Concealing ( กำเนิดเร้นลับ )

-

เขียนโดย shilen

วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.01 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,134 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ทนาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ในตอนบ่ายของวันเดียวกันก็มีชายอายุเลยวัยกลางคนคนหนึ่ง   ถือเอกสารกองโตเข้ามาพบผม   เขาเป็นชายเลยวัยกลางคนไปแล้ว   แม้ผมจะกลายเป็นสีขี้เถ้าแต่ก็ยังแข็งแรง
 
น่าแปลกที่ชายคนนี้ดูคุ้นตาแต่จ้องอย่างไรก็นึกไม่ออกเสียที
 
“ สวัสดีผมเกรย์สัน   สมิธ ”
 
ชายคนนั้นว่าพลางยื่นมือมาให้สัมผัส
เป็นคำทักทายสั้นๆ
เหมือนจะวัดดูว่าผมจำอะไรได้บ้าง
 
และแน่นอนทุกอย่างเหมือนเริ่มต้นใหม่
ทุกอย่างว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
 
“ คุณจำไม่ได้   ผมเดาว่าต้องเป็นอย่างนั้นพวกเขาเตือนเรื่องนี้แล้ว   แต่ไม่เป็นไรเรายังมีเวลา ”
 
นายเกรย์สันว่า
เมื่อเห็นสีหน้ากระอักกระอวนของผม
 
เขาลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาข้างเตียง
แล้วนั่งไขว้ขาด้วยท่าทีผ่อนคลาย
 
“ ขอโทษด้วย   คุณเป็นใครครับ ”
 
ผมอดไม่ได้
ต้องเอ่ยถามออกไป
ชื่อเกรย์สัน   สมิธ ไม่คุ้นหูเอาเสียเลย
 
“ ผมเป็นทนายประจำตระกูลของคุณ   เราเคยเจอกันสองสามครั้ง   นั่นจึงไม่ประหลาดหากคุณจะจำไม่ได้   ยิ่งตอนนี้คุณไม่ปรกติด้วยแล้ว ”
 
“ ทนายประจำตระกูล   หมายถึงทนายส่วนตัวของผมน่ะหรือ ”
 
ผมรู้สึกงุนงง
เรื่องสำคัญแบบนี้ลืมไปได้อย่างไร
 
“ จริงๆ ผมเป็นทนายของพ่อคุณน่ะโจนาธาน   และผมก็ต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดในชีวิตของคุณด้วย ”
 
พ่อ
คำนั้นทำสมองของผมดังวิ๊ง
น่าตกใจที่ไม่เคยคิดถึงคนผู้นี้
 
และเมื่อทบทวนความจำ
ทุกอย่างกลับขาวสะอาดโล่งเตียนอย่างแท้จริง
ราวกับไม่เคยมีคนคนนี้ผ่านเข้ามาในชีวิต
 
“ เขาอยู่ไหนล่ะ   พ่อของผมน่ะเขาจะมาเยี่ยมผมหรือจะให้ผมไปพบเขาได้เมื่อไหร่ ”
 
ด้วยความเชื่อที่ว่านี่คือกุญแจสำคัญ
การได้พบเขาอาจช่วยฟื้นความจำในวัยเด็ก
ทำให้ผมต้องการแบบนั้น
 
ทนายคนนั้นกระแอมหนึ่งที
แล้วหยิบแฟ้มเอกสารปกดำขึ้นมา
 
“ ตอนนี้เรามีปัญหาหนึ่งพินัยกรรมของพ่อคุณหายไป   ทั้งที่มันมีสองฉบับ   ฉบับหนึ่งอยู่ที่บ้านอีกฉบับเก็บไว้ในสำนักงานของผมเอง   น่าประหลาดที่มันถูกโจรกรรมไปทั้งคู่   แต่อย่าห่วงเลยถึงอย่างไรผมก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก   เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ของคุณผมจะจัดการเอง   หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งผมจะเป็นคนดูแลคุณในกรณีที่คุณป่วยจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้   ซึ่งผมก็หวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นเพราะคุณดูดีขึ้นมากๆ ในทุกๆ วันรู้ไหมผมมาเยี่ยมตลอดตรงนอกประตูกระจกนั่น ”
 
“ เดี๋ยวๆ ”
 
ผมพูดสวนขึ้น
สมองพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดบางอย่าง
และเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเลย
 
“ คุณกำลังจะบอกว่าพ่อของผมเสียชีวิตแล้ว   เมื่อไหร่ยังไงกัน ”
 
มันเป็นความสูญเสียที่ประหลาด
ในความไม่รู้กลับมีความเจ็บปวดมากมายซ่อนอยู่
 
น่าประหลาดที่รู้สึกเจ็บแปลบ
กับคนที่แม้จะนึกหน้าก็ยังนึกไม่ออก
 
“ เกือบสามเดือนมาแล้ว   พวกคุณสองพ่อลูกไปเที่ยวบนบ้านพักตากอากาศบนเขา   ระหว่างทางกลับเกิดอุบัติเหตุรถไถลตกเขาตอนที่คนลงไปช่วยไม่มีใครคิดว่าจะมีคนรอดชีวิต   สภาพรถยับเยินมากต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่คุณยังอยู่ ”
 
ผมหลับตาพยายามนึกย้อนไป
แต่สิ่งที่เห็นมีแค่แสงไฟมากมายที่สาดส่องเข้ามา
ราวกับไฟหน้ารถหรือแสงสปอร์ตไลท์
 
“ ไม่ใช่การเฉี่ยวชนหรอกหรือ ”
 
ผมถามเพื่อความแน่ใจ
 
“ ไม่   ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุแล้วไม่มีร่องรอยแบบนั้น   พวกเขาเชื่อว่าเป็นการเสียหลักตกข้างทางธรรมดา   โชคร้ายที่ตรงนั้นเป็นหน้าผา ”
 
น่าแปลกที่ผมจำไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แล้วภาพแสงไฟมากมายนี่คืออะไร
 
แสงไฟในความทรงจำนั้นเจิดจ้า
จนต้องยกมือขึ้นปิดตาเอาไว้
 
“ ตำรวจบอกว่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก   พ่อของคุณถูกกระแทกอย่างแรงจึงเสียชีวิตในทันที   โดยไม่ทันได้เจ็บปวดอะไร ”
 
เขาปลอบใจด้วยถ้อยคำที่คุ้นเคย
พร้อมกับเอื้อมมือมาบีบไหล่
 
เสียชีวิตทันที
มันช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกดีขึ้นจริงๆ หรือ
ผมรู้สึกว่าไม่เลย
 
“ คุณรู้หรือไม่ใครเป็นคนขับรถในอุบัติเหตุครั้งนี้ ”
 
มันเป็นคำถามที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในหัว
และได้เอ่ยออกไปโดยไม่ยั้งคิด
เหมือนแค่อยากหาข้อแก้ตัวดีๆ ให้ตัวเองก็เท่านั้น
 
“ ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอกเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ”
 
ทนายเกรย์สัน   คนนั้นตอบเลี่ยงๆ
 
“ ตามปรกติแล้วเวลาอยากไปเที่ยวพักผ่อนพวกคุณก็ไปกันตามลำพังไม่มีผู้ติดตาม   แต่ด็อกเตอร์ดาวิล   ชาโด   เพิร์จ   อ้อผมหมายถึงพ่อของคุณน่ะเขาคุยโอ่ถึงคุณบ่อยๆ ถ้าได้พูดเรื่องการขับรถของคุณล่ะก้อทั้งวันไม่มีเบื่อ   ด็อกเตอร์ภูมิใจในตัวคุณมากเลยนะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคุณมันจะสำคัญเสมอ   อย่าคิดมากเลยอย่างน้อยมันไม่ได้มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่สูงจนอยู่ในขั้นอันตราย   รถไม่ได้วิ่งเร็วเกินไป   ทั้งหมดเป็นเหตุสุดวิสัยและคุณทำดีที่สุดแล้ว ”
 
มันเป็นคำปลอบใจที่ประหลาด
ดูเหมือนผมจะเป็นคนขับรถ
ให้ตายสิเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
 
รถตกไหล่เขา
ทั้งที่ไม่เมาและความเร็วไม่เกินมาตรฐาน
 
คุณพ่อเสียชีวิต
ผมเสียความทรงจำ
 
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
 
“ มันอาจจะดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น ”  
 
ทนายเกรย์สันว่า
เขาเปิดแฟ้มแล้วก้มอ่านข้อความบางอย่าง
เหมือนจะเป็นรายงานทางการแพทย์
 
“ กะโหลกของคุณมีรอยร้าวแต่ไม่ได้สร้างความเสียหายกับสมองมากนักนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง   ส่วนอีกสาเหตุมาจากสภาพจิตใจหากคนเราตกใจหรือเสียใจกับเรื่องบางอย่างที่รุนแรงและกะทันหันเกินไป   สมองอาจลบความทรงจำเหล่านั้นเพื่อลดแรงบีบคั้นไม่ให้ส่งผลกระทบในทางลบกับร่างกายมากเกินไป ”
 
ผมเผลอลูบหน้าตัวเอง
และพบว่ามือนั้นเย็นเฉียบ
 
“ ความทรงจำบางย่างลืมๆ ไปเสียบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก   วันข้างหน้ายังมีสิ่งใหม่ๆ น่าสนใจก็ยังอีกมาก   อย่าจมปลักกับอะไรที่เสียไปแล้ว   ผมอยู่ข้างคุณนะอย่ากังวลใจไปเลย   ยิ่งกดดันมันจะยิ่งแย่เอานะ ”
 
น้ำเสียงของเขาอบอุ่นน่าฟัง
 
“ ส่วนเรื่องที่แจ้งไปก่อนหน้า   เกี่ยวกับพินัยกรรมที่หายไปผมกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรัดกุม   เชื่อว่าอีกไม่นานต้องพบมันอย่างแน่นอน   แต่ไม่ต้องคิดมากค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมจัดการณ์ได้   และหากเราหาพินัยกรรมนั่นไม่พบจริงๆ มันก็มีวิธีการอื่นๆ ที่จะจัดการเรื่องนี้อย่างแน่นอน ”
 
ไม่ว่าจะอย่างไร
ผมไม่เข้าใจสักนิด
ราวกับกำลังฟังเรื่องราวของคนอื่น
ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา