Fant World ฝ่าวิกฤตพิชิตโลกต่างมิติ
เขียนโดย Myrashan
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 07.47 น.
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 12.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ตอนที่ 11 ฉายาแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซีคยืนทำท่าเกาหัวเขินอายในท่ายืน มองหน้าสมิธแล้วยิ้ม
“ส่วนมากจะนอนสลบไสลจนจำอะไรไม่ค่อยได้เลยครับ ว่าแต่ว่า พอเลเวล 20 แล้วสามารถไปเมืองถัดไปโดยให้ผู้เฒ่าหมู่บ้านส่งตัวไปได้ เมืองนั้นเป็นเมืองแบบไหนครับ ไกลมากไหม เราต้องเตรียมอะไรไปเป็นพิเศษหรือเปล่า”
ซีคถามสมิธเกี่ยวกับเรื่องของเมืองถัดไป เขานั่งลงบนเก้าอี้เพื่อรอฟังคำบอกเล่าที่สมิธอาจจะบอกอะไรดี ๆ ให้กับเขา
“นั่งฟังเลยเรอะ ถ้ายังงั้นคงต้องนั่งเล่าแล้วล่ะ”
สมิธนั่งลงกับเก้าอี้ตรงกันข้ามคนละฟากโต๊ะกับซีค
“เมืองที่ท่านผู้เฒ่าจะส่งคนไปคงเป็นเมืองหลวงอรัมดราแน่ ๆ ที่นั่นมีคนเก่ง ๆมากมายทั้งนักสู้ นักรบ นักการค้า มีทั้งนักเวทย์ระดับสูง นักเล่นแร่แปรธาตุระดับ 6-8 มีเต็มไปหมด กฎเกณฑ์ที่นั่นไม่ยาก แค่อย่าทำผิดกฎหมาย เพราะว่าทหารไม่ค่อยธรรมดา แค่พวกเดินตรวจตราชาวบ้านก็ไม่ธรรมดาแล้ว ปกติทหารพวกนั้นจะเดินตรวจตรากลุ่มละ 9 นาย พลทหาร 8 นาย มีนายทหารอีก 1 นาย”
ซีคสงสัยว่าไม่ธรรมดายังไงจึงถาม
“ไม่ธรรมดายังไงหรอครับ ทำไมต้องหวั่นขนาดนั้น”
สมิธมองหน้าซีค ถอนหายใจแล้วพูด
“เฮ้อ ก็พลทหารทั้ง 8 คนเลเวลจะอยู่ที่ 600 ขึ้นไป ส่วนนายทหารยศหมู่จะเลเวล 700 ขึ้นไป จ่าจะเลเวล 750 ขึ้นไป พอเป็นขุนจะต้องเลเวล 800 เป็นอย่างน้อย อีกทีนึงคือระดับแม่ทัพและรองแม่ทัพเลย หากใครมีเลเวลที่ 1,000 ”
ซีคได้ยินที่สมิธเล่าจึงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และถามเรื่องอื่นเพิ่มเติม
“แล้วถ้าจะตีสนิทกับคนในวัง ควรทำยังไง แล้วเข้าทางใครดีครับ ถ้ามีคนข้างในคอยช่วยเหลือ คงไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง”
สมิธหัวเราะดังลั่นชอบใจในความคิดของซีค
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ เจ้านี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ ทางแรกเจ้าจงหาอาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้เจ้าที่เป็นคนในวัง ทางที่สองเจ้าแค่สมัครเป็นทหาร ทางที่สามทำการค้าแล้วให้วังหลวงได้รับผลประโยชน์มาก ๆ ทางที่สี่เปลี่ยนเป็นราชนิกุลซะ”
ซีคฟังแล้วรู้สึกว่าไม่น่าจะยากมาก เขาจึงวิเคราะห์
“ทางแรกหาอาจารย์ในนั้น ถ้าเราไม่มีแวว เขาก็คงไม่อยากได้เรานะครับ ทางที่สองต้องเป็นทหาร อันนี้เสียอิสระ แถมยังต้องเลเวล 600 ขึ้นไป ไม่น่าไหม ข้อที่สามอันนี้น่าสนใจ ทำการค้าให้เงินเข้าคลังหลวงเยอะ ๆ และข้อสุดท้ายนี่พีคมากเลยนะครับ ต้องไปจีบเชื้อพระวงศ์ ไม่ก็รวบหัวรวบหางองค์หญิงซะ แบบนี้โอกาสตายสูงเกินไปนะครับ”
ซีคทำท่าทางคิ้วกระตุก ส่วนสมิธนั่งหัวเราะลั่นร้านเลยทีเดียว
พอคุยกันรู้เรื่องแล้ว ซีคได้ขอตัวไปหาผู้เฒ่าของหมูบ้านเพื่อฟังรายละเอียดในการไปเมืองหลวงอรัมดรา
“ถ้ายังไงผมขอตัวไปหาผู้เฒ่าก่อนนะครับ”
พูดจบสมิธพยักหน้า ซีคจึงลุกขึ้นเดินไปยังตำแหน่งที่ผู้เฒ่าหมู่บ้านอยู่ เดินไปครู่เดียว เขาได้ไปถึงบ้านเล็ก ๆ กลม ๆ ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร
“ขอโทษนะครับ..บ..บ มีใครอยู่ไหมครับ”
“เอ้อ ๆ มีอยู่ ใครมารึนี่”
เสียงชายแก่คนนึงตอบกลับมา ฟังจากน้ำเสียงแล้วราวกับว่าคนอายุมากกว่า 90 ปี พอเขาเดินออกมาจากบ้านของเขา ซีคได้เห็นชายแก่คนนึงอายุราว 100 ปี หลังค่อม ผมและหนวดเคราเป็นสีขาว ใช้ไม้เท้าในการค้ำยันกันล้มตอนเดิน
“เอ้อ เจ้าหนุ่มน้อยนี่เอง เจ้ามีธุระอะไรงั้นรึ ถึงมาหาข้าที่นี่”
ผู้เฒ่าถามซีค ขณะพูดท่านผู้เฒ่าได้ผงกหัวอยู่ตลอดเวลา น่าจะเพราะอายุที่มากแล้วจึงมีอาการเช่นนั้น
“ครับท่านผู้เฒ่า พอดีว่าผมอยากจะไปเมืองถัดไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าช่วยส่งตัวไปหน่อยได้ไหมครับ”
ซีคได้พูดถามกับท่านผู้เฒ่า ท่านผู้เฒ่าร่ายเวทย์ลำแสงสีฟ้าใส่ซีค ก่อนที่ท่านผู้เฒ่าจะหัวเราะขึ้นเสียงดัง
“โฮ่ ๆ ๆ ไม่เหมาะ ๆ เจ้านี่ไม่เหมาะกับนักรบเท่าไหร่นะ ถ้าเป็นนักเวทย์เจ้าจะไปได้ไกล แต่เลือกเส้นทางนี้เจ้าจะต้องอายุสั้นเป็นแน่”
ผู้เฒ่าพูดทักซีค ระหว่างพูดเขาจับหนวดเคราอันยาวของเขาลูบลงเหมือนคนไว้หนวดของจีนชอบทำ แต่คำทำนายของเขาทำให้ซีครู้สึกสงสัยข้องใจ
“ท่านผู้เฒ่า ทำไมท่านถึงพูดเช่นนี้ ทักว่าข้าจะอายุสั้น ท่านมองเห็นชะตากรรมในอนาคตของข้างั้นรึ”
“เจ้าหนุ่มเอ้ย คนเราหนีชะตากรรมของตัวเองไม่พ้นหรอกนะ ในอนาคตเจ้าจะเป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียง แต่เจ้าจะตายก่อนวัยอันควรเป็นแน่แท้”
ผู้เฒ่ายังยืนยันว่าเห็นอนาคตของซีคเช่นนั้น ทำให้ซีคเริ่มสงสัยแล้วมีการฉุกคิดในใจขึ้นมาหลายอย่างหลายเรื่อง
“ที่ตัวละครมองเห็น เป็นตัวเราหรือตัวละครในเกมล่ะ ถ้าเป็นชีวิตจริงอาจจะเป็นเพราะมีคนรู้ว่าใครคือผู้เล่นซีค แต่ถ้าเป็นในเกมแสดงว่าซีคจะอยู่ได้ไม่นาน”
ซีคก้มหน้าเล็กน้อยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้เฒ่า
“ท่านผู้เฒ่าช่วยส่งข้าไปยังเมืองถัดไปได้หรือเปล่าครับ ผมต้องการแข็งแกร่งกว่านี้เพื่อทำการบางอย่างครับ”
ผู้เฒ่ายังคงลูบไล้หนวดตนเองอีก 3 ครั้งดูเหมือนกำลังคิดอะไรให้ซีค พอเหมือนคิดออก ท่านผู้เฒ่าได้พยักหน้าช้า ๆ อีก 3 ครั้ง
“เอาล่ะ ๆ ถ้าเจ้าอยากจะไปจริง ๆ เจ้าต้องไปกวาดล้างพวกงูตัวร้ายให้หมู่บ้านเสียก่อน เอาสัก 1,500 ตัวละกัน โฮ่ ๆ ๆ ๆ ”
ซีคจึงรับภารกิจแล้วเดินออกจากหมู่บ้านเพื่อไปกวาดล้างงูทั้งหลาย ด้วยจำนวนที่ต้องจัดการอย่างมหาศาล เขาจึงรีบตรงไปล่างูทันที
ซีคตรงไปจัดการอนาคอนดาหูกระต่ายทันที มอนสเตอร์ตัวนี้มีเลือดค่อนข้างเยอะจึงทำให้การจัดการต้องใช้เวลานาน เขาฆ่าไปได้ 402 ตัว ไอเทมดร็อปเฉพาะของอนาคอนดาหูกระต่ายพึ่งจะดร็อป เป็นไข่อนาคอนดา เขารู้สึกว่ามันตกยากมากจึงคิดว่าต้องดีมาก ๆ เขาจึงล่าอนาคอนดาหูกระต่ายต่อไป
เมื่อครบจำนวนตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ได้มีภารกิจใหม่แจ้งเตือนขึ้นมาในระบบเกี่ยวกับการบรรลุฉายา
“มีภารกิจใหม่ขึ้นมา ภารกิจฉายาหรอนี่ มันเขียนว่า ให้กำจัดมอนสเตอร์เผ่างูที่หมู่บ้านซูซางจำนวน 5,000 ตัวเพื่อบรรลุฉายานักล่างู (ขั้นต้น) ระยะเวลาในการทำภารกิจคือภายใน 360 นาที แบบนี้ก็คือ 6 ชั่วโมง รายละเอียดฉายาคือเมื่อสร้างความเสียหายต่อเผ่างู ความเสียหายที่ทำได้จะเพิ่มขึ้น 5% น้อยมากเลย แต่ถ้าท้ายเกมจะถือว่าแรงเลยทีเดียว งั้นกดรับแล้วลุยเลยละกัน เอามันทุกงูเลย ถ้าดูท่าจะไม่ทันค่อยไปฆ่างูที่อ่อน ๆ แต่ตอนนี้หาไอเทมดร็อปไว้ใช้งานก่อนละกัน”
ซีคเริ่มลงมือเล่นงานอนาคอนดาหูกระต่ายต่อหลังกดรับภารกิจทำฉายา ขณะนี้เขาเลเวล 25 มีพลังโจมตีจากง้าว 150 พลังโจมตีแรกเกิด 200 และพลังโจมตีจากการเลเวลอัพของนักทวนอีก 1,800 ได้จากเลเวลอัพอีก 360 รวมพลังโจมตีของซีค 2,510 เพราะเขาอัพสเตตัสไปที่พลังป้องกัน ความแม่นยำ ความคล่องตัว และดวง ไม่เคยอัพพลังโจมตีเพิ่มเลย แต่นักทวน/ง้าวมีพลังทำลายมหาศาลอยู่แล้ว
การโจมตีธรรมดาของซีค สร้างความเสียหายต่ออนาคอนดาหูกระต่ายราว ๆ 1,000 หน่วย เขาใช้การโจมตีแล้วหลบหลีกการโจมตีไปในตัว ทำให้โจมตี 3 ครั้งก็ได้คูณดาเมจ 1.5 เท่าของสกิลง้าว ทำให้ซีคใช้เวลาในการจัดการอนาคอนดาหูกระต่ายตัวนึงแค่ 6-7 วินาที แต่ก็ต้องใช้เวลาในการวิ่งไปหาตัวใหม่ด้วย ถ้าหากคมเขี้ยวสีทองรีแล้วจะสามารถไปถึงเป้าหมายได้ทันที ทำให้เวลาเฉลี่ย 2 นาทีซีคสามารถจัดการกับอนาคอนดาหูกระต่ายได้ 11 ตัว หากเขาใช้เวลาทั้งหมดในการกับอนาคอนดาหูกระต่าย เขาจะล่าได้ประมาณ 2,000 ตัวเท่านั้น
เวลาผ่านไป 57 นาที ซีคได้เปลี่ยนเป้าหมายไปตีงูเหลือมหัวโตเพื่อหาหนังงูเหลือมแทน ซึ่งตอนนี้เขาได้ไข่อนาคอนดามาถึง 4 ลูกแล้ว ในเวลา 2 นาทีเขาสามารถจัดการกับงูเหลือมหัวโตได้ถึง 20 ตัวเขาจึงรีบจัดการกับมันให้เร็วที่สุด ถ้าเขาใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดในการล่างูเหลือมหัวโต เขาจะได้ประมาณ 3,000 ตัว รวมกับอานาคอนดาหูกระต่ายอีก 330 ตัว ทำให้ขาดอีกเกือบ 1,700 ตัว
“ไม่ทันแน่ ๆ อย่างไวสุดเราคงทำได้ 3,500 ตัว เอาไงดีเอริน่า มีความเห็นในการเคลียร์เควสนี้ไหม ดูแล้วน่าจะตึง ๆ นะ”
ซีคเริ่มกังวลจึงปรึกษากับเอริน่า
“แค่ 3 ชั่วโมงสุดท้ายไปฟาร์มงูเขียวเขี้ยวทอง แค่นี้ก็สามารถเคลียร์เควสนี้ได้แล้วค่ะ เนื่องจากงูเขียวเขี้ยวทองมีเลือดแค่ 1,500 หน่วย พลังป้องกันก็ไม่ได้มาก เอริน่าคำนวณดูแล้วนายท่านสามารถจัดการมันได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว แต่ตั้งโจมตีให้โดนเต็ม ๆ คมง้าวหน่อยนะคะ ไม่ว่าจะฟันหรือแทงก็ได้ ส่วนครั้งที่คูณกับตอนใช้สกิลแน่นอนว่ายังไงก็ตายค่ะนายท่าน เดี๋ยวเอริน่าจะเตือนเรื่องเวลาให้นะคะ”
ซีคได้ยินแบบนั้นจึงสบายใจขึ้นมากแล้วกล่าวขอบคุณกับเอริน่า
“ขอบใจมากนะเอริน่า ช่วยได้มากจริง ๆ ”
“เป็นหน้าที่ของเอริน่าอยู่แล้วค่ะ”
ซีคได้ฟาร์มเก็บหนังงูเหลือมไปเรื่อย ๆ เมื่อรวมกับของเดิมที่มีอยู่แล้วจึงมีทั้งหมด 400 ชิ้น พอได้จำนวนนี้เขาหยุดฟาร์มงูเหลือมหัวโตแล้วหันไปฟาร์มงูเขียวเขี้ยวทองทันที
“คุณภาพของเขี้ยวงูเขียวเขี้ยวทองเป็นแค่คลาสทั่วไปก็จริง แต่ความแข็งของมันมากกว่าเหล็กหลายเท่าเลยนี่สิ ตุนไว้เยอะ ๆ ก็ดีนะ แถมเป็นสีทองอีก คิดว่าต่อไปมันต้องได้ใช้งานแน่ ๆ หึ ๆ ๆ ”
ซีคได้คิดเผื่อวันข้างหน้าแบบลวก ๆ เดาสุ่มแล้วหัวเราะในลำคอแถมมีสีหน้าแปลก ๆ ออกแนวไปทางตัวร้ายมากกว่า
เวลาผ่านไปรวม 5 ชั่วโมงครึ่งหลังจากที่กดรับภารกิจฉายานักล่างู (ขั้นต้น) ซีคได้เคลียร์ภารกิจสำเร็จแล้วได้รับฉายานักล่างู (ขั้นต้น) เป็นที่เรียบร้อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ