เวททายาทกับตราอักขระรักแท้

-

เขียนโดย JJEiJiSama

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.55 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  1,956 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2 พ่อบ้านคนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     หลังจากที่เฟลิเซีย แม่บ้าน เมอริสได้กลับมายังคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว เหล่าแม่บ้านคนอื่นๆต่างรีบมารับตัวคุณหนูและแม่บ้านที่ได้รับบาดเจ็บไป ต่างวิตกกังวลแตกตื่นเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ได้ถูกลือไปทั่วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
     ‘‘คุณหนู ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ?’’   แม่บ้านคนที่1 ถามด้วยความลน
     ‘‘โอ ไม่นะ ชุดของคุณหนูมีรอยเลือดสกปรกแล้วนะคะ ขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดดีกว่านะคะ’’  แม่บ้านคนที่ 2 กล่าวด้วยความวิตกกังวล
     ‘‘ว่าแต่คนนั้นเป็นใครหรอคะ?’’  แม่บ้านอีกคนนึงถาม สายตามองไปที่เมอริสที่กำลังปีนออกจากท้ายรถ
     หลังจากที่เมอริสออกจากท้ายรถ เขาเลือกที่จะอยู่นิ่ง เขายืนห่างจากประตูบ้านประมาณ 5เมตร เขามองคุณหนูและแม่บ้านคนที่บาดเจ็บอยู่ เขาอยากเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล แต่เนื่องจากที่ลักษณะภายนอกของเขาดูสกปรกและโทรมรวมถึงมีกลิ่นเลือดที่แรงมากเกาะตามเสื้อผ้าและเลือนร่างของเขา ทำให้แม่บ้านเหล่านั้นต่างมองเขาด้วยสายตาอันเหยียดหยาม รวมถึงจะไม่อนุญาตให้คนแบบนี้ย่างกายเข้ามาในคฤหาสน์แบบนี้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
     ‘‘คุณหนูคะ คุณหนูพาใครมาที่นี่หรอคะ คนๆนี้มันดูแล้วน่ากลัวเกินไปนะคะ’’  แม่บ้านถามด้วยความระแวงไม่ไว้ใจ
     ‘‘เดี๋ยวหนูค่อยเล่าให้ฟังนะ’’  เฟลิเซียตอบ
     จากนั้น เฟลิเซียจึงไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนแม่บ้านคนที่บาดเจ็บอยู่นั้นได้รับการปฐมพยาบาลช่วยเหลือและนอนพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว เฟลิเซียได้ใช้เวลาทำการเล่าเรื่องทุกอย่างให้เหล่าแม่บ้านทั้งหมดฟัง  และในระหว่างนั้นเองเมอริสได้ทำการหาทางเข้าคฤหาสน์ทางประตูหลังซึ่งเป็นประตูที่เปิดอยู่ แล้วมีทางผ่านเป็นห้องเก็บของ ห้องเก็บอุปกรณ์งานทำสวน และมีประตูบานอื่นที่เชื่อมไปยังห้องอื่นๆในตัวคฤหาสน์ชั้นล่าง จากนั้นเขาจึงได้ลงไปยังชั้นใต้ดินเพื่อที่จะหนีสายตาจากเหล่าแม่บ้าน เขาเกรงว่าหากแม่บ้านคนใดคนนึงเข้ามาเห็นล่ะก็ เขาจะต้องถูกไล่ออกไปแน่ๆ
     ‘‘เอ๊ะ ห้องนี้มัน ห้องพักคนงานหรอกหรอ?’’  เมอริสเห็นประตูห้องๆหนึ่งเปิดแง้มอยู่
     เขาลองเข้าไปสำรวจห้องๆนั้น ภายในห้องนั้นมีขนาดค่อนข้างแคบมากๆเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกลิ่นอับ ห้องสกปรกเหมือนไมได้ทำความสะอาดมานานมากแล้ว มีเศษฝุ่นติดตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ พื้น และฝาผนัง  ในห้องมีเพียงแค่โต๊ะเขียนหนังสือขนาดเล็ก ตู้เสื้อผ้าไม้ และเตียงนอน 3.5 ฟุต เขาได้ทำการเปิดตู้เสื้อผ้าเผื่อว่าอาจจะเจอเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วพอที่จะนำมาใส่ได้ เพราะสภาพเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ปัจจุบันนี้มีรอยขาด แปดเปื้อนเต็มไปด้วยคราบเลือดและสกปรกเอามากๆ เขาได้เจอกับเสื้อสูทตัวหนึ่งที่แขวนอยู่ในตู้ เป็นเสื้อสูทสีดำที่มีหางยาวด้านหลัง มีเนคไท เสื้อเชิ้ตสีขาว เข็มขัด และรองเท้าหนังเก่า
     ‘‘อืมมม ฉันคิดว่าเปลี่ยนเป็นชุดนี้ก็ดูไม่เลว อย่างน้อยก็อาจจะทำให้ฉันไปเจอคุณหนูเฟลิเซียและเหล่าแม่บ้านได้’’   เมอริสกล่าวในใจ  ‘‘ฉันคิดว่าฉันควรหาที่อาบน้ำด้วยล่ะ มันน่าจะอยู่บริเวณนี้แหละ’’
     ห้องอาบน้ำอยู่ข้างๆห้องพักคนงานนี้เอง เป็นห้องอาบน้ำขนาดเล็ก มีเพียงแค่ส้วม อ่างล้างหน้า และฝักบัวขนาดเล็ก ถึงจะมีเพียงเท่านี้แต่ก็เพียงพอต่อเมอริสที่จะใช้งานได้ เขาได้ทำการอาบน้ำสระผมชำระสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายหมดจด เขารู้สึกสดชื่นมาก เขาจำไมได้เลยว่าครั้งสุดท้ายที่ได้อาบน้ำนี่คือเมื่อไหร่กันนะ น้ำอุ่นๆ ฟองสบู่ลอยไปมานี่มันดีต่อเขาในตอนนี้ซะจริงๆ
     จากนั้นเขาได้กลับห้องมาแต่งตัว เขาได้เปิดประตูตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะใช้กระจกบานเล็กๆที่ติดอยู่กับประตูตู้ในการเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง
     ‘’อืม… ก็ไม่แย่’’  เขาพูดกับตัวเองในกระจกและยิ้มอ่อน
     ในขณะที่เขากำลังเช็คความเรียบร้อยอยู่นั้น มือข้างซ้ายของเขาได้สัมผัสกับวัตถุสิ่งหนึ่งตรงหน้าอกด้านขวาของเขา วัตถุนั้นมีขอบสีเงิน ลักษณะรูปทรงเหมือนโล่ มีสีนิล มีตรารูปไม้กางเขนตรงกลาง มันคือ ‘เข็มกลัดประจำตระกูล’นั่นเอง
     ‘‘เป็นฉันแต่ก่อนคงขโมยมันและหนีออกไปเงียบๆแล้ว’’  เขาก้มมองไปที่เข็มกลัดอย่างจริงจัง แต่เนื่องจากว่าเขานึกถึงคุณหนูเฟลิเซียขึ้นมา เขาจึงเลือกไม่ทำเช่นนั้น
     หลังจากนั้นเขาได้ปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆในชั้นใต้ดินที่เขาอยู่ทำความสะอาดห้องๆนั้นอย่างรวดเร็ว 
     ‘‘เอาเถอะ เสร็จเรียบร้อย ไปหาเฟลิเซียดีกว่า’’  เขาพูดพลาง เก็บของทุกอย่างเข้าที่พลาง และปิดประตูห้องเดินไปชั้นบนไปยังห้องโถงกลางคฤหาสน์
 
     ณ ห้องโถงกลางคฤหาสน์
     ในขณะที่เมอริสเพิ่งเดินมาถึงห้องโถงนั้น เขาได้พบกับเฟลิเซียโดยบังเอิญซึ่งเธอเพิ่งเดินออกจากห้องหนังสือได้ไม่นานนี้เอง เขายิ้มให้เธอ และพยายามทักทายเธอ
     ‘‘คุณหนู’’  เขาทักทายอย่างสุภาพ
     ‘‘เมอริส ช  ชุดนี้.. มัน..’’   เฟลิเซียอุทานขึ้น ครั้นที่เธอได้เห็นชุดที่เมอริสสวมใส่อยู่นั้น มันคือชุดอดีตหัวหน้าพ่อบ้านคนเก่านี่เอง เขาได้จากไปตั้งแต่ตอนที่เฟลิเซียมีอายุ 7 ขวบ เขาเป็นคนใส่ใจ ทำงานดี มีความรับผิดชอบสมกับตำแหน่งมาก และเขาเป็นคนที่เอ็นดูเฟลิเซียมากที่สุด
     ‘‘ค… คุณ พ่อ บ้าน  …ฮืออ…ออออ’’  เธอสะอื้นร้องไห้ ชุดนั้นทำให้เธอนึกถึงอดีตที่เธอได้ใช้ชีวิตกับเขาเป็นอย่างมาก
     ‘‘คุณพ่อบ้าน น่ะ หรอครับ?’’  เมอริสถามด้วยความสงสัย
     ‘‘เขาคือบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันด้วยน่ะ’’  เฟลิเซียตอบ  ‘‘เขาดูแลฉันทุกอย่าง สอนฉัน และเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวที่คอยคุ้มกันฉันตลอดเวลาน่ะ’’
     ‘‘เขาคงเป็นคนสำคัญของคุณหนูมากสินะครับ’’  เมอริสถามด้วยความเห็นอกเห็นใจ
     ‘‘อือออ’’  เฟลิเซียตอบพลางเช็ดน้ำตาอาบแก้ม
     จังหวะนั้นเอง เหล่าแม่บ้านได้เดินผ่านห้างโถง เห็นเฟลิเซียและเมอริสกำลังคุยกันอยู่ พวกหล่อนต่างก็ซุบซิบนินทา รวมถึงมีความรู้สึกไม่พอใจที่ได้เห็นเมอริสสวมใส่ชุดหัวหน้าพ่อบ้านอันสูงส่งและอยากจะหาทางไล่เมอริสออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ให้จงได้   
     พวกหล่อนไม่รีรอ จึงพร้อมหน้าพร้อมตา 3 คนเดินตรงมายังเฟลิเซียและเมอริส
     ‘‘คุณควรจะออกจากคฤหาสน์หลังนี้!!’’  แม่บ้านคนที่1 ตะคอกขึ้นนำ
     ‘‘คนชั้นต่ำอย่างคุณ ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับชุดอันสูงส่งแบบนี้เลยสักนิด!!’’  แม่บ้านคนที่2 แย้งตาม
     ‘‘ด  เดี๋ยวก่อนสิทุกคน  ใจเย็นกันก่อน’’  เฟลิเซียพยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บรรยากาศมันแย่ลงไปว่านี้
     ‘‘ไม่เป็นไรครับ ผมจะเป็นคนพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเองว่าคนอย่างผมทำทุกอย่างได้ ผมทำความสะอาด ทำอาหาร ทำงานสวนได้นะครับ’’   เมอริสก้มหน้าตอบ
     ‘‘เฮ่อะ น้ำหน้าอย่างเธอน่ะหรอ จะทำอะไรได้ ที่นี่ไม่มีงานสบายๆเลยนะ’’   แม่บ้านคนที่ 3 กล่าวดูถูก
     สีหน้าของเมอริสหลังจากที่ได้ยินคำพูดของแม่บ้านถึง 3 คนนั้นเปลี่ยนไป จากครั้งแรกที่ยิ้มมุมปากให้กับเฟลิเซีย รอยยิ้มของเขานั้นได้จางหายไป ถึงแม้ภายนอกดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม แต่ในใจเขานั้น เขารู้สึกเศร้าเหมือนว่าคำพูดแต่ละคนมันช่างแทงใจเหลือเกิน เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีประวัติไม่ดีเลย ชีวิตดูมืดมนตกต่ำราวกับสีดำมาตลอด
     ‘‘ฉันว่า ฉันควรจะให้เขาลองทำดูก่อนนะ ดีมั้ยทุกคน?’’  เฟลิเซียลองให้โอกาสเขา เนื่องจากว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอจากตลาดในเช้าวันนี้นี่เอง เธอคิดว่าหากเธอไล่เขาออกจากคฤหาสน์ไป มันอาจจะดูใจร้ายเกินไป ไม่ยุติธรรมสำหรับเขา
     ‘‘ก็ได้ค่ะคุณหนู งั้นวันพรุ่งนี้พวกเราจะไม่ทำอะไรเลยนะคะ’’  แม่บ้านคนที่ 3 กล่าว
     ‘‘วางใจได้ครับคุณหนู ผมจะไม่ทำให้คุณหนูผิดหวัง’’  เมอริสตอบรับคำท้า
     ‘‘งั้นพวกเราจะรอดูนะ!!’’  แม่บ้านกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่พวกหล่อนจะเดินจากไป
     ‘‘วางใจได้ครับคุณหนู ผมไม่เป็นอะไรหรอกนะ’’  เมอริสกลับมายิ้มอีกครั้ง
     ‘‘อื้อ ฝากด้วยนะ’’  เฟลิเซียตอบส่งท้ายให้กำลังใจ
     ด้วยรอยยิ้มที่น่ารักของเฟลิเซีย ทำให้เมอริสจากที่มีอาการรู้สึกหดหู่ตกต่ำกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแบบนี้ แต่จะอยู่กับเขาได้กี่นานเชียวนะ…
 
     ตกดึก
     หลังจากที่ทุกคนในคฤหาสน์ได้เข้านอนกันหมดแล้ว เมอริสนอนก่ายหน้าผาก ตื่นเต้นกับชีวิตใหม่ ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน
     ‘‘คอยดูเถอะนะ ฉันจะเอาชนะคำสบประมาทของพวกหล่อนไปให้ได้’’  เขาพูดกับตัวเองก่อนที่จะหลับตาลง เขาไม่กดดันตัวเองแล้ว เป็นเพราะรอยยิ้มของคุณหนูเฟลิเซีย ทำให้เขาลืมอาการอันโศกเศร้าและอดีตอันแสนโหดร้ายไปเลยทันที
     เขาได้ฝันถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ รวมถึงไม่คิดว่าวันนี้เขาจะมีที่ซุกหัวนอน มีอาหารให้กิน มีเสื้อผ้าใหม่ ถึงแม้จะในฐานะของ ‘พ่อบ้าน’ ก็เถอะนะ  แต่ก็ดีกว่าเป็นโจรไร้บ้านไปวันๆแบบแต่ก่อนก็แล้วกัน…
 
 
     เช้าวันถัดมา
     เมอริสตื่นเช้าตรู่ เขาอาบน้ำ แต่งตัว ใส่ยูนิฟอร์มสูทหัวหน้าพ่อบ้าน เก็บที่นอน และเดินขึ้นจากชั้นใต้ดินไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้า เขาเปิดตู้เย็น หยิบผักและผลไม้ เบค่อน นมสด และอื่นๆ เปิดตู้เก็บขนมปังหยิบขนมปังนานานชนิดมาใช้ประกอบ
     ‘‘เอาล่ะ อาหารเช้าวันนี้จะต้องทำให้คุณหนูประทับใจอย่างแน่นอน’’  เมอริสพูดกับตัวเองเหมือนฮึดมีพลัง
     เขาบรรจงหยิบอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ มีทั้งเครื่องปิ้งขนมปังวางข้างเคาน์เตอร์เปิดวอร์มไว้ เปิดหม้อต้มน้ำ ตั้งกระทะให้อุ่น และทำอาหารอย่างสนุกสนาน เขาเพลิดเพลิน ใส่ใจรายละเอียด และใส่ความรู้สึกทุกการกระทำลงไปในอาหารด้วย อาหารเช้าวันนี้เป็นเมนูชุดใหญ่ มีขนมปังสโคน ซุปฟักทอง สลัดอโวคาโด้ ไข่เบเนดิก เบค่อนแฮม พลาสต้า ขนมปังเนยน้ำผึ้ง นมสด พุดดิ้งนมสด และชาเอิร์ลเกรย์  เขาไม่ได้ทำอาหารเช้าแค่สำหรับเฟลิเซียเท่านั้น แต่เขายังทำอาหารเช้าเผื่อแม่บ้านทั้ง4 และรวมถึงตัวเขาเองด้วย  สำหรับแม่บ้านที่ป่วยอยู่นั้น เขาทำเมนูข้าวต้มธัญพืชให้ เนื่องจากรอยฟกช้ำที่บริเวณท้องของแม่บ้านคนนั้นยังไม่หายดี เธอจึงทานได้แค่อาหารอ่อนๆเท่านั้น
     ‘‘เอาล่ะ ไปเคาะประตูเรียกทุกคนมาทานด้วยกันดีกว่า’’  เมอริสยิ้มแย้ม ตื่นตาตื่นใจหวังที่จะให้ทุกคนได้มาทานอาหารเช้าฝีมือของเขา เขานำข้าวต้มใส่ในรถเข็น ครอบฝาไว้ไม่ให้หายอุ่น และนำรถเข็นไปจอดหน้าห้องพักของแม่บ้านคนที่ยังป่วยอยู่  ส่วนคนอื่นที่เหลือ เขาเดินไปเคาะแต่ละห้องตามลำดับ
     ‘‘อาหารเช้าพร้อมแล้วขอรับ’’  เขาเคาะประตูห้องและเอ่ยเช่นนี้ตามห้องแม่บ้านแต่ละคน
     ‘‘อาหารเช้าพร้อมแล้วนะขอรับ คุณหนู’’  เขาเคาะประตูห้องและเอ่ยแบบนี้หน้าห้องนอนของเฟลิเซีย
     ทุกคนออกมาจากห้องของตัวเอง เดินไปยังห้องรับประทานด้วยกัน ในห้องนั้นตกแต่งไปด้วยโทนสีน้ำตาล มีรูปปั้นและแจกันโบราณวางตามมุมห้อง โคมไฟทั้งขนาดใหญ่และเล็กสีขาวมุกระยิบระยับห้อยอยู่ข้างบน หน้าต่างกว้างที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติได้ทุกด้านพร้อมผ้าม่านสีแดงเข้ม โต๊ะอาหารมีขนาดยาวที่สามารถนั่งได้ถึง 12 ที่ บนโต๊ะอาหารมีเชิงเทียน ผ้าปูโต๊ะที่มีลายถักอันประณีต และแจกันดอกไม้ที่มีทั้งดอกช่อใหญ่และช่อเล็ก อีกทั้งผ้าเช็ดปากสีครีมที่พับเป็นรูปกาบหอยอย่างสวยงาม เมอริสได้จัดวางอาหารและอุปกรณ์เครื่องเงินอย่างถูกต้องตามลำดับไม่มีที่ติ ทำให้ทุกคน ณ ตอนนั้นต่างเซอร์ไพร้กับสิ่งที่เขาทำมากๆ เพราะไม่มีใครคาดถึงได้ว่าเขาจะรู้ธรรมเนียมประเพณีของผู้ดีขนาดนี้
     ‘‘เชิญครับ ทุกคน’’  เขาเปิดประตูเพื่อให้ทุกคนต่อคิวเข้าห้องทานอาหาร
     ‘‘อรุณสวัสดิ์จ้ะ เมอริส .. ไม่สิ .. คุณพ่อบ้าน’’  เฟลิเซียยิ้มทักทาย
     รอยยิ้มนางฟ้าตัวน้อยอันสดใสของเฟลิเซียทำให้เมอริสถึงกลับหน้าแดงเลยทีเดียว
     ‘‘อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหนูเฟลิเซีย’’  เขาทักทายกลับอย่างสุภาพ
     แม่บ้านอีก 3 คนที่เหลือมองว่าช่างน่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน พวกหล่อนเดินเชิ่ดผ่านหน้าเมอริสไปโดยไม่มีทักทายใดๆเลยทั้งสิ้น แต่เมอริสเขาไม่ได้ถือสาเลยแม้แต่น้อย
     จากนั้น ทุกคนนั่งประจำที่ และเริ่มทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา
     ‘‘อ อร่อยจัง!!’’  เฟลิเซียอุทานด้วยความประหลาดใจ  ‘‘ฉันไม่ได้ทานอะไรอร่อยๆแบบนี้มานานมากแล้วล่ะ’’
     ‘‘ค คุณหนู พูดจริงหรอครับ?’’  เมอริสถามกลับ ในใจมีความรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก
     ‘‘ก็จริงน่ะสิ จะโกหกทำไมล่ะ รสชาติอาหารของแม่บ้านของฉันไม่ผ่านเลยสักคน ฉันทนกับการกินอาหารไม่อร่อยแบบนี้มานานจนเบื่อแล้วน่ะสิ’’  คุณหนูเป็นคนพูดตามตรงเสมอ ไม่สนใจความรู้สึกของเหล่าแม่บ้านถึงแม้ว่าทุกคนในห้องนี้จะได้ยินกันหมด
     ‘‘ฉันว่า มัน.. ไม่เห็นจะอร่อยเลย’’  แม่บ้านคนที่1  เริ่มจงใจติ
     ‘’งั้นๆเนอะ  ว่ามั้ย?’’  แม่บ้านคนที่ 2 คล้อยตามด้วย พร้อมกับหันหน้าส่งซิกไปหาแม่บ้านคนถัดไปข้างๆหล่อน
     ‘‘ของแค่นี้ฉันก็ทำได้ล่ะน่า’’  แม่บ้านคนที่ 3 ประชดประชันไม่ให้เสียหน้าฝีมือตัวเอง
     แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้แม่บ้านทั้ง 3 คนนี้จะพูดในทางแง่ลบ แต่พวกหล่อนก็เผลอทานอาหารจนหมดจานอย่างเพลิดเพลินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความที่มันอร่อยจนหยุดทานไมได้เลย แผนที่พวกหล่อนพยายามตั้งใจยุยงให้เมอริสเสียความรู้สึกนั้นได้พังทลายลงไปเสียแล้ว พวกหล่อนรู้สึกอับอายขายหน้ามาก
     ‘‘ถึงแม้จะบอกว่ามันไม่อร่อย แต่ก็ทานจนหมดทุกคนเลยนะครับ ผมหวังว่าทุกคนจะชอบอาหารของผมนะครับ ใช่มั้ยครับ คุณหนู?’’  เมอริสยิ้มสดใสเบิกบานอีกครั้ง เขารู้สึกว่าเขาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเขาได้ และมองมายังเฟลิเซีย
     ‘‘อื้อ จากนี้ไป ขอให้เมอริสทำอาหารให้กินทุกๆมื้อเลยนะคะ รวมถึงน้ำชายามบ่ายของฉันด้วย ฉันว่าไม่ต้องทดสอบอย่างอื่นอีกแล้วล่ะ คุณพิสูจน์ให้พวกเราได้เห็นแล้วนี่ จากนี้เป็นต้นไป คุณคือหัวหน้าพ่อบ้านอย่างเป็นทางการของพวกเราแล้ว คุณมีสิทธิ์ในการสั่ง รวมถึงกำกับงานบ้านทุกอย่างของบ้านหลังนี้’’  คุณหนูกล่าวอย่างปลื้มปิติยินดี  ‘‘พวกเธอจะต้องช่วยเขาด้วยนะ คุณแม่บ้าน’’
     ‘‘ค ค่ะ  เข้าใจแล้วล่ะค่ะ คุณหนูเฟลิเซีย’’  แม่บ้านทั้ง 3 ยืนตรง ทำท่าโค้งคำนับให้กับเมอริส
     ‘‘จากนี้เป็นต้นไป กระผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะขอรับ’’  เมอริสยิ้มอย่างมีความสุข เขารู้สึกว่าเขาได้พบกับชีวิตใหม่ที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ต้องเร่ร่อนนอนกลางดินกินกลางทรายข้างถนน อยู่อย่างยากลำบาก และขโมยอาหารอีกต่อไป รวมถึงเขารู้สึกขอบคุณ ซาบซึ้งในน้ำใจการให้โอกาสจากคุณหนูเฟลิเซียเป็นที่สุด
     ‘ผมจะไม่ทำให้คุณหนูผิดหวังแน่นอนครับ’  คำนี้ได้ลั่นในหัวของเขาอีกครั้ง
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา