นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
49) ตอนที่ 49 ความลับของตระกูลฟอร์ด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปราสาทตระกูลฟอร์ด เวลา 18.00 น.
อาชินมีโอกาสได้ติตตามท่านทูตอากิระมาร่วมงานวันเกิดครบอายุ 50 ปี ของคอร์แม็ก ฟอร์ดผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ซึ่งเลดี้แชริตี้ผู้เป็นภริยาก็จัดงานเลี้ยงค่อนข้างใหญ่โตพอสมควร และยังเชื้อเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือท่านทูตอากิระด้วยและท่านตัดสินใจพาเด็กในอุปการะมาด้วยเพียง 5 คน โดยที่อาชินเป็นหนึ่งในนั้นเขามาในชุดสูทสีดำผูกเนคไทสีดำ เสื้อทับในสีขาว อาหารการกินในงานเลี้ยงนั้นมีมากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นบุฟเฟ่ตักเองซึ่งอาชินก็เน้นๆคือข้าว มันบด เนื้อหมู ผักกากชิ้นเล็ก มานั่งกินแก้เซ็งก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงทักอันคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว
เมื่อเด็กชายหันไปมองข้างหลังได้พบกับเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันนานมาก เขาก็สวมกอดกันอย่างดีใจมากเพราะอาชินจำได้ว่านับแต่มาอยู่ที่นี้แทบไม่ได้ข่าวของเฟรมเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการได้พบกับเฟรมในงานเลี้ยงนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก ที่สำคัญอาชินยังพบว่าเฟรมนั้นเริ่มสูงกว่าเขาแล้วด้วยหากเทียบเมื่อก่อน เฟรมมาในชุดสูทสีฟ้ากับเนคไทสีกลมท่า ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือความทะเล้นของเพื่อนคนนี้ลดน้อยลง มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจนน่าใจหาย
"เลดี้แชริตี้เชิญครอบครัวนายมาเหรอ" อาชินถาม
"ใช่แล้ว ส่วนนาย..."
"แม่อากิให้มาเป็นเพื่อนนะที่จริงพาแค่ 4 คนนั้นก็พอแล้ว"
อาชินหันไปมองพี่น้องของตนที่กำลังตักอาหารกันอยู่ แต่ละคนก็มาทางสายกินทั้งนั้นเพราะตักหลายอย่างเหมือนกัน สักพักเฟรมก็สะกิดตัวเด็กชายแล้วชี้ไปทางขวามือที่ เลดี้แชริตี้ยืนเคียงข้างคอร์แม็กผู้เป็นสามีซึ่งถัดจากเธอมา ก็คงไม่พ้นแดเนียล ฟอร์ดที่มาในชุดสูทสีดำและผูกกระต่ายสีแดง สีหน้าของอีกฝ่ายไม่แสดงอารมณ์อะไรทั้งสิ้น อาชินยังคิดอยู่เลยว่าอีกฝ่ายตายด้านหรือเปล่า จนอยากอ่านใจอีกฝ่ายมากจริงๆ
สักพักก็มีแขกท่านหนึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมปีกสีขาว ลงมาก่อนที่จะหุบปีกเข้าที่เดิมซึ่งอาชินเดาได้ว่านี้คือ เซนไมเคิ้ลแห่งทานัค เขาเป็นนักรบที่ร่างสูงกำยำมาก ดวงตาสีเขียวมรกต ผมสีดำและผิวขาว ตามมาด้วยเด็กหนุ่มสองคนโดยลักษณะ คล้ายเซนไมเคิ้ลมากแต่ต่างตรงสีผมเท่านั้น ซึ่งอาชินเดาว่าน่าจะเป็น จอห์นนี่ กับ นิโคลัส ลูกชายคนโตกับคนรองของเซนไมเคิ้ลกับท่านหญิงซาบูน่า ด้วยเสน่ห์ออร่าความหล่อทำเอาสาวๆในงานต่างพากันหลงใหล
ถัดจากเซนไมเคิ้ลไปก็เป็นท่านหญิงซาบูน่าที่มาในชุดราตรีสีขาว ซึ่งเธอจูงมืออลิสเซียบุตรสาวมาด้วยโดยมาในชุดราตรีสั้นสีเทาคอกลมมีแขน และกระโปรงยาวกุมเข่าและบานเอวเข้ารูป เธอมัดผมแบบม้วนผมไว้และใช้ปิ่นปักผมเสียบไว้ ดูๆแล้วมันก็ดูน่ารักมีเสน่ห์อย่างมาก แต่ภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ปราสาททำให้อาชิน ไม่ค่อยพิศวาสอีกฝ่ายเท่าไหร่แต่ก็ไม่รู้ทำไม เหมือนกันว่าไอ้ที่หัวใจมันเต้นแรงผิดปกติจนน่ารำคาญมันเป็นอะไรกันแน่
คอร์แม็กเดินมาต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติด้วยตนเอง และอลิสเซียก็มอบซ่อดอกไม้กับกล่องของขวัญให้กับอีกฝ่าย พร้อมกับส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับแดเนียล ฟอร์ดซึ่งอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ ซึ่งอาชินก็ไม่เข้าใจว่่าอีกฝ่ายเป็นอะไร แต่เมื่ออลิสเซียเผลอหันหน้ามาเห็นเด็กชาย จากใบหน้าที่มีรอยยิ้มจางหายทันที กลายเป็นขมวดคิ้วใส่ในทำนองว่าเขามาทำอะไรที่นี้ อาชินเลือกที่จะปลีกตัวหนีดีกว่า
"ฉันกับสามีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ท่านเซนไมเคิ้ลมาร่วมงานครั้งนี้" เลดี้แชริตี้กล่าวอย่างตื้นตันใจ แต่อาชินกลับเห็นแววตาแสดงถึงความไม่พอใจบางอย่างจากตัวคอร์แม็ก ก่อนที่มันจะกลับมาปกติ
"ทางพวกข้าต่างหากที่ต้องเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาเสียด้วยช้ำ... โอ้ นี้บุตรชายของท่านรึ คอร์แม็ก"
เซนไมเคิ้ลเดินมาหาแดเนียล ฟอร์ดแล้วมองอย่างพินิจพิจารณา อาชินสังเกตว่่าสีหน้าของเลดี้แชริตี้กำลังพึงพอใจในบางอย่าง ในขณะที่ท่านหญิงซาบูน่าก็ดูจะเอ็นดูเด็กชายคนนี้เช่นกัน ส่วนอลิสเซียแสดงออกชัดเจนว่าจะปลื้มๆแดเนียล ฟอร์ดอยู่ ซึ่งมันทำให้อาชินเห็นว่าเลดี้แชริตี้นั้นยิ่งพอใจมากขึ้น จนเขานึกถึงคำพูดของเฟรมสมัยเด็กขึ้นว่า เฟรมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเธอเท่าไหร่นัก
เสียงบรรเลงเพลงก็ดังขึ้นมาโดยวงดนตรีคลาสสิก โดยเพลงที่เล่นนั้นเป็นเพลงที่ใช้สำหรับเต้นรำในงานแบบนี้ อาชินกับเฟรมกลับมานั่งโต๊ะกินอาหารดีกว่า แต่มันก็อด "เผือก" ไม่ได้ทำให้เด็กชายทั้งสองคนต้องหันกลับมามองอีกรอบ ด้วยพลังในการอ่านใจของอาชินทำให้เขาอ่านใจของเลดี้แชริตี้ออก เธอต้องการใช้แดเนียลลูกชายของตนเป็นเครื่องมือ ในการทำผลประโยชน์มันแทบไม่น่าเชื่อว่านี้คือความคิดของแม่คน
"แดเนียลทำไมลูกไม่ชวนคุณหนูอลิสเซียไปเต้นรำละ" เลดี้แชริตี้กล่าวกับอ่อนโยนกับลูกชาย แต่อีกฝ่ายไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ จนเมื่อเขาสบตากับคอร์แม็กผู้เป็นพ่อ ก็ทำให้เขาต้องตามน้ำแม่
"คุณหนูอลิสเซียจะมาเป็นคู่เต้นรำให้กับผมไหมครับ" แดเนียลกล่าวพร้อมยื่นมือออกมา
"ไม่ต้องเรียกคุณหนูก็ได้ค่ะ เรียกว่า ดรีม ก็ได้ค่ะ ที่จริงยังเต้นไม่เก่งมากยังไงก็ฝากตัวด้วยนะค่ะ" อลิสเซียพูดอย่างเขินอาย แต่อาชินทำหน้าหมั่นไส้อีกฝ่ายพอสมควร แต่ไม่รู้ทำไมในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดกับภาพตรงหน้า
ทั้งสองเดินจับมือมากลางลานเต้นรำแล้วก็เริ่มเต้นรำ ท่ามกลางเสียงเพลงที่บรรเลงออกมาผู้คนต่างมองดู คู่เต้นรำของทั้งสองมากกว่าจะมาเต้นรำกันเอง โดยสายตาของคนส่วนใหญ่คิดว่าทั้งสองเหมาะสมกัน แต่อาชินกลับหงุดหงิดไม่พอใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย และด้วยความที่เด็กชายเก็บอาการไม่อยู่ ทำให้ท่านทูตอากิระที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามเห็นชัดเจน ท่านส่ายหน้าอย่างเอ็นดูพลางคิดในใจว่าอายุแค่นี้เจอ "คู่" ชะแล้วรึ คงต้องรอให้โตกว่านี้หน่อยค่อยบอกละกัน
เมื่อทั้งสองคนเต้นรำเสร็จแล้วผู้ชมทั้งหมดพากันปรบมือ ยกเว้นอาชินที่ปรบมือแบบขอไปทีแต่แทนที่เสียงปรบมือจะจบ แค่นั้นกลับมีเสียงปรบมือที่เด่นกว่านั้นอีกคือ เสียงปรบมือสูงแหลมจนอาชินกับพี่น้องเขาอีก 4 คนปวดหูพอสมควร คนที่ปรบมือเป็นหญิงสาวที่แต่งตัวในชุดราตรีสีขาวกระโปรงยาวเปิดขาอ่อน และมีตกแต่งด้วยขนนกเล็กน้อยเธอใบหน้าขาว ลิปสติกสีแดงฉานเหมือนเลือดท่าทางมั่นใจมาก ไม่ว่าเธอคนนี้จะเป็นใครแต่ก็ทำให้เลดี้แชริตี้ไม่พอใจอย่างมาก
"เก่งมากเลยจ้าหลานรัก แบบนี้ค่อยสมกับเป็นลูกชายของคอร์แม็กกับเลดี้แชริตี้จริงๆ" เธอพูดจาจิกกัดอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ ทำเอาเลดี้แชริตี้จ้องหน้าแบบจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย
"ใครว่ะนั้น" อาชินกระซิบถามเฟรม
"นั้นนะเหรอ เธอชื่อ เลดี้วาเลนติน่า อดีตเพื่อนรักของเลดี้แชริตี้และอดีตคนรักของคอร์แม็ก ฟอร์ด" เฟรมกระซิบตอบ
เลดี้แชริตี้เดินมาเผชิญหน้ากับเลดี้วาเลนติน่าอย่างไม่พอใจ การมาเยือนของอีกฝ่ายนั้นรับรู้เลยว่าจงใจที่จะฉีกหน้าเธอ เพียงเพราะอยากแก้แค้นที่คอร์แม็กเลือกแต่งงานกับเธอ หลังจากนั้นมาเลดี้วาเลนติน่าก็ประกาศเป็นศัตรูกัน ก่อนจะไปแต่งงานกับ พันเอกเซียร์เกย์ มีฮาอิล ซีนอฟเยฟ และกำลังตั้งครรภ์ด้วย แต่ก่อนที่เลดี้แซริตี้จะพูดอะไรนั้นก็ปรากฏ หญิงสาวในชุดเดรสสีดำคอกลมกระโปรงเลยเข่า ผมสีดำสลวยยาวถึงหลัง ผิวขาวดวงตาสีดำแต่เศร้าสร้อยมาก
"หล่อนสองคนมาทำไม ฉันไม่ได้เชิญมา" เลดี้แซริตี้พูดขึ้น
"ผมเป็นคนเชิญมาเอง แล้วสามีของคุณละ" คอร์แม็กตัดบทโดยไม่สนใจสีหน้าของภริยาแม้แต่น้อย
"ออ สามีดิฉันมาไม่ได้นะค่ะแต่ได้ฝากของขวัญมาให้นะค่ะ" พูดจบเลดี้วาเลนติน่าก็ส่งของขวัญให้ ซึ่งคอร์แม็กก็รับมาแต่ที่เขาสนใจไม่ใช่เลดี้วาเลนติน่า แต่เป็นหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังของเธอไป ทำให้เลดี้แซริตี้ไม่พอใจอย่างมากที่อีกฝ่ายหักหน้าแบบนี้ เธอถึงกับกำมือแน่นจนอาชินเห็นเลือดซิบๆ
"ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวของเลดี้แซริตี้" เฟรมบอกกับอาชิน เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องถาม
"คนนี้เหรอเลดี้ซูซาน" อาชินพึ่งพำ
เลดี้ซูซานยื่นกล่องของขวััญให้กับคอร์แม็กแต่ถูกเลดี้แซริตี้ชิงแย่งไป พร้อมกับนำไปไว้กับโต๊ะกล่องของขวัญ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนพร้อมส่งสายตาใส่เลดี้ซูซาน เชิงว่า "นี้คือผัวฉันอย่าลำเส้น" เลดี้ซูซานไม่ตอบโต้งเธอแค่เดินเลี่ยงเท่านั้น ในขณะที่เลดี้วาเลนติน่าก็จับเข่าคุยกับคนอื่นตามประสาของเธอ แดเนียล ฟอร์ดแสดงท่าทีอึดอัดชัดเจนพอสมควร จึงเดินออกจากงานไปในทันที
"เฟรมเดียวมานะ ไปห้องน้ำแปป" อาชินพูด แล้วลุกจากเก้าอี้ทันที
อาชินเดินเข้ามาทำธุระในห้องน้ำเสร็จแล้วก็รีบล้างมือ แล้วรีบออกจากห้องน้ำเพราะไม่อยากให้ท่านทูตอากิระเป็นห่วง แต่เด็กชายก็ยังมีเดินลอยชายชมภาพวาดติดตามผนัง จะว่าไปแล้วในรุ่นเขาเองก็มีคนนามสกุลฟอร์ดเข้ามาสองคน น่าจะเป็นญาติกับแดเนียลแต่ไม่น่าจะสนิทกันเท่าไหร่นัก ระหว่างที่อาชินเดินเล่นภายในปราสาทอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นทำให้เด็กชายหลบมุม โดยอัตโนมัติ
"คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง.... ถึงได้เชิญศัตรูของฉันมาร่วมงาน" เสียงของเลดี้แซริตี้พูดขึ้น
"ศัตรูอะไร... ซูซานเป็นน้องสาวคุณและน้องสะใภ้ผมนะ" คอร์แม็กกล่าวอย่างเหนื่อยหน่าย
"น้องสะใภ้หรือเมียลับที่คุณยังอาลัยอาวรณ์กันแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ทุกความเคลื่อนไหวของคุณนะ คุณก็รู้นะว่าถ้าพ่อรู้ว่าคุณทำให้ฉันไม่พอใจจะเกิดอะไรขึ้น"
"พูดแบบนี้หมายความว่าไง" คอร์แม็กพูดอย่างไม่พอใจ
"อย่าลืมสิว่าที่คุณได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลเพราะฉันกับพ่อดัน แล้วการที่เด็กนั้นได้เป็นทายาทผู้นำคนต่อไปที่ถูกต้องของคุณ ฉันก็ใจกว้างแค่ไหนแล้ว.... ทางที่ดีช่วยทำดีกับฉันบ้างนะค่ะ คุณสามี"
อาชินเห็นว่าพวกเขาไปกันหมดแล้วถึงได้ค่อยๆแอบเดินออกมา บทสนทนาเมื่อครู่ทำเอาเด็กอึ้งอยู่ไม่มากก็น้อย นี้คือความจริงที่ตระกูลฟอร์ดปิดบังสังคมของเขา ความสัมพันธ์ของสามี-ภรรยาที่มันแตกแต่ต้องแกล้งทำเป็นว่ารักกัน ภาพที่เลดี้แซริตี้แสดงความรักต่อแดเนียลที่ใครๆคิดว่านี้คือลูกชายของเธอ ทุกอย่างล้วนปลอมทั้งสิ้นจนมันอดกลับมาคิดถึงตัวเองไม่ได้ ระหว่างแดเนียลที่ต้องอยู่ในครอบครัวมายาที่เห็นแดเนียลเป็นเพียงผลประโยชน์ หรือเขาที่ถูกครอบครัวปิดบังเรื่องการตายของพ่อแม่ตนเอง อันไหนมันนรกมากกว่ากัน เป็นคำถามที่ไม่มีวันได้คำตอบแน่นอน
++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ