นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
42.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
46) ตอนที่ 46 แขกจากต่างแดน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านท่านทูตอากิระ เวลา 09.03 น.
อาชินกำลังปรับปรุงโปรแกรมไมคอนและโปรแกรมAR-09 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกันมากขึ้นในรักษาความปลอดภัยมากขึ้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้พี่น้องของเขาบาดเจ็บสาหัสไปหลายคน หนึ่งในนั้นคืออาหลงที่เสียตาขวาไปและด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ท่านทูตอากิระนั้นกลับมาก่อนกำหนด ท่านเป็นผู้ลงมือรักษาพี่น้องของอาชินด้วยตัวท่านเอง แน่นอนว่าท่านทูตอากิระได้มีการสั่งปิดปรับปรุงบ้าน พร้อมสั่งให้อาชินเป็นคนลงมือสร้างระบบรักษาความปลอดภัย เพราะระบบเก่านั้นคงจะไม่ได้ผลอีกแล้ว เพื่อให้ไม่มีอะไรมารบกวนเขา ท่านทูตให้เขาได้ห้องทำงานใหม่ที่กว้างกว่าที่ห้องนอน โดยท่านบอกว่าห้องนอนมีไว้ให้พักผ่อน
นับว่าโชคดีมากๆในตอนที่เขาใช้โปรแกรมไมคอน แฮกเข้าไปซ้อนเข้าไปในระบบของอีกฝ่ายโดยเป้าหมายที่แท้จริง คือเขาให้โปรแกรมไมคอนปล่อยไวรัสติดไปกับข้อมูลที่เจ้าแฮกเกอร์คนนั้นเข้าไป เพราะโปรแกรมแฮกของอีกฝ่ายหากข้อมูลมีไวรัสมันจะทำการลบอัตโนมัติเอง นี้คือการคำนวณของอาชินจากการที่เขาเห็นโปรแกรมอีกฝ่ายต่อต้านโปรแกรมไมคอน ที่พยายามจะปลูกถ่ายไวรัสเอาไว้ ส่วนข้อมูลลับนั้นท่านทูตอากิระจะนำไปเก็บในที่ปลอดภัย ที่มีเพียงท่านเท่านั้นที่รู้
แม้ว่าอาหารจานโปรดจะอยู่ตรงหน้าแต่เขากลับไม่มีอารมณ์อยากกิน เท่าไหร่นักอาหลงที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นก็เดินมา ตบไหล่อาชินเบาๆเพราะไม่อยากให้คิดมาก ในวันที่อาหลงเสียดวงตาขวาไปนั้นท่านทูตอากิระได้สั่งทำตาปลอม แบบฉุกเฉินขึ้นเพื่อชดเชยดวงตาที่เสียไป แต่เนื่องจากมันกะทันหันเกินไป ตาปลอมที่ได้มามีสีแก่ๆขุ่นมัวเหมือนน้ําซาวข้าว อาหลงลองเอามาใส่ที่ตาขวาดูมันกลับดูไม่เข้ากับตาปกติเท่าไหร่ อาหมิงจึงแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าปิดตาข้างเดียว ให้อาหลงใส่แทนแต่ตาปลอมก็ยังอยู่ไม่ได้ถอดออก
"นายเลิกโทษตัวเองได้แล้ว เรื่องนี้นายไม่ผิดนะมันเป็นการตัดสินใจของฉัน ฉันพร้อมรับผลของมันอยู่แล้ว" อาหลงพูด
"แต่ตาของนาย.... "
"ฉันไม่เป็นไร อย่างน้อยๆฉันยังเหลือตาที่มองเห็นอีกข้างนะ อีกอย่างถ้าฉันไม่เสียสละเจ้าแฮกเกอร์นั้นก็คงได้ข้อมูลของแม่อากิ ไปแล้ว" อาหลงตัดบท ไม่นานนักก็มีบุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้นซึ่งนั้นคือ หวงซื่อเจียง เครือญาติของอาชินนั้นเองแต่อีกฝ่ายมาด้วยกายจิตแทน
"แม่อากิเรียกให้มาร่วมตัวนะ แม่บอกว่ามีเรื่องจะคุย" พูดจบหวงซื่อเจียงก็หายไปทันที
พวกอาชินจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรีบไปที่ห้องประชุมใหญ่ ซึ่งดันอยู่ข้างในลึกลงไปอีกเล็กน้อยอาชินก็ต้องเดินกินข้าวไป เพราะเอาเข้าจริงๆเด็กชายก็หิวพอสมควร ห้องประชุมตั้งอยู่ชั้นหนึ่งจุดประสงค์ของห้องนี้คือ ท่านทูตอากิระจะใช้อบรมนักเรียนที่จะเรียนเป็นนักการทูตในอนาคตซึ่งจะรับอายุ 18 ปี ขึ้นไปเท่านั้น แต่นานๆทีที่ท่านทูตอากิระจะเป็นผู้สอนอบรม เนื่องจากงานท่านเยอะมากส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือไว้ใช้พูดคุยกับลูกๆบุญธรรมของท่านนั้นเอง
อาเจี๋ยเป็นคนแรกที่เปิดประตูเข้าไปเขาเห็นพี่น้องคนอื่นๆพากัน หาที่นั่งเพื่อฟังท่านทูตอากิระจะพูดคุยเรื่องกิจธุระบางอย่าง เด็กชายทั้งสี่คนเลือกที่จะนั่งแถวหน้าเพื่อให้อาหลงมองเห็นได้ชัดเจน อาชินสังเกตได้ว่าพี่น้องหลายคนของเขาชื่นชมในความกล้า และความสามารถของเขามากจากเหตุการณ์วันนั้น เหมือนกับเขาได้รับการยอมรับมากขึ้นและแล้ว ท่านทูตอากิระซึ่งมาในชุดทำงานซึ่งท่านเดินมานั่งตรงหน้าเวทีโดยอีแวนเสิร์ฟน้ำชาให้ก่อนไป
"ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะ ปีนี้จะมีแขกบ้านแขกเมืองมาเยือนประเทศเรา และจะพำนักที่นี้ 5 ปี ฉันอยากให้พวกนายทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ฉันกับประเทศนี้ด้วย" ท่านทูตอากิระพูดเข้าประเด็น
"จะให้พวกผมทำหน้าที่อารักขาพวกเขาเหรอครับ" หยางซื่อหลานยกมือถาม
"เรียกว่าช่วยทหารคุ้มกันอีกแรงจะง่ายกว่า แต่สำหรับบอร์ดี้การ์ดฉันขอแค่สี่คนเท่านั้น"
ท่านทูตอากิระลุกขึ้นจากเก้าอี้และลงมาเพื่อทำการเลือกด้วยตนเอง แน่นอนว่าเด็กคนอื่นๆพร้อมใจกันก้มหน้ากันหมด แต่อาชินไม่ได้ก้มอาหลงจึงพยายามสะกิดให้เขาก้มหน้า แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะท่านทูตอากิระดึงตัวอาชินลุกจากเก้าอี้ แล้วให้อาชินยืนหน้าขอบเวที จากนั้นท่านทูตก็เดินไปตรงแถวที่ 8 ลากมาอีกสองคน และคนสุดท้ายอยู่แถวที่ 23 เป็นทอมบอยมายืนขอบเวทีกับอาชินแล้ว
"สี่คนนี้คือบอร์ดี้การ์ดที่ต้องทำหน้าที่คุ้มครองบุคคลสำคัญ นอกนั้นก็รู้หน้าที่นะภารกิจครั้งนี้มันเป็นการรักษาหน้าตาของประเทศ ทำให้ดีอย่าทำเสียเรื่องละ.... เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้แหละ ไปเตรียมตัวกันได้แล้ว"
ท่านทูตอากิระก็เดินออกจากห้องไปอาชินทำหน้างงๆอยู่ เขาไม่คิดว่าท่านจะเลือกเขามาทำหน้าที่นี้พวกอาเจี๋ยเดินมาหาเขา เสียงพูดคุยดังกันไม่หยุดถึงเรื่องการมาเยือนของแขกที่ว่านี้ สักพักประตูเปิดออกอีกครั้งซึ่งคราวนี้เป็นทหารยศพันตรี รูปร่างสูงกำยำ ผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า ผิวขาว พันตรีโรเบิร์ตนั้นเอง
"ทุกคนออกไปข้างแล้วจัดแถว ปฏิบัติเดียว !"
+++++++++++++++++++++++
สนามบินนานาชาติฟรอนร์เทียร์ เวลา 10.27 น.
ท่านทูตอากิระพร้อมอาชินและพี่น้องของเขาอีกสามคน ที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นบอร์ดี้การ์ดใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญ แต่ยังไงก็ตามอาชินรู้ร้อนเพราะแดดที่ส่องลงมา แม้ว่าจะมีร่มกางไว้แต่มันก็ยังร้อนอยู่ดีในใจก่นด่าว่า เมื่อไหร่จะมาสักทีเครื่องบินพลังงานหมดรึไง แต่เหมือนท่านทูตอากิระจะอ่านใจอาชินออก จึงหันมาเชิงตำหนิใส่เด็กชายทำให้เขาก้มหน้าสงบลงทันที สักพัก สุรสีห์ ชัยอนันต์ หรือ ล้าน ก็มาสะกิดตัวอาชินโดยล้านนั้นจะเตี้ยกว่าเขานิดหนึ่ง ล้านตัดผมรองทรงสีดำ ดวงตาสีน้ำตาล และผิวสีแทนเข้ม
"นายคิดว่าพวกเราต้องอารักขาใครว่ะ" สุรสีห์ถามอาชิน
เด็กชายไม่เข้าใจความคิดของท่านทูตอากิระว่านึกยังไงที่เอา เขากับเพื่อนอีกสามคนที่อายุแค่ 11 นั้นมาทำงานนี้ ระหว่างที่อาชินยืนเซ็งอยู่นั้นก็เห็นสิ่งผิดปกติที่เหมือนจะบดบัง แสงอาทิตย์เด็กชายจึงเงยหน้ามองเล็กน้อยก็ต้องตะลึงกับภาพ ที่อยู่ตรงหน้าเขาเห็นเหล่าม้ามีปีกหลายตัว กำลังบินลงมายังตรงที่พวกเขาอยู่และรอบๆม้ามีปีก ก็มีนักรบที่มีปีกสยายหลายคนอาชินจำไม่ผิด นี้คือ เผ่านักรบเทวา แห่ง อาณาจักรทานัค เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นตัวเป็นๆแบบนี้
ชายในชุดเกราะนักรบได้เก็บปีกแล้วเดินมาทักทายท่านทูตอากิระ อย่างเป็นมิตรซึ่งอาชินเคยเห็นจากในไฟล์ข้อมูล สักพักเพกาซัสก็ลากรถเกวียนลงมาจอดไม่ห่าง เหล่านักรบเทวาก็รีบไปเปิดประตูรถและหญิงสาวคนหนึ่ง ก็เดินลงมาจากรถเธอเป็นหญิงที่สง่างามมาก ผิวขาวสะอาด ผมสีทองอ่อน ดวงตาสีเขียวมรกต แต่ที่อาชินจับจ้องมิใช่หญิงสาวกลับเป็นเด็กหญิง ที่เดินจูงมือกันมาคาดว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกัน โดยเด็กหญิงคนนั้นน่าจะอายุรุ่นเดียวกับเขา เธอผิวขาวเหมือนแม่และมีดวงตาที่เหมือนแม่ทุกอย่าง เธอมาในชุดกระโปรงสีขาวราวไข่มุก เวลาเธอยิ้มจะมีลักยิ้มปรากฏที่แก้มขวาทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก
อาชินที่เผลอสบตาคู่นั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มองเขา เด็กชายกลับรู้สึกว่ากาลเวลาของโลกมันหยุดเคลื่อนไหว ทุกอย่างรอบข้างเขาเลือนลางหายไป มีแค่เธอกับเขาที่อยู่ตรงนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเธอกำลังเดินตรงมาทางเขาและเมื่อเธอมาหาท่านทูตอากิระ เธอก็มอบดอกไม้ช่อหนึ่งกับอีกฝ่าย ยิ่งได้เห็นระยะใกล้มากเท่าไหร่ยิ่งเห็นได้ชัดว่า เธอน่ารักมีเสน่ห์มากแค่ไหน
ระหว่างที่เด็กชายเอาแต่มองหน้าฝ่ายเด็กหญิง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของท่านทูตอากิระหมดแล้ว ซึ่งท่านไม่ทำอะไรนอกจากมีรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีต่อลูกชาย ที่กำลังจะได้เจริญวัยเติบโตขึ้นไปอีกเท่านั้น
++++++++++++++++++++++++++++++
อาชินกำลังปรับปรุงโปรแกรมไมคอนและโปรแกรมAR-09 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกันมากขึ้นในรักษาความปลอดภัยมากขึ้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้พี่น้องของเขาบาดเจ็บสาหัสไปหลายคน หนึ่งในนั้นคืออาหลงที่เสียตาขวาไปและด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ท่านทูตอากิระนั้นกลับมาก่อนกำหนด ท่านเป็นผู้ลงมือรักษาพี่น้องของอาชินด้วยตัวท่านเอง แน่นอนว่าท่านทูตอากิระได้มีการสั่งปิดปรับปรุงบ้าน พร้อมสั่งให้อาชินเป็นคนลงมือสร้างระบบรักษาความปลอดภัย เพราะระบบเก่านั้นคงจะไม่ได้ผลอีกแล้ว เพื่อให้ไม่มีอะไรมารบกวนเขา ท่านทูตให้เขาได้ห้องทำงานใหม่ที่กว้างกว่าที่ห้องนอน โดยท่านบอกว่าห้องนอนมีไว้ให้พักผ่อน
นับว่าโชคดีมากๆในตอนที่เขาใช้โปรแกรมไมคอน แฮกเข้าไปซ้อนเข้าไปในระบบของอีกฝ่ายโดยเป้าหมายที่แท้จริง คือเขาให้โปรแกรมไมคอนปล่อยไวรัสติดไปกับข้อมูลที่เจ้าแฮกเกอร์คนนั้นเข้าไป เพราะโปรแกรมแฮกของอีกฝ่ายหากข้อมูลมีไวรัสมันจะทำการลบอัตโนมัติเอง นี้คือการคำนวณของอาชินจากการที่เขาเห็นโปรแกรมอีกฝ่ายต่อต้านโปรแกรมไมคอน ที่พยายามจะปลูกถ่ายไวรัสเอาไว้ ส่วนข้อมูลลับนั้นท่านทูตอากิระจะนำไปเก็บในที่ปลอดภัย ที่มีเพียงท่านเท่านั้นที่รู้
แม้ว่าอาหารจานโปรดจะอยู่ตรงหน้าแต่เขากลับไม่มีอารมณ์อยากกิน เท่าไหร่นักอาหลงที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นก็เดินมา ตบไหล่อาชินเบาๆเพราะไม่อยากให้คิดมาก ในวันที่อาหลงเสียดวงตาขวาไปนั้นท่านทูตอากิระได้สั่งทำตาปลอม แบบฉุกเฉินขึ้นเพื่อชดเชยดวงตาที่เสียไป แต่เนื่องจากมันกะทันหันเกินไป ตาปลอมที่ได้มามีสีแก่ๆขุ่นมัวเหมือนน้ําซาวข้าว อาหลงลองเอามาใส่ที่ตาขวาดูมันกลับดูไม่เข้ากับตาปกติเท่าไหร่ อาหมิงจึงแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าปิดตาข้างเดียว ให้อาหลงใส่แทนแต่ตาปลอมก็ยังอยู่ไม่ได้ถอดออก
"นายเลิกโทษตัวเองได้แล้ว เรื่องนี้นายไม่ผิดนะมันเป็นการตัดสินใจของฉัน ฉันพร้อมรับผลของมันอยู่แล้ว" อาหลงพูด
"แต่ตาของนาย.... "
"ฉันไม่เป็นไร อย่างน้อยๆฉันยังเหลือตาที่มองเห็นอีกข้างนะ อีกอย่างถ้าฉันไม่เสียสละเจ้าแฮกเกอร์นั้นก็คงได้ข้อมูลของแม่อากิ ไปแล้ว" อาหลงตัดบท ไม่นานนักก็มีบุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้นซึ่งนั้นคือ หวงซื่อเจียง เครือญาติของอาชินนั้นเองแต่อีกฝ่ายมาด้วยกายจิตแทน
"แม่อากิเรียกให้มาร่วมตัวนะ แม่บอกว่ามีเรื่องจะคุย" พูดจบหวงซื่อเจียงก็หายไปทันที
พวกอาชินจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรีบไปที่ห้องประชุมใหญ่ ซึ่งดันอยู่ข้างในลึกลงไปอีกเล็กน้อยอาชินก็ต้องเดินกินข้าวไป เพราะเอาเข้าจริงๆเด็กชายก็หิวพอสมควร ห้องประชุมตั้งอยู่ชั้นหนึ่งจุดประสงค์ของห้องนี้คือ ท่านทูตอากิระจะใช้อบรมนักเรียนที่จะเรียนเป็นนักการทูตในอนาคตซึ่งจะรับอายุ 18 ปี ขึ้นไปเท่านั้น แต่นานๆทีที่ท่านทูตอากิระจะเป็นผู้สอนอบรม เนื่องจากงานท่านเยอะมากส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือไว้ใช้พูดคุยกับลูกๆบุญธรรมของท่านนั้นเอง
อาเจี๋ยเป็นคนแรกที่เปิดประตูเข้าไปเขาเห็นพี่น้องคนอื่นๆพากัน หาที่นั่งเพื่อฟังท่านทูตอากิระจะพูดคุยเรื่องกิจธุระบางอย่าง เด็กชายทั้งสี่คนเลือกที่จะนั่งแถวหน้าเพื่อให้อาหลงมองเห็นได้ชัดเจน อาชินสังเกตได้ว่าพี่น้องหลายคนของเขาชื่นชมในความกล้า และความสามารถของเขามากจากเหตุการณ์วันนั้น เหมือนกับเขาได้รับการยอมรับมากขึ้นและแล้ว ท่านทูตอากิระซึ่งมาในชุดทำงานซึ่งท่านเดินมานั่งตรงหน้าเวทีโดยอีแวนเสิร์ฟน้ำชาให้ก่อนไป
"ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะ ปีนี้จะมีแขกบ้านแขกเมืองมาเยือนประเทศเรา และจะพำนักที่นี้ 5 ปี ฉันอยากให้พวกนายทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ฉันกับประเทศนี้ด้วย" ท่านทูตอากิระพูดเข้าประเด็น
"จะให้พวกผมทำหน้าที่อารักขาพวกเขาเหรอครับ" หยางซื่อหลานยกมือถาม
"เรียกว่าช่วยทหารคุ้มกันอีกแรงจะง่ายกว่า แต่สำหรับบอร์ดี้การ์ดฉันขอแค่สี่คนเท่านั้น"
ท่านทูตอากิระลุกขึ้นจากเก้าอี้และลงมาเพื่อทำการเลือกด้วยตนเอง แน่นอนว่าเด็กคนอื่นๆพร้อมใจกันก้มหน้ากันหมด แต่อาชินไม่ได้ก้มอาหลงจึงพยายามสะกิดให้เขาก้มหน้า แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะท่านทูตอากิระดึงตัวอาชินลุกจากเก้าอี้ แล้วให้อาชินยืนหน้าขอบเวที จากนั้นท่านทูตก็เดินไปตรงแถวที่ 8 ลากมาอีกสองคน และคนสุดท้ายอยู่แถวที่ 23 เป็นทอมบอยมายืนขอบเวทีกับอาชินแล้ว
"สี่คนนี้คือบอร์ดี้การ์ดที่ต้องทำหน้าที่คุ้มครองบุคคลสำคัญ นอกนั้นก็รู้หน้าที่นะภารกิจครั้งนี้มันเป็นการรักษาหน้าตาของประเทศ ทำให้ดีอย่าทำเสียเรื่องละ.... เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้แหละ ไปเตรียมตัวกันได้แล้ว"
ท่านทูตอากิระก็เดินออกจากห้องไปอาชินทำหน้างงๆอยู่ เขาไม่คิดว่าท่านจะเลือกเขามาทำหน้าที่นี้พวกอาเจี๋ยเดินมาหาเขา เสียงพูดคุยดังกันไม่หยุดถึงเรื่องการมาเยือนของแขกที่ว่านี้ สักพักประตูเปิดออกอีกครั้งซึ่งคราวนี้เป็นทหารยศพันตรี รูปร่างสูงกำยำ ผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า ผิวขาว พันตรีโรเบิร์ตนั้นเอง
"ทุกคนออกไปข้างแล้วจัดแถว ปฏิบัติเดียว !"
+++++++++++++++++++++++
สนามบินนานาชาติฟรอนร์เทียร์ เวลา 10.27 น.
ท่านทูตอากิระพร้อมอาชินและพี่น้องของเขาอีกสามคน ที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นบอร์ดี้การ์ดใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญ แต่ยังไงก็ตามอาชินรู้ร้อนเพราะแดดที่ส่องลงมา แม้ว่าจะมีร่มกางไว้แต่มันก็ยังร้อนอยู่ดีในใจก่นด่าว่า เมื่อไหร่จะมาสักทีเครื่องบินพลังงานหมดรึไง แต่เหมือนท่านทูตอากิระจะอ่านใจอาชินออก จึงหันมาเชิงตำหนิใส่เด็กชายทำให้เขาก้มหน้าสงบลงทันที สักพัก สุรสีห์ ชัยอนันต์ หรือ ล้าน ก็มาสะกิดตัวอาชินโดยล้านนั้นจะเตี้ยกว่าเขานิดหนึ่ง ล้านตัดผมรองทรงสีดำ ดวงตาสีน้ำตาล และผิวสีแทนเข้ม
"นายคิดว่าพวกเราต้องอารักขาใครว่ะ" สุรสีห์ถามอาชิน
เด็กชายไม่เข้าใจความคิดของท่านทูตอากิระว่านึกยังไงที่เอา เขากับเพื่อนอีกสามคนที่อายุแค่ 11 นั้นมาทำงานนี้ ระหว่างที่อาชินยืนเซ็งอยู่นั้นก็เห็นสิ่งผิดปกติที่เหมือนจะบดบัง แสงอาทิตย์เด็กชายจึงเงยหน้ามองเล็กน้อยก็ต้องตะลึงกับภาพ ที่อยู่ตรงหน้าเขาเห็นเหล่าม้ามีปีกหลายตัว กำลังบินลงมายังตรงที่พวกเขาอยู่และรอบๆม้ามีปีก ก็มีนักรบที่มีปีกสยายหลายคนอาชินจำไม่ผิด นี้คือ เผ่านักรบเทวา แห่ง อาณาจักรทานัค เคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นตัวเป็นๆแบบนี้
ชายในชุดเกราะนักรบได้เก็บปีกแล้วเดินมาทักทายท่านทูตอากิระ อย่างเป็นมิตรซึ่งอาชินเคยเห็นจากในไฟล์ข้อมูล สักพักเพกาซัสก็ลากรถเกวียนลงมาจอดไม่ห่าง เหล่านักรบเทวาก็รีบไปเปิดประตูรถและหญิงสาวคนหนึ่ง ก็เดินลงมาจากรถเธอเป็นหญิงที่สง่างามมาก ผิวขาวสะอาด ผมสีทองอ่อน ดวงตาสีเขียวมรกต แต่ที่อาชินจับจ้องมิใช่หญิงสาวกลับเป็นเด็กหญิง ที่เดินจูงมือกันมาคาดว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกัน โดยเด็กหญิงคนนั้นน่าจะอายุรุ่นเดียวกับเขา เธอผิวขาวเหมือนแม่และมีดวงตาที่เหมือนแม่ทุกอย่าง เธอมาในชุดกระโปรงสีขาวราวไข่มุก เวลาเธอยิ้มจะมีลักยิ้มปรากฏที่แก้มขวาทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก
อาชินที่เผลอสบตาคู่นั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มองเขา เด็กชายกลับรู้สึกว่ากาลเวลาของโลกมันหยุดเคลื่อนไหว ทุกอย่างรอบข้างเขาเลือนลางหายไป มีแค่เธอกับเขาที่อยู่ตรงนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเธอกำลังเดินตรงมาทางเขาและเมื่อเธอมาหาท่านทูตอากิระ เธอก็มอบดอกไม้ช่อหนึ่งกับอีกฝ่าย ยิ่งได้เห็นระยะใกล้มากเท่าไหร่ยิ่งเห็นได้ชัดว่า เธอน่ารักมีเสน่ห์มากแค่ไหน
ระหว่างที่เด็กชายเอาแต่มองหน้าฝ่ายเด็กหญิง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของท่านทูตอากิระหมดแล้ว ซึ่งท่านไม่ทำอะไรนอกจากมีรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีต่อลูกชาย ที่กำลังจะได้เจริญวัยเติบโตขึ้นไปอีกเท่านั้น
++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ