๋เฟยมองสภาพของสวนแล้วพอจะเดา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เขาไม่ได้สนใจเสี่ยวจุนเท่ากับที่ เพ็งเล็งมาที่กลุ่มพวกอาเจี๋ยมากกว่า
     "เพื่อนทะเลาะกันแทนที่จะห้ามปรามกลับยืนมอง แม่อากิสอนพวกนายมาแล้วไม่ใช่เหรอพวกนายอยู่ที่นี้ กินข้าวหม้อเดียวกันฝึกอะไรต่างๆมาด้วยกันต้องรักกันและสามัคคีต่อกัน ทำไมแค่นี้กลับทำไม่ได้ !" หยางไป๋เฟยพูดเสียงลั่น ทำเอาพวกอาเจี๋ยแข็งทื่อไม่เว้นแม้แต่กับเสี่ยวจุนและอาชิน
     "ใช่ ! ถ้าจะสู้กันนะเวทีประลองที่ห้องใต้ดินก็มี ทำไมไม่ไปต่อยตรงนั้น" หยางซื่อหลานพูดเสริมขึ้น ซึ่งเขาก็โดนมะเหงกหัวเต็มๆซึ่งคนที่ทำก็ไม่พ้นหยางไป๋เฟย
     "ฟังให้จบก่อนได้ไหม ฉันหมายถึงว่าถ้าจะใช้กำลังกันนะให้ใช้สถานที่ที่เหมาะสมกัน เคลียร์กันเสร็จก็จับเข่าคุยกัน...นายดูนี่สิพังหมดแล้วอีแวนมาเห็นไม่ปลื้มแน่ๆ" หยางซื่อหลานอธิบายให้เข้าใจ
     หยางไป๋เฟยส่ายหน้าเล็กน้อยกับความคิดของน้องชายตัวเอง เขาเดินมาหาเสี่ยวจุนซึ่งเป็นเครืยญาติของตนเอง เท่าที่รู้จักกันมาเสี่ยวจุนไม่ค่อยชอบมีเรื่องชกต่อยหากไม่จำเป็น แต่ในขณะเดียวกับอาชินเองถึงหยางไป๋เฟยจะไม่ค่อยได้คุยมากเท่าไหร่ แต่กิจวัตรประจำวันของอาชินจะเน้นอยู่ที่ห้อง เพื่ออ่านหนังสือเตรียมตัวในการสอบเข้าหน่วยข่าวกรองลับ หรือพัฒนาโปรแกรมไมคอนต่อไปสองคนที่ไม่ได้มีนิสัยนักเลงมาต่อยกันเอง มันแปลกๆอยู่
     "ตั้งแต่แกสองคนย่างเท้าเข้ามา ฉันจำได้ว่าพวกแกไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไหงกลายเป็นว่ามาต่อยกันชะเอง เคลียร์กันหน่อยสิมีเรื่องบาดหมางอะไรกันถึงได้ต้องมาต่อยกันเองแบบนี้" หยางไป๋เฟยตั้งคำถามกับเด็กชายทั้งสองคน เหมือนพี่ถามน้อง
     "ผมก็แค่หมั่นไส้เท่านั้นแหละไม่ได้มีเหตุผลส่วนตัว ผมแค่ทำตามที่คิด...คนอะไรไม่รู้ทำดราม่าอยู่ได้" เสี่ยวจุนพูดและเหมือนประโยคจะจงใจให้อาชินได้ยิน แต่น่าแปลกเขากลับไม่แสดงท่าทีโกรธแต่อย่างใด ทำให้อาเจี๋ย อาหมิง และอาหลงประหลาดใจมาก                                   
     หยางไป๋เฟยขมวดคิ้วกับคำตอบของเสี่ยวจุนอย่างมาก แต่เมื่อมองตาของน้องชายแล้วเหมือนชายหนุ่มได้คำตอบ มาแล้วพร้อมกับยิ้มส่ายหน้าเบาๆ ตอนนี้เขารู้เจตนาของเสี่ยวจุนแล้วว่าทำไปทำไม เสี่ยวจุนหันไปมองอาชินอีกครั้งก่อนที่จะเดินจากไป อาชินในตอนนี้ที่เพิ่งไปเห็นอะไรบางอย่างมานั้น มันทำให้ไฟในใจเขาเกือบดับแต่ไม่ทั้งหมด แต่เขาก็อาจจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างแล้ว หยางไป๋เฟยจับไหล่อาชินเบาๆ
     "อย่าถือสาเขาเลยนะ ที่ทำไปเพราะนายคือพี่น้องของเขาเหมือนกัน... แยกย้ายกันได้แล้ว"
     อาเจี๋ย อาหมิง และอาหลงตัดสินใจเดินมาหาอาชินที่ยืนนิ่งอยู่ อาเจี๋ยรับรู้ได้ว่าตอนนี้เพื่อนเขาดูสงบๆลงมากกว่าตอนที่ กลับจากวิหารนกฟินิกซ์มา
     "ฉันคิดได้แล้วว่าจะทำยังไงต่อไป" อาชินหันมาทางพวกอาเจี๋ย
                                                
      
                                                             +++++++++++++++++++++++++                          

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา