อาจารย์สุดที่รัก
เขียนโดย เฉินน้อย
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.07 น.
แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 03.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ดอกไม้ของข้า เจ้ากล้าแตะ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผืนดินสั่นไหวเหมือนโลกกําลังจะทลายลง ท้องฟ้าแปรปรวน พลังของเฉิยยวิ้นที่ปล่อยออกมาทําเอาชายลึกลับคนนั้นเหงื่อตกและเข่าเริ่มสุด
(เห้ย…หมอนี่มันไม่ธรรมดาแล้วเป็นจอมยุทธ์งั้นหรอ)
ชายลึกลับคนนั้นตกใจกับพลังของเฉินยวิ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ทําท่าทีพร้อมต่อสู้ แต่ก็ต้องชะงักนิ่ง เมื่อเห็นเฉินยวิ้นค่อยๆบินขึ้นฟ้า ชูแขนเหนือหัว ปรากฎเป็นลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ เหมือนดวงอาทิตย์ขนาดย่อมที่พร้อมจะระเบิดและเผาผลาญทุกสิ่งให้หายไปในพริบตา
“รอดูวิธีตายที่ข้ามอบให้เจ้าเถิด…” เฉินยวิ้นเอ่ยอยากเยือกเย็น
“เดี๋ยวก่อนลูกพี่ ข้า..ข้า แค่แกล้งท่าน” (ไม่ไหวข้าสู้หมอนี่ไม่ได้ พลังนี่มันยังใช่คนอยู่หรอ)
เฉินยวิ้นรับรู้ หลังจากเท้าเหยียบพื้นดิน ก็ใช้พลังดึงตัวชายผู้นั้นแล้วบีบไปที่คอของเขาอย่างแรง
“ข้าใช่เพื่อนเล่นของเจ้าหรือไม่! “
“โปรดอภัยท่านมากยุทธ์ ข้าเพียงมาส่งจดหมาย”
“จดหมาย? ” เฉินยวิ้นปล่อยมือและยืนคุยกับชายผู้นั้น
“ใช่แล้วท่าน เป็นจดหมายถึงแม่นางผู้นั้น”
“จากผู้ใด”
“จากคู่หมั้นของนาง องค์ชายเหวินเจี๋ย”
“ว่าอย่างไรนะ…คู่หมั้น”
เฉินยวิ้นตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากชายผู้นี้
”ใช่แล้วท่าน ข้า..ข้าไม่รบกวนท่านแล้วขอรับ“
”เดี๋ยวแล้วเหวินเจี๋ยคือ…”
ไม่ทันไรชายผู้นั้นหลังจากมอบจดหมายให้ก็รีบวิ่งหนีไปทันที เฉินยวิ้นที่ยืนมองจดหมายก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยพร้อมกับสงสัยว่าใครคือเหวินเจี๋ย
ท้องพระโรง แห่งแคว้นต้าโต่ว เหล่าราชวงศ์ผู้มีอํานาจทั้งหลายต่างมาเข้าเฝ้าและพูดคุยกัน
“เหตุใดท่านถึงส่งทูตและราชวงศ์บางท่านไปที่เขตหยินด้วยขอรับ“
”ใช่แล้วท่าน อันตรายอย่างมาก“
เหล่าราชวงศ์ต่างถามฮ้องเต้กันอย่างวุ่นวายทั้งท้องพระโรง
”พวกท่านทั้งหลายสงบอารมณ์แล้วก็ฟังข้า บัดนี้มีคนของแดนหยางของเราเผลอก้าวเข้าไปในเขตหยิน คนคนนั้นคือลูกสาวของ ฮ้องเต้ถัง เป็นสหายของข้า จะให้ข้านิ่งดูดายรึ“
”แต่ผ่านมาขนาดนี้ป่านนี้นางผู้นั้น…“
ปั้งง!! เสียงทุบโต๊ะดังลั่นทั้งท้องพระโรง
”โปรดระวังปากของท่านไว้หน่อย! ”
ไม่นานหนักประตูท้องพระโรงได้เปิดออก เหวินเจี๋ยและเสี่ยวรุ่ยทั้งสองเดินเข้ามาอย่างโผงผาง
“นี่ใครอนุญาตให้เจ้า…”
“ทุกคนฟังข้า ข้าแม่ทัพเหวินเจี๋ยแห่งต้าโต่ว ขอใช้อํานาจ“
”นี่เจ้า บังอาจ!!“
ฮ้องเต้ของต้าโต่วตกใจและโกรธกับการกระทําอย่างไร้เหตุผลของลูกชายอย่างมาก
”โปรดหยิบตราสัญลักษณ์ราชวงศ์ต้าโต่วของท่าน ออกมาให้ข้าดูทุกๆท่าน“
เหวินเจี๋ยสั่งการอย่างหนักแน่นและเด็ดขาดสุดๆ
”นี่องค์ชายแบบนี้มันจะมากเกินไปรึป่าวท่าน “
”องค์ชายน้อย พวกข้าอาวุโสของดินแดนเชียวนะ“
”เสี่ยวรุ่ย…“
เหล่าราชวงศ์อาวุโสทุกท่านต่างไม่พอใจกับการกระทําของเหวินเจี๋ย เหวินเจี๋ยเรียกเสี่ยวรุ่ยอย่างแผ่วเบาเยือกเย็น หลังจากเสี่ยวรุ่ยได้ยิน เขาได้ตวัดมีดโจมตีใส่กําแพงท้องพระโรงเพื่อทําการขู่ หลังจากทุกๆคนได้เห็นการกระทํานี้ก็ต่างพากันหวาดกลัวพร้อมหยิบตราสัญลักษณ์ออกมาให้เหวินเจี๋ยดูกันทุกคน เสี่ยวรุ่ยไล่ตรวจสอบแต่ละคนในทันที
”ทุกคนมีตราหมดเลยขอรับนายท่าน“
”เป็นได้ไงกัน“
ปั้งง!! เสียงทุบโต๊ะดังลั่นขึ้นอีกครั้ง
”ทุกคนออกไปสะ!! องค์ชายอยู่ก่อน ไป!!!“
ฮ้องเต้โกรธอย่างยิ่งพร้อมไล่เหล่าราชวงศ์ออกไปจนหมดรวมถึงเสี่ยวรุ่ย
”เกิดอะไรขึ้น ทําไมเจ้าบังอาจทําเช่นนี้เหวินเจี๋ย“
”มีกบฎอยู่ในบ้านของเราท่านพ่อ! “
เหวินเจี๋ยพูดจบพร้อมชูตราสัญลักษณ์ราชวงศ์ ที่เก็บได้จากการสู้กับชายปริศนาให้กับท่านพ่อของเขาดู ฮ้องเต้ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
”กบฎ เจ้าหมายความว่าอย่างไร“
”ข้าเก็บได้จากคนที่บงการสั่งฆ่าตระกูลหลิน“
ฮ้องเต้ตกตะลึงอย่างมากหลังจากได้ยินสิ่งที่เหวินเจี๋ยเอ่ย
“แสดงว่า..ต้องเป็นหนึ่งในคนที่ข้าส่งไปเขตหยิน”
“ท่านพ่อส่งคนไปเขตหยินทําไม”
“ก็เรื่องแม่นางผู้นั้นไงเล่า!“
เหวินเจี๋ยตะลึงกับสิ่งที่ท่านพ่อของเขาพูด แม้ท่านพ่อของเขาจะด่าว่าเขาก่อนหน้านี้เรื่องหลินหลิน แต่กลับช่วยเหลือลับหลังเขา
รุ่งอรุณวันใหม่ หลินหลินตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียสุดๆ
“อาา..อรุณสวัสดิ์“ หลินหลินเอ่ยอย่างงัวเงีย
หลินหลินเดินไปล้างหน้าล้างตาพร้อมกับดื่มน้ำให้สดชื่นขึ้น
”นี่เจ้า…“
”ว่าไง“
เฉินยวิ้นทําท่าทีลนๆพูดจาตะกุกตะกัก
”เจ้ามีไรเล่า ยืนนิ่งอยู่ได้“
”เจ้ามีคนรักแล้วหรือ“ เฉินยวิ้นน้ำเสียงแผ่วเบา แสดงอาการนอยๆ
“คนรัก…ข้าจะไปมีได้อย่างไรกัน”
“แล้วเหวินเจี๋ยไรนั้นคือใครกัน”
“เหวินเจี๋ย..องค์ชายเหวินเจี๋ยงั้นหรอ”
“อื้ม”
” เจ้ารู้จักเหวินเจี๋ยได้อย่างไร“ หลินหลินทําสีหน้าตกใจ
หลังจากนั้นเฉินยวิ้ยก็ยื่นจดหมายให้กับหลินหลินพร้อมหันหน้าเชิดหนีหลบสายตา
”ก็นี่..จดหมายจากคู่หมั้นของเจ้า“
ควับ..ไม่ทันไรหลินหลิน ก็รีบคว้าจดหมายมาเปิดอ่านในทันที
“นี่เจ้า! ” (ชิ้ คงสําคัญมากสิท่า)
เนื้อหาในจดหมายฉบับนี้กล่าวว่า
ข้าเขียนจดหมายฉบับนี้ก็เพราะว่าข้ารู้แล้วว่าเจ้านั้นยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณฟ้าดินจริงๆที่เจ้ายังรอด อดทนอีกหน่อยนะ ข้ากําลังจะคิดบัญชีจากคนชั่วที่บังอาจทําร้ายเจ้าได้แล้ว อ่อแล้วก็ท่านพ่อของเจ้า รวมถึงท่านหญิงและพี่สาวของเจ้า ทุกคนปลอดภัยดี ไม่นานข้าจะส่งข่าวเรื่องที่เจ้ายังปลอดภัยให้พวกเขาเช่นกัน ข้าจะรีบไปช่วยเจ้าแน่นอน จาก เหวินเจี๋ย
“ท่านพ่อ…” หลินหลินอ่านจดหมายพลันน้ำตาไหลออกมาด้วยความเศร้าและคิดถึง
(ชิ้ มันซึ้งใจขนาดนั้นเลยรึไงเนี่ย) เฉินยวิ้นทําท่าทีไม่พอใจ
ไม่นานนักหลินหลินได้โผเข้ามากอดเฉินยวิ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวพร้อมร้องห่มร้องไห้
”ข้าดีใจจริงๆ ทุกคนปลอดภัย…“
”อ่า…ไม่เป็นไรแล้วนะ“
เฉินยวิ้นค่อยๆลูบหลังปลอบหลินหลินอย่างอ่อนโยน เขาทําตัวไม่ถูกกับสิ่งที่หลินหลินทํากับเขา
“วันนี้ข้าจะเอาเงินส่วนนึงไปคืนผู้ใหญ่บ้าน ข้าฝากเจ้าซื้อของทีนะ”
“ซื้อของ?”
“อื้ม ข้าเคยเขียนรายการไว้อยู่ที่ครัวเจ้าไปหยิบมาดูตอนไปซื้อ เงินข้าจะแบ่งไว้ให้”
“ให้ข้าไปกับเจ้าดีกว่า”
“นี่บอกให้ไปซื้อของก็ไปซื้อของสิ ซื้อผิดเจ้าโดนแน่“ หลินหลินรีบวิ่งออกไป
”นี่เดี๋ยวเจ้า…“ (ทําไมชอบมีคนหนีข้าทั้งๆข้ายังพูดไม่จบกันนะ)
เหวินเจี๋ยหลังจากรู้ว่าคนที่อาจจะเป็นเบื้องหลังสั่งฆ่าหลินหลิน กําลังเดินทางไปเขตหยิน ก็ลุกลี้ลุกลนอย่างมาก เขาได้เล่าให้เสี่ยวรุ่ยฟังเกี่ยวกับสถานณ์การนี้
“มีแค่เจ้าที่รอบเข้าไปเขตหยินได้เงียบที่สุด แต่มันเสี่ยงเกินไป”
“ข้ายินดีทําขอรับ!“
“เรื่องจดหมายล่ะ?”
“หมอนั้นน่าจะส่งถึงมือนางแล้วนะขอรับ”
“งั้นข้าฝากเจ้าเรื่องรอบเข้าไป ถ้าเจอนางรีบพานางกลับมาให้ปลอดภัย ส่วนข้า จะแอบรอบตามขบวนไป“
”ขอรับคําบัญชานายท่าน“
”จงปลอดภัยกลับมาสหายร่วมรบของข้า“
เหวินเจี๋ยแม้จะเป็นห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวรุ่ยแต่ก็เคารพความแน้วแน่ของเขา จึงฝากความหวังให้เสี่ยวรุ่ยทําภารกิจที่แสนอันตรายนี้ หลังจากแยกทางกับเหวินเจี๋ย เสี่ยวรุ่ยรีบไปยังจุดที่เคยนัดพบกับชายผู้ฝากให้ไปส่งจดหมายในทันที เสี่ยวรุ่ยเห็นชายผู้นั้นเดินมาอย่างเหนื่อยล้าอ่อนแรง
“เกิดอะไรขึ้น จดหมายถึงมือนางหรือไม่” ด้วยความตกใจเสี่ยวรุ่ยจึงรีบถามในทันที
“เห้ออ นี่เจ้าเป็นห่วงข้าบ้างไหมเนี่ย”
“รีบตอบมาหน่า!”
“อ่าข้าส่งถึงมือนางแล้ว”
ชายผู้นั้นพูดอย่างหมดแรงเพราะยังตกอยู่ในความหวาดกลัวพลังของเฉินยวิ้น
“ภารกิจมาจากนายท่าน สลับตัวกับข้าสะ”
“ห้ะ..“
”เร็วเข้า ข้าไม่มีเวลาแล้ว“
เสี่ยวรุ่ยทําการสลับเปลี่ยนชุดกับชายผู้นั้นอย่างทันที
”อย่าบอกนะว่าเจ้าจะเข้าไปพาแม่หญิงผู้นั้นกลับมาฝั่งนี้“
”ประมาณนั้น“
”ก็รู้อยู่ว่าคนแบบเจ้าไม่กลัวเขตหยิน แต่ว่า..“
”แต่อะไรของเจ้า“
”มีชายผู้นึง ข้าคิดว่าน่าจะเป็นจอมยุทธ์แข็งแกร่งคนนึงเลยอยู่ข้างกายแม่หญิงนั้น“
”แล้วมันยังไง ถ้าขัดขวาง ข้าจะสังหารมันสะ“
”หมอนั้นมันเก่งจริงๆนะ เจ้าระวังตัวด้วย ทางที่ดีอย่าไปสู้เลย“
”เจ้ารีบตามไปหนุนนายท่านเถอะ“
เสี่ยวรุ่ยไม่สนใจคําเตือนของชายผู้นั้นแล้วรีบมุ่งหน้าเข้าเขตหยินเพื่อไปช่วยหลินหลินทันที
หมู่บ้านเซียมซี ในตอนนี้มีขบวนราชวงศ์เดินทางมาจากเมืองไป๋เยี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านเซียมซีมาก มาเพื่อเก็บค่าคุ้มครองต่างๆ ระหว่างไล่เก็บแต่ละบ้านเรือนก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าขบวนไปอย่างใสซื่อ ทําให้เจ้าชายน้อยเมืองไป๋เยี่ยนโมโห
“จับเจ้าเด็กไร้มารยาทนั้นสะ” เจ้าชายน้อยออกคําสั่ง ทหารรีบจับตัวเด็กคนนั้นในทันที เด็กชายร้องไห้โฮออกมาดังลั่น
“ขอประทานอภัยขอรับเจ้าชาย โปรดอย่าถือสาลูกชายข้าเลย“
พ่อของเด็กชายคนนี้ก็คือเถ้าแก่ร้านบะหมี่ที่หลินหลินและเฉินยวิ้นไปกินกันในวันนั้น
”งั้นข้าก็ต้องสั่งสอนแทนเจ้าสักหน่อย“
”ทําข้าเถอะขอรับ อย่าได้ลงมือกับเด็กเลยขอรับ“
”จัดการมันทั้งพ่อทั้งลูก!“
ทหารแม้จะไม่ค่อยพอใจกับการลงมือกับเด็กแต่ก็ไม่สามารถขัดขืนคําสั่ง ทหารกําลังจะใช้ด้ามดาบในการตีเด็ก
“หยุดนะ!!”
หลินหลินวิ่งเข้าขวางเอาไว้ได้ทันเวลา
“คิดจะทําร้ายเด็กตัวแค่นี้ เจ้ายังมีสติดีอยู่หรือไม่”
“บังอาจ!”
หลินหลินรีบตะหวาดใส่เจ้าชายน้อยอย่างโกรธเกรี้ยว
“ดี! ข้าจะประหารเจ้ากับเด็กเวรนี่ ให้ทั้งหมู่บ้านดูเป็นบทเรียนสะ จับมันทั้งสองไปกลางหมู่บ้านนี่สะ !”
“อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ!”
หลังจากเจ้าชายน้อยออกคําสั่ง ทหารก็รีบจับตัวหลินหลิน และ เด็กน้อยคนนั้น ในทันที ขณะนี้กําลังพาทั้งสองไปยังกลางหมู่บ้าน ที่เป็นแหล่งผู้ในหมู่บ้านอยู่เยอะที่สุด ระหว่างนั้นเถ้าแก่ร้านบะหมี่ก็รีบวิ่งเพื่อตามหาเฉินยวิ้นอย่างสุดชีวิต
ที่ตลาดหมู่บ้านเซียมซี เฉินยวิ้นที่กําลังสับสนกับการซื้อของ
“หงฮวาเอ๋อร์ เจ้านี่คือต้นหอมใช่หรือไม่”
“ข้าคิดว่าใช่นะขอรับ”
เฉินยวิ้นถามภูติเพลิงตัวน้อยของเขาอย่าง งงๆ
“เจ้าหนุ่ม!! เจ้าหนุ่ม!!” เถ้าแก่ร้านบะหมี่ในที่สุดก็วิ่งหาเฉินยวิ้นจนเจอ เขาวิ่งมาหาเฉินยวิ้นละยืนหอบสักพัก
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“อย่ามายุ่งกับข้า ข้ากําลังยุ่งนะ”
“แม่สาวผู้นั้นกําลังตกอยู่ในอันตรายนะ”
“ตอนนี้เรื่องอื่นข้าไม่….เจ้าว่าอย่างไรนะ!”
เฉินยวิ้นเปลี่ยนสีหน้าในทันที และรีบหันมาถามเถ้าแก่อย่างดุดัน
“ตอนนี้แม่สาวผู้นั้นกําลังโดนพาตัวไปประหารที่กลางหมู่บ้าน เจ้ารีบไปเถอะ”
เฉินยวิ้นได้ยินแบบนั้น ก็รีบพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นทําให้แม่ค้าร้านขายของ และ เถ้าแก่ต่างตกตะลึงอย่างสุดขีด
ที่กลางหมู่บ้านในตอนนี้มีผู้คนมายืนล้อมกันอย่างวุ่นวาย เจ้าชายน้อยป่าวประกาศว่าจะประหารทั้งสองให้ชาวบ้านดูเป็นตัวอย่างว่าอย่ามาคิดที่จะเป็นปรปักษ์กับไป๋เยี่ยน
“ฮ่าฮ่า ดูไว้สะพวกชั้นต่ำ จัดการสะ!“
เจ้าชายน้อยสั่งทหารลงมือในทันที ทหารกําลังลงมือประหารหลินหลิน และเด็กน้อย ชาวบ้านต่างพากันตกใจและหวาดกลัว
”คนของข้า..เจ้าลองกล้าแตะดูสิ!!“ เสียงดังลั่นของเฉินยวิ้ยที่ปรากฎตัวขึ้น ทําหลินหลิน และชาวบ้านทุกคนต่างตกใจ
”ไม่ได้นะเฉินยวิ้น พวกทหารแข็งแกร่งเจ้าสู้ไม่ได้หรอก“
หลินหลินตะโกนบอกด้วยความเป็นห่วงพร้อมน้ำตาคลอ
”พระเอกนักหรอ จัดการมัน!!“
เจ้าชายน้อยสั่งทหารอีกครั้ง เหล่าทหารที่เหลือพุ่งเข้าโจมตีเฉินยวิ้น
”ไม่นะ!!!“ หลินหลินตะโกนอย่างสุดเสียง
เพียงพริบตาเดียว เฉินยวิ้นเพียงแค่สะบัดมือของเขาก็พัดทหารที่พุ่งเข้ามาโจมตีกระเด็นไปคนละทิศทาง หลินหลินตะลึงกับความสามารถของเฉินยวิ้น และไม่เคยเห็นท่าทีที่จริงจังขนาดนี้ของเขา
”ชิ้ สู้ไม่ได้งั้นหรอ มองให้เต็มสองตาเจ้าสะยัยเพี้ยนเอ้ย“
ทหารไม่ยอมแพ้รีบรวมตัวมาโจมตีเฉินยวิ้นอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง เฉินยวิ้นหลบทุกการโจมตีอย่างไม่ยากเย็นและด้วยเพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถจัดการกับทหารทุกคนลงไปนอนกับพื้นได้อย่างง่ายดาย
”เห้ย! พวกทหารบ้า ทําไรกันวะ!!“ เจ้าชายน้อยเริ่มหวาดกลัว เฉินยวิ้นหลังจากจัดการทหารจนหมดก็พุ่งมาอยู่ต่อหน้าเจ้าชายน้อยท่านที
”เจ้าสินะ“
เฉินยวิ้นปลุกเพลิงให้ลุกรอบมือของเขา และกําลังทําท่าที่จะโจมตีใส่เจ้าชายน้อย
”หยุดนะ!!“ หลินหลินรีบห้ามเฉินยวิ้นในท่านที สิ้นเสียง ไฟที่มือเฉินยวิ้นก็ดับลงพร้อมกับหยุดนิ่ง
(บ้าเอ้ยแบบนี้อีกแล้ว ร่างกายข้าเชื่อฟังนางอีกแล้ว)
หลังจากนั้นเจ้าชายน้อยและเหล่าทหารก็รีบถอยไปทันที เถ้าแก่กล่าวขอบคุณหลินหลินและเฉินยวิ้น ชาวบ้านทุกคนก็ต่างตะลึงในความสามารถของเฉินยวิ้น และขอบคุณเขาที่จัดการคนที่มารังแกคนในหมู่บ้าน
”ขอบคุณนะ“ หลินหลินยิ้มขอบคุณเฉินยวิ้น
”ตั้งใจจะช่วยเด็กเฉยๆก็เท่านั้นแหละ“ เฉินยวิ้นหันหน้าหนี พร้อมกับหน้าที่แดงจี๋
”ไม่คิดว่าเจ้าจะสู้เก่งขนาดนี้“
”ชิ้ ข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว เจ้าไม่เชื่อเอง“
”ก็ได้ๆ ข้าผิดเอง ตอนนี้ข้ารู้แล้ว“
”ก็ดี“ เฉินยวิ้นยิ้มอ่อนๆ
”เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่“
”อื้ม ข้าสบายดีเลย ต้องขอบคุณเจ้า“
”ของที่ข้าใช้เจ้าไปซื้อล่ะ“
”อ่อ อยู่นี่…“
เฉินยวิ้นควักออกมาจากข้างในเสื้อปรากฎว่า ทุกสิ่งอย่างเละหมดแล้วเนื่องจากเฉินยวิ้นมาด้วยความเร็วเกินบวกกับการต่อสู้ หลังจากเฉินยวิ้นก็หน้าถอดสีในทันที
”เจ้าบ้องตื้น!!“
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ