นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  51 วิจารณ์
  73.16K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

60) ตอนที่ 60 ชดใช้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บ้านของกุลชาติ เวลา 08.24 น. (ปัจจุบัน)
หลังจากที่แท็กเล่าเรื่องราวในอดีตจบแล้วพบว่าบรรยายกาศแย่หนักกว่าเดิม เยาวลักษณ์แทบจะถอนคำพูดเมื่อครู่ไม่ทันเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด หมอณัฐฐาพยายามข่มอารมณ์หลังจากที่ได้ฟังแล้ว แต่คนที่สะเทือนใจที่สุดคือตัวของอรุณาเธอรู้สึกผิดต่อน้องชายที่ไม่ได้ไปยืนเคียงข้างเขาในช่วงเวลาที่จ่าสิบเอกสายลม ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปถึงสามคนและแท็กต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าไป อรุณารู้จักแฟรงกี้ คาวาซอสดีแต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของน้องสะใภ้ มันเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดของเธอ เพราะถึงแม้ว่าสามีจะล้มป่วยลุกเดินไม่ได้แต่อย่างน้อยครอบครัวก็ยังอยู่พร้อมหน้า หากเทียบกับจ่าสิบเอกสายลม
   มธุกรน้ำตาคลอเบ้าไปเรียบร้อยแล้วแม้ว่าเธอจะโดนเรื่องหนักๆมา แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีมธุสรผู้เป็นแม่อยู่เคียงข้างในขณะที่แท็กอาจไม่เคยรับรู้ไอกอดจากแม่เลยด้วยซ้ำ เด็กสาวกล่าวโทษตนเองที่ในเหตุการณ์นั้นในโรงยิมเธอไม่น่าพูดแบบนั้นใส่เขาเลย ส่วนสายป่านถึงแม้ว่าในสมัยตอนเด็กพ่อแม่จะหย่าร้างกัน แต่กุลชาตินั้นก็ดูแลเธอกับนุดาไม่เคยขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ดังนั้นมันทำให้เธอรู้สึกขอบคุณในความโชคดีที่มีอยู่
   "เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ทำไมไม่ติดต่อมาเลยละ" อรุณาพูดเพื่อกลบน้ำตาไม่ให้ไหล
   อรุณาเดินตรงมาตรงศาลาในสวนที่ใช้สำหรับนั่งเล่นของหลานสาวทั้งสอง ตอนนี้กลายเป็นที่นั่งมองริมคลองของจ่าสิบเอกสายลมไปเสียแล้ว เธอรับรู้ได้ว่าน้องชายของเธอนั้นมีอะไรอยู่ในใจแต่เลือกที่จะเก็บเอาไว้มากกว่าจะปลดปล่อยออกมา นี่แหละคือน้องชายที่คอยดูแลเธอมาเสมอซึ่งมันถึงคราวที่อรุณาต้องช่วยอีกฝ่ายบ้าง เธอเดินเข้ามาในศาลาแล้วนั่งอยู่ตรงข้ามกับจ่าสิบเอกสายลมและรอว่าอีกฝ่ายมีอารมณ์จะคุยกับเธอรึยัง
   "เดียวมันก็ได้เวลากินข้าวพี่ว่าเธอเข้าไปข้างในตัวบ้านเถอะ" อรุณาเป็นฝ่ายเกริ่นขึ้นก่อน
   "ผมว่าพี่นามีเรื่องอื่นที่อยากคุยกับผมมากกว่า แค่จะชวนไปกินข้าวด้วย" จ่าสิบเอกสายลมเข้าเรื่องตรงๆทันทีแบบไม่มีอ้อมค้อม อรุณาทำหน้าสีหน้าแบบถอนหายใจ นี่แหละค่อยดูเป็นน้องชายของเธอหน่อย
   "แล้วเธอจะคุยกับพี่แบบเปิดใจไหมสายลม" ทหารหนุ่มหันมามองหน้าพี่สาวของตนเอง
   "มันก็...ขึ้นอยู่ว่าพี่นาจะคุยเรื่องอะไร"
   "เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่พี่เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่จิมให้เธอฟัง แล้วเธอถามว่าทำไมพี่ไม่ส่งข่าวบอกเธอเลยและพี่ให้คำตอบไปแล้วนะว่าทำไม...ตาเธอบอกพี่บ้างว่าทำไมไม่ส่งข่าวมาบอก" อรุณาถามขึ้น
   "ก็คงคล้ายพี่ละมั่งตอนนั้นผมคิดว่าพี่นามีชีวิตที่ดีแล้ว ผมไม่อยากเรียกพี่กลับมาที่ที่พี่เคยบอกว่าเกลียดอยากไปไกลๆ.... อีกอย่างในตอนนั้นผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าพี่มีตัวตนด้วย" คำพูดของน้องชายทำให้อรุณาขมวดคิ้วทันที
   "พูดแบบนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังใช่ไหม"
   จ่าสิบเอกสายลมจึงตัดสินใจเล่าความจริงให้อรุณาฟังว่า หลังจากที่เรือเอกจิณณาวัฒน์เสียชีวิตไปได้ 10 วัน เขาพยายามสืบค้นหาถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของลูกชาย เรียกได้ว่าช่วงนั้นหมกหมุ่นมากและเขาไม่ไว้ใจใครหน้าไหนเลย แม้แต่กับพันเอกสตีเว่นส์เพื่อนสนิทที่คอยดูแลเรือเอกจิณณาวัฒน์ทุกอย่าง ในขณะที่เขาไม่เคยทำหน้าที่นั้นเลยแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไว้ใจใครไม่ได้ จนกระทั่งเขาพบต้นตอที่แท้จริงว่าสาเหตุที่ลูกชายกับลูกสะใภ้ถูกฆ่า เพราะทั้งคู่แอบล่วงรู้การทุจริตของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และการรับสินบนจากแก๊งอันธพาลมากมาย ร่วมทั้งแก๊งแมงป่องของแฟรงกี้ด้วยและที่มันทำให้จ่าสิบเอกสายลมในตอนนั้น ตัดสินใจครั้งสำคัญนั้นคือ จอมทัพวลาดีมีร์ ผู้นำสูงสุดในตอนนั้นรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย
   และด้วยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับสุภารักษ์ร่วมถึงคดีลอบยิงของร้อยโทอัครเดช ก็มาจากการถูกสั่งเก็บเพราะว่าร้อยโทอัครเดชระแคะระคายเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่จ่าสิบเอกสายลมได้ล่วงรู้คือเพื่อนคนนี้พบข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เกี่ยวกับคณะปฏิวัติใต้ดินที่พยายามวางแผนโค่นล้มรัฐบาลจอมทัพวลาดีมีร์ จ่าสิบเอกสายลมพยายามหาเบาะแสถึงแหล่งกบดานของคณะนี้ จนได้รู้ความจริงว่าพันเอกสตีเว่่นส์กับลูกชายของเขา เป็นตัวเต็งในคณะปฏิวัติซึ่งแน่นอนว่าเขาเข้าร่วมเพื่อทำหน้าที่นี่แทนเรือเอกจิณณาวัฒน์ และโชคดีอย่างหนึ่งคือในตอนนั้นแท็กถูกย้ายไปอยู่ในบ้านท่านทูตอากิระ ทำให้จ่าสิบเอกสายลมหมดกังวลเรื่องความปลอดภัย
    อรุณาที่นั่งฟังอยู่แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองซึ่งเธอก็เคยดูข่าวอยู่ เรื่องสงครามกลางเมืองในฟรอนร์เทียร์ที่ขับไล่รัฐบาลเก่าในตอนนั้นกินเวลานานอยู่ แต่เธอไม่คาดคิดว่าน้องชายของเธอนั้นจะอยู่คณะปฏิวัติด้วย อรุณายังจำได้อีกว่ามีช่วงหนึ่งที่มีข่าวจากที่นั้นมาว่ารัฐบาลใหม่สั่งประกาศกวาดล้างอิทธิพลมืดแบบเด็ดขาด นั้นย่อมแปลว่าแฟรงกี้ที่เป็นผู้ลงมือสังหารภรรยาของจ่าสิบเอกสายลมก็....
    "ไอ้แฟรงกี้มันตายก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ร่วมถึงพ่อมันด้วย" จ่าสิบเอกสายลมพูดเหมือนกับอ่านใจออกว่าพี่สาวตนคิดอะไรอยู่
    "สายลม.... เธอฆ่าเขาเหรอ" อรุณาถามแบบใจดีสู้เสือ
    "ไม่ใช่แค่มันคนเดียวพ่อสารเลวของมันด้วย"
    "อดัมเป็นคนฆ่าพ่อของเราพี่นา" อรุณาสะดุดทันทีเมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน
    ใช่ ! จ่าสิบเอกสายลมยังจำได้ดีในเหตุการณ์ที่คณะปฏิวัติประกาศสงคราม สิ่งแรกที่เขากระทำก่อนเลยคือไปคิดบัญชีกับแก๊งแมงป่องและแฟรงกี้ โดยตอนนั้นมีเขากับยุวชนทหารที่เข้าร่วมตามมาด้วย เขาจำได้ดีถึงรสชาติของการแก้แค้นได้ ภาพที่แฟรงกี้อยู่ในกำมือของเขา ภาพที่จ่าสิบเอกสายลมกระหน่ำซัดกำปั้นซ้าย-ขวาอัดเข้าหน้าแฟรงกี้ เลือดกระจายไปทั่วพื้นและเต็มหมัดทั้งสองข้างของเขา ซึ่งสุดท้ายแล้วยุวชนทหารสองนายตัดสินใจเข้ามาปรามเขาและจับแยกเขาออกจากแฟรงกี้ ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่ภายหลังแฟรงกี้ก็ซ้ำในตายคาโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
    ส่วนอดัม คาวาซอสพ่อของแฟรงกี้นั้นส่งลูกน้องมาถล่ม จ่าสิบเอกสายลมถึงบ้านแต่ทว่าเขาในตอนนั้นไม่อยู่ในบ้าน แต่อยู่ในบริเวณนั้นจึงจัดการซัดหมอบไปทั้งก๊กและเมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือของอดัม ทำให้เขาซึ่งในตอนนั้นกิติพงศ์์ก็ติดตามเขาไปที่ท่าเรือ ซึ่งมีคนรอต้อนรับกันอยู่แต่เขาก็จัดการกับลูกน้องทั้งหมดจนเข้าถึงตัวอดัม พร้อมกับได้ล่วงรู้ความจริงว่านายอดัมคือคนที่ลงมือฆ่าอนันต์พ่อของจ่าสิบเอกสายลม โดยอดัมสารภาพว่าอนันต์อมเงินหนี้สินที่ติดกับตนไว้ จึงไม่พอใจเลยจับอีกฝ่ายกรอกเหล้าเข้าปากพร้อมผลักอนันต์ลงคลองไป
    "เพราะแบบนั้นเธอเลยฆ่าเขาอีกคนเหรอ" อรุณายังอึ้งไม่หายกับเรื่องที่ได้ยินมา
    "ถ้ามันไม่ตายคามือผม มันก็โดนยิงเป้าตายอยู่ดีเพราะมันมีความผิดเรื่องสินบนข้าราชการ" จ่าสิบเอกสายลมตอบ
    "ผมจะไม่โกหกพี่นาว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไง ไอ้พ่อลูกระยำหมานั้นทำลายครอบครัวเรา มันฆ่าพ่อของเราสองคนแล้วลูกมันก็ฆ่าสุภารักษ์ แถมพินัยกรรมของพ่อมันก็ยึดไปด้วยทันทีที่มันสารภาพความจริง ผมโกรธมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ผมทำแบบเดียวกับที่ผมทำกับลูกชายของมัน แต่พี่นาไม่ต้องกังวลนะเพราะมันไม่ตาย"
    "บอกพี่ได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา"
    "เอาเป็นว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายใครได้อีกก็พอแล้ว" จ่าสิบเอกสายลมตอบแบบไม่ลงรายละเอียดมากนัก เท่านี้อรุณาก็รับรู้ได้ว่าน้องชายของเธอคงไม่อยากเล่าต่อ เพียงแค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าตลอดหลายปีที่ไม่ได้ติดต่อกันมา ทั้งเธอกับเขาต่างก็เจอเรื่องหนักมาพอๆกันไม่มีใครหนักกว่าใครมันต่างแค่คนละแบบเท่านั้น
    แต่อรุณารับรู้ได้ว่าจ่าสิบเอกสายลมยังปล่อยวางเรื่องในอดีตไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องสุภารักษ์หรือเรื่องของเรือเอกจิณณาวัฒน์ลูกชายของเขา ซึ่งมันก็ถูกต้องเพราะแม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแต่ความเสียใจกับความรู้สึกผิด แต่จ่าสิบเอกสายลมคิดว่าอย่างหลังน่าจะมากกว่าเขารู้สึกผิดต่อภรรยาของเขา ที่ละเลยหน้าที่ในฐานะพ่อเขาไม่เคยสนใจลูกชายเลย ขนาดแต่งงานเขาก็ไม่เคยมาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดคือครั้งสุดท้ายที่เขาได้คุยกับเรือเอกจิณณาวัฒน์ในบ้าน หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่พูดแบบนั้น อรุณายื่นมือมาจับมือจ่าสิบเอกสายลมเบาๆ
    "หยุดโทษตัวเองได้แล้วสายลม พี่เชื่อว่าพวกเขาให้อภัยเธอแน่นอนแต่เธอก็ต้องให้อภัยตัวเองด้วยเหมือนกัน" อรุณาพูดปลอบ
    "ผม.... ไม่พูดแบบนั้นใส่เขาพี่นา ถ้าผมห้ามเขาหรือไม่ก็ตามเขาไป อาจไม่เกิดเรื่อง" จ่าสิบเอกสายลมพูด
    "เธอทำอะไรกับอดีตไม่ได้แล้วนอกจากปัจจุบัน... ตอนนี้เธอยังมีแท็กอยู่นะ"
    "นั้นแหละที่ผมกำลังชดใช้สิ่งที่ผมผิดพลาดมาทั้งหมด" ระหว่างนั้นนุดาก็วิ่งเข้ามาหาอรุณาด้วยท่าทีร่าเริงตามประสาเด็ก เธอยังส่งยิ้มให้กับจ่าสิบเอกสายลมด้วย
    "คุณย่าค่ะพ่อให้มาตามไปกินข้าวค่ะ" นุดาพูด ซึ่งอรุณากับจ่าสิบเอกสายลมไม่พูดอะไรต่อนอกจากลุกจากศาลา เดินเข้าไปในบ้านโดยมีนุดาเป็นคนจูงมือนำทาง
 
 
 
                                                            ++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา